ยามอาทิตย์คล้อยต่ำ เห็นสีแดงก่ำบนท้องฟ้าทิศตะวันตก ลูเซียน่าวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามายังห้องของรัถ
“ท่านรัถคะ มีการตอบสนองของพลังเวทที่รุนแรงที่คฤหาสน์ของคานค่ะ คิดว่ากำลังประกอบพิธีกรรมอยู่……”
“หมายความว่ายังไง ทำไมถึงกลายเป็นเริ่มพิธีกรรมตอนนี้ มีสัญญาณเตือนมาก่อนงั้นเหรอ”
รัถถามลูเซียน่าด้วยน้ำเสียงดุดัน
“ไม่ทราบค่ะ แต่ที่แน่ ๆ คือมีการประกอบพิธีกรรมที่ใช้เวทมนตร์ระดับสูงอยู่พอสมควรในคฤหาสน์ของคานค่ะ กำไลที่ท่านรัถมอบให้ลูน่าจังกำลังตอบสนองต่อพลังเวทที่รุนแรง ซึ่งไม่ใช่ระดับที่ใช้ในการฝึกฝนหรือทดลองค่ะ หากเป็นพิธีกรรมที่เปลี่ยนให้กลายเป็นผีดูดเลือดหรือราชาอมตะ ก็ต้องรีบหยุดก่อนที่จะสายเกินแก้ค่ะ”
แม้แต่สีหน้าเรียบเฉยตามปกติของลูเซียน่าก็เลือนหายไป ฉายเป็นสีหน้าร้อนรนเช่นกัน
กำไลข้อมือที่รัถให้ลูน่าเป็นของขวัญนั้น เป็นอุปกรณ์เวทที่ตอบสนองต่อพลังเวทที่รุนแรงและแจ้งให้ลูเซียน่าทราบถึงความผิดปกติ แม้ขอบเขตที่สามารถตรวจจับได้จะคลอบคลุมระยะพื้นที่หนึ่งเมือง แต่นั่นก็ถือเป็นของที่ใช้ได้แล้ว
“จิ๊ คิเลียน!”
รัถเรียกคิเลียน
“ครับ”
คิเลียนที่รอรับคำสั่งอยู่ใกล้ ๆ คุกเข่าลง
“เตรียมอุปกรณ์มิธริล! จัดไว้สองชุดสำหรับฉันกับแก น้ำศักดิ์สิทธิ์ก็เอามาให้หมด! เราจะไปปราบผีดูดเลือดกัน!”
“รับทราบครับ”
คิเลียนรีบดำเนินการทันที
“ท่านรัถ ท่านตั้งใจจะไปกันแค่สองคนเหรอคะ”
ลูเซียน่าจ้องหน้ารัถ
“ยัยโง่ เธอก็ต้องไปด้วยสิ! แต่ไม่จะมีคนอื่นอีก เดี๋ยวมีเหยื่อเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น แล้วก็ เอากระจกนั่นมาด้วย”
“กระจกบานนั้นเหรอคะ เอาไปโดยพลการได้เหรอคะ”
“ไม่มีปัญหา เพราะเดี๋ยวมันก็จะกลายเป็นของฉันอยู่แล้ว”
“……เข้าใจแล้วค่ะ”
ลูเซียน่ากล่าวแล้วถอยออกไปเพื่อเตรียมตัว
“ทำไมต้องเป็นตอนนี้ด้วย”
รัถกัดริมฝีปากอย่างแรง
──
ไม่นานนัก ทั้งสามคนก็ขี่ม้าถลาออกไปจนใกล้กับคฤหาสน์ของคาน
รอบคฤหาสน์ยังคงเงียบเชียบเช่นเคย ไม่มีใครสัญจรไปมา ซึ่งใครที่ว่าหมายถึงมนุษย์
“นี่มันอะไรกัน กูลเยอะขนาดนี้!”
