…ความรู้สึกนี่มัน อะไรกันน่ะ
เหมือนลอยขึ้นจากก้นสระน้ำ …แต่ก็จมลงจากผิวน้ำไปพร้อมๆ กัน …เป็นความรู้สึกที่ไม่ค่อยเข้าใจเลย
นี่เป็นครั้งแรกเลยแฮะที่รู้สึกแบบนี้ …ที่นี่ที่ไหนเนี่ย?
“ที่นี่คือแดนแห่งทวยเทพยังไงล่ะ …ในที่สุด เราก็แทรกแซงจิตของเธอได้เสียที”
ใครน่ะ?
“เช่นนั้นแล้ว นี่คงเป็นครั้งแรกที่พวกเราได้คุยกันสินะ โยมิ เราคืออิซึสึ เทพแห่งมรณะและโทสะค่ะ”
……คะ?
“เอ๋! อิซึสึเหรอ… เอ๋!?”
“โอ๊ะ เธอช่วยเบาเสียงลงเสียหน่อยนะ เพียงเธอนึกในใจเราก็สามารถได้ยินแล้ว”
ค- ค่ะ
อึม ได้ยินเราแล้วหรือยังคะ?
“ค่ะ เราได้ยินเธอแล้ว”
อุหวา~ นี่จริงเหรอเนี่ย!?
…แล้ว คุณคือ …ท่านคือเทพชั่วร้าย ท่านอิซึสึจริงๆ เหรอคะ?
“เราว่าเราไม่เคยเรียกตัวเองว่าเทพชั่วร้ายเลยนะ แต่ว่า นั่นก็เป็นชื่อที่รู้จักกันในตอนนี้จริงๆ หากเธอไม่เชื่อเรา จะลองใช้ดาบนั่นฟันเราดูก็ได้นะ เทพอย่างเรามีความเหนือกว่าผู้อยู่ใต้การคุ้มครองอย่างสมบูรณ์ การโจมตีจากเธอก็จะไม่ทำเราเจ็บหรือคันเลยล่ะ”
ม- ไม่หรอกค่ะ เราไม่ทำแบบนั้นหรอก
อีกอย่าง นี่ก็ทำให้เราได้เข้าใจด้วยค่ะว่านี่คือเทพนี่เอง
“ไหวพริบเฉียบคม สมกับที่เป็นอดีตผู้กล้าจิงๆ… ถูกต้องแล้วค่ะ… ถึงอย่างนั้น การพยายามแทรกแซงจิตของเธอที่เป็นมนุษย์น่ะ ลำบากมากเลย ในฐานะเทพที่คุ้มครองเผ่ามารเลย จริงๆ เราไม่ควรจะมีสิทธิที่จะติดต่อเธอได้เลย… แต่จากความพยายามตลอด 8 ปี ในที่สุด เราก็ติดต่อเธอได้เสียที”
ม- ไม่เป็นไรใช่มั้ยคะ? ที่ทำแบบนั้น…
…ว่าแต่ ทำไมท่านต้องทำขนาดนั้นเพื่อแทรกแซงจิตของเราด้วยล่ะคะ?
“ก่อนจะพูดถึงเรื่องนั้น เรายังมีสิ่งที่ต้องคุยกันอีกหลายเรื่องเลยทีเดียว… ฉะนั้น นั่งลงก่อนค่อยคุยกันดีกว่านะคะ ดูสิ เราเตรียมขนมกับน้ำชาไว้ด้วยค่ะ”
เอ๊ะ? ตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะคะเนี่ย?
แต่ตรงนั้นก็มีอาหารที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เรียงกันเป็นแถวเลย
“นำเข้าจากต่างโลกเลยนะคะ วันนี้มีเค้กด้วย เช่นนั้นแล้ว เชิญเลยค่ะ ทานได้เลย”
เออคือ… งั้น อิตาดาคิมัส
…
………อร่อยจัง!?
“อร่อยใช่มั้ยล่ะคะ? นี่น่ะ จอมมารกับคุณลีนเองก็ชอบมันเหมือนกันเลย”
เอ―! ที่ต่างโลกมีของที่อร่อยขนาดนี้ด้วยสินะคะ!
อื้อ~ ทั้งหวานทั้ง……เอ๊ะ?
จอมมารกับคุณลีน?
ท่านจอมมารน่ะไม่เท่าไหร่หรอก… แต่ลีนเองก็มาที่นี่ด้วยเหรอคะ?
