World domination system 48 ห้องสมุด

ตอนที่ 48 ห้องสมุด

WDS Chapter 48 ห้องสมุด

แดนีลเดินไปด้วยความเร็วปานกลาง ขณะที่เขาตรวจสอบชีพจรของแฟกซัลอย่างต่อเนื่อง และพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเอง

สิ่งเดียวที่เขาต้องการในความคิดของเขาก็คือ การสังหารเด็กทั้งสามคนนั้น แต่เขาไม่สามารถจะทำเช่นนั้นได้ เว้นแต่เขาจะมีพลังมากพอที่จะหลบหนีราชา

ตอนนี้ มันยังไม่ถึงเวลา แต่แดนีลตัดสินใจแล้วว่า เขาจะไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆ และเขากำลังคิดว่า พวกเขาสามารถหลบเลี่ยงกฎได้อย่างไร? เขาสามารถจะทำมันได้บ้างหรือไม่?

เขาไม่มีเพื่อนในโลกเดิม และเขาก็มีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมน้อยมาก ซึ่งมันทำให้ในทั้งสองชีวิตของเขา เขามีทักษะทางสังคมน้อยมาก กระนั้น เขาก็ยังคงพัฒนาอย่างก้าวกระโดดในทุกๆวันจากการเปิดรับเพื่อนและครอบครัวของเขา

ตอนนี้ เขารู้สึกว่ามันมีความผิดพลาดมากเพียงใดที่เขาไม่สังเกตเห็นสัญญาณต่างๆ แดนีลฝังสิ่งนี้ไว้ในหัวใจของเขา และเขาต้องทำให้มั่นใจว่า เขาจะไม่พลาดซ้ำอีก

ขณะที่เขาไปถึงสถานพยาบาง ความปรารถนาที่จะแข็งแกร่งขึ้นของเขาก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น

เขารู้ว่า พ่อของเขาถูกทำให้พิการโดยกองทัพในซักวิธีการ ซึ่งมันทำให้ไม่สามารถจะฝึกฝนร่างกายต่อไปได้ ความพิการนี้ยังได้ส่งผลกระทบต่อแขนขาของเขา ทำให้เขาต้องเดินกระโผลกกระเผลกอยู่บ่อยครั้ง แล้วก็มีหลายคืนที่เขาต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

เขามีความฝันที่จะพัฒนาคาถารักษาโดยการสังเกตฮีลเลอร์ในสถานพยาบาล และใช้มันเพื่อรักษาพ่อของเขา แต่เขาก็ต้องผิดหวังเป็นอย่างมากเมื่อพบว่า คาถาที่ PAM-2 วิเคราะห์ได้นั้น มันเป็นคาถาระดับสูงเช่นเดียวกับคาถาเทเลพอร์ต ซึ่งต้องให้เขาทะลวงสู่ระดับจอมเวทย์ผู้โดดเด่นเสียก่อน เขาจึงจะสามารถใช้มันได้

นอกจากนี้ เมื่อเขาถามกับระบบ เขาก็พบว่า คาถานี้ไม่สามารถจะรักษาพ่อของเขาได้ ด้วยเหตุนี้ เขาจึงต้องค้นหาคาถาที่ระดับสูงมากยิ่งกว่านี้

ด้วยสิ่งนี้ มันทำให้ความพยายามในการสังเกตการรักษาที่สถานพยาบาลของเขากลายเป็นศูนย์เปล่า อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ เขามีวิธีที่จะค้นหามันโดยตรงแล้ว ซึ่งก็คือ ห้องสมุด

เขาเคยได้ยินจากฮีลเลอร์คนหนึ่งว่า ห้องสมุดได้เก็บบันทึกคาถาเอาไว้มากมาย มีกระทั่งคาถาสำหรับระดับจอมเวทย์ผู้น่ายกย่อง แน่นอนว่า การทำความเข้าใจผ่านบันทึก มีประสิทธิภาพน้อยกว่าการสอนส่วนตัว แต่พวกมันก็ยังคงถูกเก็บเอาไว้ เพราะมันมีคาถาหลากหลายรูปแบบ จอมเวทย์ผู้หนึ่งสามารถควบคุมอนุภาคมูลฐานในการร่ายคาถาได้วิธีหนึ่ง ในขณะเดียวกัน จอมเวทย์อีกคนก็จะใช้วิธีที่แตกต่างออกไป เพื่อให้ได้รับผลลัพธ์เดียวกัน นี่ไม่ได้หมายความว่าวิธีการของใครคนหนึ่งผิด ในครั้งเป็นจริงแล้ว มันก็ถูกต้องทั้งสองวิธี คาถาเป็นบางสิ่งที่จอมเวทย์สามารถนี้นำได้ แต่ในท้ายที่สุด จอมเวทย์แต่ละคนก็มีความคิดและวิธีการใช้คาถาของตัวเอง

