S.PP: บทที่ 311: มนต์ดํา!
สําหรับทุกคนในอาณาจักรแห่งนี้มนต์ดํานั้นนับว่าเป็นเวทมนต์ที่ทรงพลังมาก แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าของชายคนนี้มันกลับไร้ค่า! เอเดนไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น
อาณาจักรบารุตนั้นถือว่าเป็นอาณาจักรที่มีกําลังรบอยู่ในอันดับต้นๆของโลกเลยทีเดียว แม้ว่าเวทมนต์จะเป็นสิ่งที่ยากลําบากในการฝึกฝนแต่เมื่อใดที่สามารถใช้งานมันได้อย่างเชี่ยวชาญแล้วละก็พลังของมันนั้นนับว่าเหนือจินตนาการของมนุษย์ไปมาก
เวทมนต์นั้นมีด้วยกันอยู่หลากหลายประเภท ซึ่งโดยทั่วไปแล้วพวกเขาก็จะแบ่งออกเป็นเวทมนตร์ธาตุ,การเล่นแร่แปรธาตุ,เวทย์ลวงตาแล้วก็มนต์ดําที่เอเดนเชี่ยวชาญ ในหมู่เวทมนต์นั้นมนต์ นับว่าเป็นสิ่งที่น่าหวาดกลัวที่สุด!
มนต์ดํานั่นคือเวทมนต์ที่สามารถควบคุมวิญญาณและอารมณ์ของมนุษย์ได้ แถมมันยังสามารถนําพาผู้คนดําดิ่งลงสู่ความสิ้นหวังราวกับตกนรกได้อีกด้วย
และไม่ว่าจะเป็นผู้ใดนั้นต่างก็มีความมืดอยู่ภายในจิตใจด้วยกันทั้งสิ้น ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากมากที่จะสามารถต่อต้านมนต์ดําได้
แต่สุดท้ายเรื่องที่เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนก็เกิดขึ้น!
“มันเป็นแบบนี้ได้ยังไงกัน!”
หลังจากที่เขาพูดจบวิถีเดรัจฉานก็ได้พุ่งเข้ามาเตะร่างของเขา
“ปัง!”
เอเดนที่เห็นอย่างนั้นก็ได้ทําการเปลี่ยนร่างของตัวเองให้กลายเป็นหมอกสีดําเพื่อให้ลูกเตะของวิถีเดรัจฉานพุ่งผ่านไป
เมื่อเห็นว่าลูกเตะของตนไม่ได้ผลวิถีเดรัจฉานก็ได้ทําการใช้ฮาคิเกราะกับหมัดขวาของเขาเพื่อจัดการกับร่างหมอกของเอเดน
หมอกสีดํานั้นได้ถูกวิถีเดรัจฉานทําลายจนไม่เหลือซาก และในเวลาเดียวกันนั้นเองวิถีเดรัจฉานก็ได้ใช้มือขวาที่เคลือบฮาคิของเขาคว้าจับไปที่ขาขวาของเอเดน
“แครก!”
เมื่อคว้าจับขาขวาของเอเดนได้วิถีเดรัจฉานก็ได้ทําการเหวี่ยงร่างของเอเดน
ร่างของเอเดนนั้นได้กระแทกไปที่เสาหินจนมันพังทลายลงมา
ความเจ็บปวดนั้นได้แผ่ฉานไปทั่วทั้งร่างจนต้องกรีดร้องออกมา แต่ถึงอย่างงั้นเขาก็ยังคงตอบสนองได้อย่างรวดเร็วเขาได้ทําการเปลี่ยนร่างของตัวเองเป็นอสรพิษหมอกสีดําและเลื่อยออกจากเศษซากเสาหินอย่างรวดเร็ว
“บูม!”
และในเวลาเดียวกันกับที่เขาเลื่อยหนีออกมานั้น หมัดของวิถีเดรัจฉานก็ได้พุ่งลงมายังตําแหน่งที่เขาเคยอยู่
“กระสุนเพลิง!”
ในตอนนั้นเองร่างของเอเดนก็ได้ปรากฏขึ้นมา พร้อมกับปลดปล่อยเวทย์เพลิงเข้าใส่ร่างของวิถีเดรัจฉาน
“บูม!”
