ตอนที่ 46: ควักจองตายแล้ว
“คุณควอน อีกสองเดือนฉันจะนานสกัดจากต้นไม้พูดคุยมาให้ ไว้ถึงตอนนั้นแล้วเราค่อยมาคุยรายละเอียดเพิ่มเติมกันอีกที”
ทันใดนั้นคังชอลอินก็ลุกขึ้นยืนอย่างกะทันหัน
“แล้วเธอจะไปไหน?”
“ฉันมีบางสิ่งที่ต้องไปทําต่อ”
“อืม.ได้ ฉันจะเตรียมการให้พร้อมสําหรับเรื่องนั้นเอง”
“งั้นฉันไปล่ะ”
“เดี๋ยวก่อนสิ!”
ชายชราควอนคว้าแขนของคังชอลอินเอาไว้ก่อน
“ปล่อย ฉันกําลังรีบ”
คังชอลอินตอบกลับอย่างเยือกเย็นพลางผลักแขนของชายชราควอนออกเบาๆ
“รถของเธอล่ะ!”
“อา…นั่นสินะ”
“เดี๋ยวจากัวร์ของเธอก็กําลังมาแล้ว”
“เอารถของคุณมาให้ผมก่อน อะไรก็ได้”
“ถ้างั้นก็ไปใช้คันนั้น”
เมื่อเห็นท่าที่รีบร้อนของคังชอลอิน ชายชราควอนก็รีบยื่นกุญแจรถส่วนตัวของเขาให้ไปในทันที
“ปอร์เช่?”
“ใช่ ดีที่สุดแล้ว”
4 คนเฒ่าคนนี้ช่าง…”
ด้วยความตกใจ คังชอลอินพึมพํากับตัวเอง
“อายุไม่ใช่เรื่องสําคัญ สําหรับผู้ชายแล้ว รถสูทและนาฬิกาเป็นสิ่งที่สําคัญอย่างยิ่ง”
“ไปเถอะ แล้วฉันจะส่งโลเคชั่นบ้านใหม่ของเธอผ่านทางโทรศัพท์ไปให้อีกที เธอเพียงจอดรถของฉันไว้ที่นั้นก็พอ ฉันจะวางมัสแตงและจากัวร์ไว้ที่นั่นให้เลยด้วย เท่านี้มันเพียงพอแล้ว หรือยังกับการแสดงความจริงใจต่อเธอ?”
“พอแล้ว ขอบคุณครับคุณควอน”
คังชอลอินพูดอะไรบางอย่างที่หาได้ยากจริงจากเขา กับการต้องขอบคุณใครบางคนอย่างใจจริงเช่นนี้
ชายชราควอนพูดถูก รถยนต์เป็นสิ่งที่สําคัญสําหรับผู้ชาย เขารู้ว่ามันหมายถึงอะไรกับการให้ยืมรถตัวเองแก่คนอื่น
“งั้นผมขอตัว”
จากนั้นคังชอลอินก็รีบออกจากห้องทํางานของชายชราควอนไปในทันที
หนึ่งชั่วโมงต่อมา ชายชราควอนรู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งของเขาที่ชวนให้รําลึกถึงอดีตอันรุ่งโรจน์
หลังจากกินเนื้อจากมังกรพีคอคเข้าไป เขารู้สึกราวกับว่าเขามีอายุลดน้อยไปกว่าสิบปี
“โอ้ว ฮ่าๆๆ การได้กินสิ่งนี้อาจทําให้ฉันสามารถมีลูก อีกคนได้เลยนะเนี่ย ฮ่าๆๆ”
จากนั้นเจตคติที่มีต่อคังชอลอินก็เพิ่มมากยิ่งขึ้น
