[WN] การกวาดล้างมนุษยชาติของเจ้าหญิงแวมไพร์กับอดีตผู้กล้า 130 องค์ที่ 5 กำเนิดจอมมาร – [บทศูนย์] ไม่ยกโทษให้เด็ดขาด

ตอนที่ 130 องค์ที่ 5 กำเนิดจอมมาร - [บทศูนย์] ไม่ยกโทษให้เด็ดขาด

แล้วฉันก็เคลื่อนย้ายกลับมาที่หมู่บ้านเอลฟ์อีกครั้ง

สติของฉันเลื่อนลอยไปหมด ยังไม่แน่ใจเลยว่าทั้งหมดนี่เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า

 

“ฟิลิส ไปที่ไหนมา… เกิดอะไรขึ้นเนี่ย!? เลือดเต็มตัวไปหมดเลย!”
“…ทั้งหมดนี่ เลือดน่ะ…… ฉันไม่มีซักแผลหรอก…”
“เอ๊ะ? …หรือว่า ของพวกอัศวินที่โจมตีเมือง ที่เธอพูดถึงงั้นสินะ”
“ฆ่าไปหมดแล้ว ไม่เหลือแม้แต่คนเดียว… ผู้คนในเมือง… ก็ พอช่วยได้บ้าง ถึงจะเหลือไม่เยอะก็เถอะ”

 

ถึงอย่างนั้น ชาวเมืองที่เหลือรอดก็น้อยกว่า 10% ซะอีก

ในบรรดาคนที่ต้องตาย… มี ดีเชกับเนลอยู่ในนั้นด้วย

ดูเหมือนเนลจะเอาตัวเข้าปกป้องดีเชเอาไว้นะ ร่างของพวกเธอเลยนอนตายอยู่ข้างๆ กันเลย

 

“ขอโทษนะ ฟราน… ช่วยพาฉันไปหาริงกะที ได้หรือเปล่า……”
“…ได้อยู่แล้ว”

 

ฟรานให้ฉันยืมไหล่ช่วยพยุงตัว ก่อนจะนำทางฉันไปหาริงกะ โดยที่ตอนนี้ เธอไม่มีสีหน้าสดใสและร่าเริงเหมือนอย่างทุกทีเลย

 

ร่างของริงกะ ตอนนี้อยู่ในห้องเก็บของในปราสาทพฤกษา

และใกล้ๆ กันนั้น…

 

“ฟิลิสคุง……”
“ท่าน ฟิลิส…”
“ราชาเอลฟ์… กับเทียน่าเหรอ โตขึ้นเยอะเลยนะ…”
“ไม่หรอกค่ะ… คือว่า คือ…”

 

เทียน่าเหมือนไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกมาเลย

ก็คงเป็นแบบนี้ล่ะนะ ถ้าสถานการณ์กลับกัน ฉันก็คงจะทำแบบนี้เหมือนกันนั่นแหละ

 

“ริงกะ… ฮะฮะฮะ… ขนาดตอนที่เธอไม่ตื่นแบบนี้ ก็ยังสวยเหมือนเดิมเลยนะ……”

 

ฉันจ้องมองภรรยาที่ฉันรักที่สุดในโลก ที่ไม่มีทางจะตื่นขึ้นมาอีกเป็นครั้งที่ 2… ฉันทำได้แค่มองอยู่แบบนั้นไปซักพักใหญ่

 

“ฉันกับริงกะ… พวกเราแต่งงานกันหลังจากนั้นน่ะ”
“…เอ๊ะ?”

 

ฉันเล่าให้เธอฟังว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างหลังจากแยกกับฟรานมาแล้ว โดยที่ทำไมฉันถึงเลือกจะทำแบบนั้น ฉันก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ไม่ค่อยแน่ใจเลยว่าทำไม

บางที อาจจะเพราะแค่ฉันอยากให้ฟรานได้รู้เรื่องก็แค่นั้นล่ะมั้ง

 

“ตอนที่ริงกะสารภาพความรู้สึกของตัวเองกับฉัน… เป็นครั้งแรกเลย ที่ฉันเข้าใจความรู้สึกของตัวเอง ฉันคิดแค่ว่าเธอเป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยเด็ก และไม่คิดเลยว่าเธอจะตามฉันออกเดินทางมาด้วย แต่ก่อนที่ฉันจะรู้ตัว เธอก็กลายเป็นคนที่สำคัญที่สุดสำหรับฉันไปแล้ว ฉันชอบเธอมาก รักที่สุดเลย… ฉันให้คำสาบานไว้ตอนนั้น ว่าจะปกป้องริงกะให้ได้ ไม่ว่ายังไงก็ตาม”

