ตอนที่ 24: ทำข้อตกลง (1)
[องค์การสหประชาชาติได้เริ่มการสอบสวนที่มาของลำแสงประหลาดที่ปรากฏขึ้นตามสถานที่สำคัญทั่วโลก ขณะเดียวกันพยานจากที่เกิดเหตุโดยตรงรายงานอย่างเป็นทางการแล้วว่าที่มาของลำแสงประหลาดเหล่านี้คือประตูที่จะนำไปสู่โลกในมิติอื่น]
[มีสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติที่พบได้ทั่วไปบนโลกใบนั้น]
[จากรายงานของผู้ที่ได้เดินทางข้ามผ่านประตูมิติไปยังโลกอื่นกล่าวว่าที่นั่นเต็มไปด้วยสัตว์ประหลาดทุกประเภท]
[ในขณะที่ยาลึกลับและสิ่งของประหลาดเริ่มปรากฏขึ้นทีละอย่าง ทางสหรัฐอเมริกาได้ประกาศว่าพวกเขาจะเปิดรับสมัครอาสาสมัครชาวอเมริกันไปเป็น “นักเดินทางข้ามมิติ” เพื่อรวบรวมข้อมูลที่สำคัญจากโลกอื่นด้วยความกระตือรือร้น]
การอัญเชิญครั้งใหญ่ได้กลายเป็นข่าวที่โด่งดังไปทั่วโลก
มีบางคนที่ได้รับความสามารถพิเศษมาจากแพนเจียซึ่งจากนั้นก็ได้ไปออกรายการทอล์คโชว์เพื่อแสดงความสามารถที่น่าพิศวง (แม้มันจะเป็นเวทมนตร์ที่เรียบง่ายก็ตาม) และวิดีโอของการรักษาบาดแผลที่รุนแรงด้วยของเหลวสีแดงในขวดแก้วก็มีอยู่เต็มช่อง YouTube
บทความของสัตว์ที่ดูเหมือนเกิดจากการรวมร่างกันระหว่างกระรอกและกระต่ายที่สามารถต้านทานกระสุนปืนนาโต 5.56 มม.ทำให้เกิดความสนใจบนสื่อสังคมออนไลน์เป็นอย่างมาก
ในเดือนมกราคมปี 2021 มันเต็มไปด้วยข่าวของการค้นพบโลกใบใหม่
“เฮ้อ”
คังชอลอินที่นั่งดูแต่ข่าวมาเกือบสามชั่วโมงถอนหายใจก่อนจะปิดทีวีลงด้วยความเบื่อหน่าย
ความเคยชิน
รอยยิ้มอันขมขื่นเกิดขึ้นบนริมฝีปาก
เหตุผลในการดูข่าวนั้นเรียบง่ายมาก
นั่นเพราะเขาต้องการลดช่องว่างระหว่างแพนเจียและโลกใบนี้ให้น้อยลง
แตกต่างจากโลกที่ไม่มีสิ่งเหนือธรรมชาติและมีเพียงเนื้อแท้ทางวิทยาศาสตร์เท่านั้นที่เป็นหลักของความเป็นจริง แพนเจียเป็นโลกที่มีเวทย์มนตร์ขั้นสูง ศิลปะการต่อสู้ สัตว์ประหลาดรวมไปถึงสิ่งมีชีวิตหลากหลายสายพันธุ์ที่อาศัยอยู่พร้อมกัน หากได้ไปเป็นคนที่อาศัยอยู่ในสถานที่ดังกล่าวมาระยะหนึ่ง ความคิดและวิธีการพูดของคน ๆ นั้นมีแนวโน้มที่จะปรับตัวไปตามแพนเจียที่ได้อยู่อาศัย และเพื่อลดการกระทำแบบนั้นการดูทีวีเป็นเวลานานจะสามารถช่วยบรรเทาอาการที่เกิดขึ้นนี้ได้ อย่างน้อยในความเป็นจริงก็คงไม่มีใครใช้กับคำพูดที่ล้าสมัยเหมือนอย่าง “คำพูดของเช็คสเปียร์” หรือถ้อยคำที่เสแสร้งต่อกันบนโลกใบนี้
“หรือควรออกไปหาหนังดูดี?”
