[WN] ยมทูตแห่งความมืด ผู้รับใช้สตรีศักดิ์สิทธิ์แสนขี้เกียจจอมโลภมาก 72 บทที่ 4 คู่แข่งสีส้ม – ทักษะของโอโตฮะ

ตอนที่ 72 บทที่ 4 คู่แข่งสีส้ม - ทักษะของโอโตฮะ

เหล่าอันเดดพากันเดินตรงเข้าไปหาโอโตฮะพร้อมกับเสียงโลหะกระทบกัน *เคร้ง เคร้ง*

สัตว์ประหลาดกลุ่มอันเดดน่ะ ขึ้นชื่อเรื่องความอิจฉาในสิ่งมีชีวิตเลย อะไรก็ตามที่ขนาดพอๆ กับมนุษย์ พวกมันก็จะโจมตีใส่อย่างไม่เลือกหน้า

ฉะนั้น พวกมันก็เลยถูกดึงดูดเข้าหาคนอย่างโอโตฮะที่มีพลังชีวิตแรงกล้าแผ่ออกมาแบบนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้ไงล่ะ

 

“คือว่า! ทำไมพวกมันไม่ไปทางคุณคุโระบ้างเลยหล้าาาาา!!”
“ฉัน ลบสัญญาณชีพของตัวเองออกไปน่ะค่ะ”
“ช่วยทำให้ฉันด้วยสิเจ้าคะ!”
“ทำแบบนั้นไม่ได้ค่ะ ถ้าเวทความมืดของฉันลบสัญญาณชีพของคนอื่นออกไป มันจะไม่มีวันกลับมาได้อีกเลยน่ะ”

 

โอโตฮะขอร้องอ้อนวอนฉันทั้งน้ำตา แต่เรื่องนี้ฉันช่วยอะไรเธอไม่ได้จริงๆ

 

“ไม่เอาแล้ววววว!! {สตรองดิสโซล์ฟ (ของเหลวกัดหลอมรุนแรง)}! {พอยซั่นเวฟ (คลื่นพิษซัดสาด)}!!”

 

หืม ถึงจะกรี๊ดๆ แบบนั้น แต่เธอก็ยังใช้เวทมนตร์ออกมาได้อย่างแม่นยำอยู่เลยนะ

วิธีการต่อสู้ที่อันตรายที่สุดของโอโตฮะตอนนี้น่ะค่อนข้างเรียบง่ายเลย เธอจะสร้างพิษร้ายแรงขนาดที่แค่หยดตรงปลายเข็มฉีดยาเล็กๆ หยดเดียวก็ถึงตายได้ออกมาปริมาณเล็กน้อย ยืดมันให้ยาวออกมา และบางที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้  

ไม่ว่าจะโดนร่างกายส่วนไหน พิษก็จะเข้าสู่ร่างกายได้ผ่านกระแสเลือด ทำให้เป้าหมายตายได้ในทันที

แต่ว่า สถานการณ์ตอนนี้น่ะ

 

“เพราะว่าอันเดดน่ะตายไปแล้ว พิษที่ฉีดเข้าใส่ร่างกายก็เลยใช้กับพวกมันไม่ได้ผล เธอทำถูกแล้วล่ะที่เลือกใช้กรดมากัดกร่อนร่างของพวกมันแทน”
“ช่วยหยุดวิเคราะห์เรื่องอย่างใจเย็นแบบนั้นแล้วช่วยฉันซักทีจะได้มั้ยเจ้าคะ!”

 

ถึงเธอจะว่าแบบนั้นก็เถอะนะ

 