 

เชื้อพระวงศ์ของเผ่าเอลฟ์ทั้ง 3 คนฟังเรื่องที่ฉันเล่าออกมาโดยไม่ได้พูดอะไร

 

“แต่ ดูสิ… ดูฉันสิ วันนั้น… วันที่ริงกะถูกลักพาตัวไปน่ะ ฉันสาบานไว้ในใจว่าจะไม่ทิ้งริงกะไปไหนอีก ว่าจะไม่ยอมให้ริงกะต้องเจอประสบการณ์ที่น่ากลัวแบบนั้นอีกแล้ว… แต่ฉันกลับละสายตาออกจากเธอ ละทิ้งคำสาบานของตัวเอง แล้วดูผลที่ออกมานี่สิ”
“ฟิลิส เรื่องนี้น่ะ-…”
“ไม่ใช่ความผิดของฟิลิส (ฉัน) งั้นเหรอ? …ไม่ใช่เลย มันเป็นความผิดของฉันเอง ฉันไม่ได้เปลี่ยนไปจากตอนที่ยังหยิ่งผยองในความสามารถของตัวเองเลยซักนิดเดียว ซักที่ในใจของฉัน ฉันยังหลอกตัวเองว่าฉันสามารถปกป้องริงกะได้เสมอไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหนก็ตาม… ใช่ มันก็แค่การหลอกตัวเองเท่านั้นเอง”

 

ฉันลูบหน้าของริงกะที่ไม่ยอมตอบสนองเลยซักนิดเดียว

 

“ขอโทษนะ ริงกะ ขอโทษที่ฉันคิดน้อยแบบนี้ ฉันมันไม่มีประโยชน์ เพราะแค่คำสัญญาก็ยังรักษาไม่ได้… ขอโทษนะ…”

 

แล้ว ฉันก็

 

“ฉันรักษาสัญญาไม่ได้… แต่ฉันก็ แก้แค้นให้เจ้าพวกนั้นที่มีส่วนกับการฆ่าเธอจนถึงคนสุดท้ายแล้วนะ…”

 

รวมกำลังทั้งหมดไว้ที่มือขวา

 

“กำจัดเจ้านั่นที่ฆ่าเธอจนไม่เหลือซากแล้ว ฆ่าพวกอัศวินทั้งหมดที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เธอต้องตายแล้ว… ทีนี้ก็เหลือแค่ รายสุดท้ายแล้วนะ”
“…ฟิลิส? ……ไม่จริงน่า!? ฟิลิส! เดี๋ยว-…”

 

แล้วก็ใช้มือข้างนั้น แทงเข้าใส่หัวใจของตัวเอง

 

 

 

 

 

เป้าหมายสุดท้ายในการแก้แค้นของฉัน คนที่ไม่มีทางยกโทษให้มากที่สุด

ใช่แล้ว

คนที่รักษาสัญญาที่ให้ไว้กับริงกะไม่ได้ ฉันไม่เก็บเจ้านั่นไว้หรอก… นั่นคือฉันเอง

 

…ที่นี่ ที่ไหนนะ

 

รู้สึกแปลกๆ เหมือนลอยอยู่ แต่ก็เหมือนจมน้ำอยู่ตลอดด้วย

ที่นี่ที่ไหนกันแน่เนี่ย…

 

 

“ที่นี่คือแดนแห่งทวยเทพ ยินดีที่ได้พบนะคะ ฟิลิส”

 

คนที่เดินมาทางนี้คือผู้หญิงผมดำสวยมากคนนึง ดูเผินๆ ก็คล้ายกับมนุษย์… แต่ว่า ฉันสัมผัสได้ถึงพลังมหาศาลจากเธอเลย

…แดนแห่งทวยเทพ งั้นเหรอ? งั้น เธอคนนี้คือ… เทพธิดามิซารี่เหรอ?

