The Overlord of Blood and Iron ตอนที่ 54: ประสบความสําเร็จในการได้รับกองกําลังระดับ SS
ตอนที่ 54: ประสบความสําเร็จในการได้รับกองกําลังระดับ
มนุษย์ทุกคนล้วนมีความทรงจําที่ไม่ต้องการนึกฟื้นถึงความหลังกันอย่างน้อยก็คนละหนึ่งสิ่ง
แม้แต่คังชอลอิน จอมราชันย์แห่งการนองเลือดผู้ยิ่งใหญ่เองก็มีเช่นกัน
หากคิดถึงเรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นแล้ว หนึ่งในนั้นก็คือการถูกประหารหัวโดยรอสต์ไชลด์คู่ต่อสู้อันเป็นนิรันดร์ แต่เรื่องนี้ยังไม่ถึงกับเป็นเรื่องที่ไม่สามารถบอกกล่าวกับใครได้ บางทีเขาอาจบอกเรื่องนี้แก่ลูเซียหรือภรรยาของเขาในอนาคต
แต่ความทรงจําเลวร้ายที่มีกับ “กองกําลังสุ่ม” เป็นสิ่งที่เขาไม่อาจบอกใครได้อย่างแท้จริง นั่นเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่เขาต้องตกเป็นเหยื่อให้กับใครซักคน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อตอนปีที่สามของการได้เป็นราชัยน์ครั้งก่อน สามเดือนก่อนเกิดสงครามแร็กนาร็อก มันคือตอนที่เขาและโดเรียนได้เข้าไปสํารวจด้วยกันที่ดันเจี้ยนแห่งหนึ่ง
“คอยดูเจ้านั่นไว้ให้ดีล่ะ”
โดเรียนชี้ไปยังสุนัขตัวหนึ่งที่อยู่ในดันเจี้ยนรวมกันกับพวกเขา มันคือสุนัขที่โดเรียนพามาสํารวจร่วมกับเขาในครั้งนี้โดยบอกว่ามันเป็น “เอซ” แห่งการออกค้นหา
“เจ้าคิดที่จะทําอะไรกับลูกสุนัขอ่อนแอเช่นนั้น?”
คังชอลอินไม่มีรสนิยมชมชอบสุนัขตัวเล็กเช่นพุดเดิ้ล, ยอร์กเชอร์เทร์เรียร์หรือชิสุห์ เป็นเพราะเขาไม่ชอบความจริงที่ว่าพวกสัตว์ตัวเล็กเหล่านี้มักเอาแต่ส่งเสียเห่าร้องราวกับว่าพวกมันไม่รู้เลยว่าโลกใบนี้นั้นกว้างใหญ่และน่ากลัวมาก เพียงใดเมื่อเทียบกับโลกของพวกมัน
“หืมม แล้วเจ้าจะแปลกใจถ้าได้รู้คุณค่าและความสามารถที่แท้จริงของเจ้าเพื่อนตัวนี้”
โดเรียนที่มักถูกกวนโทโสอยู่ตลอดพูดด้วยท่าทีภูมิใจ การแสดงออกของเขาชวนให้คังชอลอินรู้สึกรําคาญ
“ไม่ว่าจะมองยังไงเจ้านั่นก็ต้องเป็นกองกําลังระดับ S อย่างแน่นอน”
“เจ้าคาดหวังให้ข้าเชื่อเรื่องแบบนั้นจริงๆน่ะหรือ?”
“เฮ้อ “นักล่าราชันย์ ผู้ยิ่งใหญ่เช่นจอมราชันย์คังชอลอินกลับไม่เห็นคุณค่าที่แท้จริงของเจ้าลัคกี้เสียได้ เฮ้ลัคกี้!” โดเรียนส่งเสียงเรียกสุนัขของตัวเอง
ป้อก บอก
สุนัขที่ชื่อลัคกี้วิ่งเข้าหาโดเรียนด้วยท่าที่ร่าเริงสดใสพร้อมกับส่งเสียงเหาราวกับกําลังขานรับ
แต่ทันใดนั้นลัคกี้ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงไปอย่างกะทันหันและได้พุ่งตัวเข้าไปยังส่วนลึกของดันเจี้ยนเพื่อนําทาง
“เจ้าเรียกสุนัขที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีว่าเป็นกองกําลังระดับ S อย่างนั้นหรือโดเรียน?” คังชอลอินแอบหัวเราะ
“เจ้าคิดจะทําอะไรกับสุนัขที่ไม่มีแม้แต่แสงแห่งมานาเล็ดลอดออกมาแม้แต่น้อยแบบนั้นกันแน่?”
