วันต่อมา เวลา 9:50
ฉันมาถึงโรงแรมที่จับตัวเจ้าพวกบ้า 2 คนนั้นไปเมื่อคืนก่อนเวลานิดหน่อย
ส่วนโอโตฮะกับโอรันที่โดนจับตัวกลับไปก็
“คุณหนูเจ้าค้าาาาาาาาา!! ฉันต้องขอโทษด้วยจริงๆ เจ้าค่ะ! ทั้งหมดเป็นความผิดของฉันเอง! ฉันจะเว้นว่างจากการสารภาพรักกับท่านไปอีกระยะก็ได้ แต่ได้โปรดเถอะเจ้าค่ะ! ขอแค่ได้อยู่ข้างๆ ท่านซักนิดด้วยเถอะนะเจ้าค้าาาาาาา! ใจฉันยังไม่พร้อมรับการเล่นเมินใส่แบบนี้น้าาาาา!”
“ท่านโนอามารีครับ! ผมแค่โดนลากไปตกกระไดพลอยโจนเท่านั้นเอง! ผมไม่ได้จะขอให้ท่านหยุดบทลงโทษหรอกครับ แต่อย่างน้อย ช่วยแยกผมกับเจ้าพี่บ้าคนนี้ทีเถอะครับ! เสียงกรีดร้องเธอจะทำผมเป็นบ้าอยู่แล้วเนี่ย!”
2 คนนั้นร้องโหยหวนดังออกมากันตั้งแต่เช้า ทำเอาแม้แต่คุณลุคเซียยังสะดุ้งเลย
โอรันอาจจะสงบลงได้นะ แต่โอโตฮะคงจะเป็นแบบนี้อยู่อีกพักนึงนั่นแหละ
“มาแล้วเรอะ”
ระหว่างที่ฉันกำลังคิดอยู่ว่าจะเอายังไงกับ 2 คนนั้นดี โดยเฉพาะโอโตฮะ ทหารรับจ้างคนนั้นที่ปะทะกับทั้งคู่เมื่อคืนนี้ก็เดินเข้ามาหาฉันพอดี
“ต้องขอโทษกับที่รุ่นน้องของฉันทำหยาบคายกับคุณเมื่อคืนนี้อีกครั้งนึงด้วยนะคะ”
“เรื่องนั้นน่ะพอเลย ข้าเองก็เข้าไปซัดแบบไม่ทันได้ฟังอะไรเหมือนกัน ทำตัวไม่สมกับเป็นผู้ใหญ่เลยให้ตาย”
ชายคนนั้นขัดการขอโทษของฉัน พลางพูดแบบนั้นสวนมา
นี่คือที่เขาเรียกกันว่าความสงบของผู้ใหญ่หรือเปล่านะ?
อยากให้ครึ่งนึงของคู่หูคู่บ้าที่กำลังอาละวาดตีโพยตีพายอยู่ที่คฤหาสน์วาเลนไทน์ตอนนี้ได้เรียนรู้เอาไว้ซะบ้างจังเลย
“เอ้า เข้ามาสิ”
“ค่ะ”
พอชายคนนั้นเร่ง ฉันก็เดินเข้าไปข้างในตามนั้น
ดูจากที่ในโรงแรมก็ยังทำงานกันตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้ว แสดงว่าคงไม่มีใครทันสังเกตเรื่องแก๊สยาสลบของโอโตฮะเมื่อวานนี้เลยซักคนสินะ
“จะว่าไป ข้ายังไม่เคยแนะนำตัวเองเลยนี่เนอะ ข้าโรเกอร์ คุณหนูล่ะ?”
“ชื่อคุโระค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก”
“คุโระ เหรอ ฉันจะไม่ลืมชื่อนี้แน่นอน”
“…? ขอบคุณค่ะ”
ฉันว่าเมื่อคืนนี้เองก็เหมือนกันนะ แต่ว่า จากสีหน้าของเขา ฉันรู้สึกได้ถึงอารมณ์ที่ปนเปกันอยู่ส่งมาที่ฉันได้เลยน่ะ
ขอบคุณ ขัดแย้ง ซาบซึ้ง ใจสลาย
แต่ ฉันเพิ่งจะเคยเจอคนคนนี้เป็นครั้งแรกเองนี่นา
“ห้องนี้ล่ะ”
ระหว่างที่ฉันยังงงว่าทำไมเขาถึงส่งอารมณ์ความรู้สึกพวกนั้นมาให้ฉัน เราก็มาจนถึงที่หมายของพวกเราแล้ว
พอเปิดประตูเข้าไปในห้องนั้น ฉันก็ได้เจอ
“…หืม คนคุ้นหน้าคุ้นตามารวมกันเยอะดีนะคะ”
“อะ…!”