ลําแสงสีส้มได้พุ่งเข้าไปหาร่างของวิถีเดรัจฉานด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ
ในตอนนั้นเองลําแสงสีส้มก็ได้กระแทกเข้าที่ร่างของวิถีเดรัจฉาน จนร่างของวิถีเดรัจฉานกระเด็นออกไปไกลหลายสิบเมตร ก่อนที่ร่างของเขาจะกระแทกเข้ากับกําแพงที่อยู่ข้างหลัง
ท้องพระโรงนั้นถึงกับสั่นสะเทือน ในตอนนั้นเองเศษก้อนหินขนาดใหญ่ก็ได้หล่นลงมาทับร่างของวิถีเดรัจฉาน
“ข้าไม่รู้หรอกนะว่าทําไมมนต์ดําถึงไม่สามารถทําอะไรเจ้าได้ แต่ดูเหมือนว่าเวทมนต์ธาตุก็ยังคงใช้กับเจ้าได้ผล!”
เอเดนได้กล่าวออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม
ในเมื่อเขาสามารถสร้างความเสียหายให้กับอีกฝ่ายได้แล้ว เขาจึงไม่จําเป็นต้องกังวลอีกต่อไป
ในเวลาต่อมาวิถีเดรัจฉานก็ได้กระโดดออกมาจากเศษซากหินพร้อมกับซัดลูกปัดสีดําออกมาห้าเม็ด
“โมอา โมอา 20 เท่า!”
“ฟื้ววว!”
ลําแสงสีดําห้าเส้นได้พุ่งออกไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว และในตอนนั้นเองมันก็ได้ขยายใหญ่ขึ้นมากลายเป็นกระสุนปืนใหญ่และพุ่งเข้าไปหาเอเดนด้วยความเร็วที่น่ากลัว
“ลําแสงเพลิง!”
เอเดนได้ชี้ไม้คฑาไปข้างหน้าและปลดปล่อยลําแสงสีแดงเพลิงออกมา
ในตอนนั้นเองพลังอํานาจทั้งสองก็ได้ปะทะกัน จนก่อให้เกิดการระเบิดขนาดใหญ่ขึ้นมา เปลวเพลิงนั้นได้กวาดผ่านไปไกลกว่าร้อยเมตร
เพียงพริบตาเดียววิถีเดรัจฉานก็ได้ถูกเปลวเพลิงปิดล้อมเอาไว้
ท้องพระโรงนั้นมีเนื้อที่ที่กว้างขวางมาก มันมีขนาดพอๆกับสนามฟุตบอล
“หิ้ววว”
สายลมได้พัดผ่านเข้ามาจนทําให้เปลวเพลิงลุกโชนขึ้นมาก่อนที่มันจะลุกลามเข้าไปหาวิถีเดรัจฉาน เปลวเพลิงเหล่านั้นกําลังแผดเผาร่างของวิถีเดรัจฉาน
เมื่อเห็นอย่างงั้นวิถีสวรรค์ก็ได้พุ่งเข้าไป เพื่อช่วยเหลือวิถีเดรัจฉานในทันที
แน่นอนว่าเอเดนนั้นเป็นจอมเวทย์ที่แข็งแกร่ง มนต์ดําของเขานั้นนับว่าเป็นอันตรายมากสําหรับมนุษย์ และสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือเอเดนนั้นยังเป็นผู้เชี่ยวชาญเวทมนตร์ธาตุอีกด้วย!
เพียงแค่เวทย์โจมตีทั่วไปนั้นก็สามารถเทียบกับกระสุนปืนใหญ่ของกองทัพเรือได้แล้ว และแน่นอนว่าเวทย์มนตร์ระดับจอมเวทย์นั้นต้องสามารถทําลายเมืองได้อย่างแน่นอน
การต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายในเวลานี้นั้นยังคงเป็นเพียงแค่การหยั่งเชิงกันอยู่เท่านั้น
เพียงห้าวินาทีวิถีสวรรค์ก็ได้มาถึงด้านข้างของวิถีเดรัจฉานแล้ว
“บันโช เห็นอิน!” (หมื่นลักษณ์เหนี่ยวสวรรค์)
เปลวเพลิงที่ล้อมรอบวิถีเดรัจฉานอยู่นั้น ได้ถูกดูดหายไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นทั้งสองก็ได้หันหน้าไปมองเอเดนด้วยใบหน้าที่เย็นชา “ดวงตาของชายทั้งสองคนนั้น..”