 

“…ช่วยอย่าเหมารวมเรากับเทพธิดาแห่งความโสมมนั่นได้หรือเปล่าคะ? รู้สึกไม่สบายใจเลย ถึงเธอจะไม่ได้เจตนาก็ตามที”

 

…อ่านใจได้เหรอเนี่ย? แสดงว่าเธอคนนี้ต้องเป็นเทพแน่นอน ไม่ผิดแน่แล้วล่ะ

แต่ว่า การที่คนคนนี้ไม่ใช่เทพธิดามิซารี่ งั้นก็หมายความว่า…

 

“ใช่ เป็นอย่างที่เธอคิดเลยค่ะ เราคืออิซึสึ เทพแห่งมรณาและโทสะ ผู้คุ้มครองเผ่ามารค่ะ”

 

นั่นสินะ

ขออภัยจริงๆ นะคะ ทำเรื่องผิดพลาดอย่างไม่น่าให้อภัยลงไปซะแล้ว

 

“เราไม่ถือโทษค่ะ… เธอต้องประหลาดใจมากแน่นอนเลยที่จู่ๆ ก็ถูกแทรกแซงสติการรับรู้แบบนี้ ต้องขอโทษด้วยนะคะ”

 

ไม่จำเป็นต้องขอโทษหรอกค่ะ เพราะยังไงฉันก็ตายแล้วนี่นา

ไม่ใช่เรื่องปกติเหรอคะ ที่เทพจะมาปรากฏตัวต่อหน้าคนตายแบบนี้น่ะ

 

“…ตายแล้ว งั้นเหรอคะ?”

 

ค่ะ

…ท่านอิซึสึคะ ถ้าฉันขออะไรได้ซักข้อนึงแล้ว ฉันอยากให้ท่านฟังคำขอของฉันซักหน่อยได้หรือเปล่าคะ

 

“อะไรอย่างนั้นเหรอคะ”

 

…ฉันอยากเจอริงกะหน่อยค่ะ ซักครั้งหนึ่งก็ยังดี

 

“ต้องขอโทษด้วยจริงๆ นะคะ… เรื่องนั้นไม่สามารถทำได้”

 

…งั้นเหรอคะ

อย่างน้อย… ฉันก็อยากจะขอโทษเธอซักคำนึงก็ยังดี

 

“การสนทนาระหว่างคนตายกับคนเป็นนั้นไม่สามารถปล่อยให้เกิดขึ้นได้อย่างเด็ดขาด นั่นเป็นหนึ่งในกฎของเทพค่ะ”

 

……หือ?

ไม่สิ รอเดี๋ยวนะคะ

พวกเราทั้งคู่ก็ตายไปแล้วนี่นา… และทำไมถึงไม่อนุญาตล่ะคะ?

 

“เปล่า… เธอยังไม่ตายหรอกนะคะ”

 

……อะไรนะคะ?

จะเป็นแบบนั้นได้ยังไงน่ะคะ ก็ตอนนั้น หัวใจของฉันถูก…

 

“ค่ะ เธอแทงหัวใจของตัวเอง… แต่ ฟรานใช้เวทมนตร์ตัดมือขวาของเธอออกก่อนที่หัวใจของเธอจะถูกทำลายไปโดยสมบูรณ์ ต้องขอบคุณเธอเลย ที่ช่วยให้เธอไม่ตายในทันที และช่วยชีวิตของเธอเอาไว้… ตอนนี้ ฟรานกำลังรักษาร่างของเธออยู่ค่ะ”

 

…ยัยบ้านั่น ทำเรื่องไม่เป็นเรื่องจริงๆ…!!

 

“ไม่หรอกค่ะ ฟรานนั้นทำได้ดีเลยในเรื่องนี้ ถ้าเธอตายล่ะก็… โลกนี้อาจล่มสลายไปจริงๆ เลยก็ได้ค่ะ”

 

……หมายความว่ายังไงน่ะคะ?

 

“เธอน่ะ มีพรสวรรค์ในตัวอย่างมหาศาลเลยค่ะ เท่าที่เรารู้ โลกตอนนี้กำลังถูกนำพาไปในทิศทางที่บิดเบี้ยวจากเทพธิดามิซารี่และเหล่าสาวกผู้ศรัทธาในตัวเธอ… แต่ เธอมีพลังที่จะหยุดกระแสนั้นได้ค่ะ”

 

…เรื่องนั้นจะยังไงก็ช่างเถอะค่ะ

ฉันไม่ต้องการพรสวรรค์พวกนั้นแล้วค่ะ

ไม่ว่าจะพรสวรรค์มากมายแค่ไหน… แค่ช่วยริงกะคนเดียวฉันยังทำไม่ได้เลย ผลที่ออกมา ริงกะก็เลยต้องตาย ไม่มีประโยชน์อะไรหรอกค่ะ

 

ริงกะคือทุกสิ่งทุกอย่างของฉันค่ะ

ตราบใดที่ฉันได้อยู่อย่างสงบกับริงกะแล้ว แค่นั้นก็พอแล้วค่ะ

 

“‘แต่ว่า ฉันเลือกที่จะไม่กลับไปที่หมู่บ้านแวมไพร์ และเลือกที่จะอยู่ที่เมืองแห่งการผสมผสาน เพราะแค่ว่าฉันยังทิ้งความฝันเดิมของตัวเองไม่ได้ ฉันยังอยากสนองความอยากรู้ของตัวเองจากการได้เห็นเผ่าพันธุ์ที่หลากหลาย… ความเห็นแก่ตัวของฉันทำให้ริงกะต้องตาย’ …อย่างนั้นเหรอคะ?”