ด้วยความตกใจ รถของชายชราควอนคือปอร์เช่ 911 ที่ เป็นรถเปิดประทุน สําหรับผู้ชายที่อายุ 80 ปีแล้วนั้นเขาช่างมีรสนิยมที่ดีอย่างแท้จริง
วรู้มมม
คังชอลอินออกตัวมุ่งหน้าไปยังสํานักงานของปาร์คดูชิกในทันใด
แม้ว่าการรู้สึกถึงเครื่องยนต์ F6 เป็นสิ่งที่บางคนไม่สามารถสัมผัสได้บ่อยๆ แต่เขาไม่มีเวลาที่จะรู้สึกสนุกไปกับมัน
“ควักจอง”
ข้อความที่ปาร์คดูชิกทิ้งไว้ให้เขาคือ
– ปาร์คดูชิก: บิ๊กบอสครับ ผมคิดว่าผมเจอเขาแล้วล่ะครับ แต่มีอะไรบางอย่างที่ผิดปกติอยู่ หากคุณได้อ่านข้อความนี้แล้ว โปรดติดต่อกลับมาหาผมโดยเร็วที่สุดทีนะครับ
แม้เขาจะรู้สึกเป็นกังวลเมื่อปาร์คดูชิกบอกว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติ แต่มันก็ยังดีที่ตอนนี้ได้พบเบาะแสอะไรเพิ่มเติมบางอย่าง
ตุ้มมม!!
ทันทีที่คังชอลอินมาถึงสํานักงานของปาร์คดูชิก เขาเปิดประตูเสียงดังและโดยไม่ได้ตั้งใจประตูก็ได้พังลงมาเพราะความแข็งแกร่งของเขา
“อะไร อะไรนะ?!!”
“เก็บอาวุธไปซะ!”
“บิ๊กบอส บิ๊กบอสครับ!!”
ดูชิกสั่งลูกน้องที่เตรียมหยิบอาวุธออกมาเพื่อต่อสู้
คังชอลอินในตอนนี้นั้นดูน่าหลงใหลเป็นอย่างมาก เขาคิดว่าพวกลูกน้องของปาร์คดูชิกดูจะทําเกินกว่าเหตุไปหน่อย เพียงเพราะแค่ประตูพัง
“ไอ้พวกบ้า! ยังไม่ทิ้งอาวุธกันลงไปอีกหรือไง?!!”
ดูชิกรีบออกมาและหยุดลูกน้องของเขาจากการทําสิ่งที่โง่เขลา
“ขอโทษด้วยนะครับบิ๊กบอส ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ครับ พวกมันแค่เป็นกังวลเพราะสถานการณ์ในตอนนี้ของพวกเราที่ ไม่ค่อยสู้ดีสักเท่าไหร่นะครับ เฮ้ยไอ้บ้าพวกนี้ คิดจะทําอะไรกัน? รีบขอโทษเขาสิวะ!”
หลังจากได้รู้ว่าเขาคือคังชอลอินใบหน้าของพวกนัก เลงบางคนก็ซีดเซียวและรีบก้มตัวเพื่อขอโทษแบบ 90 องศาในทันที
“ขอโทษครับบิ๊กบอส!”
“กรุณายกโทษให้ผมด้วยเถอะครับ!”
แม้ว่าใบหน้าของคังชอลอินจะดูแข็งกร้าวแต่เรื่องพวกนี้ ไม่ใช่ปัญหา เขาไม่มีเวลามาสนใจกับเรื่องไร้สาระนี้ในตอนนี้
“ผมขอโทษอีกครั้งจริงๆ ครับ!”
