[WN] การกวาดล้างมนุษยชาติของเจ้าหญิงแวมไพร์กับอดีตผู้กล้า 148 องค์ที่ 5 กำเนิดจอมมาร – [บทศูนย์] คำโกหก

ตอนที่ 148 องค์ที่ 5 กำเนิดจอมมาร - [บทศูนย์] คำโกหก

ฟลูเรเทียตกเป็นเหยื่อของเขี้ยวพิษของวีเนล และถูกร่ายด้วยเวทความรักใส่ เป็นเรื่องที่ถือว่าดังเลย ในหมู่ของพวกตำแหน่งระดับสูงของกองทัพจอมมาร

วีเนลน่ะมีพลังในการต่อสู้ต่ำ, ความสามารถด้านเวทมนตร์ก็ไม่ได้สูง และพรสวรรค์ในการนำทัพก็ไม่ได้ดีขนาดนั้น แต่ด้วยสมองของเธอที่เกินความคิดของคนทั่วไปจนเข้าถึงได้ แค่นั้นก็เพียงพอที่จะทำให้เธอได้เป็นผู้บริหารระดับสูงของกองทัพจอมมารแล้ว

และเงื่อนไขที่ทำให้เธอยังคงนั่งเก้าอี้ผู้บริหารของกองทัพจอมมารอยู่ได้แบบนี้ เราต้องทนยอมละการตรวจสอบผลของเวทมนตร์ที่มีต่อฟลูเรเทียไป

และ เวทมนตร์ที่ร่ายเอาไว้กว่า 200 ปี ตอนนี้ก็ ―――――――――

 

“ม่ายยยยยยย! ใครก็ได้ช่วยด้วย! เอายัยโรคจิตนี้ออกไปที!”
“อ- เออ คือ ฉันผวาเลยนะที่ถูกมองเหมือนแมลงแบบนี้น่ะ…”
“แมลงยังดีกว่าเล้ยยยย!!”

 

ถูกปลดได้อย่างสมบูรณ์เลยเนี่ย

 

“…ว่าแต่ว่า เธอปลดมันได้ยังไงน่ะ? เวทนั่นน่ะ เป็นเวทมนตร์สุดน่ากลัวที่ควรจะเรียกว่าความยึดติดของวีเนลเข้มข้นเลยด้วยซ้ำไป มันเป็นเวทมนตร์ที่แม้แต่ฟรานเองก็ยังถอดแบบมาไม่ได้เลยนี่นา…”
“เปล่าหนิ ใครบอกว่าชั้นถอดแบบเวทนั่นไม่ได้กันล่ะ? ชั้นแค่ไม่ใช้เพราะมันน่ากลัวมากเลยต่างหาก”
“นี่เธอถอดแบบมาด้วยเหรอ… แล้ว? ทำไมเวทนั่นมันถึงถูกปลดได้ล่ะ? เวทจิตใจที่ถูกร่ายไว้ตั้ง 200 ปีแบบนั้น ไม่ใช่อะไรที่จะปลดได้ง่ายๆ เลยนะ”

 

เวทจิตใจน่ะ ถ้ายิ่งทิ้งเอาไว้นาน ผลของมันก็จะยิ่งรุนแรง และการปลดเวทออกก็ยิ่งยากขึ้นไปอีก

แล้วยิ่งเป็นเวทเก่าฝุ่นจับที่ร่ายมาตั้งเกือบ 200 ปีเนี่ย แม้แต่ฟรานเองก็ยังแก้ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ถ้าไม่ทุ่มเวลาใช้ไปเยอะๆ น่ะนะ

 

“เรื่องนั้นน่ะน้า― เลตตี้ดันทำไปอะไรซักอย่างที่ชั้นไม่สบอารมณ์เลยน่ะซี่―! ชั้นคิดว่าไอ้นั่นนั่นแหละที่ช่วยทำให้สติของเลตตี้กลับมาน่ะ”
“อะไรล่ะนั่น? ที่เธอบอกว่าเธอไม่สบอารมณ์น่ะ”
“อื้อ เป็นสุดยอดเวทคุ้มครองที่เลตตี้เคยบอกไว้ว่าใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้วไงล่ะ”

