World domination system 148 ไปถึง

ตอนที่ 148 ไปถึง

นิยาย World domination system

WDS Chapter 148 ไปถึง

ภายในห้องแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากห้องโถงราชาผนังด้านหนึ่งที่เคยถูกตกแต่งด้วยภาพวาดและเครื่องประดับอื่นๆถูกเก็บกวาดออกไปทั้งหมดและถูกแทนที่ด้วยเครื่องประดับหน้าจอ

ก่อนที่แลนธานอร์จะได้รับการเปลี่ยนแปลงผู้ปกครองห้องแห่งนี้เป็นห้องขององค์ชายใหญ่ทุกครั้งที่เขากลับมาพักยังราชอาณาจักรในความเป็นจริงหลายห้องใกล้กับห้องโถงของราชากลายเป็นว่างเปล่าเนื่องจากผู้ที่เคยอาศัยอยู่ที่นั่นถูกย้ายออกไปที่อื่นแล้ว

แดนลได้เลือกห้องโถงขนาดใหญ่แห่งหนึ่งมาจัดเป็นห้องสถานการณ์ เตียงและเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดถูกเก็บกวาดอ อกไปและโต๊ะกลมถูกวางเอาไว้ที่ศูนย์กลางตามคําสั่งของเขา

ในปัจจุบัน มีเพียงแดนล, เคลเลอร์และแฟกซัลเท่านั้นที่อยู่ในห้องเนื่องจากผู้บัญชาการทั้งสามมีหน้าที่ที่จะต้องไปทํา
แดนลได้มอบเครื่องประดับเวทมนต์ถ่ายทอดวีดีโอที่เขาเคยใช้ในห้องบัลลังก์ก่อนหน้านี้ให้กับเหล่าผู้บัญชาการ
ดูภาพจากในแผงหน้าจอราชาแห่งแลนธานอร์เอามือท้าวคางขณะพยายามเรียงลําดับความสําคัญสิ่งต่างๆมากมายที่ผ่านเข้ามาในหัวของเขา

สิ่งหนึ่งก็คือ เขารู้สึกค่อนข้างประหลาดใจอย่างแท้จริงเกี่ยวกับการค้นพบในเวลานี้เขาเพิ่งรู้ถึงความต้องการอัญมณีเคอร์ที่เขาจําเป็นจะต้องใช้เมื่อวันก่อนและเขาก็ยังไม่ทันจะมีแผนการใดสําหรับการค้นหามัน

การค้นพบมันในตอนนี้ บังเอิญเกินไปหรือไม่?

ไม่ว่าเขาจะคิดเกี่ยวกับมันมากเพียงใดเขาก็ไม่สามารถจะหาความเป็นไปได้ที่เหมาะสมได้

ในความเป็นจริงไม่ว่าเขาจะรู้เรื่องความต้องการอัญมณีเคอร์ของเขาหรือไม่ก็ตามแดนลก็ยังคงเลือกที่จะดําเนินการต่อไปเนื่องจากความสําคัญของทรัพยากรนี้

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีโอกาสเพียงเล็กน้อยอย่างถึงที่สุดแต่มันก็ยังคงมีโอกาสที่ใครบางคนอาจจะรับรู้ถึงความคิดของเขาและมองผ่านระบบที่น่าหวาดกลัวของเขา

แดนลทําทุกสิ่งทุกอย่างอย่างระมัดระวังเท่าที่เขาสามารถจะทําได้ และ ตรวจสอบรอบๆด้วยเครื่องมือเฝ้าระวังอยู่เสมอ

ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจว่า จะไม่คิดมากเกี่ยวกับมันเพราะเขารู้ดีว่า คิดมากไปก็มีแต่จะไร้ประโยชน์

หันไปมองแผงหน้าจอ แดนลเริ่มสังเกตการเคลื่อนไหวของกองทัพด้วยความสนใจ

ในโลกเดิมของเขา เขาเคยได้ยินมาว่าการโลจิสติกส์เป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุดสําหรับกองทัพ

แม้ปัญหานี้ก็มีอยู่ในแอนแกเรียเช่นกันแต่ด้วยการใช้เวทมนต์และการเทเลพอร์ตมันทําให้กองทัพสามารถจะเคลื่อนย้ายได้รวดเร็วขึ้น

ทหารที่น่าตกตะลึงที่สุดคือกองร้อยประเภทหนึ่งพวกเขาประกอบด้วยทหารชั้นสูงทั้งหมดโดยที่กองกําลังนี้ประกอบไปด้วยจอมเวทย์ผู้โดดเด่น 50 นายและปีศาจแดงอีก 50 นาย