ปาร์คดูชิกกล่าวขอโทษอีกครั้ง
“มีบางอย่างเกิดขึ้นกับคนของเราที่อินชอนเพราะผู้ชายคนหนึ่งที่ชื่อ “เสือดํา” เฮ้อ มันเป็นเหมือนกับผีเลยล่ะครับ เราไม่สามารถจับตัวมันได้เลย”
คังชอลอินถอนหายใจแล้วกล่าวว่า “ตอนนี้มันช่างยากที่จะพยายามหากินและมีชีวิตอยู่จริง ๆ”
แพนเจียกําลังเริ่มเข้าสู่สงคราม ชายชราควอนก็กําลังอยู่ในสงคราม และแม้แต่แก๊งอันธพาลพวกนี้ก็ยังอยู่ในสงครามเพื่อหาอาหารให้ตัวเองยังมีชีวิตรอดอยู่ต่อ
“อย่างไรก็ตาม อะไรที่ทําให้แกคิดว่าเจอตัวเขาแล้ว?”
คังชอลอินเอ่ยถามไปตามตรง
“เอ่อ นั่นมัน .. บิ๊กบอสมานั่งก่อนเถอะครับ”
หน้าผากของดูชิกถูกปกคลุมไปด้วยเม็ดเหงื่อ ดูเหมือนว่าเขากลัวที่จะต้องถูกทุบตีอีกครั้ง
“แค่พูดมา สรุปหาตัวเขาเจอไหม?”
“เอ่อ มันคือ…”
ดูชิกยื่นเอกสารบางอย่างมาให้คังชอลอิน
“นี่อะไร?”
“เอ่อ… อายุ 35 ปี ชายที่ชื่อควักจองที่พักอาศัยอยู่ในกรุงโซล…”
ขณะฟังคําพูดของดูชิกที่เริ่มต้นด้วยการกล่าวถึงอายุเป็นสิ่งแรก เขาได้เปิดเอกสารเพื่ออ่านผ่านตาในทันใด ในขณะนั้นเองดวงตาของเขาก็พลันเบิกกว้างเพราะสิ่งที่ระบุอยู่ในเอกสารเหล่านี้ …
“เขาเสียชีวิตไปเมื่อฤดูร้อนปีที่แล้วจากอุบัติเหตุทางรถยนต์
ครับ”
มันเป็นสูติบัตรรวมถึงสถานการณ์การตายของเขา
นี่มันเรื่องเหลวไหลอะไรกัน? มันเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร?!
ควักจองตายแล้วอย่างงั้นเหรอ?
ฤดูร้อนที่แล้วเป็นตอนก่อนที่คังชอลอินจะทําการสํารองวิญญาณเพื่อกลับมา
ไม่ใช่สิ่งที่ปาร์คดูชิกนํามาให้เขานั้นไม่ใช่ความจริงแต่เป็นเรื่องที่ไร้สาระที่สุด เรื่องไร้สาระพวกนี้ได้สร้างความโกรธให้กับคังชอลอินได้ไม่น้อยแต่เขาก็ยังพยายามที่จะทําให้ตัวเองคงอยู่ในความสงบ
“ไม่ใช่”
เขาโยนเอกสารที่ดูชิกส่งมาให้ทิ้งไปอย่างไม่ใยดี
“ม…ไม่หรอครับ?”
“เรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องของเขา”
ควักจองที่คังชอลอินรู้จักทํางานภายใต้ราชันย์ที่เป็นส่วนหนึ่งของพันธมิตรกัลเวกจนกระทั่งเขาเสียชีวิตไปด้วย โรคมะเร็งปอดเมื่อตอนอายุได้ 38 ปี
แต่ปัจจุบันนี้คือปี 2021 และควักจองมีอายุ 35 ตอนนี้เขาน่าจะยังเป็นนักผจญภัยอยู่ที่ใดสักแห่ง เขาควรจะออกไปเดินเล่นรอบๆอยู่ในดันเจี้ยนไม่ใช่มาตายเพราะอุบัติเหตุแบบนี้
“ไปตามหามาใหม่”
คังชอลอินส่ายหัว
“ต…แต่นี่มัน ”
“มีอะไรจะพูดอีกไหม?”