“ใช่แล้วค่ะ เธอมาที่นี่ด้วย เราแทรกแซงจิตของเธอมาแล้วหลายครั้งตั้งแต่เมื่อนานมาแล้วล่ะ เราพาเธอมาเพื่อจัดงานเลี้ยงน้ำชาเพื่อฆ่าเวลาอยู่หลายครั้ง และบางครั้งก็ให้คำแนะนำกับเธอไปด้วย”
ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย…
“ก็เป็นเรื่องปกตินะ เพราะการบอกว่าตัวเองได้พูดคุยกับเทพนั้น คนที่ได้ฟังคงจะคิดว่าคนๆ นั้นคงบ้าไปแล้วนั่นแหละ คนๆ เดียวที่น่าจะเชื่อในเรื่องนี้ คงจะมีแค่จอมมารที่อยู่ในสถานะเดียวกันเท่านั้นเอง”
อึม ก็จริงนะคะ
อะ นี่ก็อร่อยเหมือนกันเลยค่ะ
“แหม รสนิยมเธอคล้ายกับคุณลีนเลยนะ ขนมนั่นคือโดรายากิ เป็นขนมที่คุณลีนชอบเหมือนกันเลย”
อื้อ~ ไส้สีดำที่อยู่ข้างในนี้ ทั้งหวานทั้งอร่อยเลย~
“มันคือไส้ถั่วแดงค่ะ ถ้าเธอชอบโดรายากิล่ะก็ เธอต้องชอบขนมนี่แน่นอน”
จากนั้น เราก็สนุกสนานกับขนมที่เคยกินมาก่อนเป็นชั่วโมงเลย
“…เอาล่ะ งั้นมาตอบคำถามกันเลยนะ เรื่องที่ว่าทำไมเราต้องพยายามเพื่อแทรกแซงจิตของเธอด้วยน่ะ”
ค่ะ รบกวนด้วยนะคะ
“………”
…เออ คือ เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ?
“…ไม่มีอะไรหรอกค่ะ คือ …ทั้งจอมมาร ทั้งคุณลีนในช่วงนี้ไม่ค่อยให้ความเคารพเราเท่าไหร่เลย …พอเจอเด็กที่เชื่อฟังเราแบบนี้แล้ว ชวนให้รู้สึก …เห็นประกายแสงบางอย่างน่ะ”
คะ………
“อะแฮ่ม! ……เอ ถ้าอย่างนั้น เอาใหม่อีกครั้งนะคะ เหตุผลที่เราแทรกแซงจิตของเธอนั้น… หากจะพูดอย่างตรงไปตรงมาเลยก็คือ โยมิ เธอต้องการจะ เป็นผู้ติดตามของเราหรือไม่คะ?”
…ให้เราเป็น ผู้ติดตาม… ของท่านอิซึสึน่ะเหรอคะ?
กล่าวคือ เป็นแบบท่านจอมมารน่ะเหรอคะ?
“ถูกต้องแล้ว ในตอนนี้ ผู้ติดตามของเรามีเพียงคนเดียวคือจอมมารฟิลิส ไว้เราจะคุยเรื่องนี้กับลีนอีกทีหนึ่ง แต่เราคิดว่าควรถามเรื่องนี้กับเธอก่อน เธอจะมาเป็นผู้ติดตามของเราและรับการคุ้มครองแห่งเทพจากเทพชั่วร้ายไหมคะ?”
ทำไม ถึงเป็นเราก่อนล่ะคะ?
“นั่นก็เพราะเธอเป็นมนุษย์ยังไงล่ะคะ เมื่อเป็นมนุษย์แล้ว แน่นอนว่าเทพอย่างพวกเราหรือเผ่าพันธุ์ที่มีอายุขัยยืนยาวอย่างคุณลีนและจอมมารต่างก็รับรู้เกี่ยวกับเวลาได้ต่างออกไป… หรือก็คือ เธอนั้นมีอายุขัยที่สั้นกว่ากันมากนั่นเอง เช่นนั้นแล้ว เราจึงต้องการให้เธอรับการคุ้มครองแห่งเทพ เพื่อจะมีพลังของ [ความเป็นอมตะ] เอาไว้… เพราะเราไม่อาจทราบได้เลยว่าต้องใช้เวลาอีกกี่ทศวรรษกว่าจะสามารถกวาดล้างมนุษย์จนสูญพันธุ์ได้… หากสถานการณ์ไม่สู้ดี ก็อาจจะใช้เวลานับร้อยปีเลยก็เป็นได้ เพื่อการนั้นแล้ว พรสวรรค์เฉพาะตัวของเธอเป็นสิ่งที่ขาดไปไม่ได้เลยค่ะ”
…เข้าใจแล้วค่ะ
ยิ่งกว่านั้น การได้รับการคุ้มครองแห่งเทพ หมายความว่าเราจะแข็งแกร่งขึ้นอีกสินะคะ?
