[WN] การกวาดล้างมนุษยชาติของเจ้าหญิงแวมไพร์กับอดีตผู้กล้า 110 องค์ที่ 5 กำเนิดจอมมาร – [บทศูนย์] ออกเดินทาง

ตอนที่ 110 องค์ที่ 5 กำเนิดจอมมาร - [บทศูนย์] ออกเดินทาง

“คุคุคุคุ… ฮ้าฮ่าฮ่าฮ่า! วะฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮ่า!! ฟุฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า… แค่ก! แค่ก!… ฟุฮะฮะฮะฮะฮ่า!!”

 

ในที่สุด! เวลานี้ ในที่สุดก็มาถึงซักที!

วันนี้ วันเกิดอายุครบ 20 ปีของฉันแล้ว!!

 

ในหมู่บ้านนี้ ถ้าเรามีอายุครบ 20 ปีแล้ว เราจะได้รับสิทธิ์ในการขอหัวหน้าเผ่าท้าประลองได้

ถ้าสามารถเอาชนะในการต่อสู้ได้ ก็จะได้รับอนุญาตให้ออกจากหมู่บ้านไปตามลำพังได้ยังไงล่ะ

แต่ว่า ถ้าเกิดออกจากหมู่บ้านไปโดยไม่ได้รับอนุญาตล่ะก็ เราก็จะไม่สามารถกลับเข้าหมู่บ้านได้เป็นครั้งที่ 2 ล่ะนะ

 

และ หัวหน้าเผ่าของพวกเราก็นอนหงายหลังอยู่ตรงหน้าฉันแล้วตอนนี้!

 

“กรร… ก- กะ… ฟิลิส… แข็งแกร่งขนาดนี้เลยเรอะ…!?”
“ฟุฮะฮะฮะฮ่า! ก็นะ! ถึงยังไง ฉันก็จัดการพวกสัตว์ป่าที่โผล่มารอบๆ หมู่บ้านได้หมดเลยนี่ รวมทั้งพวกสัตว์อสูรที่โผล่มาเป็นครั้งคราวด้วยไงเล่า!”

 

13 ปีที่ฉันดิ้นรนผ่านวันเหล่านั้นมา! เลเวลไปถึง 36 กับสเตตัสเฉลี่ย 2,000 เลยนะ!

ไม่มีทางมาแพ้ให้ราชาแวมไพร์ผู้รักสงบคนนี้อยู่แล้ว!

นี่คือระดับสเตตัสของคนเลเวล 30 สินะ? ก็แค่นั้นแหละ!!

 

“อึก… งี้เอง ถึงว่าทำไมไม่ค่อยมีความเสียหายแบบชัดๆ จากพวกสัตว์อสูรเลยในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี่เลย… ! …ช่วยไม่ได้ล่ะนะ ข้าอนุญาตให้แกสามารถออกจากหมู่บ้านได้”
“ถ้างั้นก็ ขอบคุณมากนะ! ถ้างั้น ไปก่อนน้า!”
“เร็วไปแล้ว!? นี่คิดจะไปทันทีเลยหรือไง!?”

 

จะไปเลยนี่แหละ

ฉันรอเวลานี้มาตั้ง 13 ปีแล้วนะ? อีกแค่วันเดียวคิดว่าฉันจะทนไหวหรือไง

 

“…เฮ่อ นั่นสินะ แกก็เป็นแบบนี้มาตลอดเลยนี่… งั้น ข้าก็จะไม่ว่าอะไรแล้วล่ะ จะไปก็ไปเถอะ”
“เหรอ งั้น… เอาเถอะ ฉันว่าฉันควรจะไปบอกพ่อแม่ กับริงกะก่อนที่ฉันจะไปก็แล้วกันนะ”

 

ไม่ว่ายังไง พ่อกับแม่ก็ดูแลเลี้ยงดูฉันมาตั้ง 20 ปีเลยนะ

เด็กสาวตัวร้าย… พูดให้ถูกคือ ริงกะก็อยู่กับคนแปลกๆ อย่างฉันตลอดเวลา ที่ชอบทดลองนู่นนี่กับคนอื่นตามความคิดสุดอัจฉริยะของตัวเองด้วยล่ะนะ

งั้น แค่ไปทักทายเอง ฉันให้เวลาได้อยู่แล้วล่ะ

 

“อะ ฟิลิสจัง เรียบร้อยแล้วเหรอ? ฉันเก็บของเสร็จพอดีเลย! ฉันเอาของที่จำเป็นส่วนใหญ่มาแล้วล่ะ เพราะงั้น ฟิลิสจังเอามาแค่เสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนกับของใช้ในชีวิตประจำวันมาก็พอนะ โอ้ แล้วก็…”

 

………

 

