ตอนที่ 10: เลือกดินแดนที่ดีที่สุด
การเลือกดินแดนก็เหมือนกับการกรองน้ำที่ต้องคอยกรองซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อให้น้ำมีความใสสะอาดมากที่สุด รูปแบบดินแดนที่คังชอลอินต้องการนั้นจะต้อง …
มันเป็นการเลือกที่ต้องระวังเป็นพิเศษ ถึงแม้ว่าเขาจะตัดตัวเลือกลำดับที่สี่, ที่หนึ่ง, ที่สองและที่สามที่ไม่เข้าค่ายความต้องการออกไปตามลำดับแต่คังชอลอินก็ยังคิดและพิจารณาอย่างรอบคอบกับดินแดนที่เหลืออยู่อีก 600 แห่ง
‘ไม่ … ไม่ใช่สักอย่าง’
คังชอลอินที่อยู่เพียงลำพังในห้องโถงกำลังมองดูแบบจำลองโดยไม่มีทีท่าว่าเขาจะสนใจที่ไหนเป็นพิเศษ เดสเดโมน่า, คิวบ์, อังรี มายู, สวารอค และดินแดนอื่น ๆ พอจะดึงความสนใจจากเขาไปได้บ้างแต่อย่างไรก็ตามดินแดนเหล่านี้ไม่อาจสร้างความมั่นใจให้กับเขาได้ว่ามันจะเป็นสิ่งที่เขาตามหาอยู่จริง ๆ มันยากมากสำหรับเขาที่จะหาดินแดนที่มีคุณสมบัติได้ครบทุกประการตามที่ต้องการ
‘มันต้องมีสักอย่างสิ ท่ามกลางดินแดนอีกเป็นร้อยที่เหลือ ต้องมีสักที่บ้างแหละ’
คังชอลอินเตือนใจตัวเองให้อดทนเพื่อค้นหาดินแดนที่ดีที่สุด และทันใดนั้นสายตาของเขาก็เผลอไปสะดุดเข้ากับดินแดนป้อมปราการธรรมดา ๆ แห่งหนึ่ง
‘ทำไมมันถึงได้ดูธรรมดามากขนาดนี้นะ?’
แม้จะอยู่ในศตวรรษที่ 21 แต่ก็สามารถพบป้อมปราการที่คล้าย ๆ กันแบบนี้ได้ทั่วยุโรป ซึ่งถ้าดูเผิน ๆ แล้วมันก็เป็นแค่ป้อมปราการทั่วไปที่ไม่มีรูปลักษณ์และความสามารถอะไรเป็นพิเศษ
‘เหอะ ไม่ว่าพระเจ้าจะเป็นใครแต่ดูแล้วก็คงไม่ค่อยฉลาดสักเท่าไหร่สินะ คิดว่าการตลาดคืออะไรกันแน่? ใครมันจะไปเลือกดินแดนแบบนี้กัน?’
คังชอลอินแอบสาปส่งพระเจ้าผู้อัญเชิญเขาผ่านการอัญเชิญครั้งใหญ่นี้
‘ถ้างั้นพระเจ้าก็คงไม่มานั่งสนใจเลยล่ะสิว่าดินแดนนี้จะถูกซื้อไปหรือเปล่า ดู ๆ แล้วก็คงไม่ใช่คนมีความคิดเท่าไหร่ถึงได้จงใจสร้าง “การตลาดที่ไร้ประโยชน์” แต่ถ้าให้เดาในฐานะที่ได้เป็นพระเจ้าแล้วก็คงไม่มีอะไรให้ต้องมาสนใจนัก’
‘แต่ถ้าดินแดนนี้ขายออก พระเจ้าจะรู้สึกตื่นเต้นบ้างไหมนะ?’
