…ถึงฉันจะหงุดหงิดนิดหน่อยที่สุดท้ายก็ถูกยัดเข้ามาในแผนแบบนี้ด้วย แต่ถ้าริงกะกระตือรือร้นขนาดนี้ ก็คงช่วยไม่ได้ล่ะนะ
“ว่าแต่ว่า ถ้าเกิดเป็นชั้นถูกไล่ตามล่ะก็ ถ้าใช้เวทเคลื่อนย้ายซะ เราก็ตามกลิ่นไปไม่ได้แล้วน่ะสิ”
“ไม่ต้องกังวลเรื่องเวทเคลื่อนย้ายเลยครับ บริเวณโดยรอบเมืองถูกล้อมรอบไว้ด้วยเวทคุ้มครองป้องกันการเคลื่อนย้ายที่แข็งแกร่งจากท่านฟลูเรเทีย ร่วมกับจอมเวทย์ผู้คุ้มครองอีกหลายสิบคนเรียบร้อยแล้วครับ”
“ค่ะ ยังไม่มีสัญญาณเลยว่าเวทคุ้มครองที่ดิฉันร่ายเอาไว้จะถูกทำลายเลย ไม่ต้องเป็นห่วงในเรื่องนี้เลยค่ะ”
จากที่ทหารเล่ามา ในจังหวะที่การลักพาตัวถูกพบ ก็มีการตอบสนองอย่างรวดเร็ว และยืนยันแล้วว่าไม่อนุญาตให้ใครเข้าหรือออกจากเมืองเลยแม้แต่คนเดียว ทันทีหลังจากนั้น ประตูเมือง 3 ใน 4 ก็ถูกปิด และมาตรการป้องกันอย่างเวทสร้างภาพลวงตาก็ถูกดำเนินการแล้วเรียบร้อย
กล่าวคือ เป็นไปได้มากเลยว่าพวกโจรลักพาตัวจะยังซ่อนตัวอยู่ในเมืองนี้
“ปัญหาคือกลิ่นนั้นหายไปอย่างสิ้นเชิงระหว่างทางครับ ผลคือ การค้นหาที่ตามมาจึงยากลำบากขึ้นมากเลยครับ…”
กำจัดกลิ่นงั้นเหรอ… ฉันคิดว่ามันมีอะไรแบบนั้นอยู่เป็นหนึ่งในเวทสภาพแวดล้อมนะ คงจะใช้เวทนั่นล่ะมั้ง
เวทตรวจจับก็… คงจะใช้กันไปแล้วล่ะมั้ง ถ้ายังหาตัวไม่เจออยู่แบบนี้ แสดงว่ามีความเป็นไปได้ที่เจ้าพวกนั้นจะสามารถใช้เวทที่ปกปิดร่องรอยไม่ให้ถูกจับสัญญาณได้แน่ๆ
เราไม่สามารถปล่อยให้พวกมันหนีไปได้ แต่พวกเราก็ไม่มีเบาะแสเหมือนกัน
เอาล่ะ จะทำยังไงดีนะ…
“นี่ จะไม่เร็วกว่าหรือไง ถ้าชั้นแค่ใช้เวทตรวจจับหาตัวพวกเขา แทนที่จะมานั่งกังวลกันอยู่แบบนี้น่ะ?”
ก็ถ้าทำแล้วมันใช้ได้ จะมานั่งกังวลกันแบบ-… ไม่สิ เดี๋ยวนะ
มาคิดๆ ดูแล้ว ยัยนี่ค่อนข้างมีชื่อในด้านความรู้เชิงลึกในศาสตร์เวทมนตร์แม้แต่ในหมู่เอลฟ์เลยนี่นา แถมยังเป็นอัจฉริยะที่เปี่ยมด้วยความสามารถเกินวัยไปเยอะเลยด้วย
ถึงยังไง วิวัฒนาการขึ้นเป็นไฮเอลฟ์ได้แล้ว ยังไงก็ต้องมีสเตตัสพลังเวทสูงเกิน 5,000 อยู่แล้วนี่นะ
ถ้าเป็นเวทตรวจจับของฟรานล่ะก็ อาจจะทำได้ก็ได้
“ช่วยทีได้หรือเปล่า?”
