“ค- คืนก่อนเทศกาล…? อ- อะไร นี่จะทำอะไรกันแน่?”
เราอดตื่นเต้นที่เห็นพ่อถามเราโดยที่ตัวสั่นไปทั้งตัวแบบนั้นได้เลย ตอนนี้ เราฉีกยิ้มกว้างเลยล่ะ
“ไม่จริงน่า ก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอคะ! …เราก็กำลังจะฆ่าทุกคนในหมู่บ้านนี้ทิ้งให้หมดไงล่ะ”
งั้น ก็บอกอีกครั้งนึงก็แล้วกัน
…อา เยี่ยมไปเลยนะ ต้องขอบคุณท่านจอมมารจริงๆ เลยค่ะ
ความกลัว หวาดผวา ความสับสน อารมณ์ในแง่ลบพวกนี้แผ่ออกมาจากทั้งสองที่อยู่ตรงหน้าเราเลย
“ด- เดี๋ยว… เดี๋ยวก่อนนะ ใจเย็นๆ ก่อนนะ พวกเราเสียใจกับเรื่องที่เราเคยทำไว้กับแกนะ เราพูดจริงๆ นะ! เพราะงั้น ให้โอกาสพวกเราซักครั้งนึงได้มั้ย!? มาอยู่ด้วยกันอีก…”
…น่ารำคาญจริงๆ ช่วยหยุดพูดเรื่องนี้ซักทีจะได้มั้ยเนี่ย
“ก็เคยบอกแล้วนี่ว่าไม่มีทางน่ะ ตอนนี้เราอยู่ภายใต้การคุ้มครองของท่านจอมมาร และเรามีคนที่เรียกว่า [ครอบครัว] ได้อย่างเต็มปากมากกว่าพวกคุณด้วย อีกอย่าง ก่อนที่เราจะเป็นผู้กล้าน่ะ เราก็อยู่ด้วยกันมามากเกินพอแล้วไม่ใช่หรือไงคะ”
“ม- มาลองอีกซักทีนึงเถอะนะ…”
“เราเข้าใจค่ะ… และที่คุณบอกให้เรามาอยู่ด้วยน่ะ… หมายความว่าพวกคุณยังรักเราอยู่หรือเปล่าคะ? ถ้าเรากลับมาอยู่ที่นี่ บางที คุณแม่ที่อารมณ์ไม่มั่นคงอาจจะกลับมาดีขึ้นก็ได้ …นั่นคือสิ่งที่คุณคิดไม่ใช่หรือไง? ท้ายที่สุดแล้ว ก็ยังคิดจะใช้ประโยชน์จากเราอีกงั้นสินะ”
“เรื่อง แบบนั้นน่ะ…”
“อ่า― โธ่― หุบปากซักที หนวกหู! เราไม่ได้มาที่นี่เพื่อคุยเรื่องไร้ประโยชน์พวกนี้ซักหน่อย… ออกมาเลย!”
พอเราเรียก ก็มีร่างนึงปรากฏอยู่ข้างหลังเรา และคุกเข่าลง
ทหารจากหน่วยลับที่คอยอยู่กับเราตลอดเวลานั่นเอง
“ต้องการให้ช่วยอะไรเหรอครับ? ท่านโยมิ”
“เดี๋ยวเราจะไปบอกให้ซากุระคุงช่วยกางเวทคุ้มครองให้ ช่วยใช้เวทผูกมัดกับ 2 คนนี้แล้วจับกุมเอาไว้หน่อยนะคะ”
“เข้าใจแล้วครับ {โฮลด์ (จับกุม)}”
“อ๊ะ…!”
“กรี๊ด…!”
“งั้น เดี๋ยวเราจะไปที่ๆ ซากุระคุงอยู่ ช่วยพาพวกเขาตามมาด้วยนะคะ”
“ตามความประสงค์ครับ”
พอพวกเราไปถึงเนินเขาใกล้ๆ ซากุระคุงก็รออยู่ที่นั่น พร้อมกับคทาราชัน ฮาติในมือ
“อะ… คุณโยมิครับ…”
“ขอโทษนะ มาช้าไปหน่อย ช่วยกางบาเรียให้ทีนะ?”