“บิ๊กบอสครับ”
“ว่ามา”
“ พวกเรามีทั้งคนจากตํารวจและจากรัฐบาลช่วยกันออกค้นหา ไม่ใช่แค่ที่โซลเท่านั้นแต่ยังรวมไปถึงที่อื่นๆอีกด้วย”
“นอกจากนี้เรายังดูรายชื่ออาชญากรที่ชื่อควักจอง มีควักจองอยู่คนหนึ่งที่กําลังติดอยู่ในคุกเช่นเดียวกับครูคณิตศาสตร์ที่ ชื่อควักจองแต่ไม่มีใครอายุ 35 ปีในและสูบบุหรี่เลยครับ”
“พูดต่อสิ”
“ครับ”
หลังจากได้ดื่มกาแฟแล้วคังชอลอินก็ส่งสัญญาณด้วยมือของเขาเพื่อให้ดูชิกดําเนินการต่อ
“แม้ว่าผมจะไม่ได้ฉลาดมากนักแต่ผมก็ไม่ได้โง่ขนาดนั้นนะครับ ผมเองก็มีสมองเหมือนกัน ถ้าสิ่งที่บิ๊กบอสพูดมาเป็นความจริง เราเจอควักจองที่สูบบุหรี่ด้วยนะครับ”
“แล้วยังไง? พูดต่อไปสิ”
“ดังนั้นเราจึงรีบไปที่คลินิกปลอดบุหรี่เพื่อตามหาเขาและก็ได้พบกับศพของคนที่ชื่อควักจอง”
“ผู้ตายที่ชื่อควักจองได้รับแผ่นนิโคตินเพื่อหยุดการติดยา ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นนักสูบบุหรี่ที่จริงจังอย่างมากหลังจากได้ดูรายละเอียดของเขาแล้ว”
“ก็ยังไม่ใช่”
เมื่อเขาพูดว่าไม่ใช่ มันคือไม่ใช่จริงๆ
“ถึงแม้ว่ามันจะสมเหตุสมผลแล้วว่าทําไมแกถึงคิดว่าควักจองคนที่ตายนี้คือควักจองคนที่ฉันตามหา แต่ควักจองคนนั้นยังมีชีวิตอยู่อย่างแน่นอน เขายังไม่ตาย”
“คุณแน่ใจหรอครับ?”
“ใช่ ฉันแน่ใจ”
“เฮ้อ ถ้างั้นผมก็ต้องขอโทษด้วยแล้วกันนะครับ เพราะข้อมูลที่มีนั้นน้อยเกินไป”
“ไม่ ทําได้ดีมากแล้วล่ะ อย่างน้อยก็ยังได้เจออะไรบ้าง”
หลังจากได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด คังชอลอินรู้สึกได้ว่าปาร์คดูชิกกําลังทํางานอย่างหนักจริงๆเพื่อออกค้นหาตัวควักจอง ดังนั้นเขาจึงปลอบใจกลับไปแทนการดุด่า
“แกนะ”
คังชอลอินชี้ไปที่ลูกน้องคนหนึ่งของดูชิกและ มอบการ์ดให้กับเขา
“ไปกดเงินมา 30 ล้าน”
“ขอบคุณมากครับ!”
“ถ้าเขาไม่อยู่ที่โซลหรือที่ใกล้ๆกับโซล ก็ลองออกไปค้นที่อื่นให้ทั่วทั้งเกาหลีดูซะ เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา”
“ได้ครับ! ผมจะลองโทรหาศูนย์อื่นๆให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทําได้เลยครับ”
“ฉันชอบทัศนคติของนายนะ โอ้ใช่ ฉันมีข้อมูลอีกอย่าง”
“ข้อมูลหรอครับ? ว้าว นั่นจะเป็นประโยชน์ได้มากจริงๆ”
“ดูเหมือนว่าควักจองจะกลายเป็นนักผจญภัยข้ามมิติไปซะแล้ว”
“ดูเหมือนการค้นหานับจากนี้จะง่ายขึ้นแล้วล่ะครับ! ขอบคุณมากครับ บิ๊กบอส!”
