[WN] การกวาดล้างมนุษยชาติของเจ้าหญิงแวมไพร์กับอดีตผู้กล้า 123 องค์ที่ 5 กำเนิดจอมมาร – [บทศูนย์] พิพากษา

ตอนที่ 123 องค์ที่ 5 กำเนิดจอมมาร - [บทศูนย์] พิพากษา

ทันเวลาพอดี

ตอนนี้ ฉันมี 2 อารมณ์อัดแน่นอยู่ในตัวเลย ความโล่งอกจากก้นบึ้งของหัวใจ กับความเกลียดชังไปถึงขั้วต่อเจ้าพวกตรงหน้าฉันที่บังอาจลักพาตัวริงกะมาน่ะ

 

ที่ฉันมาได้ขนาดนี้ ต้องขอบคุณฟรานที่พิสูจน์ข้อสันนิษฐานไร้หลักการรองรับที่ฉันเสนอไป อย่างการ [ตรวจหาร่องรอยของเวทเคลื่อนย้าย] น่ะ

ไม่สิ ฉันไม่คิดเลยว่าพวกเราจะทำมันได้จริงๆ…

เอาเถอะ เรื่องนั้นมันไม่สำคัญแล้วล่ะ ฉันสามารถมาช่วยริงกะ แค่นี้ก็ดีแล้ว

ทีนี้… ถึงตาฉันพิพากษาเจ้าพวกชั่วที่พยายามลักพาตัวริงกะของฉันแล้ว

 

“อ๊า! เจ็บ! เดี๋ยวสิ! ฟิลิส! เคลื่อนย้ายมาเสร็จแล้วจู่ๆ ก็วิ่งเลยเหรอ!? รู้จักมั้ย ที่เรียกว่าการลวกมือกันหรืออะไรซักอย่างนั่นน่ะ …โอ้! ริงกะ!”
“ดีใจจังค่ะที่ปลอดภัย!”
“ฟรานจัง… ฟลูเรเทียจัง… ขอโทษที่ทำให้พวกเธอต้องลำบากนะ…”
“พูดอะไรอย่างนั้นน่ะ! นี่ไม่ใช่ความผิดของริงกะซักหน่อย!”

 

อะ จริงสิ ฉันมุ่งหน้าแต่จะมาช่วยริงกะจนลืม 2 คนนี้ไปสนิทเลย

แต่ก็ดีแล้วล่ะ ฉันไม่สามารถดึงริงกะเข้ามาในการบดขยี้ของฉันได้ซะด้วยสิ

 

“ฟราน ฟลูเรเทีย พาริงกะออกไปจากที่นี่ที เดี๋ยวที่เหลือนี่ฉันเก็บกวาดเอง”
“เอ๋!? เดี๋ยว จัดการทั้งหมดนี่คนเดียว ชั้นว่าไม่ใช่ความคิดที่ดีเลยนะ!? ชั้นก็-… อ่า ได้ๆ คือพวกชั้นอยากจะช่วยเธอด้วย-… เข้าใจแล้ว เลิกทำหน้าตาน่ากลัวแบบนั้นได้แล้วน่า นะ?”
“งื้อ… น่ากลัว…”

 

…นี่ฉันดูน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ

ก็คงอย่างนั้นล่ะนะ อย่างน้อยก็ถึงระดับที่ทำให้อัจฉริยะ 2 คนตรงนี้ตัวสั่นล่ะ

 

“…ไปกันเถอะ ฟลูเรเทีย ริงกะด้วยนะ …ไม่ไหวเลยเนี่ย อารมณ์เสียจริงๆ”
“ข- เข้าใจแล้วค่ะ”
“ฟิลิสจัง… ระวังตัวด้วยนะ”

 

ไม่ต้องบอก ฉันก็รู้แล้วน่า

จะระวังตัวอย่างดีเลย… ระหว่างที่ฆ่าพวกมันล่ะนะ

 

“…ชิ แผนล่มจนได้… ถ้าจับเจ้าเด็กนั่นมาได้ ก็จะมีกินมีใช้ไปได้ 2 ไม่ก็ 3 ปีเลยนะเห้ย!”

 

เจ้าคนหัวหน้าเห่าอะไรซักอย่างก็ไม่รู้ มันไม่ได้เข้าหูฉันเลยซักนิด

ในตัวฉันตอนนี้ มีแต่ไฟจากความโกรธอย่างเดียวแล้ว

ในหัวไม่มีความคิดอื่นเลย นอกจาก ‘ฆ่าพวกมันให้หมด อย่าให้เหลือแม้แต่เศษเถ้ากระดูกให้ต้องตกค้างอยู่บนโลก’

 

“…ถ้าข้าต้องเจอกับฟราน ฟอเรสเตอร์ โอกาสชนะก็คงไม่มีไปแล้วล่ะนะ… ถ้ามีแกแค่ตัวเดียว แกจะไปทำอะไรได้ ถ้างั้นคราวนี้ ก็คงต้องจัดการขยี้แก แล้วเอาไปขายให้เจ้านั่นแทนนี่ล่ะ… ฮึ!?”

