S.P.P: บทที่ 324: มันก็แค่นั้น!
เวสต์บลู,บนเกาะที่เงียบสงบแห่งหนึ่ง
เกาะแห่งนี้นั้นเงียบสงบเป็นอย่างมาก แต่ดูเห มือนว่าภายในป่าทึบนั้นจะมีสัตว์ร้ายอยู่ตัวหนึ่งที่ทําให้สัตว์ตัวอื่นๆรู้สึกหวาดกลัวอาศัยอยู่ระดับของสัตว์ร้ายตัวนั้นดูจะสูงกว่าสัตว์ตัวอื่นๆอย่างชัดเจนดูได้จากร่างกายที่กําลังสั่นเทาของพวกมัน
ทันใดนั้นเองเกาะที่เงียบสงบก็ได้ปรากฏเสียงร้องคํารามดังก้องไปทั่วทั้งเกาะ
“โฮกกก!”
เสียงร้องคํารามของมันนั้นดังมากจนเปลี่ยนกลายเป็นคลื่นเสียงที่สามารถสั่นสะเทือนพื้นดินบนเกาะแห่งนี้ได้เหล่าฝูงนกต่างก็บินขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยความแตกตื่น
“เงียบ! แกจะคํารามหาพระแสงอะไร?”
แต่อย่างไรก็ตามเสียงคํารามนั้นก็ยังคงดังออกมาอย่างต่อเนื่อง
“โฮกกก!”
ในตอนนั้นเองภายในป่าทึบก็ได้ปรากฏร่างที่มีความสูงถึง 100 เมตรขึ้นมาทีละนิดทุกครั้งที่มันเคลื่อนไหวเกาะทั้งเกาะก็ถึงกับสั่นสะเทือน
มันมีปีกที่กว้างถึง 300 เมตรลําตัวของมันเป็นสีดําเงาสนิทผิวหนังของมันดูราวกับเหล็กกรงเล็บของมันเองก็ใหญ่ราวกับเนินเขาขนาดย่อมๆแถมยังมีความแหลมคมราวกับคมดาบลมหายใจที่ถูกปล่อยออกมาจากศีรษะที่คล้ายกิ้งก่านั้นร้อนแรงเป็นอย่างมาก
ถ้ามองจากระยะไกลจะเห็นได้เลยว่าร่างกายของมันนั้นใหญ่เกือบถึงหนึ่งในหกของเกาะแห่งนี้มันยืนอยู่ตรงนั้นราวกับภูเขาไท่ซาน
และถ้ามีมนุษย์เผลอขึ้นมาบนเกาะนี้แล้วพบกับมันเข้าละก็เขาจะต้องอุทานคําๆนี้ออกมาอย่างแน่นอน “มังกร!”
เพราะสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ตัวนี้นั้นมีรูปลักษณ์ที่เหมือนกับมังกรไม่มีผิด!
มันมีมังกรอาศัยอยู่บนโลกนี้จริงๆ!
“กาเบรียล! ตัวนายใหญ่ขนาดนี้แล้วพวกเราจะออกไปได้ยังไง?”
ในตอนนั้นเองจู่ๆก็ได้มีเสียงตะโกนดังขึ้นมาจากบนไหล่ขวาของมังกรตัวนั้น ถ้ามองเข้าไปใกล้ๆละก็จะพบเข้ากับร่างกํายําร่างหนึ่งชายคน นั้นมีส่วนสูงประมาณสามเมตรทั่วทั้งร่างกายของเขานั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยมัดกล้าม ชายผู้นี้กับมังกรตนนั้นช่างเหมาะสมกันจริงๆ!
ทุกส่วนของร่างกายของเขาราวกับสลักคําว่า“พลัง!”เอาไว้
“โฮกกกก!”
กาเบรียลได้ร้องคํารามก่อนที่ร่างกายของมันจะลดขนาดลงมาอย่างช้าๆ
เพียงพริบตาเดียวร่างของมันก็ได้หดเล็กลงจนมีความสูงเหลือเพียง 30 เมตรและปีกของมันก็กว้างเพียง 100 เมตรเท่านั้น
“น่าจะได้แล้ว!”
ชายคนนั้นได้กล่าวออกมาด้วยความพึงพอใจ
“เจสัน,อย่าให้มันมากนักฉันพึ่งจะทําพันธสัญญากับนายนะ!”