“ค- ครับ…”
พอซากุระคุงวาดไม้คทาของตัวเอง บาเรียที่แข็งแกร่งก็ปรากฏขึ้นล้อมรอบหมู่บ้านเอาไว้ทันที
สมกับที่เป็นซากุระคุงเลย ทีนี เจ้าพวกชาวบ้านในหมู่บ้านนี้ก็ไม่มีทางหนีได้อีกแล้ว
“เออคือ… คนพวกนี้ คือ… ของคุณโยมิ…”
“พ่อแม่ทางสายเลือดน่ะ งั้น ซากุระคุง ช่วยใช้เวทลมจัดที่นั่งพิเศษให้ 2 คนนี้ได้เห็นชัดๆ จากบนฟ้าทีนะ”
“ค- ครับ…”
“ด- เดี๋ยว… นี่จะทำอะไรกันแน่น่ะ…”
“ม- ไม่นะ… ช่วยด้วย…”
“เมื่อกี้ ว่าอะไรหรือเปล่าคะ? ก็บอกแล้วนี่ว่าจะฆ่าทุกคนในหมู่บ้านนี้ให้หมดน่ะ …เราก็แค่จะให้คุณพ่อกับคุณแม่ได้ดูก็เท่านั้นเองค่ะ เราอยากให้ได้เห็นว่าลูกสาวของพวกคุณเติบโตไปขนาดไหนแล้วน่ะ!”
“นี่… เดี๋ยวก่อน…”
“งั้น จะไปล่ะนะ เดี๋ยวจัดการให้เสร็จเร็วๆ แล้วกัน แต่ถ้าช้าก็ขอโทษไว้ล่วงหน้านะ ซากุระคุง”
“ม- ไม่หรอกครับ… โชคดีนะครับ…”
…พอได้มาเดินตามทางแบบนี้ ถึงจะจำหมู่บ้านนี้ไม่ได้แล้ว แต่ขาก็พาเราเดินไปเองเลย
จะเรียกว่าเดจาวูก็คงได้ล่ะมั้งนะ ถึงจะจำไม่ได้ แต่ก็รู้สึกได้ว่าไม่ได้เห็นภาพนี้เป็นครั้งแรก
ระหว่างที่เดินไปเรื่อยๆ ก็มายืนอยู่หน้าบ้านหลังนึง
พอเราเหลือบมองไปที่ด้านบน… อื้อ อยู่ตรงนั้นทั้งคู่เลย
เขามองเราด้วยสีหน้าที่ดูแย่และหดหู่มากๆ
ถ้างั้น จะได้ให้พวกเขาเห็นได้ง่ายๆ ฟันเพดานทิ้งไปก่อนเลยก็แล้วกัน
“{ฟิสิคอลบูสท์ (เสริมแกร่งทางกายภาพ) ― คมดาบบิน} ฟู่ว”
พอเราแกว่งดาบ เพดานก็ถูกฟันไปง่ายๆ เหมือนปาดเนยเลย
“อ- อะไรน่ะ!? เกิดอะไรขึ้น!?”
แล้วก็มีผู้ชายวัยรุ่นคนนึงพุ่งตัวออกมา ―――
“เห อย่าเข้ามาเฉียดท่านมีอาซี่!”
“อะไรของแกเนี่ย ไสหัวไปซะ!”
“――― !?”
“อ้า! นี่ฝีมือใครฟะเนี่ย? …ไม่สิ ไม่ใช่แบบนั้นหรอก บ้าเอ๊ย ทำไม…”
เจ้านี่คือ… ใครกัน เมื่อตอนนั้น?
…งี้เอง จำได้แล้ว หมอนี่เป็นหนึ่งในพวกลูกไล่ของมีอาสินะ
ตอนก่อนที่เราจะมีสเตตัส หมอนี่นี่ทั้งทำร้ายทั้งรังแกเราเอาไว้เยอะเลยนี่นา
“…รายที่ 1”
“โอ้ย คนตรงนั้นน่ะ เพดานนี่มัน……”
หัวเจ้านั่นถูกตัดกระเด็นก่อนที่จะทันพูดอะไรด้วยความเร็วสูงลิบ
“…ต่อ ไป”
“หนีไป! ทุกคนรีบหนีเร็ว!”
“ใครก็ได้! ใครก็ได้ช่วยที!”
เราได้ยินเสียงพวกนั้นดังมาจากทางด้านบน แต่ไม่มีชาวบ้านซักคนออกมาเลย
มันแน่อยู่แล้ว เวทลมของซากุระคุงน่ะควบคุมทิศของเสียงได้ เพราะงั้น ก็มีเราเท่านั้นล่ะที่จะได้ยินเสียงนั้นน่ะ
รายต่อไปก็… นั่นไง
“หือ? นี่แม่หนู มายืนอยู่แถวนี้คนเดียวกลางค่ำกลางคืนแบบนี้น่ะ…”
“หา?…อะไรของแก? ถ้าเป็นมีอาจัง ฉันก็คงให้ฟรีล่ะนะ… จริงสิ แกเองก็จ่ายในส่วนของมีอาจังด้วยเลยก็แล้วกัน”
“…มันไม่ดีนะ……เอ๊ะ”
ฟันขวางกลางลำตัว
“อุ- อุหวาาาาาา!”
