“เออ สแต กำลังทำอะไรอยู่น่ะ?”
“คุณหนู”
“อะไรเหรอ?”
“วันนี้ วันเกิด ฉัน”
“ช- ใช่แล้ว”
“ฉัน ดีใจจัง”
“ใช่ เพราะแบบนั้นไงเราถึงมาที่นี่กัน”
“อยากได้ อันนี้”
“ล้อเล่นใช่มั้ย?”
“ไม่ได้ล้อเล่น”
“…”
ขอฉันอธิบายลักษณะหน้าตาของตุ๊กตาที่สแตถืออยู่อย่างละเอียดหน่อยแล้วกัน
ก่อนอื่น สีของมันดูคล้ายกับสีน้ำตาลอมเหลืองคล้ายกับดินเหนียว ถ้าจะพูดให้เห็นภาพง่ายๆ ล่ะก็ มันเป็นสีแบบเดียวกับไม้เลย
บนหัวของมันมีของสีเขียวคล้ายกับใบไม้ยื่นออกมา ลักษณะเหมือนกับใบผักชีฝรั่ง
แขนขาผอมยาว หน้าตาดูเหมือนกับรากไม้
แต่เหนือสิ่งอื่นใด สิ่งที่ดึงดูดความสนใจมากที่สุดก็คือหน้าตาของมันนี่แหละที่ดูเหมือนกับเป็นการกรีดร้องออกมาเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิต ถึงมันก็อาจจะดูตลกดีนะ แต่มันก็เป็นใบหน้าที่สามารถทำเอาเด็กที่เจอมันตอนกลางคืนต้องถึงกับฉี่ราดได้แบบไม่ต้องสงสัยเลย สแตจ้องดูตุ๊กตานั่นอย่างสนอกสนใจเลยล่ะ
“โอ้ แหมๆ คุณหนูจ๊ะ ดูเหมือนน้องสาวที่เธอพามาด้วยจะเห็นคุณค่าของของพวกนี้นะเนี่ย!”
“ไม่ใช่น้องสาวแท้ๆ หรอก แต่เอาเถอะ แล้ว มันคืออะไรล่ะนั่น”
“นี่น่ะเหรอ ตุ๊กตาแมนดราโกราไงล่ะ มันเป็นพืชสมุนไพรที่มีชื่อเสียงอย่างมากในประเทศเล็กๆ ทางตอนเหนือในด้านสรรพคุณทางยา มันเกือบจะถูกขายให้กับนักสะสมบางคนอยู่แล้วด้วย”
“แต่ก็ขายไม่ออกสินะ”
การที่มันเกือบจะถูกขายให้กับนักเก็บสะสมบางคนในประเทศเล็กๆ แห่งนึง ก็สื่อให้รู้ได้เลยนะว่ามันขายได้แย่ขนาดไหน ในระดับที่ผู้ขายอาจหยุดการผลิตลงกลางคันเลยด้วยซ้ำ
“ยอดไปเลยใช่มั้ยล่ะ!? ทั้งขนาด! ทั้งรูปร่างหน้าตา! เรียกได้ว่าถอดแบบต้นแมนเดรกออกมาเป็นตุ๊กตาได้อย่างแม่นยำสุดๆ! ตุ๊กตานี่น่ะ แค่เห็นครั้งแรกฉันก็ถูกใจแล้ว”
“ฉันคงพูดอะไรมากไม่ได้หรอก เพราะฉันไม่เคยเห็นต้นแมนเดรกจริงๆ แต่อย่างน้อยที่สุด ถ้าเด็กทั่วๆ ไปได้ของอะไรแบบนี้เป็นของขวัญล่ะก็ พวกเขาคงทั้งกรีดทั้งร้องหนักยังกับว่าตัวเองเป็นแมนเดรกด้วยเลยก็ได้นะ”
“ว่ากันว่าเสียงร้องไห้ของแมนเดรกสามารถกัดกินจิตใจของมนุษย์ได้ หรือว่าเด็กคนนั้นจะรู้สึกถึงความใกล้ชิดอะไรซักอย่างได้หรือเปล่าคะ?”