กาเบรียลได้คํารามลั่นออกมาด้วยความไม่พอใจ
มังกรตัวนี้พูดภาษามนุษย์ได้! มันเป็นอะไรที่น่าตกตะลึงเป็นอย่างมาก
แต่ดูเหมือนว่าเจสันจะไม่รู้สึกแปลกใจแม้แต่น้อยเขาทําเพียงแค่ยิ้มเท่านั้น
“กาเบรียลตามประเพณีของตระกูลนายการที่ฉันสามารถเอาชนะนายได้นั่นหมายความว่าในตอนนี้ฉันคือเจ้านายของนายเพราะฉะนั้นนายต้องเชื่อฟังฉัน!”
“และถ้านายไม่ยอมเชื่อฟังฉันละก็ฉันจะเอาหัวของนายไปทําเป็นเก้าอี้!”
เมื่อได้ยินคําพูดของเจสัน กาเบรียลก็ได้ร้องคํารามออกมาด้วยความโกรธ
“ไอ้มนุษย์น่ารังเกียจ!”
“ไม่ต้องกังวลไปหรอกน่ารีบบินขึ้นไปเร็วเข้าฉันอุตส่าห์ทนอยู่ที่นี้มาตั้งสี่ปี!”
เจสันได้ตะโกนออกมาด้วยความอัดอั้น
“ฉันไม่ยอมออกไปหรอก!แม่ของฉันบอกฉันเสมอว่าโลกภายนอกมันอันตราย!”
กาเบรียลได้ตะโกนแย้งขึ้นมา
“เพราะฉะนั้นฉันไม่ยอมออกไปอย่างเด็ดขาด!”
ใบหน้าของเจสันได้เปลี่ยนไปเป็นดํามืดในทันที
“อย่ามาพูดอะไรไร้สาระ! รีบบินขึ้นไปได้แล้วแม่นายจะบอกอะไรนายฉันไม่สนตอนนี้ฉันคือเจ้านายของนาย!”
“และอีกอย่างนายไม่อยากจะออกไปเที่ยวเล่นที่โลกภายนอกแล้วหรือไง?”
กาเบรียลนั้นลังเลอยู่นานแต่สุดท้ายมันก็ได้ทําตามคําชักชวนของเจสัน
ในตอนนั้นเองในขณะที่หนึ่งคนและหนึ่งมังกรกําลังโบยบินอยู่บนท้องฟ้า นกนางนวลส่งข่าวตัวหนึ่งก็ได้ทิ้งหนังสือพิมพ์พร้อมกับใบนําจับลงมาตรงหน้าของเจสัน
เจสันได้หยิบมันขึ้นมาพร้อมกับคลี่มันออกด้วยความสงสัย
“นี่มัน!?”
เมื่อเห็นเนื้อความที่อยู่ภายในดวงตาของเจสัน ก็ได้หดแคบลงมาในทันที
หมู่เกาะชาบอนดี้,ที่บาร์เหล้าพูดเลือดของแชค
“เธอนี่ชอบทําให้ฉันประหลาดใจจริงๆ!”
เรย์ลี่ได้วางหนังสือพิมพ์ในมือลงก่อนที่จะยกแก้วเหล้าขึ้นมาอย่างช้าๆ
“โอ้หนุ่มน้อยโรแกนออกมาจากอิมเพลดาวน์ได้แล้วงั้นหรอเนี่ย?”
แชคก็ได้กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ
“ใช่แล้ว! ในตอนที่ได้ยินครั้งแรกฉันเองก็ประหลาดใจ”
เรย์ลี่ได้กล่าวออกมา
“แล้วหกคนนั้นล่ะ?”
แชคก็ได้กล่าวถามขึ้นมา
“พอได้ยินข่าวของโรแกนพวกเขาก็เอาแต่ตะ โกนว่าจะไปที่เวสต์บลู”
เรย์ลี่ได้กล่าวออกมาพร้อมกับยกมือขึ้นมากุมขมับ
“ฮ่าๆๆๆ, ฉันไม่ค่อยแปลกใจกับปฏิกิริยาของพวกเขาเท่าไหร่ ว่าแต่สี่ปีที่ผ่านมานี้พวกเขาพัฒนาไปถึงไหนกันแล้วภายใต้การฝึกฝนของคุณ?
“พวกเขาทั้งหกคนไม่ได้มีพรสวรรค์ที่มากมายอะไร แต่ฉันคิดว่าถ้าเป็นภายในครึ่งแรกของแกรนด์ไลน์พวกเขาก็คงไม่จําเป็นต้องกลัวอะไร!”
