และแล้ว ฉันก็เข้าใจความรู้สึกของตัวเองที่มีกับโยมิจนได้
เหมือนว่าหลังจากนั้น โยมิก็จะอุ้มฉันที่เป็นลมไปมาที่บ้าน แล้วก็บอกว่า ‘ถ้าเกิดรู้สึกไม่ค่อยดี ก็บอกฉันก่อนสิ!’
เพราะว่า… นี่ ฉันไม่กล้าพอจะบอกเธอซักหน่อยว่าฉัน รู้สึกยังไงกับเธอน่ะ
ฉันนี่มัน ไก่อ่อนจริงๆ เลย
หลังจากนั้น มันก็ยากมากเลย
เพราะว่า ฉันอาศัยอยู่บ้านเดียวกันกับโยมิ
หลังจากอาบน้ำหรือตื่นนอน ฉันก็รู้สึกเหมือนโดนยั่วยวนตลอดเลย
ตามปกติ เธอเป็นเด็กที่มีระเบียบแบบแผน แต่นั่นก็คือจุดขัดแย้งที่เธอแสดงออกมาก็น่าดึงดูดมากๆ เลยล่ะ
ฉันแทบจะเป็นบ้าไปเลยจริงๆ ถึงขนาดที่คุณอารอนกับคุณเรน ที่ชอบแซวฉันตอนแรกๆ ยังกลายมาเป็นห่วงฉันเลยด้วยซ้ำ
ท่านจอมมารแนะนำให้ฉันออกจากบ้านมา แต่ฉันปฏิเสธไป เพราะแบบนั้นมันก็เสียเปล่าน่ะสิ
…เอาเถอะ วันนึง เรื่องแบบนี้ก็คงจบไปเองนั่นแหละเนอะ
ในชาติก่อน มันมีสิ่งที่เรียกว่า ‘ความรัก 3 ปี’ อยู่ด้วย
เขาว่า การหลงรักของคนน่ะ เต็มที่ก็อยู่ได้ 3 ปีเป็นอย่างมาก
หลังจาก 3 ปีผ่านไป ความรู้สึกที่ใจเต้นเพราะความรัก หรืออารมณ์ที่แทบคุมไม่ได้นั้นจะหายไป กลับกัน มันจะเปลี่ยนเป็นความผูกพันธ์และความรู้สึกปลอดภัยที่ได้อยู่ด้วยกัน หรืออะไรแบบนั้นล่ะมั้งนะ
พูดอีกอย่างก็คือ จะว่ายังไงดีล่ะ
นี่ผ่านมา 4 ปีแล้วจากตอนนั้น ตอนนี้ฉันอายุ 17 แล้ว อย่างน้อยฉันก็ไม่ได้เลือดกำเดาไหลทุกครั้งเวลาที่ฉันเจอกับโยมิแล้วล่ะนะ
“อ-… อื้―――อ!”
ชายร่างท้วมที่สวมมงกุฏคนนึงนอนคว่ำลงกับพื้น บนหน้ามีแต่น้ำมูกกับน้ำตาเละเทะไปหมด
รอบๆ ก็มีมนุษย์ที่สวมเกราะและเสื้อผ้าหรูหราอยู่ประมาณโหลนึง… ก็ ตายหมดแล้วล่ะนะ
5 นาทีนับจากที่ฉันมาถึงปราสาทหลังนี้ พวกมันทุกคนน่ะอ่อนแอสิ้นดี ขนาดที่ฉันกวาดล้างพวกมันซะเหี้ยนในเวลาชั่วพริบตาเลย
เอาซะฉันอยากจะหัวเราะเลยล่ะว่านี่น่ะเหรอ เมืองหลวงของประเทศน่ะ
“ฮี้… ย- หยุด หยุดทีเถอะ…!”
ละก็ ตาแก่นี่ก็เป็นพระราชาของประเทศนี้ล่ะนะ
เจ้านี่สร้างทั้งความเห็นทั้งแผนการที่เหมือนดูถูกกองทัพจอมมารสุดๆ ไปเลยล่ะ เพราะความสงสัย ฉันก็เลยโจมตีเมืองหลวงโดยตรงเลย
“โธ่ อย่ายอมแพ้ง่ายๆ สิ ถ้าแกเป็นราชาล่ะก็ แกคงรู้ข้อมูลของฉันดีอยู่แล้วใช่มั้ยล่ะ? แล้วมันไม่มีข้อมูลหรือไงว่าการร้องขอชีวิตหรืออะไรพวกนั้นกับฉันน่ะมันเปล่าประโยชน์น่ะ?”