“ความคลั่งไคล้ในการต่อสู้ของเจ้านี้ช่างเหลือเกินจริงๆ แต่เจ้าไม่รู้หรือว่าไม่ใช่ทุกกองกําลังที่จะนําไปใช้เพื่อการต่อสู้?! คิดเรื่องที่เป็นประโยชน์สิ! ที่เป็นประโยชน์!”
“หากเจ้าสุนัขนั่นเป็นประโยชน์จริง เช่นนั้นกองกําลังอื่นๆที่เป็นประโยชน์แก่หน่วยของพวกเขาไม่ต้องฆ่าตัวตายเพื่อความละอายใจเลยหรืออย่างไร?”
“ฮ่ม! ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่ยอมเชื่อข้าเลยงั้นสินะ เช่นนั้นก็จงมองด้วยตาของตัวเองเสียว่าลัคกี้ของข้านั้นน่าอัศจรรย์มากเพียงใด” โดเรียนมั่นใจในตัวลัคกี้เป็นอย่างมากและลัคกี้ก็ไม่ทําให้เขาต้องผิดหวัง
“นี่มันเรื่องบ้าอะไร.?” คังชอลอินรู้สึกประหลาดใจกับผลลัพธ์อย่างมาก
“เห็นแล้วใช่หรือไม่ว่าลัคกี้ของข้านั้นยอดเยี่ยมมากเพียงใด!” โดเรียนพูดแทรกอย่างมีความสุข
“เรื่องแบบนี้มันเป็นไปได้อย่างไรกัน?” ในตอนนี้คังชอลอินกําลังตกใจอย่างแท้จริง
ท้ายที่สุด ผลลัพธ์ที่ลัคกี้นํามานั้นยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก
ลัคกี้พบเส้นทางลับภายในดันเจี้ยนที่เป็นซากปรักหักพังคลุมเครือพร้อมทั้งการเปิดใช้งานด้วยคันโยกที่ซ่อนอยู่ซึ่งนําไปสู่ห้องด้านในได้ด้วยตัวของมันเอง
และข้างในนั้นก็คือ
แหล่งรวมทองคําและอัญมณีอื่นๆ จํานวนมากรวมไปถึงไอเทมที่มีระดับไม่เหมือนใคร
“ฮ่าๆๆ ทีนี้เจ้าก็เห็นแล้วใช่หรือไม่ว่าลัคกี้ของข้านั้นเป็นผู้แสวงหาที่ดีเพียงใด
“ผู้แสวงหา?”
“ผู้แสวงหาขุมทรัพย์และการออกตามล่าหาสมบัติ เจ้านี่จะสามารถตอบสนองต่อสิ่งของหรือทองที่มีอยู่หรืออย่างน้อยก็อยู่ในระดับที่เป็นเอกลักษณ์ หากมีเจ้านี่ติดตัวไปด้วยอยู่เสมอ ข้าสามารถบอกได้เลยว่าข้าจะสามารถนําของออกมาจากดันเจี้ยนและซากปรักหักพังทั่วทั้งทวีปแพนเจียทั้งหมดได้”
“นั่นคือสาเหตุที่เจ้าเรียกมันว่ากองกําลังระดับ S อย่างนั้นหรือ?”
“ใช่แล้ว! เห็นได้ชัดว่ามันคือชัยชนะที่เป็นประโยชน์!”
“แล้วเจ้าไปเจอสุนัขแบบนี้มาจากที่ไหน?” คังชอลอินสอบถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นเป็นอย่างมากว่าเขาไปได้มันมาจากที่ใด เขาไม่สามารถนึกเดาได้เลยว่าสถานที่ใดที่โดเรียนไปได้มันมา
“โอ้ เรื่องนั้นข้าจะบอกเจ้าให้ก็ได้ ถึงอย่างไรมันก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าอัศจรรย์ใจอะไรนัก”
“เจ้าจะบอกข้า?”