“คิดว่านะ ถ้าเกิดได้เห็นเด็กที่ถูกลักพาตัวไป, จำนวนของเด็กพวกนั้น แล้วก็ลักษณะหน้าตาล่ะก็ ชั้นว่าน่าจะทำได้นะ!”
หึ สมกับเป็นไฮเอลฟ์อัจฉริยะจริงๆ
“นิสัยกับความสามารถมันไม่เท่าเทียมกันซะเลยนะ”
“นั่นก็เหมือนกับฟิลิสจังเลยนี่?”
ริงกะ อย่าจุกจิกกับเรื่องพวกนี้ให้มากเกินไปนักสิ
“{เพิ่มระยะส่งผล เอนเชนท์ • เสิร์ช (เสริมกำลัง • ตรวจจับ)} !”
หลังจากใช้เวทมนตร์ที่เสริมแกร่งด้วยเวทเสริมกำลังเข้าไปอีกไปประมาณ 1 นาที
“…เจอตัวแล้ว!!”
เวทมนตร์ยอดเยี่ยมอย่างที่คาดเลยนะ
หากลุ่มคนที่พวกมนุษย์มังกรช่วยกันตามหาก็ยังหาไม่เจอได้ในเวลาแค่นาทีเดียวเนี่ย
“หือ เดี๋ยวสิ? เดี๋ยวสิ?… ทำไมพวกมันไปอยู่นอกเมืองกันแล้วล่ะ?”
ว่าไงนะ?
ไม่รู้หรอกว่าใช้วิธีไหน แต่มนุษย์น่ะควรจะถูกจับตามองอย่างเข้มงวด และทางพวกมนุษย์มังกรก็มีมาตรการต่อต้านการทำงานของเวทสร้างภาพลวงตาด้วยนี่
“นี่มันอะไรกันเนี่ย?… อ๊า! นายทวารบาลที่คุมประตูทางเข้าเมืองมีปฏิกิริยาของเวทมนตร์เหมือนกับหนึ่งในพวกมนุษย์เลย! เวทล้างสมองงั้นเหรอ!?”
นั่นน่ะเอง!
โอ้ย นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย! มัวแต่สนใจว่าจะเจอภาพลวงตากับการเปลี่ยนแปลงอะไรหรือเปล่า แต่ไม่ทันระวังการล้างสมองเลยงั้นเหรอ!?
“บ- บ้าน่า… พวกเราน่าจะใช้เวทเสริมกำลังเสริมแกร่งจิตใจเอาไว้เพื่อป้องกันการล้างสมองแล้วนี่นา! เรื่องง่ายๆ แบบนั้น…”
จะยังไงก็ช่าง ตอนนี้มันทำอะไรไม่ได้แล้วล่ะ
มีแต่ต้องตามพวกมันให้ทันระหว่างที่เวทคุ้มครองป้องกันการเคลื่อนย้ายยังทำงานอยู่เถอะ!
“เอาล่ะ ไปกันเลย ฟราน มาด้วยกันหน่อย”
“ได้เลย!”
“ฉ- ฉันด้วย…”
“ริงกะ เธออยู่ที่นี่นะ เธอชนะพวกนั้นระหว่างกลางวันไม่ได้หรอก ต้องมีการอวยพรจากดวงจันทร์ช่วยซักหน่อยนั่นแหละถึงจะมีลุ้นน่ะ”
“แต่ว่า…… เข้าใจแล้ว”
เยี่ยม
ต้องเร่งมือกับพาฟรานไปด้วยแล้วสิ
“ช- ช่วยรอเดี๋ยวก่อนค่ะ!”
ฟลูเรเทียเข้ามาหยุดฉันกับฟรานที่กำลังจะพุ่งตัวออกจากหน้าต่างกันไป
“ดิฉันจะไปด้วยค่ะ! ในฐานะกองอัศวินมังกรแล้ว ดิฉันไม่สามารถเมินเฉยต่อเรื่องนี้ได้ค่ะ!”
แน่ล่ะนะ ก็นี่เป็นปัญหาของเผ่ามนุษย์มังกรนี่นา
ถ้าให้เอลฟ์กับแวมไพร์ไปแก้ปัญหานี้กันแค่ 2 คนล่ะก็ ภาพลักษณ์ของเผ่ามนุษย์มังกรป่นปี้แน่ๆ
“เข้าใจแล้ว เธอก็มากับพวกฉันเลย”
“ค่ะ”
“อาวล่ะ! {เอนเชนท์ • สปีดบูสท์ (เสริมกำลัง • เพิ่มความเร็ว)} ! มาปิดคดีนี้กันแบบเร็วจี๋กันเลย!”