เนื่องจากมันเป็นเช่นนั้น แดนีลก็พยายามที่จะเข้าถึงบันทึกเหล่านั้นในห้องสมุด แต่เขาก็ถูกจำกัดเอาไว้ สถานะของเขาในฐานะนักเรียนปีหนึ่งยังไม่เพียงพอ และเขาได้มองหาวิธีการต่างๆอย่างต่อเนื่อง

ตอนนี้ ในที่สุด เขาก็สามารถจะอ่านหนังสือทั้งห้องสมุด

หลังจากวางแฟกซัลลงที่สถานพยายามและมั่นใจว่าเขาไม่เป็นอะไรแล้ว แดนีลก็รีบไปที่ห้องสมุด และเริ่มทำบางสิ่งที่ทุกคนเรียกว่าปรากฎการณ์ประหลาดในอีกหลายปีข้างหน้า

ในแต่ละวัน เขาจะมาถึงห้องสมุดตั้งแต่รุ่งเช้า เขาจะยืนอยู่บนโพเดียมเป็นเวลา 9 ชั่วโมง ทำให้หนังสือเล่มแล้วเล่มเล่าปรากฎขึ้นในมือของเขาและเขาเพียงแค่เปิดหน้าแรกของพวกมันเท่านั้น จากนั้น เขาก็จะไปที่สถานพยาบาล เพื่อทานอาหารกลางวันร่วมกับแฟกซัล ซึ่งต้องพักผ่อนที่นั่นเป็นเวลา 3 วัน มันดูเหมือนว่าทั้งสามจะทำมากเกินไปในครั้งนี้ มันอาจเป็นเพราะลาราเวลเพิ่งจะถูกทำให้อับอาย และแดนีลเป็นผู้ชนะในการประเมิน กระดูกซี่โครงของเขาหักและแขนขาร้าว เนื่องจากฮีลเลอร์ที่นี่ไม่มีใครที่มีระดับใกล้เคียงกับสำนักฝึกอบรมหมัดแห่งความยุติธรรม แฟกซัลจึงต้องอยู่ที่นี่ 3 วัน กว่าจะกลับมาเป็นปกติ

จากนั้น เขาก็จะกลับไปยังโพเดียมในห้องสมุด และอยู่ที่นั่นอีก 9 ชั่วโมง ก่อนที่จะกลับไปนอนอย่างเหนื่อยล้า

ใบหน้าของเขาซูบลงและดวงตาของเขาดำคล้ำ ราวกับว่า เขากำลังแปรสภาพเป็นผี

แม้แต่ในความฝัน หนังสือก็ยังไล่ล่าเขา มันฉีกหน้ากระดาษของตัวเองออกมา และขว้างพวกมันเข้าใส่เขา

ผ่านไปเช่นนี้ตลอด 5 วัน ในแต่ละวัน ผู้คนจะตกตะลึงกับการเห็นเขาที่ดูเหมือนกับคนที่ไม่ได้นอนมาหลายปี เขาจ้องมองระยะไกลขณะที่เดินไปข้างหน้า ราวกับเขากำลังคิดบางสิ่งบางอย่างอยู่ตลอดเวลา

ในที่สุด เมื่อถึงวันที่ 6 เขาก็ได้เปิดหน้าแรกของหนังสือเล่มสุดท้าย เขาถึงกับทรุดตัวลงที่โพเดียว จากนั้น ก็มีคนไปบอกกับแฟกซัล เพื่อให้เขาช่วยแบกแดนีลกลับมาที่ห้องของเขา