“แน่นอน! ข้าได้ลัคกี้มาจากการเลือกซื้อ “กองกําลังสุ่มด้วยทอง 1,500 แห่งเพื่อฆ่าเวลา”
“ข้าไม่รู้ว่าจะมีกองกําลังดีๆแบบนี้ออกมาได้ด้วย”
“นั่นก็ขึ้นอยู่ที่โชคของแต่ละคน ส่วนข้าก็คือคนโชคดีที่ได้ เจ้าลัคกี้ตัวนี้มายังไงล่ะ ฮ่าๆๆ”
“มันฟังดูเป็นเรื่องโกหกสําหรับข้า” คังชอลอินไม่อาจเชื่อในคําพูดของโดเรียนได้
เขาใช้จ่ายทองไป 2,000 แห่งในการซื้อกองกําลังสุ่มแต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับมานั้นมีแต่ก็อบลิน, โนลและสเคลลิเทิน
แน่นอนว่ามันไม่ใช่เพียงแค่เขาคนเดียวเท่านั้นที่ได้รับอะไรที่ไร้สาระ ราชันย์คนอื่นๆเองก็พูดถึงรายการขายขยะชิ้นนี้เช่นกันว่ามันเป็นการเอาเงินไปใช้เล่นแบบเสียเปล่า
ในความเป็นจริงมีราชันย์บางคนที่ยอมทุ่มเงินไปกับมันจนหมดตัว แต่ผลที่ได้รับกลับมานั้นคือความย่อยยับอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
หากโดเรียนปาวประกาศว่าเขาได้รับกองกําลังระดับ S นี้ มาจากการเลือกซื้อกองกําลังสุ่ม แน่นอนว่าจะต้องไม่มีใครเชื่อคําพูดของเขาเป็นอันขาด
“ฮ่าๆๆ สําหรับคนที่จิตใจเมตตาและนิสัยดีเช่นข้ารับรอบว่าจะต้องโชคดีแน่ แน่นอนว่ามันจะต่างออกไป จากคนที่ใจร้ายและปาเลื่อนเช่นเจ้าคังชอลอิน”
การเย้ยหยันในครั้งนั้นได้นําไปสู่จุดเริ่มต้นของความทรงจําที่เป็นดั่งฝันร้ายในยามค่ําคืน
“เจ้าจะบอกว่าข้าไม่มีโชคเพียงเพราะข้าเป็นคนโหดร้ายอย่างนั้นหรือ?”
มันไร้สาระมากสําหรับเขาที่โดเรียนได้รับสิ่งดีๆแบบนี้ จนเผลอเดินไปตกหลุมพลางที่โดเรียนสร้าง
“อย่างที่เจ้าพูด ไม่มีทางที่ซานต้าครอสจะมอบของขวัญให้กับเด็กซน หากเจ้าไม่ใช่คนจิตใจดีเช่นข้า เจ้าก็จะไม่มีทางได้รับกองกําลังระดับ S!”
“เฮ้อ มันช่างไร้สาระที่คิดว่าเจ้าเอาเงินไปเล่นกับการพนันแบบนั้น เงินตั้งมากมายแบบนั้นทําไมไม่เอากลับไปเล่นคาสิโนบนโลกอีกฝั่งแทน”
“โอ้ ข้าเข้าไปสถานที่แบบนั้นไม่ได้หรอก ข้าขึ้นบัญชีดําคาสิโนเกือบจะทุกที่เพราะโชคของข้านั้นมีมากเกินไป ข้าไม่สามารถทําเช่นนั้นได้จริงๆ”
“เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่อเรื่องโกหกอย่างนั้นหรือ?”
“ทําไม? นี่เจ้าโดนคนพูดโกหกใส่มาตลอดทั้งชีวิตเลยหรืออย่างไรกัน? หากได้กลับโลกอีกฝั่งเมื่อไหร่ ข้าจะแสดงให้เจ้าได้เห็นถึงความโชคดีที่ข้าครอบครอง!”