คังชอลอินพึมพำในขณะก้าวออกจากบ้าน เขาออกจากบ้านมาพร้อมกับทอง 500 แท่งที่ลูเซียได้มอบให้ โดยเขามีแผนที่จะนำมันไปขายมันเพื่อแลกเปลี่ยนเป็นเงินสด
วรู้ม ๆ!!
มัสแตงแสดงเสียงหนัก ๆ อันเป็นเอกลักษณ์ขณะขับไปตามท้องถนน ปลายทางของเขาคือยองซานหรือที่รู้จักกันดีเมื่อสมัยก่อนว่า “หมู่เกาะกานเหนือ” ถนนสายที่ 21 ของย่านธุรกิจเก่า ด้วยความเจริญรุ่งเรืองของการช้อปปิ้งทางออนไลน์ในช่วงปี 2000 และการเปิดตัวดิวตี้ฟรี HDC Shilla ในปี 2016 แทบจะไม่มีคนพื้นเมืองอาศัยอยู่ในยองซานอีกเลยและเกือบทุกคนที่นี่จะเป็นชาวจีนซะส่วนใหญ่ ความรุ่งโรจน์ของเขตเมืองอิเล็กทรอนิกส์ในอดีตได้กลับกลายเป็นเพียงประวัติศาสตร์โบราณ
“ไม่ซื้ออะไรทั้งนั้น”
ชายในวัย 40 ปีที่กำลังเล่นเกมไพ่อยู่บนคอมพิวเตอร์พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากพูดใส่คังชอลอินทันทีที่เขาเข้าไปในร้านขายของโทรม ๆ ที่เต็มไปด้วยชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์เก่าที่เกรอะกรังไปด้วยฝุ่น
“ที่นี่เราไม่รับซื้ออะไรทั้งนั้น ออกไป ๆ”
ดูเหมือนว่าควันบุหรี่ได้บดบังการมองเห็นของเขาไปจนหมดเพราะเหมือนเขาจะมองไม่เห็นคังชอลอินที่กำลังขมวดคิ้วไม่พอใจอยู่นี้
“ฉันไม่ได้มาเพื่อขายอะไร ฉันมาที่นี่เพื่อแลกเปลี่ยน เลิกแสร้งทำเป็นอย่างอื่นแล้วเปิดบานประตูเหล็กตรงนั้นสักที” คังชอลอินกล่าว
ชายคนนั้นหันหน้ามามองคังชอลอินอย่างช้า ๆ ตั้งแต่หัวจรดเท้า
‘ไอ้เด็กนี่มันอะไรกัน?’
คิ้วของเขาพุ่งชนเข้าหากันจนแทบจะขมวดเป็นปม ในความทรงจำของเขามันไม่เคยมีใบหน้าของคังชอลอินมาก่อน เขาไม่เคยเห็นชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้านี้เลยสักครั้ง
‘เปิดบานประตู? หรือมันจะรู้อะไรมา? ตำรวจงั้นเหรอ? เวรเอ้ย!’
ชายคนนี้เต็มไปด้วยท่าทีระวังคังชอลอินอย่างมากเพราะเขาอยู่ในจุดที่ต้องระวังความปลอดภัยอยู่ตลอด สำหรับคนที่ทำมาหากินอย่างผิดกฎหมายแล้วการได้เจอกับคนแปลกหน้ามักเป็นความเสี่ยงที่อันตรายอยู่เสมอ
“ฉันไม่รู้ว่านายกำลังพูดถึงเรื่องอะไรแต่ที่นี่ไม่รับซื้อรับขายหรือแลกเปลี่ยนอะไรทั้งนั้น เข้าใจไหม? ไป ๆ อย่ามาทำตัวน่ารำคาญแถวนี้แล้วไปที่อื่นซะไป!”
ชายคนนั้นจ้องมองมาที่คังชอลอินพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงข่มขู่ ดูเหมือนว่าเขาจะเข้ามาชกหน้าคังชอลอินอย่างแน่นอนหากเขายังไม่ยอมขยับออกไปจากร้าน
“ฉันมาหาชายชราควอน เพราะฉะนั้นก็ไปเปิดบานประตูเหล็กนั่นซะ ฉันไม่ใช่ตำรวจหรือคนที่ทำงานให้กับรัฐบาล ฉันมาเพื่อแลกเปลี่ยนสิ่งพวกนี้”
ด้วยเสียงอันดังกระหึ่ม กระเป๋าที่มีทองคำหล่นใกล้กับคอมพิวเตอร์ที่ชายคนนั้นกำลังเล่นเกมไพ่
“ฮะ ไอ้สารเลวเอ้ย!”