“ย- อย่า… อย่าาน้าาาาา!!”
อะ หนีแล้วเหรอ
ฉันอยากทรมานก่อนแล้วค่อยฆ่านะ แต่แก่เหี่ยวเฉาจนจะตายอยู่แล้ว เพราะงั้นก็คงไม่เป็นไรหรอก
“{อควาพริซัน (วารีคุมขัง)}”
“กะอุบ!?”
จมน้ำเป็นปลาแบบเจ้านี่น่ะ วิเคราะห์ได้ง่ายๆ เลย มันจะจบในเวลาไม่เกิน 3 นาทีหรอก
เอาเถอะ นี่ก็ไม่เลวเลย เพราะก่อนตาย จะทรมานสุดๆ ไปเลยล่ะ
คุกที่สร้างจากน้ำอันนี้น่ะมีความทนทานต่อการทุบตีสูง เพราะงั้นไม่ว่าหมอนี่จะอาละวาดขนาดไหนก็ไม่มีทางพังได้หรอก
เดี๋ยวแกก็ตายแล้วล่ะ
“โอ้ย เจ้าลีน แผนการรบน่ะ-… โอ้ เยี่ยมไปเลยนี่นา”
“อะ คุณอารอน เหนื่อยหน่อยนะคะ คุณกาเลออนล่ะคะ?”
“ทำการกวาดล้างในเขตที่อยู่อาศัยอยู่น่ะ ข้าเองก็จัดการส่วนที่ข้ารับผิดชอบไปเกือบเสร็จแล้ว ก็เลยว่าจะมาสนับสนุนเจ้าไง… แต่ดูท่าจะไม่จำเป็นต้องช่วยแล้วสินะ”
“ค่ะ จัดการไปเรียบร้อยแล้วค่ะ ตอนนี้กลับบ้านได้หรือยังคะเนี่ย?”
“…นี่ขนาดเพิ่งจะทำลายประเทศทิ้งไป จะใจเย็นเกินไปหน่อยมั้ย ไม่สิ ข้าควรพูดคำนั้นกับเจ้าหรือเปล่านะ…?”
“ประเทศนี้น่ะแตกกระจายไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และก็สายเกินไปแล้วด้วยค่ะ จริงๆ ประเทศเดียวที่ควรจะต้องเฝ้าระวังอย่างจริงจังเลยก็มีแค่อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์นะคะ”
“ก็จริงอย่างที่เจ้าว่า… พวก 12 อัครสาวกเองก็โผล่มาบ่อยขึ้นด้วยนี่นา ช่วงนี้น่ะ เพราะงั้นเจ้าก็อย่าประมาทล่ะ เข้าใจมั้ย?”
“นั่นสินะคะ ฉันอาจจะตกอยู่ในอันตรายก็ได้ ถ้าเกิดไปเจอลำดับที่ 3 หรือสูงกว่านะคะ”
ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ฉันฆ่าพวก 12 อัครสาวกหน้าใหม่ไปเยอะเหมือนกัน แต่ไม่เห็นหน้าพวกลำดับสูงๆ เลย บางที เจ้าพวกนั้นอาจจะเฝ้าระวังฉันกับขุนพลจตุเทวอสุราคนอื่นๆ อยู่ก็ได้
…รวมทั้ง เจ้านอยน์กับอีดิธด้วย
ตามความเห็นของท่านจอมมารกับคุณวีเนลแล้ว พวกนั้นอาจจะถูกเลือกไปช่วยฝึกให้กับ ‘ผู้กล้า’ คนใหม่ก็ได้
…จะต้องฆ่าพวกแกให้ได้
ฉันจะให้พวกแกได้ชดใช้สิ่งที่พวกแกทำไว้เมื่อ 12 ปีก่อนอย่างสาสมเลย
หลังจากจัดการงานเรียบร้อยแล้ว งานเอกสารก็เรียบร้อยแล้ว ฉันก็กลับไปตรงตามตารางเวลา และมารายงานกับท่านจอมมาร
“อย่างนั้นฤ เจ้าทำได้ดีมาก ลีน เป็นไปดังที่เราคาดหวังในตัวเจ้าเลย”
“ขอบพระคุณค่ะ… เออ คือ ฉันกลับได้เลยหรือเปล่าคะ?”