 

ก่อนที่เจ้านั่นมันจะเห่าจบ ฉันก็กระโดดเตะมันไปก่อนแล้ว… แต่มันก็หลบได้แบบเส้นยาแดงผ่าแปด

…เลือกจะหลบงั้นเหรอ แสดงว่าไม่ใช่พวกมือสมัครเล่นสินะ

 

“ชิ! พวกแกทุกคน! เอาเลย!”
“““““““โอ้!!”””””””

 

พอเจ้าตัวหัวหน้าสั่งแล้ว เจ้า 7 คนที่อยู่รอบๆ ก็หยิบอาวุธออกมาเตรียมพร้อมกัน

แต่ แล้วไงล่ะ

อย่ามาขวางกันน่า ไอ้พวกปลาซิวปลาสร้อย

 

“{ฟอร์ซ สแลช (พลังตัดเฉือน)}”

 

เวทมนตร์ที่จะปล่อยคลื่นดาบที่ไม่มีคุณสมบัติธาตุปนออกมา เป็นแค่พลังบริสุทธิ์ที่อัดจนเข้มข้นเท่านั้น

เวทที่ฉันร่ายตัดมนุษย์ 2 คนขาด 2 ท่อนอย่างสมบูรณ์เลย

 

“กึอ๊าา…!”
“กุอั๊กก…!?”

 

…นี่เป็นครั้งแรกเลยนะ ที่ฉันทำอะไรอย่างการ ‘ฆ่าคน’ น่ะ

ถึงจะล่าสัตว์อสูรหรือสัตว์ประหลาดมามากมาย แต่ก็ไม่เคยล่าคนมาก่อนเลย

แต่ว่า แปลกจังนะ ไม่รู้สึกสยองหรืออะไรเลย

ฆ่าคน ทั้ง 2 คน แต่กลับไม่มีความรู้สึกผิดเลย กลับรู้สึกเหมือนได้ทำบางอย่างสำเร็จตามเป้าหมายแทน

 

อา จริงสินะ บางที มันอาจจะเป็น ‘หน้าที่’ ตามปกติที่จะต้องฆ่าเจ้าพวกนี้ก็ได้

ริงกะของฉัน คนที่สำคัญที่สุดในโลกของฉัน ต้องหวาดกลัว แถมพวกแกยังพยายามจะทำร้ายผิวสวยๆ ของเธอด้วยงั้นเหรอ

…แค่ฆ่าพวกมันทั้งหมดตรงนี้ไปยังดับไฟโกรธของฉันไม่ได้หมดเลยด้วยซ้ำ

อย่างน้อยที่สุด ฉันจะต้องให้เจ้าหัวโจกตัวการควรจะได้ทรมานให้มากที่สุดก่อนที่มันจะตายไปซะ

 

“กึก นี่มันสัตว์ประหลาดชัดๆ เลยไม่ใช่หรือไง…! พวกแก… ทำงานกันหน่อยเว่ย…”

 

เพราะแบบนี้ไง พวกปลาซิวปลาสร้อยถึงน่ารำคาญน่ะ ตายๆ กันไปซะ

 

“{ร่ายหลายเป้าหมาย เอนเชนท์ • แฟลร์บลาสต์ (เสริมกำลัง ปืนใหญ่เพลิงนรก)}”

 

เปลวไฟร้อน 10,000 องศาราวกับตักออกมาจากขุมนรกพุ่งเข้าห่อหุ้มทุกสิ่งรอบมัน ฆ่าทุกชีวิตตรงหน้าฉันนอกจากเจ้าหัวโจกนั่นตายทั้งหมด

 

“กุอ๊าาาาาาา!!”

“ร- อะ ร้อนนนนนนนน!!!”

 

ชีวิตถูกปลิดไปง่ายๆ แบบนี้นี่แหละ

 

“บ- บ้าที่สุด… ข้าไม่ยอมมาตายแบบนี้หรอกเว่ยยยยย!!”

 

เจ้าหัวโจกหันหลังให้ฉันแล้ววิ่งหนีอย่างสุดแรง

คิดว่ามีเหตุผลอะไรที่ฉันจะปล่อยให้แกหนีไปได้น่ะฮะ

เจ้าตัวการหลักที่ทำให้ริงกะต้องกลัวอย่างแก ฉันจะฆ่าแกแน่นอน!!

 

“{โคลด์แลนซ์ (หอกน้ำแข็ง)}”

 

ฉันยิงเวทไล่หลังเจ้านั่นไป แต่ว่า

 

“ฮึบ!”