จอมเวทย์แต่ละคนจะจับคู่กับปีศาจแดงทําให้พวกเขาเป็นหน่วยที่เคลื่อนที่ไปด้วยกัน

ปีศาจแดงเหล่านี้เป็นนักสู้อย่างน้อยระดับมนุษย์ขั้น 6 พวกเขาได้รับการฝึกฝ นสําหรับทําภารกิจโดยเฉพาะนอกจาก นี้ พวกเขายังมุ่งเน้นไปที่เรื่องความเร็วและการสังหารด้วยเวลาที่สั้นที่สุดเท่าที่ จะเป็นไปได้

สําหรับจอมเวทย์ พวกเขาทั้งหมดล้วนแล้วแต่มีความเชี่ยวชาญในด้านเวทมนต์มิติมากเพียงพอที่ทําการเทเลพอร์ตไปยังตําแหน่งต่างๆได้โดยไม่ต้องออกแรงมากนัก

ทางตะวันตกของแลนธานอร์ถูกปกคลุมไปด้วยพื้นที่ป่าดิบแม่น้ํา และทะเลสาบมากมายซึ่งเต็มไปด้วยสัตว์ร้ายในแผนที่ทิศทางที่กองทัพกําลังมุ่งหน้าตรงไปก็คือเอลดินอร์อย่างไรก็ตามสถานที่ที่เป็นเป้าหมายของพวก เขาไม่ใช่แผ่นดินที่อยู่ภายใต้เขตแดนของพวกเอลฟ์ มันจึงไม่ถือว่าเป็นการล่วง

ในฐานะจอมเวทย์ผู้น่ายกย่องระดับมนุษย์แคสแซนดร้าสามารถจะเทเลพอร์ตแอรันและลูเธอร์ไปพร้อมกับเธอได้อย่างง่ายดายและเธอได้รับหน้าที่ให้เป็นผู้ออกคําสั่งสําหรับการเคลื่อนไหวในปัจจุบัน

พวกเขาวางแผนไว้ว่าจะเทเลพอร์ตครั้งสุดท้ายที่ตําแหน่งห่างจากสถานที่เป้าหมาย 10 กิโลเมตรจากนั้นพวกเขาก็จะเดินเท้าเข้าไป

ผู้นําทั้งสามจะเดินนําหน้าและขณะที่เดินผ่านสถานที่ต่างๆพวกเขาก็จะทําการตรวจสอบอันตรายก่อนที่จะส่งสัญญาณให้กําลังพลตามเข้ามานี่เป็นวิธีที่พวกเขาปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเวลาเช่นนี้มันไม่มีเวลาใดๆสําหรับการสอดแนมดังนั้นบุคคลที่มีโอกาสรอดชีวิต จากการซุ่มโจมตีมากที่สุดจึงจะมีหน้าที่ในการตรวจสอบอยู่ที่ด้านหน้า

เมื่อพวกเขามาถึงสถานที่สุดท้ายคิ้วของแคสแซนดร้าก็ขมวดแน่นเห็นได้ชัดว่าเธอหงุดหงิดผมสีแดงของเธอถูกถักเปียขณะที่เธอสวมกางเกงหนังและแจ็คเก็ต

สําหรับผู้บัญชาการอีก 2 คนลูเธอร์ยังคงแต่งกายด้วยชุดสีดําทั้งชุดขณะที่แอรันเปลี่ยนจากชุดลําลองมาเป็นชุดเกราะที่มีลักษณะคล้ายกับปีศาจโลหิตเฉพาะอินทรธนูสีแดงของเขาเท่านั้นที่แสดง ถึงสถานะที่แตกต่างจากพวกเขาซึ่งมันทําให้เขาโดดเด่นขึ้นในฐานะผู้บัญชาการกองกําลังนักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในแลนธานอร์

“พวกเรามีสหายมาร่วมวง” เธอกล่าวก่อนจะยกมือของเธอออกจากไหล่ของ ทั้งสอง

ไม่กี่นาทีต่อมาเอลฟ์ชายคนหนึ่งและมนุษย์ 2 คนได้ปรากฏตัวขึ้นจาก 3 ทิศทางด้วยความระมัดระวัง

ดูจากชุดของพวกเขามันค่อนข้างชัดเจนว่าพวกเขามาจากที่ใด

เห็นได้ชัดว่าเอลฟ์มาจากเอลดินอร์ซึ่งเป็นราชอาณาจักรที่อยู่ใกล้สถานที่ที่ค้นพบอัญมณีเคอร์มากที่สุดสิ่งนี้ทําให้พวกเขาค่อนข้างจะได้เปรียบ

จากมนุษย์ทั้งสอง หนึ่งมีกาดําเกาะอยู่ บนไหล่ของเขา ซึ่งมันดูเหมือนกับกาดําที่แดนลได้รับมาจากทูตหลังจากกล่าวกับเครื่องประดับเวทมนต์แล้วเขาก็พยักหน้าให้กับทั้งสามในลักษณะที่เป็นมิตร

คนสุดท้ายแตกต่างจากทุกคนที่ยืนอยู่นิ่งเฉยและไม่ถืออาวุธเขาถือดาบทั้งสองมือขณะที่แสดงออกอย่างระมัดระวัง 4

“สุนัขที่วิ่งหนีกลับไปในวันนั้นกล้าที่จะแสดงตัวที่นี่หรือ?”