“อะไรกันเล่า วันนี้เห็นเจ้าดูกังวลอยู่พอควรทีเดียว มีสิ่งใดผิดปกติกับโยมิฤ?”
“ทำไมท่านถึงสรุปเอาเลยว่าถ้าฉันกังวลอะไรซักอย่าง จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับโยมิล่ะคะ? …แต่ ก็ใช่นั่นแหละค่ะ”
ฉันได้ยินว่าวันนี้ โยมิพยายามจะลองทำเค้กดู
พอถูกบอกว่า ‘เราจะทำไว้รอ เพราะงั้นก็กลับมาเร็วๆ ด้วยนะ’ เพราะงั้นฉันก็ต้องกลับบ้านเร็วๆ สิ
“ให้ตาย… เจ้าอายุ 17 แล้วนะ กระนั้นก็ยังไม่อาจคุมสติได้ในยามมีเรื่องใดที่ข้องเกี่ยวกับโยมิอีกฤ แต่เอาเถิด เทียบกับเมื่อครั้งที่เจ้าอาการหนักกว่านี้แล้ว นี่ถือว่าเจ้าคุมได้ดีขึ้นมากโขเลยทีเดียว”
“ฉันรู้ตัวดีค่ะ เพราะงั้น ได้โปรดอย่าพูดเรื่องนี้เลยนะคะ…”
“เอาเถิดๆ แล้วเดี๋ยวเจ้าก็กลับมาที่นี่เสียอีกคราหนึ่งด้วยล่ะ เรามีเรื่องบางอย่างจะบอกกับเจ้าเสียหน่อย”
บอก? เรื่องอะไรนะ?
“เกี่ยวกับ ‘ผู้กล้า’ รุ่นปัจจุบันน่ะ”
ผู้กล้าเหรอ ตลอด 4 ปีที่ผ่านมานี่ ไม่เห็นโผล่มาซักครั้งเลยนี่นา… ถึงอย่างนั้น ฉันก็ได้ฟังสถานการณ์ที่เป็นอยู่จากท่านอิซึสึอยู่เรื่อยๆ ล่ะนะคะ
ผู้กล้าเซโน่ ชื่อเดิมจากชาติก่อนคือชิโรยะ โชตะ
…อย่าว่าแต่หน้าตาเป็นยังไงเลยนะ ขนาดชื่อของหมอนี่ฉันยังจำไม่ได้เลย
ถึงยังไง พรสวรรค์ของเจ้านั่นถึงจะเก่งกว่าผู้กว้าอาวิซ หรือเจ้าคุโรดะนั่นก็เถอะ แต่ก็สู้โยมิไม่ได้อยู่ดี
“มาคิดๆ ดูแล้ว ช่วงนี้ไม่ค่อยมีการแทรกแซงจิตจากท่านอิซึสึเลยนะคะ เพราะงั้นฉันก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่หรอกค่ะ”
“เราเองก็เช่นกัน แต่เมื่อวานซืนนี้ เราเพิ่งได้รับการแทรกแซงนั้น ท่านเอ่ยว่า ดูเหมือนเจ้านั่นจะแข็งแกร่งขึ้นอีก ช่างเป็นตัวน่ารำคาญเสียจริง”
“ที่แข็งแกร่งขึ้นนี่ ขนาดไหนเหรอคะ?”
“เลเวลนั้นเกิน 80 ไปเล็กน้อย ส่วนสเตตัสเฉลี่ยก็ใกล้จะไปถึง 10,000”
“เอ๊ะ? ก็แค่พวกปลาซิวปลาสร้อยไม่ใช่เหรอคะ?”