ทันใดนั้นสีหน้าของปาร์กดูชิกก็พลันสว่างสดใส มากขึ้นทันใด มันจะง่ายกว่าถ้าหากต้องมองหาคนที่เป็นนักผจญภัย เนื่องจากไม่ได้มีนักผจญภัยมากนัก เขาสามารถสํารวจในชุมชนและมองหาตัวควักจองได้ง่ายยิ่งขึ้น
ทั้งลูเซีย ชายชราควอนและแม้แต่ดูชิกเองได้ทําให้เขารู้สึก เหมือนกับว่าตอนนี้เขาไม่จําเป็นต้องลงมือทํางานใดๆ ด้วยตัวเองเลยสักอย่าง มันชวนให้เขารู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย
“บิ๊กบอส ดูเหมือนว่าคุณคงจะจากไปในไม่ช้านี้ แต่เราไม่รู้เลยว่าเสือดําคนนั้นจะโจมตีพวกเราอีกเมื่อไหร่”
“อย่างนั้นเหรอ?”
“แม้ว่าเสือดําจะไม่ใช่ความคุ้มค่ากับบิ๊กบอส แต่บิ๊กบอสคงไม่ชอบความโกลาหลใช่ไหมล่ะครับ?”
“คิดว่าการที่ฉันอยู่ที่นี่จะเป็นการดีกว่างั้นสินะ?”
“อ่า…คุณหมายถึงอะไรกันครับ? เราจะกล้าไปขอความช่วยเหลือจากบิ๊กบอสได้อย่างไร? พวกเราไม่ใช่นักเลงแบบนั้นสักหน่อยนะครับ ไม่ได้ใกล้เคียงกันเลย…”
คังชอลอินคิดว่าสิ่งที่ดูชิกพูดมานั้นมีเกียรติและประทับใจดี
มาก
“ถ้านายมีปัญหามากก็ออกจากการทํางานแบบนี้แล้วไปทําอย่างอื่นซะ ฉันจะแนะนําางานอื่นให้”
“คุณหมายถึง?”
“ชายชราควอนฮยองวู นายรู้จักเขาใช่ไหม?”
“อะ อะไรนะครับ?!”
ไม่มีนักเลงคนใดที่จะไม่รู้จักเจ้านายที่แท้จริงและผู้ทรงอํานาจเหนือกรุงโซลทั้งหมด
ชายชราควอนป็นยักษ์ใหญ่ในธุรกิจมาเฟียอย่างแท้จริง คนอย่างปาร์คดูชิกไม่มีทางมีโอกาสได้เห็นหน้าเขาสักครั้งในชีวิตนี้เป็นแน่
“ฉันมีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับเขาอยู่ เดี๋ยวอีกสักพักเขาจะต้องการคนเป็นจํานวนมากเพื่อช่วยงาน เมื่อถึงตอนนั้นฉันจะแนะนํานายให้กับเขา นายคิดว่าจะสามารถต่อสู้กับกําปั้นของตัวเองไปได้อีกนานแค่ไหนกัน?”
“ขอบคุณมากครับ!”
“ไม่เป็นไร ฉันทําให้เพราะฉันประทับใจในตัวนาย จงทําต่อไปซะ”
“ขอบคุณครับบิ๊กบอส!”
“ฉันจะไปแล้ว อีกหนึ่งเดือนฉันจะกลับมาใหม่”
“ครับท่าน! ขอให้เดินทางปลอดภัย…”
แต่ในทันใดนั้นเอง
ขณะที่ปาร์คดูชิกกําลังโค้งคํานับ 90 องศาให้กับคังชอลอิน จู่ๆก็มีผู้ชายคนหนึ่งมาปรากฏตัวขึ้นในสํานักงาน
“อา!”
“เสือดํา! ไอ้สารเลวเอ้ย!”