มันเป็นแอรันที่กล่าวเช่นนั้นซึ่งมันได้ทําให้ชายคนนั้นหน้าแดงด้วยความโกรธแต่เขาก็ยังคงพยายามควบคุมอารมณ์ของเขา เขารู้ดีว่านี่เป็นอุบายที่จะทําให้จิตใจไม่มั่นคงและเขาจึงไม่ถูกหลอก ง่ายๆ

อย่างไรก็ตาม ความทรงจําเมื่อวันนั้นยังคงสดใหม่สําหรับเขากองทัพแอ็กซ์เลอร์ถึงกลับถอยหนี หลังจากได้ฟังคํากล่าวเพียงไม่กี่คําของราชาที่เพิ่งจะขึ้นครองบัลลังก์ใหม่ซึ่งมันทําให้เขารู้สึกเดื อดดาลและเกรี้ยวกราดเป็นอย่างมาก

เห็นเช่นนั้น เอลฟ์ก็ยิ้มออกมาและกล่าวว่า “การไปจากที่นี่จะไม่เป็นปัญหาใดๆแต่อย่าได้คิดว่าจะเข้าไปราชอาณาจักรทั้งสามได้ตกลงกันแล้วและพวกเจ้ามาสายเกินไป”

ได้ยินเช่นนั้น ลูเธอร์ก็ยิ้มออกมาอย่างเย็นชาและสะบัดนิ้วของเขา

ตูม!

ในฉับพลัน กล่องสี่เหลี่ยมที่ทําจากโลหะปรากฏขึ้นในพื้นที่ระหว่างผู้บัญชาการทั้งสามและผู้ที่มาต้อนรับพวกเขา

กล่องเป็นลูกบาศก์ขนาด 30 ฟุตและดูเหมือนมันจะถูกทําขึ้นโดยไม่มีวัสดุใดๆยึดแผ่นโลหะเข้าด้วยกัน

รูขนาดเล็กที่สะท้อนแสงอาทิตย์สามารถจะมองเห็นได้รอบๆมันในขณะที่หลอดทรงกระบอกชิ้นหนึ่งยื่นออกไปด้านหนึ่ง

ราวกับว่าได้รับคําสั่ง ทั้งกล่องลอยขึ้นไปบนอากาศเล็กน้อยก่อนที่จะหมุนเพื่อให้กระบอกหันไปด้านหน้าชายที่ถือดาบ

ขณะที่เขาจ้องมองเข้าไปในกระบอกเขาก็เห็นอุกกาบาตที่ปกคลุมด้วยเปลวเพลิงพวกมันพร้อมที่จะพุ่งออกมาและบดขยี้ร่างของเขาเป็นชิ้นๆ

สําหรับรอื่นๆ พวกมันทั้งหมดประกอบไปด้วยลูกศรที่พร้อมจะพุ่งออกมา

หากได้รับคําสั่ง ชายคนนั้นจะถูกบดขยี้โดยกระบอกขณะที่อีก 2 คนจะถูกสังหารโดยลูกศรที่มีพลังของนักสู้ระดับมนุษย์ขั้น 6

เห็นเช่นนั้น ทั้งสามก็มองหน้ากันและกันก่อนที่จะพยักหน้าและถอยกลับเข้าไปด้านในชายที่มีดาบกลับไปเป็นคนสุดท้ายและเขามองไปยังเหล่าผู้บัญชาการด้วยการแสดงออกที่ชั่วร้ายบนใบหน้าของเขา

หลังจากที่ทั้งสามหายไปจากสายตาแล้วด้านต่างๆของกล่องก็เริ่มสลายตัวเป็นสิ่งที่ดูเหมือนขี้เถ้า

เมื่อมันสลายไปมากขึ้น ทหารก็สามาร ถจะมองเห็นสิ่งที่อยู่ด้านในได้

มันเป็นจอมเวทย์ชั้นสูง 5 คน ที่ยืนอยู่ ในแต่ละด้านของกล่อง ซึ่งกําลังรวบรวมขี้เถ้าที่โลหะแตกกระจายออกมาขี้เถ้าเหล่านั้นดูเหมือนจะถูกควบคุมโดยพวกเขาขณะที่มันลอยเข้าไปในน้ําเต้าที่อยู่บนหลังของพวกเขาอย่างราบรื่น