ชายคนนั้นแสดงสีหน้าที่บอกถึงความรำคาญก่อนจะลุกขึ้นยืนอย่างกระทันหัน เขาก้าวเข้ามาใกล้คังชอลอินพร้อมกับทำหน้าข่มขู่
“เห้ย อะไรของแกนักวะ? คิดว่าที่นี่คืออะไรงั้นเหรอ?”
“ถามว่าที่นี่คืออะไรงั้นเหรอ? ก็ร้านของชายชราควอน แหล่งปล่อยเงินที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีน่ะสิ” คังชอลอินตอบกลับหน้าตาย
“ไอ้เวรเอ้ย!”
ตอนนั้นเองที่ชายคนนั้นได้เหวี่ยงกำปั้นพุ่งใส่คังชอลอิน
แต่ผลที่ได้รับกลับตรงกันข้ามกับสิ่งที่เขาคิด
“อั่ก!”
ชายคนนั้นกุมท้องของตัวเองพร้อมส่งเสียงครวญครางขณะอาเจียนเอาอาหารกลางวันที่เขาเพิ่งกินไปประมาณเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้วออกมาจนหมด
“บอส!”
“เกิดอะไรขึ้น!”
“ไปจับตัวมันไว้!”
พวกนักเลงคนอื่น ๆ ที่ออกไปข้างนอกเพื่อสูบบุหรี่กลับเข้ามาข้างในพร้อมพุ่งเข้าหาคังชอลอินเพื่อหวังทำร้ายเขา
แต่ก็ได้ผลลัพธ์ที่เหมือนกันกลับไป
ไม่มีใครแม้แต่คนเดียวที่จะสามารถแตะต้องปลายเสื้อของคังชอลอินได้ พวกเขาทั้งหมดล้มลงไปกองกับพื้นด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวจากคังชอลอิน
คังชอลอินเป็นผู้ชายที่มีพลังในการต่อสู้ที่สูงยิ่งกว่านักมวยมืออาชีพ สำหรับเขาแล้วพวกนักเลงกลุ่มนี้ก็เป็นแค่เด็กประถมในสายตาของเขา
“ไอ้เวรเอ้ย! ใครส่งแกมา! บอกฉันมาดี ๆ ก่อนที่ฉันจะเอาเลือดแกออกจากหัว!”
ชายที่ล้มลงไปกองอยู่กับพื้นพูดจาข่มขู่อย่างน่ากลัวอีกครั้ง ก่อนที่ใครจะทันได้สังเกตเห็น มือของเขาได้ล้วงเข้าไปอยู่ในกระเป๋าเสื้อด้านใน
‘งี่เง่าซะจริง ๆ’
คังชอลอินรู้ดีว่ามีอะไรอยู่ข้างในกระเป๋านั่น
ชายชราควอนเป็นคนที่กระหายเงินอย่างมากซึ่งเขาจะจัดการกับเรื่องใดก็ตามที่นำเงินมาให้เช่นจัดซื้อยาเสพติด ปืน หรือสิ่งของที่ขโมยมา สำหรับพวกนักเลงที่มีหน้าที่ปกป้องร้านค้าของชายชราควอนแล้วพวกเขาจะถือปืนกันอย่างน้อยคนละหนึ่งกระบอก อย่างไรก็ตามคังชอลอินไม่มีท่าทีหวาดกลัวเลยแม้เขาจะรู้ว่าคู่ต่อสู้กำลังถือปืนอยู่ก็ตาม แน่นอนว่าถ้าเขาถูกยิงด้วยปืนตอนนี้มันมีโอกาส 9 ใน 10 ที่เขาจะต้องตาย แต่เขามั่นใจมากว่าเขาจะไม่เป็นฝ่ายที่ถูกโจมตีก่อนดังนั้นมันจึงไม่มีเหตุผลอะไรให้เขาต้องเป็นกังวล
‘ฉันจะหักคอแกให้แหลกคามือเลยคอยดูสิ’
จากนั้นคังชอลอินก็เผยรอยยิ้มร้ายและตัดสินใจที่จะพุ่งตัวเข้าใส่ชายคนนั้น