“แน่นอนค่ะ สเตตัสพื้นฐานเพิ่มขึ้น เพิ่มขีดจำกัดเลเวลให้สูงขึ้น และอื่นๆ อีกมากมายค่ะ …ถึงอย่างนั้น การเป็นผู้ติดตามของเทพชั่วร้ายน่ะ ไม่ใช่เรื่องที่จะตัดสินใจได้ง่ายๆ เลย…”
เข้าใจแล้วค่ะ เราขอเป็นผู้ติดตามของท่านเลยค่ะ
“คงยังตัดสินใจ…… ไม่……… ได้? เอ๊ะ? จะเป็นงั้นเหรอคะ?”
ค่ะ เป็นค่ะ
ถ้าเรารับการคุ้มครองแห่งเทพแล้วจะทำให้เราแข็งแกร่งขึ้นด้วย ก็ไม่มีเหตุผลที่เราจะไม่รับไว้เลยค่ะ
สำหรับเราที่ตั้งเป้าจะเป็นผู้ที่ ‘แข็งแกร่งที่สุด’ แล้ว นี่เป็นความคิดที่ดีที่สุดแล้วค่ะ
“…อย่างนั้นเหรอคะ ดีเลยค่ะ งั้นตอนนี้ก็…”
อ๊ะ รอเดี๋ยวก่อนนะคะ
ที่เราบอกว่าจะเป็นผู้ติดตามนี่… ขอให้ท่านยืดไปเป็นในอีก 2-3 ปีได้หรือเปล่าคะ
“…? ทำไมถึง…… อ๋า จริงสิ ร่างกายที่ยังอายุ 13 นั้นยังคงสามารถเจริญเติบโตขึ้นได้อีก เธอจะรอให้ร่างกายเติบโตจนถึงขีดสุดเสียก่อนสินะคะ”
ใช่แล้วค่ะ
“เข้าใจแล้วค่ะ เช่นนั้น เมื่อเธอตัดสินใจแล้วว่าร่างกายของตัวเองถึงจุดสูงสุดแล้ว เราจะมาแทรกแซงจิตของเธออีกครั้งนะ”
ค่ะ ขอบพระคุณมากเลยค่ะ
ขอบคุณที่ท่านฟังความเอาแต่ใจของเรานะคะ
“(…พอจะเข้าใจนิดหน่อยแล้วล่ะว่าทำไมคุณลีนถึงพึงใจเธอคนนี้นัก)”
เอ๊ะ?
“อะ ไม่มีอะไรค่ะ ถ้าอย่างนั้น นี่ก็คือเรื่องทั้งหมดแล้วค่ะ… ยิ่งกว่านั้น มันคงไม่ดีนักหากเธอยังไม่ยอมตื่นเสียที… อ่า เกือบลืมบอกไปเสียสนิทเลยค่ะ”
……?
“อืม เรื่องของพี่สาวของเธอ เรื่องของมีอา เธอคนนั้นพยายามสืบหาข้อมูลของขุนพลจตุเทวอสุรา… หรือหากให้เจาะจงก็คือ ตำแหน่งที่ 1 ซึ่งเราก็ได้หยุดเอาไว้แล้วเรียบร้อย”
…เรื่องสำคัญขนาดนี้ ทำไมถึงเอามาเล่าเหมือนเรื่องแถมท้ายแบบง่ายๆ แบบนี้ล่ะคะ!?