 

เจ้านั่นบิดตัวเล็กน้อย แล้วก็หลบเวทมนตร์ของฉันไป

…คราวนี้อะไรอีกล่ะ เจ้าหมอนี่ หลบเวทมนตร์ของฉันได้โดยไม่หันมามองงั้นเหรอ

 

“ฟิลิสจัง! หมอนั่นมีสมบัติศักดิ์ที่ชื่อ [เนตรสวรรค์ อารุส] อยู่!! ระวังตัวด้วยนะ!!”

 

สมบัติศักดิ์สิทธิ์?

เจ้ามาจิกไอเท็ม 99 ชิ้นนั่นน่ะเหรอ แล้วเจ้าหมอนี่ก็มีอยู่ชิ้นนึงงั้นสินะ?

 

“ฮะ! ก็แบบนั้นล่ะนะ!! ตราบใดที่ข้ายังมีเจ้านี่อยู่ น้ำหน้าอย่างแกก็ไม่มีทางโจมตีข้าโดนหรอกเว่ย!!”

 

‘เนตรสวรรค์ อารุส’… รู้สึกเหมือนจะเคยอ่านเจอในวรรณกรรมอยู่นะ

พลังตาทิพย์ อ่านความคิด หรือแม้แต่ส่องอนาคตกับดูสเตตัสของอีกฝ่ายสินะ เป็นสมบัติศักดิ์สิทธิ์ที่น่ากลัวจริงๆ

อย่างนี้นี่เอง ใช้พลังในการส่องอนาคตก็เลยสามารถหลบเวทมนตร์ของฉันได้สินะ

 

“…แล้ว มันทำไมล่ะ?”
“อะ- แกหมายความว่ายังไง?”
“แกเห็นอนาคตได้ อ่านความคิดได้ มองไกลได้ นั่นสินะ ประสิทธิภาพของมันดีเลยล่ะ… แต่แกน่ะ ไม่ได้แข็งแกร่งคู่ควรกับพลังที่แข็งแกร่งของสมบัติศักดิ์สิทธิ์นั่นซักนิด ทำให้สมบัติศักดิ์สิทธิ์ต้องเสียเปล่าจริงๆ เลย”
“ว่าไงนะ แก…!”
“ถ้าเป็นแบบนั้น แค่ฉันทำแบบนี้ ก็พอแล้ว…”
“อะ? …อึก!?!? ด- เดี๋ยวก่อน!!”

 

เห็นล่วงหน้าแล้วจากการส่องอนาคตไม่ใช่เหรอ

แต่ก็ไม่ทันแล้วล่ะ

 

“{เรน บุลเล็ต (ห่าฝนกระสุนเวท)}”

 

เวทมนตร์ที่ยิงกระสุนเวทมนตร์จำนวนมากลงมาเหมือนสายฝน กระจายออกไปเป็นวงกว้าง

ไม่ว่าแกจะมองเห็นอนาคตได้ไกลแค่ไหน กระสุนเวทจำนวนนับไม่ถ้วนแบบนี้น่ะ จะหลบได้ก็ต้องเป็นนักรบที่มีพลังระดับนึงเลยล่ะถึงจะทำได้น่ะ

และเจ้านั่นก็ไม่มีพลังระดับนั้นด้วย

 

“กุอ๊าาาาาาาาา!!!”

 

เจ้านั่นหลบได้อยู่ซักพัก แต่ก็เริ่มได้เข้าไปแล้วนัดที่ 1 จากนั้น นัดที่ 2, 3 และอีกมากมายก็ตามไป… ขาเจ้านั่นถูกยิงจนทะลุ แล้วเจ้านั่นก็ล้มลงตรงนั้นเลย ก่อนจะตกเป็นเหยื่อของห่ากระสุนจำนวนมหาศาลนั่น

 

พอฝนนี้หยุดตกแล้ว เจ้านั่นก็ยังมีชีวิตอยู่

ซึ่งมันก็แน่อยู่แล้ว เพราะฉันยั้งแรงเอาไว้เพื่อการนี้เลยไงล่ะ

 

“กุอ๊าาาา…! ก- แก…! ยกโท-…”
“หนวกหู”
“อ๊าาาาาาาาา!!”

 

แกนี่มันชั่วช้าจริงๆ

แค่คิดว่าคนอย่างมันพยายามจะแตะผิวนุ่มๆ ของริงกะแล้ว… ฉันก็โกรธจนเหมือนหัวจะระเบิดออกมาเลย

 

“…ฉันบอกไว้แล้วไง ว่า ‘อย่าคิดว่าจะได้ตายดีเชียวล่ะ’ โทษฐานที่แกพยายามทำร้ายริงกะน่ะ… ชดใช้มันด้วยร่างกายของแกซะเถอะ ไอ้ขยะเอ้ย”
“อึก… ด- เดี๋ยว…”
“จะรอเพื่อ… {เวฟ ออฟ เพน (คลื่นแห่งความเจ็บปวด)}”
“อึกก๊าาาาาาาาาาา!! ย- หยุด… หยุดนะอ๊าาาาาาาาาาาาา!!!”