จอมเวทย์ชั้นสูงทั้งห้า ยื่นมือไปเหนืออุกกาบาตพวกเขาถือเครื่องประดับเวทมนต์ไว้ในมือและดวงตาของพวกเขาจับจ้องไปยังอุกกาบาตที่กําลังลดขนาดลงอย่างช้าๆ

ในตอนกลางของกองกําลังปีศาจแดง 25 นายเข้าไปช่วยทําการเตรียมลูกศรในเครื่องประดับเวทมนต์ให้สามารถใช้งานได้เหมือนก่อนหน้านี้

“เตรียมรูปแบบตรวจจับ”

ได้ยินคําสั่งจากลูเธอร์ทหาร 50 นายก็พยักหน้าก่อนจะเร่งดําเนินการตามคํา

ในเวลาเดียวกันนั้น ณ ห้องสถานการณ์ในแลนธานอร์

เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นแดนีลก็พยายามอย่างมากที่จะไม่แสดงออกอย่างตกใจบนใบหน้าของเขา

ประการแรกกล่องที่ปรากฏขึ้นมันได้ทําให้แดนลคิดย้อนกลับไปถึงรถถังจากโลกเดิมของเขาในความเป็นจริงแม้แต่โมเดลพื้นฐานของพวกมันก็เหมือนกันสิ่งที่แตกต่างห่างเห็นได้ชัดก็คือสิ่งนี้สา มารถจะลอยได้

ประการที่สอง เขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดทั้งสามถึงถอยกลับไปหลังจากได้เห็นการปรากฏตัวขึ้นของรถถัง

“ฝ่าบาท นั่นเป็นหนึ่งในรูปแบบกลุ่มทางทหารที่ทรงคุณค่ามากที่สุดของราชอาณาจักรพวกเราสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เป็นเพียงการทูตทั่วไปที่ใช้ในสถานการณ์เช่นนี้กองกําลังที่มาถึงก่อนจะเผชิญหน้ากับกองกําลังที่มาหลังพวกเขาเพื่อหยั่งเชิงความแข็งแกร่งของกองกําลังที่มาซึ่งจะส่งผลต่อการครอบครองเหมืองอัญมณีเคอร์หา กทําเช่นนั้นแล้วพวกเขาพบว่าไม่มีความแตกต่างกันมากนักกองกําลังต่างๆจะตกลงกันได้โดยที่ไม่ต้องกล่าวใดๆ ซึ่งนั่นก็คือการพักรบเนื่องจากพวกเรามาถึงเป็นลําดับที่สี่พวกเราจึงถูกต้อนรับด้วยวิธีนี้”

เมื่อได้ยินคําอธิบายของเคลเลอร์แล้ว

แดนีลก็ถอนหายใจออกมาเขารู้แล้วว่ามันยังมีอีกหลายสิ่งที่เขาจําเป็นจะต้องเรียนรู้และพวกมันก็ไม่สามารถจะเรียนรู้ได้ง่ายๆอย่างการรวบรวมข้อมูลในห้องสมุด

นักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ในโลกเดิมของเขาเคยกล่าวไว้ว่า “แหล่งความรู้ที่ดีที่สุดก็คือประสบการณ์

World domination system

World domination system

Score 10
Status: Completed

[*ติ๊ง* ระบบการปกครองโลกเริ่มต้นขึ้น]

 

โลกปัจจุบัน : ไม่รู้จัก

โฮสต์เจ้าบ้าน : ใกล้ตาย

เป้าหมายปัจจุบัน : รอดชีวิต

เป้าหมายโดยรวม : พิชิตและยึดครองโลก!]

 

นักศึกษามหาวิทยาลัยกำลังดิ้นรนหาเงินสำหรับการทดสอบที่โฆษณาว่าปลอดภัย แต่ต้องจ่ายเงินเป็นจำนวนมาก ทันทีที่เขาถูกมัดไว้บนเก้าอี้และมีขั้วไฟฟ้าวางอยู่บนศีรษะของเขาเขาก็หลับไป แต่ตื่นขึ้นมาด้วยการที่มีเสียงหุ่นยนต์อยู่ในหัวของเขา

 

คำเหล่านี้เริ่มต้นการผจญภัยของดานีลในโลกที่ไม่รู้จัก

เขาจะสำรวจและพิชิตโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วตามที่ระบุไว้ในระบบหรือไม่? เขาจะตายและถูกลืมภายในรัศมีเวลาหรือไม่?

Options

not work with dark mode
Reset