ฉันกระโดดพุ่งตัวออกไปจากทางหน้าต่าง พร้อมกับฟรานที่ร่ายเวทเสริมกำลังให้พวกเรา และฟลูเรเทีย
“ฟราน ตรงไหน?”
“เดี๋ยวน้า~ ทาง 2 นาฬิกา!”
พวกเราทุกคนไล่ตามกลุ่มโจรลักพักตัวไปตามหลังคาอาคาร
ในเวลาไม่นาน เมื่อพวกเรามาถึงประตูเมือง เหล่านายทหารที่เฝ้าประตูก็พุ่งออกมากัน
“หยุด! ในตอนนี้พวกเรา…”
“{มาจิก รีลีส (ปลดเวทมนตร์)} !”
ก่อนที่พวกนั้นทันจะพูดอะไร ฟรานก็ร่ายเวทหยุดการทำงานของเวทมนตร์ระยะยาวทันที
“…หือ? เกิดอะไรขึ้น… ท่านฟลูเรเทีย!”
“ตอนนี้ไม่มีเวลาแล้ว! ให้เราผ่านไปที!”
“พวกคุณถูกล้างสมองค่ะ! ทุกคนเลย! แล้วกลุ่มโจรลักพาตัวก็หนีกันไปแล้วค่ะ!”
“อะไร-!? …ต- ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ครับ พวกเราทำพลาดอย่างมหันต์เลย…”
“เอ้อ! หลบไปได้แล้ว!”
“หวาา!?”
ฉันหงุดหงิดมาพอแล้ว ก็เลยใช้แรงฝ่าเจ้าพวกนั้นที่เกะกะขวางทางไปเลย
ถ้าวิ่งต่อไปแบบนี้ล่ะก็… ตรงนั้นไง!
แย่ล่ะสิ พวกนั้นออกนอกเขตบาเรียแล้ว แถมยังเริ่มร่ายเวทเคลื่อนย้ายกันแล้วด้วย!
“อึก จะทันมั้ยเนี่ย…”
“ดิฉันจะจัดการเองค่ะ! {ดิเมนชั่น ล็อก (ผนึกมิติ)} !”
“{เทเลพอร์เทชั่น (เคลื่อนย้าย)} !… อ- อะไรน่ะ?”
โห ไม่เสียชื่อจอมเวทย์ผู้คุ้มครองอันดับ 1 ของเผ่ามนุษย์มังกรเลยแฮะ!
“ท- ทำไม… เฮ่! ศัตรูบุก!”
“บ้าจริง! พวกมันตามมาทันจนได้!”
พวกเด็กๆ… ดูจากที่อยู่ตรงนี้แล้ว ทั้ง 5 คนยังปลอดภัยดีอยู่บนรถม้านะ
ศัตรูเป็นมนุษย์ในวัยสี่สิบ 6 คน แต่ว่า สัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งเหมือนตอนที่ฉันเห็นฟรานหรือฟลูเรเทียไม่ได้เลย
พวกปลาซิวปลาสร้อย
“จับตัวประกันเอาไว้! เพื่อจะฝ่าออกไป จะฆ่ามันไปซักตัวก็ได้!”
…เคยได้ยินนะ ว่าพวกมนุษย์น่ะเป็นตัวอันตราย… พวกมันชั่วช้าจริงๆ เลยนะ
แต่ว่านะ สำหรับพวกมนุษย์มังกร ฉันมีเรื่องอยากจะถามนิดหน่อย เราต้องพาพวกเขากลับมาแบบเป็นๆ ให้ได้
“จัดการคนละสอง”
“ด้ายเลย~! ชั้นเอา 2 คนทางขวา!”
“ขอเลือก 2 คนทางซ้ายนะคะ แต่ก่อนอื่น {โพรเทคชัน (บาเรียป้องกัน)} !”
“ไอ้เด็กมนุษย์มังกร… เห้ย! อะไรฟะ! รถม้ามัน!”
“บ้าเอ๊ย! บาเรีย!”