“เธอคือ!”
“เธอยัง อยู่จริงๆ ด้วย…!?”
ฉันตัดสินใจยั้งความคิดของตัวเองเอาไว้ก่อนพักนึง
เพราะหน้าตาของคนที่มารวมกันในห้องนี้นี่แหละที่บังคับให้ฉันต้องทำแบบนี้อย่างไม่มีทางเลือก
“เมื่อวานฉันเพิ่งเจอคุณไปนี่คะ ส่วนอีก 2 คน ไม่ได้เจอกัน 9 ปีแล้ว สบายดีกันอยู่หรือเปล่า?”
ในห้องนี้ ก็คือทหารรับจ้าง 3 คนที่โยนฉันเข้าไปในรังงูเมื่อ 9 ปีก่อน
“โรเกอร์! นี่มันหมายความว่ายังไงเนี่ย!”
“เมื่อคืน เพื่อนของคุณหนูเขาบุกมาโจมตีที่โรงแรมนี้ อาจจะตั้งใจมาฆ่าพวกนายนั่นแหละ ถ้าเธอกับเด็กผู้หญิงอีกคนไม่หยุดเอาไว้ก่อนล่ะก็ บางทีแม้แต่ข้าเองก็อาจจะซวยไปแล้วด้วยก็ได้”
“ทางเราจัดการลงโทษทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้แล้ว เพราะฉะนั้น สบายใจกันได้เลยค่ะ และเพื่อรักษาเกียรติของเพื่อนพ้องของฉัน ฉันขอยืนยันให้แน่ใจค่ะว่าพวกเธอไม่ได้มีเจตนาตั้งใจจะฆ่าใครแน่นอน”
“ฆ- ฆ่า… นั่นสินะ ก็คงยังงั้น”
พวกเขานิ่งอึ้ง ก่อนจะนั่งคอตกกันอยู่พักนึง
“สิ่งที่พวกเราทำลงไปตอนนั้น มันไม่สมควรได้รับการให้อภัยหรอก น่าแปลกใจมากนะที่เธอหยุดเพื่อนของตัวเองไม่ให้ทำร้ายพวกเราแบบนั้นน่ะ”
“เรื่องมันแน่อยู่แล้วค่ะ ถ้าข่าวแพร่ออกไปว่าพวกคุณถูกฆ่า มันจะสร้างปัญหาให้นายเหนือหัวของฉันได้ ฉันไม่สามารถปล่อยให้ความแค้นเคืองส่วนตัวไปสร้างความเดือดร้อนไม่สะดวกสบายกับท่านผู้สูงศักดิ์ได้อย่างเด็ดขาดค่ะ”
“เออ ที่เธอว่า? นายเหนือหัว นี่?”
“โนอามารี เทียไลท์ สินะ?”
“ค่ะ”
ตอนที่ฉันตอบคำถามพวกนั้นอย่างใจเย็น คราวนี้ ผู้หญิงคนเดียวที่มีผมสีน้ำตาลแดงก็พูดขึ้นบ้าง
“ทำไมเธอถึง ไปรับใช้ขุนนางได้กันล่ะ?”
“หลังจากที่พวกคุณเกือบจะฆ่าฉัน ด้วยอะไรหลายๆ อย่าง ฉันก็รอดชีวิตมาได้ แล้วได้ท่านโนอะเก็บมา ฉันถึงได้อยู่รับใช้ท่านมาตั้งแต่นั้นค่ะ”
“…เหรอ”
“แม้ว่าฉันจะถูกทุกสิ่งทุกอย่างหักหลังมา แต่ท่านโนอะไม่เคยหักหลังฉันค่ะ ท่านได้มอบจุดมุ่งหมายในการมีชีวิตให้ฉัน มอบอาหารการกินให้ มอบสถานที่ที่ควรอยู่ให้ แม้กระทั่งชื่อของฉันก็ด้วย ตอนนี้ ท่านโนอะคือทุกสิ่งทุกอย่างของฉันค่ะ พวกคุณที่ได้พาฉันไปให้ได้พบกันท่าน แม้จะไม่ได้ตั้งใจก็ตามทีฉันเลยไม่ได้แค้นเคืองอะไรพวกคุณอีกแล้ว แต่ว่า”
ตอนที่ฉันตอบคำถามไป กับบอกว่าฉันไม่ได้แค้นเคืองอะไรแล้ว พวกเขาก็ดูเหมือนจะทำสีหน้าโล่งอกกันออกมาบ้างประมาณนึง ซึ่งพวกเขาเลยต้องเจอกับการจ้องเขม็งจากฉันต่อ
“ถ้าพวกคุณคิดจะทำอะไรที่เป็นอันตรายกับท่านโนอะ ไม่ว่าจะมีเหตุผลอะไร ฉันจะไม่ปราณีพวกคุณแม้แต่นิดเดียว แล้วฉันจะฆ่าพวกคุณทุกคนแน่นอน ฉะนั้น ขอให้เตรียมใจเอาไว้ได้เลยค่ะ”
“…อุ”
“เด็กน้อยไร้ชื่อที่ไร้เดียงสาและอ่อนโยนคนนั้นไม่มีเหลือแล้วค่ะ ฉันคือคุโระ ข้ารับใช้และมือขวาของท่านโนอามารี เทียไลท์ หากว่านายเหนือหัวของฉันสั่ง-”
ฉันหันไปมองที่วิวนอกหน้าต่างของโรงแรม
“ให้ฆ่าทุกคนในเมืองนี้ซะ ฉันก็ยินดีทำอย่างไม่ข้อข้องค่ะ”
“““―――!”””