แดนีลนอนหลับตลอดทั้งวัน เขาไม่แม้แต่จะตื่นมาเข้าห้องน้ำหรือทานอาหารใดๆ

สถาบันได้เตรียมอาจารย์ในนักเรียนทุกคนเลือกในช่วง 7 วันแรกนี้ นักเรียนสามารถสอบถามสถาบันเกี่ยวกับสิ่งที่อาจารย์ที่พวกเขาสามารถจะเลือกได้ว่า แต่ละคนมีความเชี่ยวชาญในด้านใด จากนั้น พวกเขาก็จะดูจากชื่อเสียงของอาจารย์เหล่านั้น และเลือกคนใดคนหนึ่งในนั้น

อาจารย์แต่ละคนมักจะทำการทดสอบนักเรียนในกรณีที่พวกเขามีความเข้าใจระดับต่ำ สำหรับผู้ที่มีความเข้าใจระดับสูง อาจารย์หลายคนจะเสนอการสอนให้นักเรียนเหล่านั้นด้วยตัวเอง และนักเรียนสามารถจะเลือกอาจารย์คนที่พวกเขาต้องการได้ โดยทั่วไปแล้ว อาจารย์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดจะถูกเลือกก่อน เพราะพวกเขามีสถิติความสำเร็จในการชี้แนะนักเรียนของพวกเขาให้เลื่อนผ่านได้ในเวลาที่น้อยที่สุด

มันเป็นวันสุดท้ายแล้วที่จะส่งรายชื่อของอาจารย์ที่เลือกให้กับสถาบัน มันมีนโยบายหนึ่งที่เข้มงวดเป็นอย่างมาก นักเรียนที่ส่งรายชื่อไม่ทัน จะถูกไล่ออกในทันที แน่นอนว่า สิ่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว เพราะนักเรียนทุกคนที่สามารถจะเข้าโรงเรียนนี้ได้ ต่างก็มีความสามารถมากพอที่จะไม่ทำผิดพลาดโง่ๆ

เหลือเวลาอีกเพียง 6 ชั่วโมงเท่านั้นก่อนที่จะหมดเวลา แต่แดนีลยังคงนอนกรนอยู่บนเตียงของเขา เมื่อแฟกซัลที่เดินเข้ามาในห้องเห็นเช่นนั้น เขาก็เกาหัวของตัวเองขณะพยายามคิดหาวิธีการปลุกแดนีล

เขาทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ เขากระทั่งเทน้ำใส่แดนีล แต่ผลที่ได้ก็คือ เตียงของเขาเปียกเท่านั้น

ในท้ายที่สุด แฟกซัลก็ไม่มีทางเลือกนอกจากตีแดนีลจนกว่าจะตื่น ตัวเขาเองก็ยังไม่มีอาจารย์เช่นกัน และเขาสงสัยว่ามันจะเป็นฝีมือขององค์ชายอีกเช่นเคย เขาไปหาอาจารย์ทุกคนในทันทีที่เขาออกจากสถานพยาบาล แต่ทุกคนก็ปฏิเสธเขา โดยบอกว่า เขามีศักยภาพต่ำเกินไป สิ่งที่ทำให้เขาถึงกับไม่พอใจก็คือ อาจารย์คนหนึ่งได้รับนักเรียนที่มีระดับความเข้าใจเดียวกับเขาต่อหน้าต่อตาเขา

ทุกคนสามารถจะมองเห็น รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของอาจารย์คนนั้นได้อย่างชัดเจน ดังนั้น เขาจึงทำได้เพียงเดินกลับมายังหอพักนักเรียน และรอให้แดนีลกลับมา เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาสามารถจะทำได้ เมื่อเขากลับมา แดนีลก็ได้บอกว่า เขาก็ยืนยันว่า เขามีอาจารย์คนหนึ่งที่จะรับพวกเขาทั้งสอง

พวกเขาได้ไปหาอาจารย์ที่เคลเลอร์บอกมาพร้อมกัน มันไม่ยากที่จะค้นหาที่พักของอาจารย์คนนั้น เพราะมีอาจารย์คนเดียวในสถานศึกษา ที่ถูกเรียกว่า ‘อัจฉริยะผู้สูญเสียทุกสิ่ง’ ตามที่เคลเลอร์ได้กล่าวไว้