“…ริ- ริงกะ? ทำอะไรอยู่น่ะ?”
“ทำอะไรเหรอ… ก็เก็บของสำหรับออกเดินทางไง?”
“ทำไมล่ะ?”
“ฉันก็จะออกเดินทางด้วยไง”
“กับใครเหรอ?”
“ก็กับฟิลิสจังไง”

 

…เดี๋ยวนะ

เดี๋ยวๆๆ

 

“ริ- ริงกะ… นี่ลูกวางแผนว่าจะออกไปพร้อมกับฟิลิสงั้นเหรอ!?”
“ใช่ค่ะ? ก็เคยบอกไว้ตั้งแต่ตอนนั้นแล้วนี่คะว่า ‘ถ้าหนูโตขึ้น หนูจะออกเดินทางไปกับฟิลิสจัง!’ น่ะ แล้วตอนนั้น คุณพ่อก็ตอบว่า ‘งั้นเหรอ งั้นเหรอ ก็เอาสิ’ ไงคะ”
“ไม่สิ นั่นมันเรื่องตั้งแต่เด็กแล้วไม่ใช่เหรอ!? พ่อนึกว่าพอโตขึ้น ลูกจะเข้าใจความเสี่ยงหรืออะไรพวกนั้นได้นะ!”

 

ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน

…นี่มันอะไรกันน่ะ เกินความคาดการณ์ของฉันไปแล้วนะเนี่ย

 

“ด- เดี๋ยวก่อนนะ ริงกะ! ค่อยๆ คิดดีๆ ก่อนนะลูก! ฟิลิสน่ะพิเศษมากเลยนะ!? เรื่องที่ลูกแค่เป็นเพื่อนเที่ยวเล่นกันในหมู่บ้านน่ะไม่เป็นไร แต่ถ้าเป็นเรื่องออกเดินทางไปแล้วต้องไปอาศัยอยู่ข้างนอกนั่นล่ะก็ ลูกต้องไปอยู่ข้างๆ คนผิดปกติแบบนั้นเลยนะ…”

 

เฮ่ย

 

“เอ๋? เพราะหนูชอบฟิลิสจังมากเลยไงคะ หมู่บ้านที่ไม่มีฟิลิสจังแล้วน่ะน่าเบื่อออก เพราะงั้น หนูจะไปด้วยค่ะ”
“ไม่ เดี๋ยวก่อน! เดี๋ยว! เดี๋ยว! เดี๋ยว! นี่ฟิลิสนะ!? เธอไม่ใช่อะไรเลยนอกจากจอมทำลายล้าง ในระดับที่แม้แต่พ็อลเทอร์ไกสท์ยังดีกว่าเลยนะ! อัจฉริยะสติเฟื่องคนนั่นน่ะ!? จริงจังใช่มั้ยลูก!?”

 

เอาล่ะ ปรับตารางเวลานิดหน่อยแล้วกัน ก่อนจะออกจากหมู่บ้าน ฉันว่าน่าไปประกาศให้ทั่วหมู่บ้านซักหน่อยแล้วกันว่าตอนที่โดนภรรยาของตัวเองบอกว่า ‘ช่วงนี้ ไม่ค่อยสู้เลยนะ’ แล้ว ผู้ชายคนนี้ซึมไปขนาดไหนน่ะ

 

“โธ่! ทำไมพ่อหัวรั้นแบบนี้ล่ะคะ! เพราะแบบนี้ไง คุณแม่ถึงบ่นว่า ‘ช่วงนี้ ไม่ค่อยสู้เลยนะ’ น่ะ!”
“กุอั๊กกกก!?”

 

อะ กระอักเลือดเลย ดูเหมือนขนาดริงกะเองก็รู้เหมือนกันแฮะ

นี่คือเวลาที่ผู้ปกครองโดนลูกสาวของตัวเองจับได้ว่าตัวเองมีปัญหาเรื่องรักๆ ใคร่ๆ สินะ

 

“นี่ นี่ ฟิลิสจัง เธอจะไปหรือยัง? ฉันสามารถไปด้วยตลอดเลยนะ รู้ใช่มั้ย?”
“…ไม่สิ ก่อนอื่นเลย ฉันจำไม่ได้เลยนะว่าจะตกลงให้เธอตามมาด้วยน่ะ”
“เอ๋!? เมื่อตอน 10 ขวบไง ที่เธอบอกว่า ‘ถ้าอีก 10 ปีเธอยังยืนยันคำเดิมล่ะก็ ฉันจะลองคิดดูก็แล้วกันนะ’ ไง…”

 

อ่า ใช่ ฉันเคยพูดไว้แบบนั้นด้วยนี่เนอะ

แต่ เอาจริงๆ เลยนะ…

 

“ถ้างั้นนะ ฟิลิสจัง”

 

การพยายามจะตามเรื่องนี้ให้ทันเนี่ย…

 

“ฉันจะตามฟิลิสจังไปด้วยนะ!”