“ฉันเข้าใจเจ้าค่ะว่าเวทมนตร์ที่แข็งแกร่งที่สุดของคุณคุโระอย่าง {เดธ (มรณา)} น่ะใช้กับเจ้าพวกนี้ไม่ได้ แต่เวทความมืดก็เก่งเรื่อง [ลบล้าง] และ [บิดเบือน] อยู่ดี ยังไงคุณก็ต้องมีทางทำอะไรเจ้าพวกนี้ไม่ใช่เหรอเจ้าคะ!”
“ก็ ถูกของเธอค่ะ แต่การลบวัตถุกายภาพมันไม่เหมือนกับการลบแนวคิดทางนามธรรมอย่างอายุขัย มันต้องใช้พลังเวทปริมาณมากเลย แถมในภูเขาข้างหน้านี้ก็ยังมีสัตว์ประหลาดตัวอื่นๆ อยู่อีก ฉันเลยอยากสงวนพลังเวทของตัวเองเอาไว้ก่อนดีกว่า”
“ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่นาน คุณเพิ่งจะลบเศษซากหลังดินถล่มมาเองเนี่ยนะเจ้าคะ!”
“เพราะตอนนั้นเรายังมีพรรคพวกคนอื่นอีกหลายคนเลยค่ะ ฉันใช้พลังเวทไปพอควรเลย แล้วก็ลบเศษซากที่ขวางทางพวกนั้นออกไปให้น้อยที่สุด แค่เท่าที่จำเป็นเท่านั้นเอง
ฉะนั้น โอโตฮะ พยายามให้เต็มที่เพื่อพวกเราด้วยนะคะ”
“ม่ายยยยยยย!!”

 

หลังจากนั้น โอโตฮะก็ยังยิงเวทของเธอออกไปอย่างต่อเนื่อง

ถึงจะอยู่ท่ามกลางกลิ่นเหม็นเน่าที่เป็นเอกลักษณ์ของพวกอันเดดกับภาพน่าสยดสยองที่คงทำคนส่วนใหญ่วิ่งหนีป่าราบไปท่ามกลางความมืดสนิทนี่ไปแล้ว โอโตฮะก็ยังพอรับมือได้โดยที่ทำตัวเองแค่เหงื่อไหลท่วมอาบหน้าอาบตัวจนชุ่มเท่านั้นเอง

ถ้าเป็นในเรื่องแต่งแฟนตาซีทั่วไป ตรงนี้ก็ควรจะมีนักบวชออกมาตะโกน “เทิร์นอันเดด!” แล้วก็ปัดเป่าพวกมันหายไปเลยแล้วล่ะนะ แต่น่าเสียดายที่นอกจากเวทมนตร์สายแสงสว่างแล้ว โลกนี้มันก็ไม่มีเวทมนตร์ที่สะดวกสบายแบบนั้นหรอก โอโตฮะก็เลยต้องใช้วิธีเปลี่ยนพวกมันให้เหลวเละเป็นเมือกอย่างโหดเหี้ยมต่อไป

 

“คุณหนู ช่วยฉันด้วยเจ้าค่าาาาาา!!”

 

สุดท้าย เด็กสาวผู้น่าสงสารก็ถึงเวลาอ้อนวอนเรียกหาความช่วยเหลือจากคุณหนูผู้เป็นที่รักสุดหัวใจของเธอซะแล้ว

จำนวนพวกอันเดดรอบๆ ที่มองเห็นได้เองก็เริ่มลดลงไปจนสังเกตได้แล้วด้วยเหมือนกัน

 

“เหลืออีกนิดเดียวแล้วค่ะโอโตฮะ! พยายามเข้า!”
“เงียบไปเลยเจ้าค่ะ! ไปให้พ้นเลยนะเจ้าพวกเศษเนื้อกับกระดูกเดินได้! เสียใจด้วยที่ไม่มีฌาปนกิจให้ แต่ฉันจะฝังพวกแกให้หมดทุกตัวเลย!”

 

ในที่สุด โอโตฮะก็ฟิวส์ขาดและเริ่มอาละวาดไปทั่ว

หลังการต่อสู้ผ่านไปราว 1 ชั่วโมง รอบข้างนี่ก็ไม่มีอะไรโผล่ออกมาเพิ่มแล้ว

ทั่วบริเวณนี้เต็มไปด้วยเสียงเหลวเผละของบางอย่าง กับกลิ่นเหม็นชวนคลื่นไส้แทบอาเจียนที่คละคลุ้งตลบอบอวลอยู่ในอากาศไปหมด

 

“อุ อ๊วกกกกกกก”

 

อันที่จริง ก็มีคนนึงอาเจียนออกมาจริงๆ แล้วล่ะนะ

 

“ขนาดตอนเมารถม้า เธอยังไม่ได้อาเจียนออกมาจริงๆ เลยนะ น่าสงสารจัง”
“แล้วคิดว่าเป็นความผิดใครล่ะเจ้าค-! อุบ!?”