รัถส่งเสียงดัง ตรงนั้นมีกูลจำนวนมากราวกับจะล้อมคฤหาสน์
รูปร่างของกูลมีหลากหลาย ทั้งชาย หญิง เด็ก และคนชรา แต่ทุกตัวต่างก็เดินหลังงอดูเคลื่อนไหวลำบากพลางส่งเสียงครวญครางอย่างโกรธแค้น
“คงออกมาจากสุสานน่ะค่ะ แต่ว่านี่มันก็…”
ลูเซียน่าทำหน้าเหยเกเช่นกัน ตอนนี้เธอกำลังสวมเสื้อคลุมสีดำของนักเวทและใช้ผ้าคลุมใบหน้าครึ่งล่าง ในมือถือไม้เท้าด้ามยาวที่ประดับอัญมณีขนาดใหญ่อยู่ตรงปลาย
“ไม่คิดจะปกปิดเรื่องที่เป็นผู้ใช้ศาสตร์ความตายแล้วสินะ!”
รัถตระหนักได้ว่ากูลเหล่านี้เป็นเพียงตัวถ่วงเวลาไม่ให้เข้าไปขัดขวางพิธีกรรม
“ถ้ากลายเป็นราชาอมตะ อนาคตจะเป็นยังไงก็คงไม่สนแล้วละมั้งคะ”
ลูเซียน่ากล่าว หากเป็นผีดูดเลือดก็ยังพอรับมือได้ แต่ราชาอมตะเป็นปิศาจแข็งแกร่งดังที่กล่าวไว้ในตำนาน ต้องเตรียมการในการปราบอยู่พอสมควร ระหว่างนั้น คานก็คงหนีไปที่ไหนสักแห่งแล้ว
“ผีถึงป่าช้าก็ไม่มีทางเลือก เราจะฝ่าเข้าไป คิเลียน แกไปคุ้มกันพี่สาวซะ”
“ครับ!”
“ช้าก่อนค่ะท่านรัถ ฉันจะเปิดให้ก่อนค่ะ”
ลูเซียน่าหยุดรัถที่กำลังจะชักดาบพุ่งเข้าไป จากนั้นก็เริ่มร่ายเวท
คาถาเวทมาจากภาษาโบราณที่ชนเผ่าอาซูราเคยใช้กัน ซึ่งรัถและคิเลียนไม่เข้าใจว่าเธอกำลังพูดอะไร แต่เห็นว่าอัญมณีบนไม้เท้าที่ลูเซียน่ากำลังถืออยู่เริ่มมีแสงสว่างขึ้นเรื่อย ๆ
เมื่อมันสว่างจ้า ลูเซียน่าก็ชี้ไม้เท้าไปยังกูล แล้วเวทก็เริ่มทำงาน
เปลวไฟสีแดงที่พุ่งออกมาจากไม้เท้าห้อมล้อมกูลที่ล้อมรอบคฤหาสน์ไว้ได้ในรวดเดียว
“เฮ้ย เปลวไฟนั่นคงจะไม่เผาคฤหาสน์ไปด้วยหรอกใช่ไหม”
รัถแสดงสีหน้ากังวลเล็กน้อย
“ถ้าทำแบบนั้นได้ เรื่องก็คงจะง่ายกว่านี้ค่ะ”
ลูเซียน่ายิ้มด้วยสายตา
“เพราะเราต้องช่วยลูน่าจัง แถมเปลวไฟระดับนั้นก็ทำลายข่ายอาคมที่ปกคลุมคฤหาสน์ไว้ไม่ได้ด้วยค่ะ”
“งั้นก็ดี ไปกัน!”