 

เราขุดคุ้ยความทรงจำในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา แล้วนึกถึงคำที่ฟลูเรเทียพูด

เธอเคยพูดถึงเวทคุ้มครองที่จะเป็นได้แม้แต่ศัตรูตามธรรมชาติของฟรานเนี่ย ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้วนี่นา ถ้าจำไม่ผิด ชื่อของมันคือ… {เวิร์ล ทริป (บาเรียต่างมิติ)} สินะ

 

“แล้ว เวทนั้นก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว แบบนั้นสินะ?”
“ผลของเวทนั่นน่ะน้า― ที่น่าหงุดหงิดที่สุดเลยเนี่ย คือมันดันเป็นศัตรูตามธรรมชาติของชั้นจริงๆ เลยเนี่ยซี่― ผลข้างเคียงของมัน ก็เลยทำให้เวทมนตร์ของวีเนลถูกสลาย หรืออะไรแบบนั้นล่ะมั้งนะ?”

 

ความสามารถด้านเวทมนตร์ของฟรานเนี่ย ใช้คำว่าโดดเด่นในกองทัพจอมมารยังไม่พอเลยด้วยซ้ำ

กลับกันคือ แม้แต่เราในเวลากลางวันยังมีโอกาสสูงเลยที่จะแพ้เธอในศึกที่ดวลกันด้วยเวทมนตร์อย่างเดียวน่ะ

เธอน่ะเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในกองทัพจอมมารอย่างไม่ต้องสงสัย ถึงหัวของเธอจะยังน่าเป็นห่วงเหมือนเดิม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เธอเป็นวีรสตรีของกองทัพเลย

ฟรานคนนั้นที่มั่นใจอย่างล้นเหลือ และไม่พยายามเข้าใจพลังการต่อสู้ของทั้ง 2 ฝ่ายด้วยซ้ำ เธอมักจะพุ่งเข้าใส่และได้ผลการต่อสู้อย่างที่เธอมั่นใจกลับมาได้จริงๆ ฟรานที่บดขยี้ศัตรูด้วยเวทมนตร์จนสุดทาง กลับพูดออกมาเองเลยว่า ‘ศัตรูตามธรรมชาติ’ งั้นเหรอเนี่ย

พูดอีกอย่างคือ เวทมนตร์ที่ฟลูเรเทียพัฒนาขึ้นมานั่นน่ะ… ค่อนข้างมั่นใจเลยว่ามันจะต้องเป็น

 

“[ยกเลิกเวทมนตร์] งั้นสินะ?”

 

เป็นความสามารถนี้สินะ

ไม่เกี่ยวเลยว่าฟรานจะเป็นจอมเวทมน์ที่แข็งแกร่งขนาดได้เป็น [เทพปราชญ์] (เราชักไม่แน่ใจความหมายของชื่ออาชีพนี้ซะแล้วสิ) มั้ย ถ้าเวทมนตร์ทั้งหมดถูกปิดกั้นโดยสมบูรณ์ล่ะก็ สิ่งที่เธอสามารถทำได้ก็จะถูกจำกัดไปมากเลย

 

“ถ้ามันมีแค่นั้นก็ดีสิ―…”
“อะไรนะ?”
“มันไม่ใช่แค่นั้นนะ เอาจริงๆ คือ มันขี้โกงมากๆ เลยอะ ลบล้างเวทมนตร์ไปจนถึงแก่นแท้ อย่างกับว่าลบล้างไปจนถึงต้นสนของชั้นเลย”
“ฮะ? …เธอหมายถึงตัวตนของเธอหรือเปล่า?”
“นั่นแหละๆ”

 

ยัยนี่ นอกจากพรสวรรค์ด้านเวทมนตร์แล้ว ยัยนี่ก็ไม่มีอะไรเหลือเลยหรือไงกันนะ? ไม่สิ ช่างเถอะ ตอนนี้มันคงสายเกินแก้แล้วล่ะ และนั่นก็ไม่ใช่ประเด็นด้วย

ลบล้างเวทมนตร์ไปจนถึงแก่นแท้? เวทคุ้มครองทำอะไรแบบนั้นได้ด้วยเหรอนั่นน่ะ?