ปกป้องรถม้า พร้อมๆ กับป้องกันการเคลื่อนย้ายไปด้วยงั้นเหรอ คุมเวทคุ้มครอง 2 บทพร้อมกันได้แบบนี้เลยสินะ
เคยได้ยินมาว่าเด็กคนนี้เป็นอัจฉริยะ แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะทำได้ขนาดนี้เลยนะเนี่ย
“บ้าจริง! พวกแก! เอาอาวุธออกมาเลย! …ไม่มีทางที่เราจะด้อยกว่าพวกมนุษย์มังกรอยู่แล้ว… กุอั๊ก!?”
“โทษทีนะ ฉันเป็นแวมไพร์น่ะ”
ฉันแทงเข่าลอยเข้าเต็มหน้าของผู้ชายคนนึงทันทีที่เจอตัว ก่อนจะใช้หมัดซัดเข้ากลางลำตัวผู้ชายอีกคนนึง เจ้านั่นสลบไปในหมัดเดียวเลย
อีก 2 คนก็… จัดการได้เรียบร้อยโดยไม่มีปัญหาเลยสินะ
จะว่าไป เจ้า 2 คนที่ฟลูเรเทียจัดการเองนี่ยังมีชีวิตอยู่ใช่มั้ยนั่น? เพราะมันยุบเป็นหลุมเป็นบ่อจนฉันจำหน้าเดิมไม่ได้เลยน่ะ
ถึงเธอจะเป็นผู้คุ้มครอง แต่เธอก็ต่อสู้มือเปล่าเก่งด้วยสินะ สมกับเป็นมนุษย์มังกรเลย… เป็นเด็กผู้หญิงที่น่ากลัวจริงๆ
ในตอนนี้ ฉันก็ส่งตัวการของเรื่องนี้ให้ทางการมนุษย์มังกรเป็นคนจัดการ แล้วก็พาเด็กๆ ทุกคนกลับไปหาพ่อแม่ของพวกเขาเรียบร้อย
“จะว่าไปแล้ว ทำไมพวกมนุษย์ต้องพยายามจับตัวมนุษย์มังกรไปด้วยล่ะ?”
“อาจจะจับกลับไปใช้เป็นทาสก็ได้นะ มนุษย์น่าจะพยายามฆ่ามารอย่างพวกเราทันทีที่เจอตัว แต่เผ่าพันธุ์อย่างเอลฟ์หรือมนุษย์มังกรน่ะ… มนุษย์จะเหมารวมเรียกว่า [พวกกึ่งมนุษย์] แต่พวกเขาจะไม่ฆ่าพวกนั้นหรอก พวกเขามักจะจับไปทำเป็นทาส, ใช้เป็นหนูทดลอง หรือปฏิบัติใส่อย่างป่าเถื่อนโดยไม่ลังเลเลยล่ะ”
“โหดร้าย…”
“ฉันไม่รู้เรื่องพวกนี้เลยจนกระทั่งฉันออกจากหมู่บ้านมานี่แหละ แต่พวกมนุษย์น่ะทั้งโหดเหี้ยม ทั้งน่ารำคาญ ทั้งป่าเถื่อนกว่าที่ฉันคิดไว้เยอะเลยล่ะ ไม่ได้ตั้งใจจะดูถูกพวกเธอหรอกนะ แต่ทางที่ดี อย่าเข้าไปยุ่งกับพวกนั้นเลยจะดีกว่า… พวกนั้นก็มีบางคนที่แข็งแกร่งอยู่เหมือนกัน”
พวกเรา 3 คนทำงานเสร็จแล้ว และกลับมายังใจกลางเมือง ไปที่คฤหาสน์ของจักรพรรดิมังกร
“กลับมาแล้ว ริงกะ เรียบร้อย… หืม?
อยู่ไหนน่ะ ริงกะ?
…ริงกะ? เฮ่! ริงกะ!?”
ตอนนั้น ถึงฉันจะหาไปทั่วทั้งคฤหาสน์
ฉันก็ไม่เห็นริงกะอยู่ที่ไหนเลย
TN: อ่าว เฮ้ย!?
ขอแปะ Discord สำหรับแจ้งเตือนนิยาย กับมุมพูดคุยกันไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ ใครสนใจก็แวะมาได้นะ ^^
https://discord.gg/Fm9NsqeH2r