“แต่มันก็ไม่ได้ผลใดๆ เปลี่ยนแปลงนะคะ ไม่ว่าเราจะบอกให้ทราบหรือไม่ก็ตาม… เผ่ามารทั้งหมดบนโลก ณ ขณะนี้อยู่ใต้การปกครองของฟิลิส ที่ถือครองคลาส (อาชีพ) พิเศษระดับสูงสุดอย่าง [จอมมาร] แล้วเรียบร้อย อีกทั้งจอมมารเองก็เป็นผู้ติดตามของเราด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้น เราจึงสามารถจัดการกับเศษเสี้ยวของความทรงจำของเผ่ามารทุกคนที่ต้องเสน่ห์ได้ผ่านทางจอมมารนั่นเอง… หากเราลงมือจัดการปลดสถานะหลงเสน่ห์เองเลย นั่นจะเป็นการแทรกแซงโลกเบื้องล่างมากเกินไป จนจะเป็นเหตุให้เราต้องโทษทัณฑ์เข้าได้ เราจึงสามารถทำได้เพียงเท่านี้ค่ะ”
ม- ไม่หรอกค่ะ แค่นี้ก็มากพอแล้วค่ะ ขอบพระคุณมากเลยนะคะ
ถ้าเกิดใครรู้ตัวจริงของเราแล้วล่ะก็ เรื่องนี้คงไม่ขำเลยค่ะ
“ใช่แล้ว หากพวกนั้นรู้ว่าเธอยังมีชีวิตอยู่และกำลังให้ความช่วยเหลือกับกองทัพจอมมารล่ะก็ พวกมนุษย์จะต้องพยายามปกป้องตัวเองจนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสมแน่นอน… เอาล่ะ นี่ก็ถึงเวลาแล้วนะ การแทรกแซงจิตของเธอนั้นทำได้ค่อนข้างยาก ครั้งต่อไปจึงอาจเป็นในอีกสองสามปี …เช่นนั้นแล้ว ไว้เจอกันใหม่นะคะ”
“หืม…”
พอเราตื่นมา ก็เจอกับเพดานที่คุ้นเคยแล้ว
เพดานในห้องของเราเองนี่นา
นั่นมัน… ความฝันงั้นเหรอ?
“โยมี้!”
เราได้ยินเสียงตะโกนมาจากข้างหลัง พอพลิกตัวไปดู ก็เห็นลีนถือถังน้ำกับผ้าเช็ดตัวอยู่
“เธอตื่นแล้วเหรอ!? ยังจำฉันได้มั้ย!?”
“อะ… ลีน… อื้อ เราไม่เป็นไรแล้วล่ะ”
“จริงๆ นะ?… โล่งอกไปที… โยมิน่ะ อยู่ๆ เธอก็ล้มลงไปคาห้องประชุมเลย แถมหลับทั้งวันไม่ยอมตื่นเลยด้วย… โธ่ ฉันไม่รู้จะทำยังไงเลยนะ…!”
…นี่เราหลับไปนานขนาดนั้นเลยเหรอ
งั้น คงแน่นอนแล้วล่ะ นั่นเป็นความฝันสิน้า
“ตอนนี้ ฉันต้องรายงานท่านจอมมารก่อน! …ลุกไหวหรือเปล่าโยมิ? ถ้ายังไม่ไหวเดี๋ยวฉันไปคนเดียวก็ได้”
“…อือ ไม่เป็นไรแล้วล่ะ”
จริงๆ รู้สึกสบายตัว ขยับได้ง่ายกว่าก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำนะ
เพราะว่าเราได้หลับไปนานหรือเปล่านะ?
“เหรอ งั้นก็ดีแล้วล่ะ งั้น ไปกันเถอะ นี่ เปลี่ยนเสื้อผ้าๆ”
“อือ งั้น เธอออกไปก่อนนะ มันน่าอายน่ะ”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอก”
“เอ๊ะ? ไม่ล่ะ มันน่าอายนะ…”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอก”
แน่นอนว่าเราเข้าใจว่าลีนใส่ใจเรานะ แต่ไม่รู้ทำไมบางทีเธอก็มีข้อเสียอย่างพฤติกรรมแปลกๆ แบบนี้อยู่บ่อยๆ
อะ จริงสิ ลองถามลีนดูเรื่องความฝันนั่นดีกว่า เธออาจจะรู้อะไรบ้างก็ได้
“นี่ ลีน”
“หือ? อะไรเหรอ? อยากให้ฉันไปช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วย? ได้เลยนะ ฉันยินดีเลย”
“เธอแอบไปกินขนมกับท่านเทพมาด้วยงั้นเหรอ?”
“ไม่หนิ ก็โยมิเป็นมนุษย์นี่นา ท่านอิซึสึไม่สามารถแทรก-…”
พูดออกมาเท่านั้น ลีนก็ทำถังน้ำในมือหล่นลงพื้นเลย
TN: ลีนจัง อย่ามาพลาดอะไรง่ายๆ แบบนี้สิ 555