หลังจากถกเถียงกันอยู่นาน พวกเขาก็ได้ตัดสินใจสร้างการเดิมพันเพื่อดูว่าใครจะได้รับกองกําลังที่ดีกว่ากันโดยใช้ตัวเลือกจากการเลือก “กองกําลังสุ่ม
เมื่อพวกเขาทั้งสองคนได้เดินทางกลับยังดินแดนของตัวเองและเชื่อมต่อถึงกันโดยใช้ “เชื่อมต่อโนด” ซึ่งเป็นเครือข่าย ที่อนุญาตให้ทั้งสองคนสื่อสารและเริ่มการสนทนาทางวิดีโอได้ เสมือนกับการใช้เครื่องมือสื่อสารบนโลก จากนั้นพวกเขาก็เริ่มซื้อกองกําลังสุ่มกันอย่างบ้าคลั่ง ผลลัพธ์ที่ได้นั้น…แน่นอนว่าคังชอลอินถูกทําลายจนย่อยยับ
“ฮ่าๆๆ! แม้เจ้าจะชอบทําตัวให้โดดเด่นอยู่ตลอดแต่เรื่องโชคของเจ้ามันช่างเลวร้ายมากจริงๆ ฮ่าๆ!”
โดเรียใช้จ่ายทองไป 2,500 แท่งและได้รับกองกําลังที่มีชื่อว่า “นักเนรมิตภาพลวง” มา
“ที่อยู่ตรงนั้นใช้ทุ่งของก็อบลินหรือไม่? เอ๊? ฮ่าๆๆ”
ต่างจากคังชอลอินที่ใช้จ่ายไป 8,500 ทองแต่สิ่งที่เขาได้รับ มีแต่หน่วยสอดแนมก็อบลิน, นักสังหารก็อบลิน, นักธนูก็อบลิน และอื่นๆ ราวกับว่าเขากําลังรวบรวมชุดหน้าที่ที่ก็อบลินพึ่งทํา
ดูเหมือนว่าโดเรียนจะพูดถูกเมื่อเขาบอกว่าคนโหดร้ายจะไม่สามารถได้รับสิ่งดีๆจากการเลือกกองกําลังสุ่มและมีแต่เพียงคนจิตใจดีเท่านั้นที่จะได้รับแต่ของดีๆ
“โอ้ มีกองกําลังดี ๆ ออกมาด้วยเหมือนกันนี่! ฮ่า ๆ แต่เพราะข้าชนะในการเดิมพันครั้งนี้ทั้งนั้นงานเลี้ยงครั้งต่อไปเจ้าจะต้องเป็นคนออกเงินทั้งหมด ตกลงหรือไม่? เอาล่ะ เช่นนั้นก็ค่อยไว้เจอกันใหม่ ขอให้เจ้าสนุกไปกับกองกําลังก็อบลินที่เจ้าได้รับมาก็แล้วกัน ฮ่าๆๆ!”
การเดิมพันที่โง่เง่าในครั้งนั้นจบลงด้วยการพ่ายแพ้ของคังชอลอิน แม้ว่าเขาจะไม่ต้องการยอมรับมันเพียงใดแต่ความจริงที่เขาคือฝ่ายแพ้ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงไปได้
นั่นเป็นการต่อสู้เพียงครั้งเดียวที่โดเรียนสามารถเอาชนะคังชอลอินมาได้และมันก็ยังเป็นจุดที่เจ็บใจที่สุดสําหรับคังชอลอิน เพราะโดเรียนก็เอาแต่ล้อเลียนเขาถึงเรื่องนี้ไม่มีวันเลิกรา
“โดเรียน ไอ้สารเลวเอ๊ย!?
คังชอลอินคิดถึงโดเรียนที่ได้รับการล่วงละเมิดทางวาจา จากผู้ช่วยส่วนตัวของเขาเหตุเพราะไม่ได้กลับดินแดนมานานก็อดอมยิ้มเพราะความขบขันไม่ได้
“ชอลอิน?” ลีแชรินเอ่ยเรียกขัดความทรงจําที่หวนคืนของเขา
“มันคืออะไรกัน? เจ้าไม่มีความทรงจําดีๆเกี่ยวกับมันบ้างเลยหรือ?”