 

…ผ่านไป 10 นาที ฉันถึงยอมให้เจ้านี่ตายได้

 

“ฟิลิสจัง…!”
“ริงกะ! …อ่า โล่งอกไปทีที่เห็นเธอยังปลอดภัยดี…! ขอโทษนะ ฉันไม่น่าละสายตาจากเธอเลย!”
“ไม่หรอก ไม่ใช่ความผิดของฟิลิสจังซักหน่อย เพราะฉันอ่อนแอเอง ก็เลย…”
“ไม่เลย ไม่เลย เพราะฉันต่างหาก!”
“อือ ฉันต่างหาก…”
“…คือว่าก็ยอมๆ กันไปดีกว่านะคะ ดิฉันอยากกลับแล้วน่ะค่ะ”

 

พอได้ยินการแทรกขึ้นมาของฟลูเรเทียแล้ว พวกเราต้องตั้งสติกลับมาได้

 

“น- นั่นสินะ ริงกะ ฉันจะไม่ยอมให้เธอต้องกลัวอีกแล้วล่ะ ไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะคอยปกป้องเธอไปตลอดเอง”
“อึก…… นั่นน่ะ ขี้โกงนี่นา…”
“หือ? เมื่อกี้เธอพูดอะไรหรือเปล่า?”
“ไม่มีอะไรหรอก ทุกคน กลับกันเถอะ”
“นั่นสิ ฟราน ฝากด้วยนะ”
“เฮ้อ~ ใช้งานคนอื่นหนักจังเลยนะ… เอาเถอะ เอาล่ะนะ {เทเลพอร์เทชั่น (เคลื่อนย้าย)} !”

 

TN: ขอแปะ Discord สำหรับแจ้งเตือนนิยาย กับมุมพูดคุยกันไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ ใครสนใจก็แวะมาได้นะ ^^
https://discord.gg/Fm9NsqeH2r

[WN] การกวาดล้างมนุษยชาติของเจ้าหญิงแวมไพร์กับอดีตผู้กล้า

[WN] การกวาดล้างมนุษยชาติของเจ้าหญิงแวมไพร์กับอดีตผู้กล้า

Score 10
Status: Completed
เซนโจ โยนะ เด็กหญิงที่ถูกกลั่นแกล้งอย่างหนัก ได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุแก๊สระเบิด หลังจากนั้น ด้วยความช่วยเหลือของเทพชั่วร้าย อิซึสึ เธอก็ได้มาเกิดใหม่เป็นลูกสาวของผู้นำเผ่าแวมไพร์ [ลีน บลัดลอร์ด] ชีวิตอันสงบสุขกำลังรอเธออยู่ รายล้อมไปด้วยครอบครัวและเพื่อนพ้องที่รักเธอ สิ่งที่เธอต้องการมาโดยตลอดจากชาติก่อน ... แต่เวลาเหล่านั้นก็ต้องสิ้นสุดลง จากการกวาดล้างเผ่าพันธุ์แวมไพร์ด้วยน้ำมือของพวกมนุษย์อย่างไร้เหตุผล “อา เข้าใจแล้ว ชีวิตของฉันต้องพังทลายเพราะว่ามีพวกมนุษย์อยู่งั้นสินะ” อีกด้าน มีเด็กสาวที่ถูกมองเป็นตัวน่ารำคาญในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เธอได้รับ [คุณสมบัติของผู้กล้า] พร้อมทั้งพรสวรรค์และศักยภาพอันล้นเหลือ แต่จิตใจของเธอกลับถูกทำลายลงด้วยน้ำมือของพวกมนุษย์ เพื่อล้างสมอง และเปลี่ยนเธอเป็นอาวุธมีชีวิต “จริงๆ แล้ว...ไม่อยากปกป้องพวกมนุษย์ซักหน่อย เราไม่ได้อยากเป็นผู้กล้า…” และพวกเธอผู้เกลียดชังต่อมนุษย์ ก็กลายมาเป็นภัยพิบัติต่อมนุษยชาติ นี่คือเรื่องราวของเด็กสาว 2 คนที่ชีวิตต้องถูกทำลายด้วยน้ำมือของมนุษย์ และสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตไป เหลือเพียงแค่ชีวิตของตัวเอง และพวกเธอจะใช้ทุกวิถีทางเพื่อล้างแค้นและกวาดล้างมนุษยชาติให้สิ้น

Options

not work with dark mode
Reset