บังเอิญพอดีกับที่เสือดํามาในขณะนี้
“แกคิดว่าตัวเองกําลังอยู่ที่ไหนงั้นเหรอห้ะไอ้เวรเอ๊ย?!” ลูกน้องคนหนึ่งของปาร์คดูชิกพูดขึ้น
ฟ้าว!
…. และลูกน้องคนนั้นก็ล้มลงไปกับพื้นพร้อมเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด
“โอ้?”
เมื่อได้มองดูสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า แววตาของคังชอลอินกําลังเป็นประกายด้วยความสนใจ เสือดําตัวนี้มีทักษะอย่างแท้จริง แม้ว่ามันจะเป็นเพียงหมัดเดียวแต่ดวงตาของคังชอลอินก็สามารถมองออกได้อย่างชัดเจน
“แกคือปาร์คดูชิกหรือเปล่า?”
เสือดําที่เหมือนจะมีอายุประมาณราวๆ 30 ปีมองไปที่ดูชิกขณะยิ้มและสูบซิการ์
เขาน่ารําคาญขนาดนี้ได้อย่างไร? ถึงแม้ว่ามันจะเป็นใบหน้าที่ดูหล่อเหลาแต่ใครก็ตามที่ได้มองใบหน้านี้ก็อยากจะเข้าไปเอาชนะเขาให้ได้กันทั้งนั้น แล้วเขาก็ไม่ได้เป็นมนุษย์ธรรมดาทั่วไปซะด้วยสิ
“แล้วแกล่ะเป็นใคร?”
เสือดํามองมาที่คังชอลอินแล้วถาม
“เฮ้ๆ ไอ้เสือดํา ถ้าแกคิดที่จะแตะต้องเขาก็เตรียมตัวทําศพของตัวเองไว้ได้เลย มีเรื่องอะไรก็มาคุยกันกับฉัน อย่าไปยุ่งกับเขาคนนั้น” ดูชิกกล่าว
“โอ้ ถ้าอย่างนั้นนายคนนี้ก็คือบอสของแก๊งนี้ล่ะสิ? ฉันคิดว่าคนคุมอีซู (ชื่อเขต) คือแกซะอีกปาร์คดูชิก”
“หุบปากไป ไอ้สัตว์นรก!”
ดูชิกกลับไปมีท่าทีที่ดูน่ากลัวเหมือนพวกแก๊งอันธพาลและวิ่งไปหาเสือดําด้วยใบหน้าเคร่งขรึม
“หืม ไม่ค่อยดีแฮะ”
คังชอลอินเริ่มทํานายผลของการต่อสู้
“อ้ากกก!!!”
อย่างที่คาด ใบหน้าของดูชิกถูกจับไว้โดยเสือดําในทันทีก่อนจะร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“บ-บอสครับ!”
“พวกแกเองก็ต้องการลิ้มรสชาติแบบนี้ด้วยงั้นเหรอ?”
“ไอ้สารเลวเอ๊ย!”
เมื่อมองดูเจ้านายที่พ่ายแพ้ พวกอันธพาลของเขตอีซูก็เริ่มต้องการอยากเอาชนะเสือดําขึ้นมาในทันใด
“ยังไม่พอ”
คังชอลอินยังคงยืนมองและทํานายว่าคนพวกนี้ยังไม่พอที่จะเอาชนะเขาได้
การต่อสู้ด้วยสมาชิกหลายคนในพื้นที่เล็กๆ จะไม่เป็นประโยชน์แก่พวกอันธพาล ไม่เพียงเท่านั้นแต่เสือดํายังไม่ใช่นักสู้ธรรมดาๆอีก
จังหวะเท้า ศิลปะการต่อสู้ที่ลื่นไหลเช่นเดียวกับการเตะในช่วงเวลาที่เด็ดขาด แทนที่จะเป็นพวกอันธพาล เสือดํากลับคล้ายกับนักมวยยูโด หรือนักมวยMMA มากกว่า
“ไอ้เหี้”
ในที่สุดลูกน้องคนหนึ่งของดูชิกก็เอามีดออกมาเพราะไม่สามารถจัดการกับความอัปยศได้อีกต่อไป
“เฮ้ๆ”
แม้ว่าจะมีใบมีดคมอยู่ข้างหน้าแต่เสือดํากลับสงบและมั่นใจในตัวเองไม่เปลี่ยน
“คิดใช้อาวุธงั้นเหรอ?”