เรย์ลี่ได้กล่าวและถอนหายใจออกมา
“ฮ่าๆๆ,ปล่อยพวกเขาไปเถอะพวกเขารอมนมาตั้งสี่ปี แล้วก็เมื่อไหร่ที่คุณเจอหนุ่มน้อยโร แกนก็อย่าลืมให้เขามาจ่ายค่าที่พักและค่าอาหารตลอดสี่ปีที่ผ่านมาด้วยล่ะ”
แชคก็ได้กล่าวออกมาพร้อมกับคํานวณราคาต่างๆออกมาอย่างรวดเร็ว
“ฉันไม่ลืมหรอกน่า!”
เรย์ลี่ได้กล่าวออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม
ในขณะที่เรย์ลี่กําลังพูดคุยกับแชคกี้อยู่นั้นเองก็ได้มีร่างหกร่างเดินเข้ามาในบาร์พร้อมกับร้องตะโกนออกมาเสียงดัง
“เรย์ลี่,พวกเราจะไปที่เวสต์บลู”
“ใช่แล้ว! พวกเราจะไปหากัปตันที่เวสต์บลู!”
“เขาแบกรับความทุกข์ทรมานอยู่ในอิมเพลดาวน์คนเดียวตั้งสี่ปี เพราะฉะนั้นในครั้งนี้พวกเราจะเป็นฝ่ายปกป้องเขาเอง!”
“ฮึกๆ ฉันคิดว่าฉันจะไม่ได้เจอกัปตันอีกต่อไปแล้วซะอีก!”
“พวกเราจะไปที่เวสต์บลู!”
เรย์ลี่ได้มองมาที่ทั้งหกพร้อมกับโบกมือ
“พวกนายอยากไปไหนก็ไป!”
เมื่อได้ยินคําพูดของเรย์ลี่ทั้งหกก็ได้โห่ร้องออกมาด้วยความดีใจก่อนที่จะหนุนตัวแล้วออกไปจากบาร์
ครึ่งแรกของแกรนด์ไลน์,อาณาจักรอลาบัสต้า
นี่เป็นที่แรกในแกรนด์ไลน์ที่โรแกนเดินทางมาและมันก็เป็นที่ที่เขาได้พบกับคล็อกโคไดล์
ที่ท่าเรือนาโนะฮานะ,บนท่าเรือนั้นมีร่างของชายคนหนึ่งที่มีใบหน้าที่โหดเหี้ยมที่มีรอยแผล อยู่บนใบหน้ากําลังยืนสูบซิการ์อยู่
“ฟูววว”
เขาได้พ่นควันออกมาพร้อมกับหวนนึกถึงบาง
“MR.0 ทุกอย่างพร้อมแล้วขอเพียงแค่คุณสั่งพวกเราจะทําการบุกอาณาจักรอลาบัสต้าในทัน ที”
ในตอนนั้นเองก็ได้มีร่างของชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหาคล็อกโคไดล์และกล่าวรายงานออกมา
“ฟูววว”
คล็อกโคไดล์ไม่ได้กล่าวอะไรออกมาเขาทําเพียงแค่พ่นควันออกมา ก่อนที่จะหันไปพูดกับชายคนนั้นด้วยความเย็นชาว่า
“ไปเอาเรือมาให้ฉัน ฉันจะไปที่เวสต์บลู!”
“คุณพูดว่าไงนะ?” ชายคนนั้นรู้สึกตกใจและไม่เข้าใจในคําพูดของคล็อกโคไดล์ “คุณไม่ต้องการอาณาจักรอลาบัสต้าแล้วงั้นหรอ?”
“ฉันไม่ต้องการมันแล้ว!”
คล็อกโคไดล์ได้กล่าวออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม
รอยยิ้มของเขาทําให้ MR.1 รู้สึกประหลาดใจตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเขาไม่เคยเห็นรอยยิ้มของคล็อกโคไดล์มาก่อนเลยแม้แต่ครั้งเดียว
“คุณล้อเล่นใช่ไหม!?”
“ฉันไม่ได้ล้อเล่น ไปเอาเรือมาฉันจะไปที่เวสต์บลู!”
“ในเมื่อเขากลับมาแล้วอาณาจักรแห่งนี้ก็ไม่สําคัญอีกต่อไป!”
คล็อกโคไดล์ได้ยิ้มออกมาด้วยความตื่นเต้นและความคิดถึง
“เพราะว่าตัวฉันคล็อกโคไดล์คือลูกเรือของกลุ่มโจรสลัดโซล!”
“มันก็แค่นั้น!”