รัถ คิเลียน และลูเซียน่าก้าวเข้าไปในบริเวณคฤหาสน์โดยไม่สนใจกูลที่กำลังถูกไฟคลอกและส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวดรวดร้าว
──
ทันทีที่ทั้งสามผ่านประตูรั้วเข้ามา ประตูคฤหาสน์ก็เปิดออก และสเกเลตันสามตัวก็โผล่ออกมาจากด้านใน
ในมือพวกมันถือเคียวขนาดใหญ่ที่มีด้ามยาวราว ๆ หอก
“แย่ที่สุด……มันคือกริม รีปเปอร์ค่ะ ไม่ใช่แค่สเกเลตันธรรมดา แต่เป็นอันเดดระดับสูง ดูเหมือนคานจะเป็นผู้ใช้ศาสตร์ความตายระดับสูงอย่างที่คิดไว้เลยนะคะ”
ลูเซียน่าเตือน
“สุดท้าย มันก็เป็นโครงกระดูกอยู่ดีไม่ใช่รึไง!”
รัถตั้งท่าถือดาบไว้ข้างลำตัวแล้วพุ่งเข้าไปหากริม รีปเปอร์ตัวหนึ่งอย่างว่องไว
คิเลียนคอยสนับสนุนรัถและเตรียมรับมือกับการเคลื่อนไหวของกริม รีปเปอร์ตัวอื่นๆ ๆ
ส่วนลูเซียน่าเองก็เริ่มร่ายเวทอีกครั้ง
“สำเร็จ!”
รัถฟาดฟันกริม รีปเปอร์ในแนวนอน ทว่าโครงกระดูกที่ไม่พูดไม่จาตัวนั้นใช้ด้ามเคียวรับไว้ได้อย่างง่ายดาย
รัถที่คาดการณ์ไว้แล้วเปลี่ยนท่าเป็นฟันเฉียงทันทีโดยไม่รีรอ
กริม รีปเปอร์ยกเคียวขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อรับดาบที่เล็งมายังไหล่ แต่รัถกลับเล็งไปยังแขนที่ยกขึ้น
เขาพลิกดาบอย่างว่องไวโดยอาศัยแค่การเคลื่อนไหวของมือ แล้วตัดข้อมือทั้งสองข้างของกริม รีปเปอร์ขาด
“ยอดเยี่ยมมากครับ!”
คิเลียนที่กำลังต่อสู้กับกริม รีปเปอร์ตัวหนึ่งตะโกนแสดงความยินดี ส่วนกริม รีปเปอร์อีกหนึ่งตัวกำลังถูกเวทมนตร์ของลูเซียน่าสกัดไว้
โครงกระดูกที่ข้อมือขาดและสูญเสียเคียวทอดสายตาไปยังปลายแขนที่หายไปเหมือนไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
จังหวะนั้นเอง รัถก็ฟันที่กะโหลกศีรษะของมัน
พร้อมทั้งยังตรวจสอบสถานการณ์ของกริม รีปเปอร์ตัวอื่นด้วยสายตาเพียงอย่างเดียวในเสี้ยววินาที แล้วฟันไปที่ขาข้างหนึ่งของกริม รีปเปอร์ซึ่งกำลังต่อสู้อยู่กับคิเลียน
จากนั้นก็ตรงไปหากริม รีปเปอร์ที่ลูเซียน่ากำลังต่อสู้ด้วย
คิเลียนจัดการกับกริม รีปเปอร์ที่ขาขาดจนสูญเสียการทรงตัวอย่างรอบคอบ
กริม รีปเปอร์ที่ถูกเวทมนตร์ของลูเซียน่าสกัดไว้ไม่สามารถรับมือกับการโจมตีของรัถที่เข้ามาจากด้านข้างได้ จึงถูกฟันลำตัวขาดจนครึ่งบนร่วงลงมาที่พื้น
ลูเซียน่ารีบรุดไปยังลำตัวครึ่งบนนั้น เหยียบกะโหลกของมัน แล้วบดขยี้ด้วยส้นรองเท้า
“ตราบใดที่ยังเหลือหัวอยู่ กริม รีปเปอร์ก็จะฟื้นคืนชีพได้อีกค่ะ ดังนั้นกรุณาทำให้หัวกะโหลกแตกด้วยนะคะ”
ลูเซียน่ากล่าวอย่างยิ้มแย้ม
“……งั้นเหรอ”
รัถกับคิเลียนทำให้กะโหลกแตกตามที่เธอบอกโดยใช้ดาบ
(ทำไมต้องใช้ส้นเท้าเหยียบด้วย? ใช้ไม้เท้าก็ได้แท้ ๆ)
พลางคิดเช่นนั้น
──
ทั้งสามคนก้าวเข้าไปในคฤหาสน์ แต่ภายในนั้นเงียบสงบ ไม่ได้ยินเสียงใดแม้แต่อย่างเดียว
เพราะลูน่าคอยทำความสะอาดอยู่ตลอดเวลา ด้านในจึงสะอาดสวยงาม จนไม่น่าเชื่อว่ากำลังมีการประกอบพิธีกรรมที่มืดมนอยู่
“ตรงไหน?”