“คิย้าาาาาาาาา!?”
…นี่ถ้าเราไม่ต้องฟังด้วยจะดีกว่ามั้ยนะ?
ไม่สิ ปล่อยไว้แบบนี้ก็ดีแล้วนี่เนอะ สำหรับคนที่ชอบความสิ้นหวังของมนุษย์อย่างเราแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับมุมมองล่ะนะ ขนาดเสียงกรีดร้องยังเป็นเหมือนรางวัลเลย
“เอาล่ะ เร่งจังหวะกว่านี้หน่อยแล้วกัน”
“หืม? เธอเป็นคร-… กั๊ก!”
นายพรานที่ตอนนั้นอยู่ๆ ก็เข้ามาเตะเรา
“อาระ? เธอตรงนั้นน่ะ กำลังจะไป-… อุก!”
ป้าที่ชอบจ้องเราแล้วพูดจาดูถูกเราอยู่ตลอด
“โอโห! น่ารักจังเลย! นี่ เธอน่ะ… อั๊ก!”
ผู้ติดตามอีกคนนึงของมีอา
รอบๆ นี่ เริ่มมีชาวบ้านเห็นการฆาตกรรมที่เกิดขึ้น และก็มีคนเริ่มจะหนีแล้ว
“อุหวาาาา! ยัยบ้านั่นมันอะไรฟะนั่น!?”
“เห้ย! รีบหนีเลย เร็ว… อุก!?”
“อ- อะไรเนี่ย!? ทำไมฉันออกไปไม่ได้!!”
ที่ออกไปไม่ได้ ก็เพราะมีบาเรียของซากุระคุงอยู่ไงเล่า
“…ไปตายซะ”
เราฆ่าพวกคนที่พยายามจะหนี พวกที่ยังไม่โดนฆ่าก็หนีไปอีกทางนึง
“บ- บ้าเอ๊ยยยย! ข้าไม่ยอมมาโดนฆ่าทั้งๆ ที่ไม่ทำอะไรแบบนี้หรอกเฟ้ยยยยย!!”
มีผู้ชายกล้าหาญคนนึงถือจอบวิ่งมาทางเราด้วย
“เปล่าประโยชน์”
“หะ…?
ฆ่าทุกคนด้วยการฟันครั้งเดียว แล้วมุ่งหน้าไปที่ต่อไป
“…ฮุฮุ”
อ่า
“…ฮุฮุฮุอะฮะฮะฮะ”
สุดยอดไปเลย
“…อ๊าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!! …มากกว่านี้ ตายไปให้มากกว่านี้สิ! กลัวให้มากกว่านี้! สิ้นหวังยิ่งกว่านี้! …ฆ่ามันให้หมดทุกคน ไม่ให้เหลือแม้แต่คนเดียว!! อ๊าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!!”
นี่ทุกคนในกองทัพจอมมารกำลังดูอยู่หรือเปล่านะ?
สงสัยจังว่าทุกคนได้ดูการแสดงแสนพิเศษครั้งนี้กันอยู่มั้ย!?
“อะ! นึกออกแล้ว ยัยนั่นที่ชอบเขวี้ยงหินใส่เรานี่เอง”
“กรี๊ดดด! เดี่ยวก่อน ยกโทษให้-… ก๊าาาา”
“อ่า คุณเคยใจดีกับเรานี่นะ… แต่สุดท้าย ก็เป็นตาแก่ที่ขายเราแลกกับเงินอยู่ดี!”
“ด- เดี๋ยวก่อนสิ! นี่พูดถึงเรื่องอะไร-”
“อ๊าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! พวกแกทั้งหมดน่ะ ตายไปกันไปซะได้นั่นแหละดี! ตายไปให้หมด! หมู่บ้านที่สร้างแต่ความเจ็บปวดให้เราน่ะ ตายไปพร้อมกับความสิ้นหวังแบบนั้นกันให้หมดนั่นแหละ! อาฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! อ๊าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
“อะฮะฮะฮะฮะฮะฮะ! อ๊า~ รู้สึกดีจังเลย! ถ้างั้น ต่อไปก็… อาเระ?”
…พอรู้ตัวอีกที สัญญาณชีวิตทั้งหมู่บ้านก็หายไปหมดแล้ว เหลือแต่พ่อแม่ทางสายเลือดของเราบนฟ้าเท่านั้นเอง
“…จบแล้วเหรอเนี่ย น่าเบื่อจัง แต่ว่า ช่างเถอะ! ยังมีจานหลักอยู่นี่นะ!”