แต่ไม่มีใครอยู่ในห้อง พวกเขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากทิ้งโน๊ตเอาไว้ และกลับมายังหอพักนักเรียน หากไม่มีความคืบหน้าใดๆ ในวันสุดท้ายก่อนหมดเวลา แดนีลและแฟกซัลตัดสินใจที่จะไปที่สภาสถานศึกษาเพื่อค้นหาอาจารย์คนนั้น สิ่งนี้สามารถจะทำได้ในวันสุดท้ายเท่านั้น เพราะสภาจะมีการประชุมในโอกาสพิเศษต่างๆเช่น พิธีเลื่อนขั้นอาจารย์ ซึ่งจะเกิดขึ้นหลังวันครบกำหนด ไม่อย่างนั้นแล้ว สมาชิกสภาจะไม่สามารถพบได้ทั่วไปในสถานศึกษา

ตอนนี้ เวลากำลังจะหมดลงแล้ว และยังไม่มีวี่แววของอาจารย์ท่ีแดนีลกล่าวถึง หากพวกเขาต้องคนหาสถานที่และได้รับการยอมรับ พวกเขาก็จะต้องรีบแล้ว สิ่งที่เขาสามารถหวังได้ในตอนนี้ก็คือ ความเจ็บปวดจะทำให้แดนีลตื่นได้

ในขณะที่เขายกมือเตรียมจะต่อยแดนีล กลิ่นแอลกอฮอร์ก็พัดมาจากหน้าประตู แม้แฟซัลจะสงสัยว่าใครกันที่ดื่มตั้งแต่เวลาเช้าเช่นนี้ แต่เขาก็ไม่ได้สนใจ และชกแดนีลด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่เขามี

ในฉับพลัน ก่อนที่หมัดจะกระแทก ชายคนนั้นก็เดินโซเซเข้ามาในห้องของแดนีล และสะอึกเสียงดัง เขามีไวน์อยู่ในมือ 1 ขวด และดูเหมือนว่าเขาจะอายุไม่ถึง 30 ปี ใบหน้าของเขาซูบผอม เหมือนกับแดนีลก่อนที่จะนอน รูปลักษณ์ของเขาถูกบดบังด้วยหนวดเคราที่ปกคลุมอยู่เต็มใบหน้าของเขา

เขาสวมเสื้อเชิ้ตเปิด ทำให้แฟกซัลเห็นไวน์อีกหลายขวดซ่อนอยู่ในกางเกงของเขา

หลังจากเดินเข้ามา เขาก็มองมาที่ทั้งสองก่อนที่จะอาเจียนออกมาใกล้กับเตียงของแดนีล

แดนีลตื่นขึ้นมาเพราะเขาได้กลิ่นบางสิ่งบางอย่างที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของเขา

ความฝันที่เขากำลังเพลิดเพลินกับการเผาห้องสมุด ถูกขัดจังหวะเพราะเขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องตื่นขึ้นมา และพยายามออกจากห่างจากกลิ่นน่าหวาดกลัวนี้

 

World domination system

World domination system

Score 10
Status: Completed

[*ติ๊ง* ระบบการปกครองโลกเริ่มต้นขึ้น]

 

โลกปัจจุบัน : ไม่รู้จัก

โฮสต์เจ้าบ้าน : ใกล้ตาย

เป้าหมายปัจจุบัน : รอดชีวิต

เป้าหมายโดยรวม : พิชิตและยึดครองโลก!]

 

นักศึกษามหาวิทยาลัยกำลังดิ้นรนหาเงินสำหรับการทดสอบที่โฆษณาว่าปลอดภัย แต่ต้องจ่ายเงินเป็นจำนวนมาก ทันทีที่เขาถูกมัดไว้บนเก้าอี้และมีขั้วไฟฟ้าวางอยู่บนศีรษะของเขาเขาก็หลับไป แต่ตื่นขึ้นมาด้วยการที่มีเสียงหุ่นยนต์อยู่ในหัวของเขา

 

คำเหล่านี้เริ่มต้นการผจญภัยของดานีลในโลกที่ไม่รู้จัก

เขาจะสำรวจและพิชิตโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วตามที่ระบุไว้ในระบบหรือไม่? เขาจะตายและถูกลืมภายในรัศมีเวลาหรือไม่?

Options

not work with dark mode
Reset