 

“ฟราน ถ้ามันเป็นเวทมนตร์ เธอเข้าใจมันหรือเปล่า? อธิบายรายละเอียดของเวทที่ฟลูเรเทียพัฒนาขึ้นมานั่นหน่อยสิ”
“ช่าย อาวล่ะ แต่หลังจากฟังแล้วเนี่ย ช่วยทำอะไรกับ 2 คนนั้นทีนะ? ช่วยชั้นหน่อยได้หรือเปล่า?”
“รู้แล้วน่า”

 

“สร้างโลกใบอื่นขึ้นมาในบาเรีย แล้วก็สามารถกำหนดกฎข้อบังคับอะไรก็ได้อย่างอิสระเพิ่มขึ้นมา 1 ข้อไว้ในโลกใบนั้น แบบนั้นน่ะเหรอ…”
“จากนั้น ถ้าเกิดเธอกำหนดกฎอะไรแบบ [ไม่มีเวทมนตร์] ไว้ใน {บาเรียต่างมิติ} ล่ะก็ ชั้นก็จะไม่สามารถใช้เวทมนตร์อะไรได้ซักอย่าง แบบไม่มีข้อยกเว้นเลยด้วย เอาจริงๆ เลยนะ นั่นน่ะมันผิดกฎชัดๆ”
“แล้วมันไม่ได้ห้ามแต่เวทมนตร์สินะ…”
“จะสร้างกฎแบบอื่นก็ทำได้เหมือนกันนะ แต่ จะสร้างข้อจำกัดบางอย่างไว้ในกฎที่ว่านั่นก็ได้เหมือนกันนะ อย่าง ถ้าเกิดชั้นอยู่ในบาเรีย ชั้นอาจจะสร้างกฎอย่าง [ห้ามการโจมตีทางกายภาพ] ก็ได้”
“แบบนั้น เธอก็จะเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไร้เทียมทานเลยนี่… เอาล่ะ เราจับจุดได้ละ พูดง่ายๆ ตอนที่เธอกับฟลูเรเทียจะลองต่อสู้กันเพื่อจะได้ทดลองใช้เวทมนตร์นั่นดู แล้วพอเธอกางเวทคุ้มครองที่ยกเลิกเวทมนตร์ออกมา…”
“ช่ายๆ… ในเวลาเดียวกัน เวทมนตร์ของวีเนลก็เลยถูกทำให้สลายไปด้วย…”

 

อ้า นี่คือเรื่องที่เกิดขึ้นสินะ

 

“ม- มันเกินไปแล้วนะ… อายุขัยของมนุษย์มังกรน่ะ ไม่ถึง 300 ปีเลยนะ… แล้วนี่ดิฉันเสียไปมากกว่า 70% เพราะตกอยู่ใต้มนต์สะกดงั้นเหรอ…”
“อะไรกันน่ะ พอได้ยินแบบนี้แล้ว ทำเอาฉันดูเป็นคนน่ารังเกียจที่ไร้ทางเยียวยาเลย”

 

เพราะมันถูกต้องตามนั้นแบบเป๊ะๆ เลยไงล่ะ

 

“แล้วจะทำยังไงดีล่ะ ท่านจอมมาร? ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป เลตตี้ต้องอยู่ในอันตรายแน่ๆ ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้วใช่มั้ยเนี่ย?”
“อ่า เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วง เราคิดวิธีแก้ปัญหาไว้ละ”

 