 

…ท่านรับรู้ได้ทุกสิ่งเลยสินะคะ

 

“ก็เป็นเทพนี่คะ… จริงอยู่ค่ะที่เธอล้มเหลวในการปกป้องริงกะเอาไว้ นั่นเป็น [อดีต] ที่ไม่อาจย้อนกลับได้ และจะติดตัวเธอไปในอนาคตตลอดไปค่ะ”

 

ฮะฮะฮะ… ยังไงอนาคตก็ไม่มีอะไรต้องทำอยู่แล้วนี่คะ

พอฉันได้สติอีกครั้งเมื่อไหร่ คราวนี้ ฉันจะตายให้ได้แน่นอนค่ะ

คราวนี้ จะใช้วิธีที่แม้แต่ฟรานก็ทำอะไรไม่ได้เลย

 

“ช่วยฟังให้จบด้วยค่ะ… [อดีต] นั้นจะติดตัวเธออยู่ตลอดไป แต่ว่า เธอสามารถใช้สิ่งนั้น เป็นวัตถุดิบเพื่อพัฒนา [อนาคต] ได้นะคะ”

 

…ท่านพยายามจะบอกอะไรอย่างนั้นเหรอคะ

 

“เข้าใจแล้วสินะคะ… ฟิลิส บลัดลอร์ด เราต้องการแลกเปลี่ยนกับเธอค่ะ”

 

TN: ขอแปะ Discord สำหรับแจ้งเตือนนิยาย กับมุมพูดคุยกันไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ ใครสนใจก็แวะมาได้นะ ^^
https://discord.gg/Fm9NsqeH2r

[WN] การกวาดล้างมนุษยชาติของเจ้าหญิงแวมไพร์กับอดีตผู้กล้า

[WN] การกวาดล้างมนุษยชาติของเจ้าหญิงแวมไพร์กับอดีตผู้กล้า

Score 10
Status: Completed
เซนโจ โยนะ เด็กหญิงที่ถูกกลั่นแกล้งอย่างหนัก ได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุแก๊สระเบิด หลังจากนั้น ด้วยความช่วยเหลือของเทพชั่วร้าย อิซึสึ เธอก็ได้มาเกิดใหม่เป็นลูกสาวของผู้นำเผ่าแวมไพร์ [ลีน บลัดลอร์ด] ชีวิตอันสงบสุขกำลังรอเธออยู่ รายล้อมไปด้วยครอบครัวและเพื่อนพ้องที่รักเธอ สิ่งที่เธอต้องการมาโดยตลอดจากชาติก่อน ... แต่เวลาเหล่านั้นก็ต้องสิ้นสุดลง จากการกวาดล้างเผ่าพันธุ์แวมไพร์ด้วยน้ำมือของพวกมนุษย์อย่างไร้เหตุผล “อา เข้าใจแล้ว ชีวิตของฉันต้องพังทลายเพราะว่ามีพวกมนุษย์อยู่งั้นสินะ” อีกด้าน มีเด็กสาวที่ถูกมองเป็นตัวน่ารำคาญในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เธอได้รับ [คุณสมบัติของผู้กล้า] พร้อมทั้งพรสวรรค์และศักยภาพอันล้นเหลือ แต่จิตใจของเธอกลับถูกทำลายลงด้วยน้ำมือของพวกมนุษย์ เพื่อล้างสมอง และเปลี่ยนเธอเป็นอาวุธมีชีวิต “จริงๆ แล้ว...ไม่อยากปกป้องพวกมนุษย์ซักหน่อย เราไม่ได้อยากเป็นผู้กล้า…” และพวกเธอผู้เกลียดชังต่อมนุษย์ ก็กลายมาเป็นภัยพิบัติต่อมนุษยชาติ นี่คือเรื่องราวของเด็กสาว 2 คนที่ชีวิตต้องถูกทำลายด้วยน้ำมือของมนุษย์ และสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตไป เหลือเพียงแค่ชีวิตของตัวเอง และพวกเธอจะใช้ทุกวิถีทางเพื่อล้างแค้นและกวาดล้างมนุษยชาติให้สิ้น

Options

not work with dark mode
Reset