 

 

 

“…ฟิลิส นี่แกเคยพูดอะไรเอาไว้เนี่ย”
“เดี๋ยวเลย นี่ไม่ใช่ความผิดของฉันซักหน่อย ตามปกติ สัญญาที่เราเคยให้กันไว้ตั้งแต่ตอนยัง 10 ขวบน่ะ คนทั่วๆ ไปเขาก็ลืมกันไปหมดแล้วล่ะ หรือไม่ก็เอาไว้ใช้เป็นเรื่องรำลึกความหลังอย่าง ‘เธอเคยสัญญาเอาไว้แบบนั้นนี่’ แต่นี่ เธอยังจำเรื่องพวกนั้นได้อยู่อีกเหรอเนี่ย ก่อนหน้านี้ หัวหน้าเผ่าบอกว่าฉันพิเศษหรือผิดปกติใช่มั้ย แต่ในมุมมองของฉันแล้วเนี่ย ริงกะก็เป็นเหมือนกันนั่นแหละ”

 

…เอาเถอะ สัญญาต้องเป็นสัญญาล่ะนะ ในฐานะเป็นคนที่จะไม่พูดโกหกแล้ว ฉันก็เลยปฏิเสธไม่ได้ สุดท้าย ฉันก็เลยต้องพาริงกะไปด้วย

ก็นะ คนที่ได้รับสิทธิหลังจากเอาชนะหัวหน้าเผ่าได้แล้ว จะสามารถพาเพื่อนร่วมทางออกจากหมู่บ้านไปด้วยได้มากสุด 2 คน เพราะงั้น การทำแบบนี้ก็ไม่ผิดกฎหรอก

 

ไม่สิ ที่จริงมันก็มีทางออกในเรื่องนี้อยู่นะ ตอนที่ฉันบอกเอาไว้ว่า [i]‘ฉันจะลองคิดดูก็แล้วกันนะ’[/i] ต่อให้ฉันไม่พาเธอไป ฉันก็ไม่ได้โกหกเธออยู่ดี

แต่ว่า เอาเถอะ… ฉันปฏิเสธคำขอของริงกะไม่ได้หรอก ฉันจะไปขวางสายตาที่เปล่งประกายอย่างไม่ธรรมดาที่จ้องมาที่ฉันแบบนั้นได้ยังไงล่ะ

มันก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อก่อนแล้วนี่เนอะ ปกติ ฉันเป็นคนรักอิสระ… แต่เพราะอะไรไม่รู้ ทั้งๆ ที่ฉันเป็นอัจฉริยะแท้ๆ ยังไม่สามารถปฏิเสธคำขอของริงกะได้เลย แปลกจริงๆ

 

“ริงกะจัง! รักษาตัวด้วยนะ!”
“ระวังตัวด้วยนะ ริงกะจัง!”
“ริงกะ ไม่ลืมอะไรนะ? อย่าไปโดนฟิลิสวางยาใส่ล่ะตกลงมั้ย?”

 

และตอนนี้ ก็มีแวมไพร์มารวมตัวกันอยู่ตรงประตูทางออกของหมู่บ้านเต็มเลย

พวกเขามาส่งพวกเรา… ไม่สิ มาส่งริงกะนี่แหละ

เจ้าพวกนี้นี่ ทั้งๆ ที่ฉันเป็นคนหลักที่ออกไปแท้ๆ แต่ฉันได้ยินแต่ริงกะ ริงกะมาซักพักแล้วนะ อัดให้คว่ำซะเลยดีมั้ยเนี่ย

 

“แต่นี่ฟิลิสจะไปจริงๆ แล้วเหรอเนี่ย… ถึงจะเป็นเด็กตัวแสบแบบนั้น แต่พอจะต้องออกไปคนเดียวก็เหงาเป็นเหมือนกันนี่นา”
“จริงด้วยนะ จะไม่ได้เจอการแกล้งแปลกๆ พวกนั้นแล้วสิน้า…”

 

…ห- หา? ฉันไม่ควรจะสร้างความปั่นป่วนจนถึงวันสุดท้ายก่อนที่ตัวเองจะออกเดินทางไปจากหมู่บ้านสินะ? บางที วันนี้ฉันจะยอมปิดตาข้างนึงให้ก็แล้วกัน อีกอย่าง อย่าเรียกว่าการแกล้งสิ เป็นความคิดของอัจฉริยะต่างหากเล่า

 

“ฟิลิสจาง~! เอาล่ะๆ ไปกันเถอะ~!”
“อืม… ไปกันเลย!”

“โ――ฮ ริงกะจาาางงงงง!”
“ทำไมกัน ฟิลิส ทำมาายยยยย!!”
“แต่งงานกันฉันเถอ―――ะ!!”