“เอาของเล่นพวกนั้นออกไปซะ มันไม่มีอะไรดีไปกว่าการสร้างความวุ่นวายที่น่าปวดหัวหรอก”
เสียงแก่ ๆ ดังออกมาจากลำโพงที่แขวนอยู่ตรงมุมเพดาน
“ฉันไม่รู้ว่าเธอเป็นคนที่มาจากไหนแต่เท่าที่เห็นก็คงจะมีฝีมือร้ายไม่เบา”
มันคือเสียงของชายชราควอน
‘ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน’
คังชอลอินยกยิ้มพอใจเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคย
ในอดีต คังชอลอินได้ทำการค้ากับชายชราควอนอยู่บ่อยครั้ง
คังชอลอินมีสินค้าที่ขายอย่างถูกต้องตามกฎหมายได้ยากรวมถึงการซื้อของบางอย่าง สำหรับเขาแล้วชายชราควอนค่อนข้างเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจที่ดี
“เปิดประตูแล้วพาเขาลงบันได้มา ฉันอยากเห็นหน้าเขาชัด ๆ สักหน่อย”
คังชอลอินจะสามารถพบกับชายชราควอนที่ถูกล้อมรอบไปด้วยบอดี้การ์ดแปดคนได้ก็ต่อเมื่อเขาเดินผ่านบานประตูเหล็กและลงไปยังอุโมงค์ลับที่อยู่ชั้นล่างเท่านั้น
“เธอไม่ใช่คนที่ฉันคุ้นหน้าเลยนี่ ใครเป็นคนแนะนำเธอมา?”
ชายชราควอนเอ่ยถามทันทีที่เขาได้เจอหน้ากับคังชอลอิน
“ไม่มี” คังชอลอินตอบกลับ
“อย่าทำแบบนี้สิ ถึงมันจะดูเหมือนว่าสายงานนี้จะทำอะไรก็ได้แต่มันจะปลอดภัยก็ต่อเมื่อทั้งสองฝ่ายต่างมอบความบริสุทธิ์ใจต่อกัน”
ชายชราดูไม่เต็มใจกับคำตอบของเขาเท่าไหร่นัก
“มาเริ่มทำข้อตกลงกันเลยเถอะ”
เส้นเลือดปูดนูนขึ้นที่หน้าผากของชายราทันทีเมื่อเห็นคังชอลอินไม่มีท่าจะร่วมสนทนาด้วย
“ฮ่า ๆ! นี่พ่อหนุ่ม เธอไม่เคยได้ยินเรื่องการเคารพผู้อาวุโสมาก่อนเลยใช่ไหม? ทำไมถึงได้ทำตัวโผงผางมากขนาดนี้”
“ชายชราควอนที่ฉันรู้จักชอบพูดถึงเรื่องเงินมากกว่าเรื่องพิธีการที่ไม่จำเป็น” คังชอลอินตอบกลับ
“?”
“ก่อนอื่น นี่”
คังชอลอินวางกระเป๋าที่มีทองคำ 500 แท่งลงบนโต๊ะ
“ทอง 500 แท่ง แต่ละแท่งมีน้ำหนัก 10 กรัมและความบริสุทธิ์ 97.8% ราคาตลาดน่าจะประมาณ 250 ล้านวอน? ค่าคอมมิชชันอีก 10% เท่านี้พอไหม?”
“โห … จะเริ่มคุยกันแบบนี้เลยรึ ได้ ยังไงเงินก็ดีกว่าเรื่องไร้สาระพวกนั้นอยู่แล้ว แล้วยังไง เป็นของที่มีอยู่แล้ว? ของขโมย? หรือลักลอบขุดหาแบบผิดกฏหมาย?”
“ได้มาจากที่ ๆ โด่งดังที่สุดในตอนนี้”
ใบหน้าของชายชราแข็งทื่อ
“ในการจะเริ่มธุรกิจใด ๆ การได้รับประโยชน์มาตั้งแต่ต้นจะเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด คุณก็คิดแบบนั้นใช่ไหม?”