เราหาทางที่ดีที่สุด เพื่อออกจากสถานการณ์นี้ไว้เรียบร้อยแล้ว

 

ปล่อยให้สถานการณ์นี้ยืดเยื้อ มีแต่จะทำให้ทุกอย่างแย่ลง เราเลยตัดสินใจจะรีบเข้าไปแก้ปัญหาตรงหน้านี่

 

“อ๊ะ! ท่านจอมมาร! คือ ช่วยฉันด้วยค่ะ! เลตตี้มีปัญหาใหญ่แล้ว…”
“ฟิ- ฟิลิส…”

 

โอ่ โอ่ ยิ่งเราเดินเข้าไปใกล้ หน้าของฟลูเรเทียก็ยิ่งซีดลงเรื่อยๆ

ดูเหมือนเธอจะกลัววีเนลจริงๆ เลยล่ะ

 

“น- นี่… ฟิลิส น่ะ… ทุกคนน่ะ… รู้กันหรือเปล่าว่าดิฉัน ถูกล้างสมองไปน่ะ…?”

 

เอาล่ะ มาแล้วสินะ คำถามนี้

ไม่ได้เกินจริงเลยนะถ้าจะพูดว่า คำตอบที่เรากำลังจะตอบไปเนี่ย จะตัดสินเลยว่า เราจะยังได้รับความไว้ใจจากเธออยู่ หรือจะต้องเสียความไว้ใจจากเธอไปตลอดกาล

แต่ ไม่ว่าจะเอาอะไรมาอ้างแค่ไหนก็ตาม มันก็เป็นข้อเท็จจริงอยู่ดีว่าเรารู้ แต่เพื่อที่จะเก็บมันสมองอย่างวีเนลเอาไว้ ถึงเราจะรู้ดีเรื่องของฟลูเรเทียก็ตาม เราก็ต้องเอาหูไปนา เอาตาไปไร่

ฟลูเรเทียเป็นคนฉลาด ถ้าเราบอกสถานการณ์ทั้งหมดไป เราคิดว่าเธอก็คงตอบว่า [i]‘ถ้าดิฉันไม่ได้อยู่ในจุดยืนแบบนี้ ดิฉันก็คงเลือกจะทำแบบเดียวกันนะ’[/i] นั่นแหละ

แต่ว่า นั่นน่ะหมายถึงถ้าเราบอกฟลูเรเทียในสภาวะปกติ แต่ในสภาวะที่หวาดผวาแบบนี้น่ะ เราเดาไม่ถูกเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกันแน่

นั่นคือเหตุผลที่เราตัดสินใจ

อย่างบริสุทธิ์ใจ

ทำในสิ่งที่ถูกต้อง

และซื่อสัตย์กับเธอ

 

“ไม่ พวกเราทุกคนไม่รู้เลย ไม่จริงน่า! ฟลูเรเทียถูกทำอะไรแบบนี้ โดยที่พวกเราไม่มีใครรู้สึกตัวเลยงั้นเหรอ…!”
““““เอ๋―――””””

 

เราตัดสินใจที่จะโกหกไป

 

“อย่างที่คิดเลย! จะโหดร้ายเกินไปแล้วนะคะ ท่านจอมมาร!? อะไรกันน่ะ? ทำไมท่านถึงเอาแค่ตัวเองรอดล่ะคะ!!”
“พูดอะไรบ้าๆ เราแค่ทำตามทางเลือกที่ดีที่สุดในฐานะผู้นำของกองทัพจอมมารก็เท่านั้น ถ้าเกิดฟลูเรเทียรู้ว่าคนรู้เห็นกับเรื่องนี้อยู่ที่นั่นกันหลายคนล่ะก็ เธอต้องอาละวาดแน่ๆ กลับกัน ถ้าเกิดเธอเห็นว่าไม่มีใครรู้เห็นกับเรื่องนี้เลยนอกจากเธอ ก็จะมีแค่เธอคนเดียวที่ต้องถูกสังเวยให้กับเรื่องนี้ อ่า ฟราน จัดการความทรงจำเรื่องนี้ให้เรียบร้อยด้วยล่ะ”
“รับทราบจ้า―”
“แบบนั้น ฉันก็เป็นจำเลยคนเดียวเลยน่ะสิค้า!?”