ส่วนสแตตอนนี้ เธอก็กอดตุ๊กตาแมนดราโกราไว้แล้ว ราวกับมันเป็นของเธอเองยังไงยังงั้น
“แล้ว เอาไงดีล่ะจ๊ะ? จะซื้อหรือเปล่า?”
“คุณหนู ไม่ได้เหรอ?”
“ป- เปล่า ไม่ใช่ไม่ได้หรอก แต่…”
“สแต เราแค่เลือกชิ้นนี้ชิ้นเดียวไม่ได้หรอกนะ”
“ถ้าไม่ใช่ชิ้นนี้ ไม่เอา”
“เจ้านี่มันมีอะไรที่ทำให้เธอพูดถึงขั้นนั้นเลยล่ะเนี่ย…”
พอเจอสแตดื้อรั้นแบบไม่เคยเป็นมาก่อน ท่านโนอะที่ตั้งใจจะมาซื้อของขวัญอยู่แล้วก็เมินเฉยไม่ได้ สุดท้าย ท่านก็ยอม
“…เฮ้อ คุณยาย ตุ๊กตาราคาเท่าไหร่?”
“ด้วยความยินดีเลยจ้า! แหม ดูจากศักยภาพที่เด็กคนนี้มีรสนิยมพิเศษไม่ธรรมดา ขอคิดหน่อยน้า… ซักเท่านี้ล่ะเป็นไง?”
“นี่ คิดมาดีแล้วจริงๆ เหรอเนี่ย? นี่มันแพงกว่าที่ฉันคิดไว้เยอะเลยนะ”
“อย่าร้องอะไรไร้เหตุผลแบบนั้นสิจ๊ะ ฉันขายได้เท่าไหร่จะตัดสินเลยนะว่าคืนนี้ฉันจะนอนค้างแรมที่ไหนน่ะ”
สุดท้าย ท่านโนอะก็ยอมยื่นเงินให้คุณยายคนนั้นทั้งที่สีหน้ายังบึ้งตึง
“ขอบใจที่อุดหนุนนะจ๊ะ!”
“คุณหนู ขอบคุณ วันเกิด สุดยอดเลย”
“เอาเถอะ ถ้าสแตดีใจ แค่นั้นก็พอแล้วล่ะ”
“ให้ตายสิ มีอะไรที่ทำให้ประทับใจเธอขนาดนั้นกันนะ”
สแตชูตุ๊กตาแมนแดรกขึ้นสูง ในตาเต็มไปด้วยความดีใจจนเป็นประกายเลย
ไม่ว่าจะมองยังไง ฉันก็ยังไม่เข้าใจเลยว่าตรงไหนที่มันทำให้เธอชอบมันขนาดนี้
รสนิยมของสแตคงเป็นอะไรที่ฉันไม่เข้าใจล่ะมั้ง ขนาดที่มากกว่าท่านโนอะซะอีก
“ชื่อ [โกราสึเกะ] นะ เพื่อน คนใหม่”
“อาเระ? ผู้ชายเหรอ?”
“เปล่า ผู้หญิง”
“จะผู้ชายหรือผู้หญิงก็ช่างเถอะ โกราสึเกะสินะ ได้เลย”
“น่าแปลกใจตั้งแต่แมนเดรกสามารถแยกชายหญิงได้ด้วยแล้วล่ะ”
สแตกอดตุ๊กตาแมนเดรก―――ไม่สิ กอดโกราสึเกะไว้แน่นด้วยสีหน้าปิติยินดี
เธอชอบมันแบบนี้แหละดีที่สุดแล้ว แต่ถ้าฉันอยากจะขออะไรซักนิดนึงล่ะก็ ฉันอยากให้เธอเลิกกอดมันแล้วหันหน้าตุ๊กตามาทางฉันแบบนั้นซักที
ตอนนี้ มันดูเหมือนกับว่ากำลังโดนรัด จนต้องกรีดร้องอย่างทุกข์ทรมานเป็นครั้งสุดท้ายของชีวิตยังไงไม่รู้
“โโโโโห……!”