มือของเสือดําโผล่ออกมาจากม่านหมอกสีดํา น่าแปลกที่เสือดําไม่ใช่พวกนักสู้ทั่วไปแต่เป็นคนที่รู้วิธีใช้มานา
“หืม นักผจญภัยงั้นเหรอ?”
คังชอลอินมองดูเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความสนใจ
“แกเสร็จฉันแน่!”
เมื่อได้ใช้มานาเสือดําก็เริ่มเอาชนะพวกอันธพาลที่หยิบมีดออกมาได้ในทันที ดูเหมือนว่าเขาจะมีความชํานาญด้านมวยไทยพิเศษ
พ้าว!
พ้าววว!!
ด้วยเสียงที่น่าพอใจบางอย่าง ..
“อ้ากก !!
“อะไรกัน มันทําอะไรกับฉัน!!”
“อ้ากกกก! แขน แขนฉัน!!”
ลูกน้องของดูชิกร่วงหล่นราวกับใบไม้ในเวลาไม่ถึงห้านาที นี่คือความแตกต่างระหว่างคนทั่วไปและผู้ใช้มานา
“ฟู่ว”
ควันลอยเต็มทั่วสํานักงาน ตั้งแต่เข้ามา เสือดํายังไม่หยุดสูบบุหรี่เลยแม้แต่วิเดียวท่ามกลางการต่อสู้
“หลังจากได้สู้กับเขตอีซูแล้วก็ควรไปที่กังนัมต่อ หืมม ยองดึงโพเองก็เหมือนจะไม่เลวเช่นกัน” เสือดําพึมพํากับตัวเอง
ราวกับว่าเขาคิดว่ามันเป็นเกมของฮ็อตสคอตซึ่งเขาสามารถยึดครองดินแดนของคู่ต่อสู้เพื่อความสนุกสนานได้
“เฮ้ย!”
เมื่อเดินมาหยุดอยู่ต่อหน้าคังชอลอิน เสื้อดําก็จ้องมองมาที่เขาแล้วพูดว่า
“แกเป็นใครวะ? ถึงได้มายืนจ้องหน้าฉันอย่างเย่อหยิ่งแบบ
นี้ว”
ด้วยเสียง “ซี” จากเศษซิการ์ได้เปื้อนไปทั่วโต๊ะที่คังชอลอินกําลังนั่งอยู่ตรงหน้า
“นายคือเสือดํางั้นเหรอ? ไม่เลวเลยนี่”
คังชอลอินยิ้มเยาะพลางชื่นชมเขา
“เสือดํา? เฮ้อ ใครเป็นคนตั้งชื่อเล่นโง่ๆให้ฉันแบบนั้นกัน? ฉันมีชื่อจริงๆ และมีตัวอักษรที่ยาวเกินไปด้วย (โดยทั่วไปชื่อเกาหลีจะมีความยาว 3 ตัวอักษร) โอ้ ไม่ๆ ที่จริงแล้วมันมีแค่สองพยางค์นะ”
เมื่อพูดแบบนั้นแล้วเสือดําก็นาบุหรี่ออกมาแล้วจุดขึ้น มาใหม่
“ฟู่วว ชื่อของฉันคือควักจอง ไม่ใช่ชื่อวิเศษวิโสและหนอมแน้มแบบเสือดําอะไรนั้นหรอก”