 

โอโตฮะเผลอสูดหายใจเอากลิ่นเหม็นเน่านั่นเข้าไปก็รู้สึกคลื่นไส้ขึ้นมาอีกรอบ เธอเอามือขึ้นปิดปาก น้ำตาเอ่อขึ้นมาให้เห็นเลย

 

“แล้วนี่ ทำไมคุณคุโระถึงไม่เป็นอะไรเลยเนี่ย…!”
“เอ๊ะ? เปล่าหรอกค่ะ ฉันแค่หายใจทางปากเฉยๆ แล้วอีกอย่าง…”
“อีกอย่าง?”
“เทียบกับลานทิ้งขยะผิดกฎหมายที่ฉันเคยต้องหนีเข้าไปเมื่อชาติก่อน กลิ่นแค่นี้ก็ไม่ได้อะไรเลยค่ะ”
“…คือฉัน ขอโทษด้วยนะเจ้าคะ”

 

ถ้าเธออาเจียนไม่หยุดอยู่แบบนี้ จนพรุ่งนี้ กลายเป็นว่าเธอเพลียหมดเรี่ยวหมดแรงขึ้นมาก็คงแย่

มาถึงตรงนี้ โอโตฮะก็ช่วยจัดการมาตั้งขนาดนี้แล้ว งั้นอย่างน้อยฉันช่วยเก็บกวาดให้ก็แล้วกัน

 

“{ดีโอโดแรนท์ (ขจัดกลิ่น)} แล้วก็ {แมททีเรียลอิเรซ (สูญสสาร)}”

 

ฉันลบกลิ่นเหม็นเน่าออกไป ตามด้วยล้างฤทธิ์ของกรดกัดเนื้อของโอโตฮะที่ยังส่งผลอยู่

ทีนี้ พื้นที่ตรงนี้ก็ไม่มีอันตรายแล้ว

 

“นี่ค่ะ ดื่มน้ำซักหน่อย”
“อึก ทั้งที่ก็เป็นความผิดของคุณแท้ๆ ไม่ชอบใจเลยเจ้าค่ะที่ดันรู้สึกสบายใจตอนคุณมาใจดีกับฉันแบบนี้…”
“ฉันเชื่อใจเธอนะ โอโตฮะ”
“เงียบไปเลยเจ้าค่ะ!”

 

หลังจากที่ใช้น้ำกลั้วปากเรียบร้อย โอโตฮะก็เริ่มดื่มน้ำที่เหลือในกระติกจนหมด ก่อนที่จะหงายหลังลงนอนแผ่อย่างหมดแรงทันที

 

“อ- อาระ?”
“ผลจากการใช้พลังเวทปริมาณมากออกมาเร็วค่ะ เป็นอะไรหรือเปล่า?”
“ค- คิดว่า แม้แต่จะร่ายเวทมนตร์ง่ายๆ ก็ยังไม่ได้เลยเจ้าค่ะ…”
“วันนี้เธอทำได้ดีมากเลย เหนื่อยหน่อยนะคะ พักผ่อนเถอะ”
“อุ… ไม่ไหวแล้วเจ้าค่ะ”

 

โอโตฮะคลานอย่างโซซัดโซเซเข้าไปในถุงนอนที่ฉันปูเตรียมไว้ให้ ไม่นานก็เริ่มหายใจเบาๆ หลับสนิทแล้ว

 

“หึม แต่ถึงยังงั้น―――ไม่คิดว่าจะทำได้ขนาดนี้เลยนะ”

 

ฉันหันไปรอบๆ มองดูซากอันเดดหลายสิบร่างที่โอโตฮะจัดการสาดน้ำกรดกัดพวกมันซะเหลวเป็นเมือกไปด้วย

ให้พูดตามตรง ฉันใช้เวทความมืดของตัวเองลบอันเดดพวกนี้ทิ้งไปได้ซักราวๆ ครึ่งนึงล่ะนะ

มาคิดๆ ดูแล้ว มันก็เป็นเรื่องปกตินะ ซอมบี้นี่เอาไว้ก่อน แต่พวกสเกเลตันนี่ ในตัวมันมีแต่ที่ว่างๆ ทั้งนั้นเลย

ในเมื่อมวลสารที่ต้องลบทิ้งไปมีน้อย จะจัดการพวกมันก็ไม่ได้ใช้พลังเวทเยอะอะไรขนาดนั้น

แล้วทำไมฉันถึงไม่ยื่นมือเข้าไปช่วย แล้วเอาแต่สังเกตการณ์อย่างเดียวเลยงั้นเหรอ? ทั้งหมดก็เพราะอยากประเมินความแข็งแกร่งของโอโตฮะนั่นแหละ