 

เทียบกับสิ่งที่เธอทำมาตลอดจนถึงตอนนี้เนี่ย ราคาที่เธอต้องจ่ายมันถูกมากๆ เลยนะ

หลังจากนั้นซักพัก ฟลูเรเทียก็ค่อยๆ ใจเย็นลง แล้วเราก็ต้องคอยช่วยฟื้นฟูจิตใจให้เธออย่างช้าๆ

 

โน้ตจากผู้แต่ง : พอดูแล้ว ทุกคนในเรื่องนี้นิสัยแย่กันหมดเลยนะเนี่ย แม้แต่ในกองทัพจอมมารก็เหมือนกัน

 

TN: เออ สำหรับผมเนี่ย ผมว่าต้นเหตุทุกอย่างมันก็มาจากวีเนลนะครับ ให้นางชดใช้ไปนั่นแหละ

ขอแปะ Discord สำหรับแจ้งเตือนนิยาย กับมุมพูดคุยกันไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ ใครสนใจก็แวะมาได้นะ ^^
https://discord.gg/Fm9NsqeH2r

[WN] การกวาดล้างมนุษยชาติของเจ้าหญิงแวมไพร์กับอดีตผู้กล้า

[WN] การกวาดล้างมนุษยชาติของเจ้าหญิงแวมไพร์กับอดีตผู้กล้า

Score 10
Status: Completed
เซนโจ โยนะ เด็กหญิงที่ถูกกลั่นแกล้งอย่างหนัก ได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุแก๊สระเบิด หลังจากนั้น ด้วยความช่วยเหลือของเทพชั่วร้าย อิซึสึ เธอก็ได้มาเกิดใหม่เป็นลูกสาวของผู้นำเผ่าแวมไพร์ [ลีน บลัดลอร์ด] ชีวิตอันสงบสุขกำลังรอเธออยู่ รายล้อมไปด้วยครอบครัวและเพื่อนพ้องที่รักเธอ สิ่งที่เธอต้องการมาโดยตลอดจากชาติก่อน ... แต่เวลาเหล่านั้นก็ต้องสิ้นสุดลง จากการกวาดล้างเผ่าพันธุ์แวมไพร์ด้วยน้ำมือของพวกมนุษย์อย่างไร้เหตุผล “อา เข้าใจแล้ว ชีวิตของฉันต้องพังทลายเพราะว่ามีพวกมนุษย์อยู่งั้นสินะ” อีกด้าน มีเด็กสาวที่ถูกมองเป็นตัวน่ารำคาญในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เธอได้รับ [คุณสมบัติของผู้กล้า] พร้อมทั้งพรสวรรค์และศักยภาพอันล้นเหลือ แต่จิตใจของเธอกลับถูกทำลายลงด้วยน้ำมือของพวกมนุษย์ เพื่อล้างสมอง และเปลี่ยนเธอเป็นอาวุธมีชีวิต “จริงๆ แล้ว...ไม่อยากปกป้องพวกมนุษย์ซักหน่อย เราไม่ได้อยากเป็นผู้กล้า…” และพวกเธอผู้เกลียดชังต่อมนุษย์ ก็กลายมาเป็นภัยพิบัติต่อมนุษยชาติ นี่คือเรื่องราวของเด็กสาว 2 คนที่ชีวิตต้องถูกทำลายด้วยน้ำมือของมนุษย์ และสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตไป เหลือเพียงแค่ชีวิตของตัวเอง และพวกเธอจะใช้ทุกวิถีทางเพื่อล้างแค้นและกวาดล้างมนุษยชาติให้สิ้น

Options

not work with dark mode
Reset