“อาระ ดูอลังการจังเลยนะ”
“ตอนที่ฉันบอกคุณนีน่าว่าวันนี้เป็นวันเกิดของสแต เธอก็รีบเตรียมการทุกอย่างทันทีเลยค่ะ ดูสิ สแต หอคอยฮอทเค้กไงล่ะ”
“*เอื๊อก*”
“นี่ ระหว่างมื้ออาหารน่ะ อย่างน้อยก็วางโกราสึเกะลงก่อนเถอะ”
1 เดือนที่ผ่านมา สแตก็ค่อนข้างเป็นที่ชื่นชอบเลยล่ะ
ถึงจะมีผมสีฟ้าก็ตาม แต่ผู้คนในบ้านก็ยังถูกใจตัวของสแตที่ให้ความรู้สึกชวนให้ปกป้องออกมาอยู่ตลอดเวลาแบบนั้นอยู่ดี
“อร่อยมั้ย?”
“*หงึกหงึก*”
“แบบนั้นก็ดีแล้วล่ะ สแตไม่ได้เลือกกินอะไร การจัดการเรื่องคุณค่าทางอาหารก็เลยไม่ยากด้วย”
“เดี๋ยวสิคุโระ ทำไมหันมามองทางฉันล่ะ”
แค่วันเดียว สแตก็เรียนรู้มารยาทและวิธีการกินฮอทเค้กอย่างเรียบร้อยได้แล้ว แต่ว่า เมื่อไม่นานนี้ เธอดูเหมือนจะได้เรียนรู้แล้วว่ารสชาติของฮอทเค้กจะเปลี่ยนไปได้ตามแต่ท็อปปิ้งที่ราด
ในตู้เย็นของพวกเราก็เลยจะมีทั้งเมเปิลไซรัป ซอสช็อกโกแลต ซอสชีส เนยแข็ง น้ำผึ้ง โยเกิร์ต แล้วก็นู่นนี่นั่นที่ใช้เปลี่ยนรสชาติพร้อมใช้งานอยู่ตลอดเลย
“นี่ สแต อย่าเอาแต่กินฮอทเค้กสิ กินสลัดบ้างนะ ดูสิ เลอะปากแล้วเนี่ย”
“อุมุ”
“หืม บางทีสแตก็ยังเป็นเด็กอยู่บ้างเนอะ”
“ท่านโนอะที่ขนาดโตกว่าก็ยังไม่ยอมกินผักอยู่ดี พูดอะไรน่ะคะ”
“โนอะ ก็ยังเด็กอยู่นะ”
“ทั้งที่วิญญาณกลับชาติมาเกิดแท้ๆ ท่านไม่มีศักดิ์ศรีเลยเหรอคะ”
ระหว่างที่ดูสแตตั้งหน้าตั้งตากินอาหารอย่างเอาจริงเอาจัง ฉันเองก็กินอาหารของตัวเองด้วยเหมือนกัน
“จะว่าไป ท่านโนอะคะ ยังไม่เล่าเรื่องชาติก่อนของท่านให้สแตรู้อีกเหรอคะ?”
“ยังเลย แต่ยังไงเด็กคนนี้ก็ยังไม่เข้าใจหรอก ไว้ให้เธอรวบรวมความรู้มากกว่านี้อีกซักหน่อยดีกว่า”
“นั่นสินะคะ ตามนั้นแล้วกันค่ะ”
“แต่ก็นะ มีเด็กอยู่ตรงนี้คนนึงที่อยู่ในวัยเดียวกันแท้ๆ แต่กลับเข้าใจทุกอย่างได้อย่างฉลุยเลย”
“ย- อย่างนั้นเหรอคะ?”
“นี่ คุโระ”
จู่ๆ ท่านโนอะก็กดน้ำเสียงลงต่ำ และเปลี่ยนสีหน้ามาเป็นสีหน้าจริงจัง
“ตั้งแต่ตอนที่เราเจอกัน นี่ก็ผ่านมาตั้ง 3 ปีแล้ว ฉันคิดว่าเธอก็น่าจะเชื่อใจฉันได้แล้วนะ”
“ฉันเชื่อใจท่านเสมอตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันเลยค่ะ แต่ทำไมจู่ๆ ท่านถึงเปลี่ยนน้ำเสียงล่ะคะ?”
“นี่ คุโระ เธอน่ะ มีอะไรปิดบังฉันอยู่หรือเปล่า?”
TN: ท้ายตอนอย่างจึ้ง!!