 

“…ได้ยิ่งกว่า ที่คิดเอาไว้ซะอีก”

 

อืม น่าตกใจจริงๆ นะ

ความรู้เกี่ยวกับยาพิษจากอีกโลกนึงที่ฉันสอนให้เธอ การกินพลังเวทจากเวทมนตร์ของตัวเอง เธอพิจารณาถึงเรื่องทั้งหมดนี้อย่างถี่ถ้วนแล้ว และจัดการกับศัตรูทั้งหมดด้วยยาพิษที่มีฤทธิ์รุนแรงที่สุดและประสิทธิ์ภาพสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ก่อนหน้านี้ฉันก็เห็นแต่วี่แววนะ แต่ตอนนี้ฉันมั่นใจแล้วล่ะ

ความแม่นยำและความเร็วในการร่ายเวทของโอโตฮะ―――โดดเด่น เหนือยิ่งกว่านักเวทย์ทั่วไป

ยิ่งกว่านั้น ความคิดที่ฉับไวของเธอในสถานการณ์หน้าสิ่งหน้าขวานเองก็สุดยอด ความสามารถในการสังเกตสิ่งรอบข้างของเธอก็เฉียบคมแบบไม่ธรรมดาเหมือนกัน

สั้นๆ ก็ เธอเหมาะกับการต่อสู้แบบหนึ่งต่อหมู่มากๆ เลย

ยังไงก็ตาม ในการต่อสู้ครั้งล่าสุดนี่ ถึงสู้กับอันเดดที่เชื่องช้าอืดอาดทั้งฝูง โอโตฮะก็ไม่ได้โดนพวกมันโจมตีใส่เลยซักครั้งเดียว

ฉันกะเอาไว้ว่าถ้าเกิดมันชักอันตรายขึ้นมาก็จะเข้าไปช่วยล่ะนะ แต่ฉันก็ไม่มีความจำเป็นต้องทำอะไรแบบนั้นเลย

 

“ให้ตาย ฉันคงจะประมาทไม่ได้เลยสินะเนี่ย”

 

สแต (พลังเวทมหาศาล) แล้วนี่ก็เด็กคนนี้อีก ทำไมถึงได้มีคนที่แข็งแกร่งเหนือยิ่งกว่าการมีเวทมนตร์หายากติดตัวมารวมอยู่รอบตัวท่านโนอะแบบนี้นะ

ถ้าเป็นแบบนี้ เกรงว่าโอรันเองก็อาจจะมีไม้เด็ดอะไรอยู่ด้วยก็ได้นะ

ตอนนี้ฉันอาจจะเป็นข้ารับใช้ที่แข็งแกร่งที่สุดของท่านโนอะก็จริง แต่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสแตอาจจะแซงฉันไปตอนไหนก็ได้เลย

วันนี้ พอได้เห็นแล้วว่าโอโตฮะอันตรายขนาดไหน ฉันเองก็ต้องคอยขัดเกลาฝีมือของตัวเองเอาไว้ให้ตลอดซะแล้วสิ

 

“เอาล่ะ นอนดีกว่า”

 

แต่สำหรับตอนนี้ เข้านอนก่อนก็แล้วกัน

ฉันใช้เวทความมืดลบความเหนื่อยล้าออกไปก็จริง แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าฉันลบผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับร่างกายของฉันได้ซักหน่อย

ถ้าฉันไม่พักผ่อนตอนที่มีโอกาสได้พักฟื้นล่ะก็ ร่างกายฉันเองก็ทนได้ไม่นานหรอก

ฉันเข้าไปในถุงนอนของตัวเอง ก่อนจะเหลือบไปดูหน้าตอนหลับของโอโตฮะ

 

(…เวลาดูเธอแบบนี้ ก็เป็นเด็กผู้หญิงที่สวยจริงๆ นะ)

 

ว่าตามตรง เวลานอนหลับ เธอก็มีออร่าความเป็นคุณหนูที่อยู่แต่บ้านแต่เรือนแผ่ออกมานะ ผนวกกับหน้าตาที่สวยขนาดแทบทำให้ผู้หญิงด้วยกันอิจฉาได้เลย