“อา… คือ เออคือ… คุณโยมิ… เหนื่อยหน่อยนะ ครับ”
“ขอบใจนะ ซากุระคุง! ช่วยพา 2 คนนั้นลงมาหน่อยได้หรือเปล่า?”
“ค- ครับ!”
ทั้งคู่ที่ได้เวทมนตร์ของซากุระคุงค่อยๆ พาตัวลงมา ทั้งหน้าซีด ทั้งดูพร้อมจะตายได้ทุกเมื่อเลย
“นี่! นี่! คุณพ่อค่ะ! คุณแม่ค่ะ! ได้ดูหรือเปล่าคะ!? เห็นมั้ยล่ะคะว่าเราโตขึ้นขนาดไหนแล้ว!? เราทำหน้าที่ในฐานะกองทัพจอมมารได้อย่างสมบูรณ์ และฆ่าทุกคนในหมู่บ้านนี้ได้เรียบร้อยเลยไงล่ะคะ!!”
“อึก… อ๊าาา!”
“ฮึก… ฮึ-… อุ๊บ”
…อะเระ เป็นอะไรไปน่ะ? คลื่นไส้ขึ้นมาเหรอ
อ๋า! แบบนี้นี่เอง! ถ้าเป็นชาวบ้านทั่วไปที่ไม่เคยเห็นความเป็นไปในสงครามมาก่อน นี่คงเป็นปฏิกิริยาปกติเวลาที่ได้เจอกับศพกองขนาดนี้สินะ
“นี่ นี่ อย่าเพิ่งอาเจียนในเวลานี้สิคะ ตอบคำถามเราก่อนสิ ตอนนี้รู้สึกยังไงบ้างคะ? นี่ ตอนนี้รู้สึกยังไงบ้างคะ? คิดยังไงบ้างล่ะคะ ที่ลูกสาวของตัวเอง ฆ่าทุกคนในหมู่บ้านที่ตัวเองอยู่ เพราะมีตัวเองเป็นต้นเหตุน่ะ!?”
“ฮึก… กะ…”
“ช- ช่วย…”
“โธ่ ตอบคำถามเราสิคะ… ที่จริง ถ้าคุณพ่อกับคุณแม่ไม่ขายเราไปตั้งแต่แรก เรื่องพวกนี้ก็ไม่ต้องเกิดขึ้นหรอกนะคะ รู้หรือเปล่า? เป็นความผิดของพวกคุณ 2 คนเลยที่มัวแต่เห่อความสวยของมีอา และสนใจเราแค่ว่ามีสเตตัสดีน่ะ ใช่มั้ยคะ? อะไรที่พวกคุณทำไว้กับเรา มันนำมาซึ่งสถานการณ์ตอนนี้นี่แหละค่ะ”
“ย- อย่าพูดอะไรบ้าๆ น่า… เจ้า ปีศาจนี่…”
“เอ๋ ขอบคุณนะคะ การทำกับเราเหมือนเป็นเผ่ามารเนี่ย เป็นคำชมที่ดีที่สุดสำหรับเราเลย… เอาล่ะๆ เดี๋ยวเราต้องไปเตรียมตัวสำหรับเรื่องพรุ่งนี้ด้วย เพราะงั้นก็จะรีบจัดการพวกคุณทั้งคู่ในไม่ช้านี่แหละ”
“อึก…!?”
“อา เรื่องที่คิดจะหนีน่ะ ลืมไปเลยจะดีกว่านะ มีไม่กี่คนในโลกหรอกที่หนีจากเรา อดีตผู้กล้าที่ปัจจุบันเป็นนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดในกองทัพจอมมารน่ะ”
“ก-… กองทัพจอมมาร… แข็งแกร่งที่สุด…!?”