คังชอลอินโยนเหยื่อเพื่อล่อลวง
“ใช่ มันจะมีประโยชน์อย่างมากเหมือนนกแรกเกิดที่สามารถจับหนอนได้สำเร็จ ใช่ มันเป็นแบบนั้นแน่นอนอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามการจะเข้าสู่ตลาดใหม่ก็มีความเสี่ยงด้วยเหมือนกัน”
ชายชราควอนตอบกลับโดยแสร้งทำเป็นไม่สนใจในสิ่งที่เขาจะมายื่นข้อเสนอ เขาเป็นชายชราที่มีประสบการณ์ดังนั้นเขาจึงไม่ยอมรับเหยื่อไปง่าย ๆ ในทันที
‘มันคือการดึงความสนใจ แต่เขากำลังหมายความว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่จะกระโดดลงไปที่อื่นถ้าเม็ดเงินในตอนนี้มันดีอยู่แล้ว’
คังชอลอินสามารถเข้าใจได้ในทันทีว่าชายชราต้องการสิ่งใด
‘อย่างไรก็ตามชายชราควอน ยังไงคุณก็ต้องทำธุรกิจร่วมกันกับฉัน’
มันมีจุดอ่อนที่สำคัญในสิ่งที่ชายชราควอนได้พูดไว้และคังชอลอินก็กำลังจะใช้สิ่งนั้นเพื่อการต่อรอง
“ดูเหมือนว่าความเสี่ยงนั้นจะใหญ่พอแม้กระทั่งกับในตอนนี้”
“หืม?”
“ปืน ยาเสพติด บัตรประจำตัวปลอม การฟอกเงิน ฯลฯ หากคุณถูกจับด้วยเหตุผลอะไรสักอย่างคงต้องไปนั่งในคุกเล่น ๆ อย่างน้อยก็น่าจะสัก 20 ปี นั่นคือชีวิตของคุณเมื่อพูดถึงความเสี่ยง”
“อะแฮ่ม!”
มีอาการไอแห้งไม่สบายดังออกมาจากปากของชายชราในทันใด
หากจะพูดกันตามความเป็นจริง ชายชราควอนถือเป็นอาชญากรคนหนึ่ง
ไม่ว่าชายชราคนนี้จะทรงพลังมากแค่ไหนแต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เขาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้สำเร็จนั่นคือจุดจบของชีวิตเขาโดยสมบูรณ์ ที่ชายชรามาได้ไกลขนาดนี้เพราะด้วยโชคและทรัพยากรรอบตัวดี ๆ แต่มันก็ยังคงเป็นเส้นทางที่เหมือนเดินอยู่บนเปลือกไข่
“นี่พ่อหนุ่มใจร้อน สิ่งที่เธอพูดมามันก็ไม่ผิดหรอกแต่ถ้าเธอผลักฉันไปที่แบบนั้นมันก็จะไม่มีประโยชน์อะไรกับตัวเธอด้วยเลย ถ้าฉันตั้งใจจะ…”
“คิดเหรอว่าจะสามารถจัดการฉันได้ด้วยนักเลงพวกนั้น?”
คังชอลอินว่าพลางชี้ไปที่บอดีการ์ดรอบตัวชายชราด้วยการเพยิดคางใส่
“ไม่ว่าหมัดของเธอจะแข็งแกร่งมากแค่ไหนมันก็จะไร้ประโยชน์เมื่ออยู่ต่อหน้าลูกกระสุน”
ชายชราพูดอย่างเย็นชา มันหมายความว่าเขาจะฆ่าคังชอลอินทิ้งซะตอนนี้ถ้าเขายังไม่หยุดล่อลวงไปไกล
“ฉันผิดหวังจริง ๆ”
“ผิดหวัง?”
“ฉันหลงคิดว่าคุณอยากจะออกมาพบเจอกับด้านสว่างซะอีก”
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น ดวงตาที่เหี่ยวย่นของชายชราควอนก็พลันเบิกกว้าง
“ชายชรา เงินของคุณเปรียบเหมือนรางวัลที่เกินเอื้อม คุณไม่สามารถซื้อสิ่งปลูกสร้างภายใต้ชื่อของคุณเองได้ และคุณคิดว่าจะอยู่ภายใต้อาคารที่ถูกปลอมแปลงชื่อนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน? คุณไม่ได้พูดว่าตัวเองใช้ชีวิตแบบนี้มานานเกินไปแล้วงั้นหรอกเหรอ?