แต่ตอนตื่นเมื่อไหร่มันก็ นั่นแหละนะ เพราะงั้นมันเลยไม่ได้ช่วยเกื้อหนุนเธอเท่าไหร่

 

“อิฮิฮิ คุณหนู… อย่านั่งบนเก้าอี้น่าสงสารนั่นเลยเจ้าค่ะ นั่งบนตัวฉันแทนดีกว่า… เอ๋ ฉันไม่มีค่าพอเหรอ… อ๊าง โปรดดูถูกฉันมากกว่านี้อีกนะเจ้าค้า…”

 

ขอถอนคำพูดแล้วกัน กลายเป็นว่าขนาดหลับอยู่ เธอก็ยังเป็นสาวสวยเสียของอยู่ดี

ยัยเด็กสาวลามกนี่ ช่วงหลังๆ เหมือนกำลังปริ่มๆ ใกล้จะเปิดประตูบานใหม่อยู่รอมร่อแล้ว ซึ่งนั่นล่ะปัญหายุ่งยากเลย

 

“…เมินๆ ไปแล้วนอนดีกว่าแฮะ”

 

ฉันเบือนสายตาออกมาจากโอโตฮะอย่างเงียบๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว

ระหว่างที่นับดาวไปเรื่อยๆ ฉันก็เริ่มรู้สึกง่วงมากขึ้นเรื่อยๆ

ไม่นานนัก ฉันก็ยอมแพ้ให้กับเปลือกตาที่หนักอึ้งของตัวเอง ก่อนจะหลับไป

 

TN: แหมๆ~

ขอแปะ Discord สำหรับแจ้งเตือนนิยาย กับมุมพูดคุยกันไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ ใครสนใจก็แวะมาได้นะ ^^
https://discord.gg/Fm9NsqeH2r

[WN] ยมทูตแห่งความมืด ผู้รับใช้สตรีศักดิ์สิทธิ์แสนขี้เกียจจอมโลภมาก

[WN] ยมทูตแห่งความมืด ผู้รับใช้สตรีศักดิ์สิทธิ์แสนขี้เกียจจอมโลภมาก

Score 10
Status: Completed
ฉันถูกพ่อแม่ทำร้ายทารุณ แล้วกำลังจะเอาฉันไปขายอยู่แล้ว ฉันก็เลยชิงฆ่าตัวตายก่อนซะเลย ตื่นขึ้นมาอีกที ฉันก็มาอยู่ที่ต่างโลกแล้ว ที่นี่ เวทมนตร์ที่ใช้ได้จะถูกตัดสินด้วยสีผม นอกจากสีที่มีแล้วก็จะไม่สามารถใช้เวทมนตร์อื่นได้เลย แล้วฉันดันเกิดใหม่มามีผมสีดำ สีผมชั้นต่ำที่เลวร้ายที่สุด แถมยังโดนดูถูกเหยียดหยามอยู่ตลอดอีกต่างหาก ฉันเหนื่อยกับความอับโชคจากชาติก่อนเต็มทนแล้ว ฉันยอมแพ้กับทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ตอนนี้ ฉันก็ต้องมามีชีวิตแบบนี้อีกเนี่ยนะ “ถ้าหากไม่ว่ายังไง เธอก็จะทิ้งขว้างชีวิตของตัวเองอยู่แล้ว แบบนั้นมันเสียของออก เพราะฉะนั้น ใช้มันเพื่อฉันซะสิ” ฉันได้พบกับเจ้านายของฉันที่พูดเอาไว้แบบนั้น แล้วชีวิตของฉันก็เปลี่ยนไป ฉันกล่าวคำสาบาน จะขออุทิศทั้งชีวิตให้บุคคลคนนี้ ท่านโนอะ แม้จะเป็นเส้นทางสู่ความเป็นใหญ่สูงสุดที่ท่านเดินมุ่งไปนั่นก็ตาม ฉันหวังแต่ขอให้ท่านอยู่กับฉันจนถึงที่สุดก็พอ เพราะงั้นนะคะ ท่านโนอะ ได้โปรดยับยั้งเรื่องความเอาแต่ใจนั่นของท่านด้วยเถอะนะคะ! ※ตัวละครเอกเรื่องนี้ไม่ได้เป็นคนดี ใครต้องการเรื่องแนวแฟนตาซีโลกสวยล่ะก็ ขอเชิญเรื่องอื่นนะ

Recommended Series

Options

not work with dark mode
Reset