“…ขอเราบอกเจ้าเสียหน่อยเถิด ผู้ใดที่มีสเตตัสเฉลี่ยถึง 10,000 ในโลกนี้ นั่นก็เพียงพอที่จะแข็งแกร่งราวสัตว์ประหลาดแล้วนะ”
ถึงท่านจะว่าอย่างนั้นก็เถอะค่ะ
ของฉันนี่ ทะลุ 30,000 ไปเรียบร้อยแล้วมั้ง?
ส่วนของโยมินี่ รู้สึกว่าเกือบจะ 50,000 แล้วสินะ?
ตอนนี้สเตตัสเฉลี่ยอยู่ที่ 10,000 แล้วเหรอ ความแข็งแกร่งประมาณ 12 อัครสาวกระดับต่ำสินะ ไม่ใช่ศัตรูของฉันเลยซักนิด
“จะว่าไปแล้ว ท่านทราบมั้ยคะว่าพวกผู้กล้านั่นอยู่ที่ไหนกันตอนนี้?”
“อืม ดูเหมือนเจ้าพวกนั้นจะได้รับการดูแลอย่างประคบประหงมอยู่ในเทวนครของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ เมอร์คิวเรียส รวมหัวอยู่กับพรรคพวกของเจ้านั่นนั่นแล”
“แบบนี้นี่เอง ถ้างั้น ท่านจะทำยังไงต่อเหรอคะ? ทำเหมือนครั้งที่แล้วมั้ยคะ? ให้ฉันไปจัดการพวกมันทันทีที่ออกมาจากเวทคุ้มครองรอบอาณาจักรเลย”
“แผนที่เจ้าว่านั้นก็ดี เพียงแต่ในครานี้ เราวางแผนจะให้ขุนพลจตุเทวอสุราทุกคนออกปฏิบัติการทั้งหมด”
…ขุนพลจตุเทวอสุราทุกคนเหรอคะ!?
“จะทำแบบนั้นจริงๆ เหรอคะ?”
“เราพูดจริง เพราะเราตั้งใจจะใช้การสังหารผู้กล้าคนสุดท้ายนี้ เป็นดั่งการเฉลิมฉลองเปิดตัวของโยมิให้พวกมนุษย์มันได้รู้อย่างไรเล่า”
โอ้… เอาเลยค่ะ เอาแบบนั้นเลย ภัยพิบัติที่ถูกสร้างขึ้นจากน้ำมือของมนุษยชาติเอง ‘ขุนพลเทพสงคราม’ โยมิ จะออกศึกแล้วค่า
เอาจริงเลย โยมิตอนนี้น่ะแข็งแกร่งจนน่ากลัวเลยล่ะ เธอไม่มีทางแพ้ให้ 12 อัครสาวกคนไหนเลย นอกจากรีเวลซ์ นั่นหมายความว่าเธอไร้เทียมทานเลยยังไงล่ะ
สำหรับพวกมนุษย์แล้ว ไม่มีอะไรจะสิ้นหวังไปมากกว่าการเผชิญหน้ากับเด็กคนนี้แล้วล่ะ
“แบบนั้นก็ดีเลยนะคะ โยมิเองก็เครียดที่ตัวเองไม่สามารถเข้าร่วมในสนามรบมาหลายปีด้วยค่ะ ถ้าไปบอกเธอเรื่องนี้ ฉันแน่ใจว่าเธอต้องดีใจมากแน่เลย”
“อย่างนั้นฤ? …อีกทั้ง เรายังต้องแวะไปเยี่ยมเยียนหมู่บ้านที่พ่อกับแม่ของนางอยู่ด้วยนี่นะ… จริงไหม?”
โอ้ สมกับเป็นกองทัพจอมมารเลยค่ะ งานเดินหน้าไปได้อย่างสวยงามเลยค่ะ
พอเป็นแบบนั้น ฉันกับท่านจอมมารหารือเรื่องแผนในอนาคตพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าของพวกเรา
คุณอารอนที่กลับมาถึงทีหลังก็มีพูดอะไรเสียมารยาทอย่าง ‘ทำไมทำเหมือนว่ากำลังรับสินบนกันอยู่แบนนั้นล่ะครับ?’ ด้วย
TN: อย่าเพิ่งเบื่อ time skip กันนะครับ แป๊บๆ ก็ข้ามมาตั้ง 3 ครั้งแล้ว 555