 

เจ้าพวกนี้ควรจะโดนทรมานเอาแส้ฟาดซักหน่อยนะเนี่ย

โดยเฉพาะเจ้าคนที่ตะโกนขอแต่งงานนั่นน่ะ

 

“…งั้น ไปกันเถอะ”
“ทุกคน รักษาเนื้อรักษาตัวกันด้วยน้า~!”

“ไปอยู่ข้างนอกแล้วก็คอยระวังตัวด้วยหล้า~!”
“ริงกะจัง ถ้าเกิดจำเป็นล่ะก็ ทิ้งฟิลิสเอาไว้แล้วกลับมาที่หมู่บ้านได้เลยนะ!”
“ฟิลิส ต่อให้เอาชีวิตตัวเองเข้าแลก ก็ปกป้องริงกะจังเอาไว้ให้ได้ล่ะ!”

“พวกแก! นี่ไม่มีใครเป็นห่วงฉันซักคนเลยหรือไงฮะ!!”

 

“…อาจจะสายไปหน่อยที่ถามแบบนี้นะ แต่แบบนี้น่ะดีแล้วเหรอ?”
“หือ? อะไรเหรอ?”
“ที่เธอตามฉันมาแบบนี้น่ะ… อาจจะแปลกหน่อยที่ฉันเป็นคนพูดเองแบบนี้ แต่ฉันค่อนข้างพิเศษนี่นา”
“รู้ตัวอยู่ด้วยเหรอเนี่ย?”

 

รู้ตัวดีเลยล่ะ

 

“อือ~ แต่ว่า… ฉันคิดว่าถ้าตามฟิลิสจังมาแบบนี้น่ะ มันน่าสนุกกว่านี่นา~”
“…แค่นั้นเลยเหรอ?”
“อื้อ แค่นั้นแหละ”

 

…เป็นคนที่แปลกจริงๆ เลยนะ เธอเนี่ย

 

เอาเถอะ ถ้าเธอตามฉันมาขนาดนี้แล้ว ก็คงเพราะพวกเราสนิทกันมานานมากแล้วล่ะนะ

ไม่ใช่ว่าฉันจะยอมฟังเจ้าพวกนั้นหรอกนะ แต่… ริงกะสำคัญกับฉันมากจริงๆ

 

ฉันจะปกป้องเธออย่างดีแน่นอน

[WN] การกวาดล้างมนุษยชาติของเจ้าหญิงแวมไพร์กับอดีตผู้กล้า

[WN] การกวาดล้างมนุษยชาติของเจ้าหญิงแวมไพร์กับอดีตผู้กล้า

Score 10
Status: Completed
เซนโจ โยนะ เด็กหญิงที่ถูกกลั่นแกล้งอย่างหนัก ได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุแก๊สระเบิด หลังจากนั้น ด้วยความช่วยเหลือของเทพชั่วร้าย อิซึสึ เธอก็ได้มาเกิดใหม่เป็นลูกสาวของผู้นำเผ่าแวมไพร์ [ลีน บลัดลอร์ด] ชีวิตอันสงบสุขกำลังรอเธออยู่ รายล้อมไปด้วยครอบครัวและเพื่อนพ้องที่รักเธอ สิ่งที่เธอต้องการมาโดยตลอดจากชาติก่อน ... แต่เวลาเหล่านั้นก็ต้องสิ้นสุดลง จากการกวาดล้างเผ่าพันธุ์แวมไพร์ด้วยน้ำมือของพวกมนุษย์อย่างไร้เหตุผล “อา เข้าใจแล้ว ชีวิตของฉันต้องพังทลายเพราะว่ามีพวกมนุษย์อยู่งั้นสินะ” อีกด้าน มีเด็กสาวที่ถูกมองเป็นตัวน่ารำคาญในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เธอได้รับ [คุณสมบัติของผู้กล้า] พร้อมทั้งพรสวรรค์และศักยภาพอันล้นเหลือ แต่จิตใจของเธอกลับถูกทำลายลงด้วยน้ำมือของพวกมนุษย์ เพื่อล้างสมอง และเปลี่ยนเธอเป็นอาวุธมีชีวิต “จริงๆ แล้ว...ไม่อยากปกป้องพวกมนุษย์ซักหน่อย เราไม่ได้อยากเป็นผู้กล้า…” และพวกเธอผู้เกลียดชังต่อมนุษย์ ก็กลายมาเป็นภัยพิบัติต่อมนุษยชาติ นี่คือเรื่องราวของเด็กสาว 2 คนที่ชีวิตต้องถูกทำลายด้วยน้ำมือของมนุษย์ และสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตไป เหลือเพียงแค่ชีวิตของตัวเอง และพวกเธอจะใช้ทุกวิถีทางเพื่อล้างแค้นและกวาดล้างมนุษยชาติให้สิ้น

Options

not work with dark mode
Reset