อ่า เป็นวันที่ดีอะไรแบบนี้นะ
หลังจากนี้ ต้องไปแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้งต่อท่านจอมมารแล้วล่ะ
“โอ๊ะ แต่ก่อนอื่นเลย… เราน่ะอยากเห็นนะคะ คุณพ่อคะ คุณแม่คะ มากกว่านี้! มาาากกว่านี้อีก! เราอยากเห็นสีหน้าสิ้นหวังของพวกคุณน่ะ ซากุระคุง ช่วยเร่งความคิดของพวกเขาทั้งคู่หน่อยนะ? นั่นไง แบบที่ลีนขอให้ซากุระคุงช่วยตอนที่เธอฆ่าผู้กล้าเมื่อ 4 ปีก่อนน่ะ”
“อะ ครับ… ได้เลยครับ”
“เอาล่ะ จากนี้ไป พวกคุณทั้งคู่จะถูกฆ่าในขณะที่ความคิดถูกเร่งไป 1 ล้านเท่าเลย เราไม่ได้มีงานอดิเรกชอบทรมานเหยื่อ เพราะงั้นเราก็จะตัดหัวพวกคุณออกแบบเดียวกับที่เราตัดหัวมีอาเลยแล้วกัน… ในห้วงความคิดที่ถูกเร่งน่ะ เราคิดว่า ความเจ็บปวดอย่างกับอยู่ในขุมนรกที่อยากจะตายแค่ไหนก็ตายไม่ได้น่ะกำลังรออยู่ เพราะงั้น เตรียมใจไว้ได้เลย! งั้น ก่อนตาย มีอะไรอยากจะสั่งเสียก่อนหรือเปล่าคะ?”
“ด- เดี๋ยว… เดี๋ยวก่อนสิ! มันเป็นเรื่องเลวร้ายมากจริงๆ! พ่อผิดไปแล้ว! พ่อสำนึกกับสิ่งที่ทำไปนะ! พ่อรู้สึกผิดมากนะที่ขายลูกไปในวันนั้นน่ะ! เพราะงั้น พ่อขอร้อง! ให้โอกาสพ่อซักครั้งได้แก้ไขมันเถอะนะ!”
“แม่เองก็ด้วยนะ… แม่เองก็ ไม่เคยลืมลูกเลยนะ จ- จริงๆ นะลูก! แม่ไม่เห็นด้วยตั้งแต่แรกแล้ว! เรื่องที่จะขายลูกน่ะ! …แต่ ตานี่น่ะ! เพราะงั้น ช่วยแม่ด้วยนะลูก!”
“หา!? นี่พูดอะไรของแกฮะ!! แกไม่ใช่หรือไงที่บอกให้ขายลูกน่ะ!! ลูกต้องช่วยพ่อด้วยนะ…”
…น่ารังเกียจ
น่ารังเกียจจริงๆ
“…งั้น เราจะจำคำสั่งเสียพวกนั้นเอาไว้นะคะ ถ้างั้น คงได้เวลาบอกลาแล้วสินะ”
“อุหวาาาาา! เดี๋ยวก่อนนนนน! ช่วยรอก่อนเถอะ!! อย่า! อย่าน้าาาา!”
“ขอร้องล่ะนะ! หยุดเถอะ! พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกันนะ!? เธอจะฆ่าพ่อกับแม่ของตัวเองจริงๆ เหรอ!?”
“…สำหรับเราในตอนนี้น่ะ ครอบครัวของเราคือทุกคนในกองทัพจอมมารต่างหาก เราไม่เคยคิดว่าพวกคุณเป็นครอบครัวมาตั้งแต่แรกแล้วล่ะ… ซากุระ ช่วยทีนะ”
“กรี๊ดดดดดด! หยุดน้า…”
“{ร่ายสองเป้าหมาย เอนเชนท์ • เบรน แอคเซลาเรชั่น (เสริมกำลัง • เร่งการรับรู้เวลา)}”
“งั้น คุณพ่อ คุณแม่ ถึงพวกคุณอาจจะไม่ได้ยินอีกแล้วก็เถอะ แต่ว่า… ลาก่อนค่ะ”
หลังจากที่พอใจกับหัวของพ่อกับแม่ที่ตายแล้วพร้อมกับสีหน้าที่เต็มไปด้วยความปวดร้าวและความสิ้นหวัง เราก็ขอให้ซากุระคุงช่วยเผาหมู่บ้านนี้ที
เท่านี้ ก็ไม่เหลือที่ให้เรา ‘ในฐานะมนุษย์’ กลับไปอีกแล้ว
แต่เราเองก็ไม่ได้รู้สึกผูกพันอะไรกับที่นี่มาตั้งแต่แรกอยู่แล้วก็เถอะ
“…คุณ โยมิ? เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ?”
“เอ๊ะ? …อือ ไม่มีอะไรหรอก …กลับกันเถอะ กลับ ‘บ้าน’ ของพวกเราน่ะ”
“…ครับ”
เราหันหลังให้หมู่บ้านที่เหลือแต่ซาก และถูกเผาไหม้จนไม่เหลือ ก่อนจะถูกลบหายไปจากแผนที่อย่างสิ้นเชิง
เราควรจะไปอยู่ที่นั่น กลับไปหา [ครอบครัว] ที่แท้จริงของเราน่ะ