ผลของกำไรมันมีขนาดที่ใหญ่อยู่เสมอและแน่นอนว่าคุณต้องจ่ายเป็นเงินสด แต่เมื่อพิจารณาถึงค่าใช้จ่ายในการไล่ตามปิดเสียงของคนอื่นและขจัดความเสี่ยงแล้วนั้น มันคือการได้ใช้ชีวิตที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่หรอกจริงไหม? มีประเทศไหนเหมือนอย่างเกาหลีที่จะไวต่อเรื่องปืนและยาเสพติดอีกบ้าง? แต่ถ้าให้ฉันเดา การเปลี่ยนธุรกิจในตอนนี้อาจทำให้คุณกลัวต่อการตอบสนองในเชิงลบ เห็นได้ชัดว่าคุณไม่สามารถพับธุรกิจดำมืดของคุณไปได้เพราะคุณไม่มีความมั่นใจที่มากพอ ฉันไม่ได้พูดอะไรผิดไปใช่ไหม?”
คำพูดของคังชอลอินนั้นเฉียบคมและเจ็บปวดเป็นอย่างมากพอที่จะทำให้ใจของชายชราแตกเป็นเสี่ยง ๆ แถมยังไม่มีส่วนใดที่เป็นเท็จเกินจริงเลยสักคำ
“ชายชรา นี่คือโอกาสที่ฉันจะมายื่นให้ โอกาสสำหรับคุณที่จะได้ออกจากที่มืดเพื่อกลับไปอยู่บนแสงสว่าง
ฉันจะให้ข้อมูลกับคุณเล็กน้อย แน่นอนว่าจะตอนนี้มันคงแพร่กระจายไปทุกหนทุกแห่งแต่ข้อมูลพวกนี้ก็ยังใช้ได้”
“ว่ามา”
ดูเหมือนว่าชายชราจะเริ่มเห็นด้วยกับสิ่งที่คังชอลอินพูด
“ที่แพนเจีย โลกใบใหม่ที่กำลังเป็นข่าวไม่สามารถนำสิ่งของจากโลกนี้ติดตัวไปด้วยได้ แต่คุณสามารถนำสิ่งของจากโลกนั้นกลับมายังโลกนี้ได้ ลองคิดดูดี ๆ สิว่ามันหมายความว่าอย่างไร?”
ชายชราค่อย ๆ พิจารณาถึงข้อมูลที่คังชอลอินให้มา
‘ไม่สามารถเอาเข้าไปได้แต่สามารถนำออกมาได้ ผู้ที่สามารถไปกลับที่นั่นได้จะสามารถเลือกของที่นำออกมาได้ อืม… เดี๋ยวก่อน มันดูเหมือนว่าเขากำลังพูดว่ามันไม่จำเป็นต้องลงทุนด้วยเงินจำนวนมาก’
ทันใดนั้นเองสายตาของชายชราเปล่งประกาย
‘การแจกจ่าย!’
ถึงมันจะผิดกฎหมายแต่เขาเองก็ใช้ชีวิตเพื่อทำธุรกิจมานานกว่าหลายทศวรรษ แม้จะมีคำใบ้แค่เพียงนิดหน่อยแต่หัวของเขาก็หมุนได้เร็วและคิดวิธีหากำไรได้เป็นอย่างดี
“ยังฉลาดเหมือนเดิม”
คังชอลอินยกยิ้มพอใจราวกับเขารู้ว่าชายชราคิดอะไร
“คุณแค่ต้องมีความปลอดภัยในเครือข่ายของการแจกจ่าย จากนั้นก็แค่นั่งรออยู่เฉย ๆ จนกว่านักเดินทางข้ามมิติจะนำสิ่งของเหล่านั้นมาให้คุณไปกระจายต่อ และสิ่งที่คุณต้องทำก็คือเก็งกำไรจากการค่านายหน้า”
นั่นคือกุญแจสำคัญ
“แต่… แต่อะไรล่ะ? ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่ามันจะมีอะไรที่มาจากที่นั่นบ้าง?” ชายชราควอนถาม
“ก็ยกตัวอย่างเช่น…”
คังชอลอินตอบกลับ
.
.