เอเดนรู้สึกได้ถึงความลึกลับอะไรบางอย่างได้จากดวงตาของทั้งสอง แต่เนื่องจากว่าเขาไม่เคยเห็นมันมาก่อนเขาจึงไม่ได้พูดอะไรออกมา
“นายไปทางซ้าย เดี๋ยวฉันไปทางขวาเอง!”
วิถีสวรรค์ได้กล่าวออกมาด้วยน้ําเสียงที่เย็นชา พร้อมกับพุ่งไปข้างหน้า
เมื่อพุ่งไปข้างหน้าทั้งสองก็ได้แยกกันไปคนละด้าน ทั้งซ้ายและขวา โดยมีจุดศูนย์กลางคือเอเดน
“กระสุนเพลิง!”
กระสุนเพลิงได้พุ่งเข้ามาหาวิถีสวรรค์อย่างรวด เร็ว แต่วิถีสวรรค์นั้นก็สามารถหลบหลีกมันได้ อย่างง่ายดาย
ด้วยการลิ้งค์กันของการมองเห็น ทําให้พวกเขาสามารถหลบหลีกการโจมตีที่พุ่งเข้ามาได้อย่างง่ายดาย
ความแข็งแกร่งของวิถีเดรัจฉานนั้นไม่ได้แข็งแกร่งเท่ากับที่เคยเป็นมา ดังนั้นการต่อสู้กับเอเดนในระยะไกลจึงกลายเป็นเรื่องยาก
เมื่อกระสุนเพลิงปะทะเข้ากับพื้นดินนั้นพื้นดินก็ได้ทรุดตัวลงไปถึง 20 เมตร และในเวลาเดียวกันนั้นเอง ทั้งสองก็มาถึงตรงตําแหน่งของเอเดนแล้ว
“ฮาคิเกราะ
วิถีเดรัจฉานได้เคลือบฮาคิเกราะกับมือทั้งสองข้าง พร้อมกับปล่อยหมัดออกไปด้วยความดุร้าย
“บันโช เห็นอิน!” (หมื่นลักษณ์เหนี่ยวสวรรค์)
วิถีสวรรค์ได้ยื่นมือขวาออกมา และในเวลาเดียวกันนั้นเองแรงดึงดูดอันน่าสะพรึงกลัวก็ได้ระเบิดออกมา
เมื่อรู้สึกได้ถึงแรงดึงดูดที่น่าสะพรึงกลัว เอเดนก็ได้เปลี่ยนตัวเองเป็นหมอกควันอย่างรวดเร็วเพื่อหลบหนี
แต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นแม้ว่าร่างของเขาจะกลายเป็นหมอกควันไปแล้วแต่แรงดึงดูดนั้นก็ยังคงดูดร่างของเขาได้อยู่ดี
“นี่มันพลังบ้าอะไรกัน!”
เอเดนได้กล่าวออกมาด้วยความตกตะลึง
ภายใต้แรงดึงดูดที่แปลกประหลาดนี้ เขาไม่สามารถใช้พลังใดในการหลบหนีไปจากมันได้เลย
“ปัง! ปัง!”
การโจมตีที่ดุร้ายของพวกเขาทั้งสองนั้น ทําให้เอเดนถึงกับกระอักเลือดออกมาและกระเด็นออกไปไกล
ร่างของเขานั้นลอยกระเด็นออกไปไกลกว่า 100 เมตรก่อนที่ร่างของเขาจะไปกระแทกเข้ากับบัลลังก์จนบัลลังก์ของเขาถูกบดขยี้เป็นชิ้นๆ
ใบหน้าของเอเดนในเวลานี้ดูน่าเกลียดเป็นอย่างมาก
เขาได้ลุกขึ้นมาอย่างช้าพร้อมกับบ่นพึมพําอะไรบางอย่างออกมาอย่างแผ่วเบา
คําพูดที่แปลกประหลาดได้ถูกพ่นออกมาจากปากของเขาอย่างต่อเนื่อง และในตอนนั้นเองจู่ๆอาการบาดเจ็บต่างๆบนร่างกายของเขาก็ได้หายกลับมาเป็นปกติ
“ความแข็งแกร่งของพวกเจ้านั่นเกินความคาดหมายของข้าไปมากจริงๆ!”
“แต่หลังจากนี้พวกเจ้าจะไม่มีโอกาสแบบนั้น อีกแล้ว!”