รัถเอ่ยถามลูเซียน่า
“ใต้ดินค่ะ ฉันสัมผัสได้ถึงพลังเวทจากด้านล่าง”
“บันไดลงอยู่ไหน”
“น่าจะอยู่ในห้องของคานค่ะ เพราะสถานที่ประกอบพิธีกรรมลับสำหรับนักเวทมักจะเป็นที่ที่ส่วนตัวที่สุดค่ะ”
รัถและอีกสองคนตรวจสอบห้องต่าง ๆ ทีละห้อง
ห้องอาหาร ห้องสมุด ห้องรับรอง ห้องรับแขก ทุกห้องล้วนสะอาดสวยงาม
(ขยันจริงๆ)
แม้จะอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ แต่รัถก็ยังชื่นชมการทำงานของลูน่า
ในคฤหาสน์ของคาน มีเพียงลูน่าคนเดียวที่ทำงานบ้าน มันเป็นเรื่องยากมากที่จะดูแลภายในคฤหาสน์ที่มีขนาดใหญ่เช่นนี้ให้สะอาดอยู่เสมอ
ในที่สุดก็พบห้องที่น่าจะเป็นห้องส่วนตัวของคานซึ่งอยู่ด้านในสุดของชั้นหนึ่ง
มีเพียงห้องนี้เท่านั้นที่มีหนังสือและสิ่งของต่าง ๆ ซึ่งไม่รู้ว่าเอาไว้ใช้ทำอะไรวางเรี่ยราดกระจัดกระจายราวกับขยะไร้ค่า
คงเป็นเพราะคานปฏิเสธไม่ให้ลูน่าทำความสะอาดห้องนี้ห้องเดียว
“ที่นี่เหรอ”
รัถมองไปรอบห้อง ดูเผิน ๆ ก็ไม่เห็นอะไรที่เหมือนกับบันไดลงไปด้านล่าง
“ส่วนใหญ่บันไดจะถูกซ่อนไว้พวกหลังชั้นหนังสือค่ะ เป็นกลไกที่จะตอบสนองต่อพลังเวทของเจ้าของห้องเท่านั้น.…..”
ทันทีที่ได้ยินคำพูดของลูเซียน่า รัถก็ฟันชั้นหนังสือจนล้มครืน
ชั้นหนังสือที่ติดตั้งกลไกให้เลื่อนโดยใช้เวทมนตร์ในยามปกติ ได้พังทลายลงและเผยให้เห็นบันไดที่ซ่อนอยู่ด้านหลัง
“รีบไปกัน!”
รัถเตะซากชั้นหนังสือให้พ้นทาง แล้วกระโดดลงไปยังบันไดด้านล่างอย่างไม่ลังเล
คิเลียนและลูเซียน่าก็ตะลีตะลานรีบตามไปติด ๆ
บันไดเบื้องหน้าไม่มีแม้แต่แสงสว่าง มีเพียงความมืดมิดรออยู่