นั่นไม่ใช่การเล่นมุกตลก แล้วก็ไม่ได้บลัฟด้วย
ถ้าท่านโนอะสั่งให้ฉัน ‘ฆ่าทิ้งให้หมด’ ฉันก็จะทำตามที่ได้รับคำสั่งมาอย่างไม่ลังเล
ไม่เกี่ยวหรอกว่าอีกฝ่ายจะเป็นสาวบริสุทธิ์ เด็กที่ยังมีอนาคตข้างหน้า หรือคนชราที่โดนอายุรุมเร้า
ใครก็ตามที่มาขวางนายเหนือหัวของฉัน ไม่ว่ามันจะเป็นใคร นั่นก็คือเป้าหมายที่ฉันจะต้องกำจัดทิ้งทั้งหมด
“งั้น ตอนนี้ก็ถึงตาฉันถามบ้างนะคะ คุณพาฉันมาที่นี่ทำไมเหรอคะคุณโรเกอร์?”
“มีเหตุผล 2 ข้อ ข้อแรกคือ ข้าอยากให้เจ้าพวกนี้ได้ขอโทษน่ะ”
“โห”
“แต่ว่า เธอไม่อยากได้คำขอโทษของเจ้า 3 คนนี่สินะ”
“ค่ะ เพราะฉันไม่ได้ขอ”
“แล้วก็เหตุผลที่ 2 ข้าอยากจะขอบคุณเธอซักครั้งจริงๆ”
“ขอบคุณ?”
ฉันเอียงคออย่างสงสัย
แล้วจู่ๆ โรเกอร์ก็ลงไปคุกเข่า และก้มหัวให้ฉัน
เขาโค้งตัวก้มลงไปกราบสุดตัว แบบที่เรียกว่า ‘โดเกสะ (土下座)’ นั่นแหละ
“ขอบคุณมาก”
“ม- ไม่หรอกค่ะ ฉันไม่ใช่ใครที่คุณควรจะขอบคุณหรอก”
“ไม่ ฉันต้องขอบคุณเธอ เพราะเธอช่วยชีวิตข้าเอาไว้”
ช่วยชีวิต?
ฉันคร่าชีวิตมาไม่รู้เท่าไหร่ก็จริง แต่นี่ฉันเคยไปช่วยชีวิตใครนอกจากพวกสแตด้วยเหรอ
ตอนที่ฉันยังสงสัยพร้อมกับเครื่องหมายคำถาม ? ที่ลอยอยู่เหนือหัว ผู้ก่อเหตุ A ก็ตอบข้อสงสัยนั้นของฉัน
“โรเกอร์น่ะ แบบว่า คือคนที่ได้ยานั้นมารักษาจนหายดีน่ะ จากเงินที่เราได้จากการขายไข่ที่เราไปเอามาได้ จากการใช้เธอเป็นเหยื่อล่อ”
“อ๋า แบบนี้เอง”
ฉันเกือบต้องตายจาก 3 คนนี้ เพราะเพื่อนของพวกเขาคนนึงโดนยาพิษแล้วก็ต้องใช้เงินก้อนใหญ่มากเพื่อซื้อยาถอนพิษมานรักษานี่นะ พวกเขาอยากจะได้ไข่ของคิลลิงเซอเพนท์ ซึ่งก็ขายได้ในราคาสูงเลยจากความบอบบางของมัน
เข้าใจแล้ว ที่แท้คนที่ติดพิษเมื่อตอนนั้นก็คือโรเกอร์สินะ
“ที่ฉันทำมันก็แค่พยายามจะหนีอย่างเอาเป็นเอาตายเท่านั้นเองค่ะ ฉันไม่ได้ทำอะไรที่คู่ควรกับการได้รับการโค้งกราบแบบนี้หรอก ดีแล้วล่ะค่ะที่คุณปลอดภัยดี”
ตอนนี้ฉันก็พูดได้ล่ะนะ ถ้าโอโตฮะอยู่ที่นี่ล่ะก็ เธอจะรักษาพิษได้ทันทีเลย มันยิ่งทำให้ฉันได้เห็นชัดเลยว่าโลกที่ไม่มีเวทหายากนี่มันไม่สะดวกสบายขนาดไหน
“มีอะไรที่ข้าพอจะทำให้ได้มั้ย? ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบไหน เธอก็คือคนที่ช่วยชีวิตข้าจริงๆ ขอล่ะ ถ้าเธออยากได้อะไรตอบแทนก็บอกเถอะ”
“นั่นสินะคะ ฉันไม่อยากให้ 3 คนนั่นมาสำนึกผิดอะไรกับฉันทั้งนั้น แต่ถ้าเป็นคุณ ฉันอาจจะมี”