“ไม่เลย”
อาจเหมือนว่าเขาจะพยายามปฏิเสธแต่มันคือความจริง มันคือความทรงจําไม่ดีอย่างหนึ่งสําหรับเขา
“อย่างไรก็ตามปล่อยปุ่มนั้นไว้ซะ อย่าได้คิดไปยุ่งกับมัน มีราชันย์บางคนที่ถึงขั้นล้มละลายเพราะการกว้านซื้อมันมาแล้วนับไม่ถ้วน คิดซะว่ามันเป็นปุ่มที่ไม่สามารถใช้งานได้ไปก็แล้วกัน”
สิ่งที่เขาพูดนั้นเป็นความจริง เท่าที่เขารู้มีเพียงคนเดียวที่ได้รับประโยชน์จากมันซึ่งนั่นก็คือโดเรียน
เขาไม่ได้ตระหนักถึงสิ่งนี้จนกระทั่งนึกขึ้นได้ในภายหลัง แต่โชคของโดเรียนนั้นช่างยอดเยี่ยมมากจริงๆ
หลังการซักถามเขาพบราชันย์อีก 200 คนที่ได้ลองซื้อกองกําลังสุ่มแต่ไม่มีใครได้รับอะไรที่เป็นสิ่งดีๆออกมาเลยแม้แต่คนเดียว
“อย่าพยายามเอาโชคไปเสี่ยง มันไม่มีระบบหรือเป็นการพนันที่ควรเสี่ยงด้วยแต่อย่างใด มันเป็นเพียงสิ่งโง่ๆที่มีไว้ผลาญเงินเล่นก็เท่านั้น และการทําเช่นนั้นจะมีมูลค่าถึงทอง 500 แท่งหรือเงินหลายร้อยล้านวอน แน่นอนว่านั่นก็เป็นทางเลือกของเจ้าหากเจ้าต้องการจ้างก็อบลินที่มูลค่าแพงขนาดนั้น”
คังชอลอินคิดว่ามันเป็นสิ่งที่โง่เง่าที่สุดเท่าที่เขาเคยทํามาทั้งชีวิตในตอนนี้และแต่ก่อน ทุกคนล้วนมีความลับที่พวกเขา ต้องการหลบซ่อนและสําหรับคังชอลอินก็คือเรื่องนี้
“อย่างไรก็ตาม ข้าก็อยากลองมันเพื่อความสนุกดูสักครั้ง”
น่าแปลกใจที่คังชอลอินได้ยินเสียงที่เฉยเมยดังออกมาจากลีแชริน
“ถ้าครั้งเดียวคงไม่เป็นอะไรหรอกใช่ไหม?”
“เครียดอย่างนั้นหรือ?”
เขาคิดว่ามันอาจเป็นเพราะการได้ดูฉากนองเลือดของคนแคระในห้องโถงราชันย์จึงทําให้นางอยากหาที่ระบายความเครียดที่มี
“ครั้งเดียวคงไม่เป็นอะไร
คังชอลอินไม่ได้หยุดลีแชรินเพื่อไม่ให้ทําเช่นนั้น ถึงอย่างไร การปล่อยให้นางได้สัมผัสกับตัวเองโดยตรงว่าทําไมถึงไม่ควรทําก็เป็นทางเลือกที่ดีกว่า
หากมันเริ่มเลยเถิดเมื่อไหร่เมื่อนั้นเขาจะหยุดนางเอง
“ครั้งเดียวก็น่าจะไม่เป็นไรหรอก?”
ซื้บ ๆ!
หลังจากที่ลีแชรินเลือกซื้อกองกําลังสุ่ม ปรากฏการณ์วงแหวนเวทย์อันน่าอัศจรรย์ก็เกิดขึ้นอีกครั้ง
“บิ๊ก?”
– ก๊อบลินปาที่เป็นแบบดั้งเดิมที่สุดปรากฏออกมา มันเป็นสิ่งที่แย่ที่สุดจากกองกําลังทั้งหมดที่มี
“มันคือปีศาจอย่างนั้นหรือ?” ลีแชรินหัวเราะราวกับว่านางไม่สนใจในสิ่งไม่คุ้มค่าที่ได้รับ แน่นอนว่านางจะต้องมีความเครียดอยู่ภายในหากได้หัวเราะเพราะการสูญเสีย เงินไปเป็นจํานวนมาก
“หืม…ข้าควรลองอีกสักหน่อยจะดีหรือไม่? บางทีอาจได้คนที่สมควรแก่การมาเป็นผู้ช่วยส่วนตัวข้าออกมา”
ดีแชรินเต็มไปด้วยจินตนาการที่ผิดหวัง การทดลองซื้อสามครั้งของนางเป็นเพียงความล้มเหลว
“ข้าไม่ควรทํามันอีก มันคือการสูญเสียจริงๆ ทําไมพวกเขาถึงสร้างอะไรแบบนี้ขึ้นมากัน? เมื่อคิดแบบนี้แล้วข้าก็ไม่รู้ด้วยซ้ําว่าข้าจะซื้อมันมาเพื่ออะไร แม้เจ้าจะเตือนข้าแล้วก็ตาม
ใบหน้าของลีแชรินเริ่มเจ็บปวด ดูเหมือนนางคิดจะใช้มันเพื่อปลดปล่อยความเครียดที่มีอยู่จริงๆ
“อาจเป็นเพราะความชํานาญพิเศษของเจ้าที่เกี่ยวข้องกับเงิน”
หากเป็นราชันย์ที่มีเงินทองล้นเหลือ พวกเขาจะซื้อมันขั้นต่ําประมาณ 5,000 ทองถึงจะตัดสินใจหยุดในสิ่งที่ไร้ประโยชน์
“เอาล่ะ ข้าคงจะไม่ทําอะไรเช่นนี้อีกแล้ว”
“ตราบใดที่เจ้าเข้าใจก็ดี”
“แต่นั้นมันชอลอิน แล้วเจ้าจะไปไหน?”
“ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาเล่นการพนันแบบนี้” เสียงเย็นเยียบของคังชอลอินตอบกลับ
ใช่แล้ว
เนื่องจากตอนนี้พวกเขาได้รับกําลังที่ยอดเยี่ยมมาแล้ว พวกเขาก็ควรเตรียมพร้อมสําหรับการดําเนินการของนักปราชญ์ ไม่ใช่การมาผ่อนคลาย
ในขณะนั้นเอง กลุ่มนักผจญภัยและยูราดด์ก็เริ่มดําเนินการตามคําสั่ง
“แต่มันไม่ได้ใช้เวลานานขนาดนั้นเสียหน่อย”
“ข้าไม่มีแผนที่จะใช้ทรัพยากรและเงินอันมีค่าของข้าไปกับการพนันประเภทนั้น”
“เช่นนั้นข้าจะเลือกให้เจ้าเอง ข้าต้องการทดสอบมัน”
“ทดสอบสิ่งใด?”
“โชคของเจ้า ชอลอิน”
นางกดเลือกส่งของขวัญมาให้คังชอลอินก่อนที่เขาจะทันได้ตอบกลับอะไรนางไป
ชึ้บ ๆ
วงแหวนอัศจรรย์ปรากฏขึ้นมาอีกครั้งและสามารถเห็นได้ในทันทีว่าภายในกลุ่มควันนั้นมีร่างเงาเล็กๆปรากฏขึ้นมา แม้ว่ามันจะหายไปในไม่ช้าหลังจากนั้นก็ตาม
“หากเป็นก็อบลินออกมาอีกข้าไม่คิดอยากจะมองมันด้วยซ้ํา”
เมื่อมองเห็นเป็นเงาเล็กๆ คังชอลอินคิดว่ามันคงเป็นก็อบลินไม่ต่างจากครั้งก่อนจึงไม่ได้คิดสนใจและหันไปมอง
เนื่องจากเขารู้จักก็อบลินมาทุกประเภทแล้วเขาจึงไม่มีความสนใจที่จะอยากรู้อยากเห็นแต่อย่างใด สําหรับเขาแล้วเมนู “กองกําลังสุ่ม” นั้นเป็นสิ่งที่ทําให้เขาไม่สามารถลืมเลือนความอับอายลงไปได้ อย่างน้อยๆก็จนถึงตอนนี้
“เอิ่ม.ชอลอิน?” ลีแชรินกล่าวเรียกด้วยน้ําเสียงสั่นๆ
“อะไร?หมอผีก็อบลินใช่ไหม?”
คังชอลอินถามด้วยน้ําเสียงสงบ หมอผีก็อบลินมีราคาแพง และใช้งานได้ดีที่สุดจากก็อบลินที่ปรากฏออกมา แม้มันจะใช้งานได้จริงแต่มันก็มีราคาแค่เพียงทองสามแท่งเท่านั้น
“ไม่ใช่ มันไม่ใช่ก็อบลิน…”
“เช่นนั้นก็คงเป็นโนล”
“ไม่เลย! เด็กผู้ชายต่างหาก มีเด็กปรากฏออกมา!”
เมื่อคิดว่ามีอะไรที่แปลกไปจากการคาดการณ์ คังชอลอินจึงหันหน้ากลับไปมอง
[ขอแสดงความยินดี! ท่านได้รับกองกําลังระดับ SS ที่มีชื่อเรียบร้อย อาร์คนักเวทย์ นีลัส!]