ฉันเห็นว่าทั้ง 3 คนข้างหลังสะดุ้งกัน แต่ฉันก็ไม่ใส่ใจ ก่อนจะเดินเข้าไปหาโรเกอร์
“อันที่จริง ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ นายเหนือหัวของฉันกำลังรวบรวมบรรดาเส้นผมชั้นต่ำอยู่ค่ะ เหมือนกับ 2 คนนั้นเมื่อวานนี้ หรือตัวฉันเอง”
“อ่า ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้นนี่นะ ข้าได้ยินเสียงลือลอยมาตามลมอยู่”
“เพราะแบบนั้น คุณพอจะบอกข้อมูลอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ฉันหน่อยจะได้หรือเปล่าคะ”
มันก็เป็นแค่การเดาสุ่มล่ะนะ แต่ก็คุ้มค่าที่จะลองถามดู พอคิดถึงสายสัมพันธ์ที่เขามีในสายอาชีพทหารรับจ้าง เขาอาจจะรู้เรื่องอะไรที่น่าตกใจก็ได้
แล้วคำตอบก็
“แค่นั้นเองเรอะ?”
“ใช่ค่ะ คุณรู้อะไรบ้างหรือเปล่า?”
“อ้า อันที่จริง นี่เธอไม่รู้หรอกเหรอว่าทหารรับจ้างที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองนี้เป็นพวกเส้นผมชั้นต่ำน่ะ”
“เอ๋!?”
เพิ่งได้ยินเรื่องนี้ครั้งแรกนี่แหละ
“ก็นะ เรื่องของทหารรับจ้างมันก็ไม่ได้เป็นที่พูดถึงกันในเมืองหรอก ไม่ได้น่าตกใจอะไรขนาดนั้น เท่าที่ข้ารู้ ไม่มีทหารรับจ้างคนไหนจะเก่งไปกว่าหมอนั้นแล้ว หมอนั่นน่ะยังหนุ่ม แต่พละกำลังมหาศาลของเจ้านั่นก็ทำให้หมอนั่นได้ชื่อเสียงและความนับหน้าถือตาในฐานะทหารรับจ้างภายในเมืองมาอย่างรวดเร็ว เจ้านั่นน่ะมันอัจฉริยะของแท้เลย”
“ทั้งๆ ที่เป็นพวกเส้นผมชั้นต่ำที่ใช้เวทมนตร์ไม่ได้ น่ะเหรอคะ?”
“พละกำลังทางกายของเจ้านั่นน่ะผิดปกติสุดๆ แข็งแกร่งถึงขนาดว่าครอบครัววาเลนไทน์ยังเคยยื่นข้อเสนองานไปให้หมอนั่นมาแล้วด้วยซ้ำ แต่หมอนั่นกลับปัดทิ้งไปอย่างไม่ลังเลเลยซะงั้น”
น่าตกใจจังเลยแฮะ คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้ข้อมูลมาเร็วขนาดนี้
“ขอบคุณมากค่ะ ท่านโนอะจะต้องพอใจกับเรื่องนี้แน่”
“อ้า แต่ทำให้แค่นี้ไม่สบอารมณ์เท่าไหร่เลยนะ ถ้ามีอะไรที่เธอต้องการอีกก็บอกแล้วกัน”
“งั้นไว้ถึงเวลา ฉันจะถามคุณก็แล้วกันค่ะ อะ แล้วก็ คำถามสุดท้ายค่ะ”
“หืม?”
“ชายคนนั้นชื่ออะไรเหรอคะ?”
“ลูเชียสน่ะ”
TN: โหๆ ไม่ต้องเดากันละ
ขอแปะ Discord สำหรับแจ้งเตือนนิยาย กับมุมพูดคุยกันไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ ใครสนใจก็แวะมาได้นะ ^^
https://discord.gg/Fm9NsqeH2r