เขาแสดงอาการดูถูกและคิดว่าพระเจ้าเป็นพวกที่เชื่อใน “การตลาดที่ไร้ประโยชน์” ก่อนจะเลื่อนแบบจำลองต่อไปเพื่อดูข้อมูลแต่แล้วเขาก็หยุดชะงักไปกระทันหัน
‘ลองตรวจดูอีกสักหน่อยดีกว่า’
คังชอลอินหยุดคิดและตัดสินใจอ่านรายละเอียดเผื่อไว้คร่าว ๆ มันมีบทกวีหนึ่งที่กล่าวไว้ว่า “ภายใต้แสงไฟจะเต็มไปด้วยความมืดมิด” (เป็นคำเตือนที่หมายถึงให้ระวังและใส่ใจกับสิ่งใกล้ตัว) และ “คิดจะการทำสิ่งใดจงตรวจดูให้รอบคอบเสียก่อน” อยู่
ไม่แน่ว่าดินแดนแห่งนี้อาจเป็นอัญมณีที่มีความสามารถและพลังมหาศาลมากก็ได้ คังชอลอินตัดสินใจตรวจดูรายละเอียดป้อมปราการธรรมดา ๆ นี้อย่างพิถีพิถัน หลังจากจ้องแบบจำลองค้างไว้ 2 – 3 วินาที หน้าต่างคำอธิบายก็ปรากฏขึ้นมา ชื่อของดินแดนนี้คือ “ ป้อมปราการเหนือเวหา ลาพิวต้า”
คังชอลอินที่กำลังตรวจสอบคำอธิบาย ‘ลาพิวต้า’ รู้สึกประหลาดใจเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เขาได้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง คำอธิบายระบุไว้ว่า “สมบัติที่แท้จริงจะตามหาผู้เป็นนายของมันเอง”
คงเป็นเหมือนอย่างดาบเอกซ์คาลิเบอร์ที่ถูกเสียบติดอยู่กับก้อนหินเพื่อรอให้กษัตริย์อาร์เธอร์มาดึงออก หรือเหมือนอย่างกระบี่ชิงกังที่โจโฉมอบให้แฮหัวอิ๋นแต่ท้ายที่สุดกระบี่เล่มนี้ก็ได้ตกไปเป็นของจูล่ง
หากคังชอลอินเลื่อนผ่านดินแดนนี้ไปเขาคงรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากแน่ มีคำอธิบายเพิ่มเติมอีกว่า “จงพายเรือเมื่อถึงเวลาน้ำมา” การตั้งใจเลือกดินแดนด้วยความพิถีพิถันและไม่คิดที่จะเลื่อนผ่านป้อมปราการธรรมดา ๆ นี้ได้เป็นโอกาสสำคัญเดียวสำหรับเขา ดูเหมือนว่ารูปร่างหน้าตาที่ธรรมดานี้จะเป็นเพียงบททดสอบหรือเล่ห์กลอย่างหนึ่งจากพระเจ้า
[ป้อมปราการเหนือเวหา ลาพิวต้า]
ประเภท: เมืองทางอากาศ
แนวโน้ม: อเนกประสงค์
สถานที่ตั้ง: แพนเจียทางตะวันตกเฉียงใต้ แคว้นแพนดิโมเนียม
คำอธิบาย: ป้อมปราการจักรวรรดิโบราณประยุกต์ใช้กับเวทมนตร์ขั้นสูง
ทักษะ: การพรางตัว, ระบบรักษาตัวเอง
ตัวเลือกเพิ่มเติม: กองทัพอวกาศ, ดาวเทียมจัดการเวทมนตร์อเนกประสงค์
ราคา: 9,800 ทอง
‘มีดินแดนแบบนี้อยู่จริง ๆ ด้วยเหรอ?’
ส่วนหนึ่งของป้อมปราการที่ทำให้คังชอลอินต้องประหลาดใจคือกองทัพอวกาศที่เป็นดาวเทียมจัดการด้วยเวทมนตร์อเนกประสงค์
หรือก็คือดาวเทียมประดิษฐ์
เขาไม่คิดว่าที่แพนเจียแห่งนี้จะมีดาวเทียมอยู่จริง ๆ ดาวเทียมมีอยู่มากมายบนโลกที่เต็มไปด้วยวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมก้าวหน้าเนื่องจากการขาดพลังเหนือธรรมชาติเช่นเวทมนตร์ แม้แต่คังชอลอินที่เคยมีประสบการณ์ได้ใช้ชีวิตอยู่ในแพนเจียมาแล้วหนหนึ่งก็ยังประหลาดใจกับทักษะพิเศษนี้
ตามจริงแล้วทักษะเวทซึ่งเป็นส่วนผสมของเวทมนตร์และวิชาการเทคโนโลยีนั้นถูกพบอยู่ทั่วไปบนแพนเจีย นักเดินทางข้ามมิติคนอื่นจะเรียกว่า “นักล่า” เพื่อออกตามล่าหาสัตว์ประหลาดที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนแต่เหล่าราชันย์จะพอเดากันได้อยู่ก่อนแล้วว่าแพนเจียนั้นเป็นที่ ๆ รู้จักกันดีในเรื่องของเวทมนตร์
แต่สำหรับดาวเทียวนั้น…
ช่างเป็นอะไรที่น่าอัศจรรย์มากจริง ๆ!
“อันนี้แหละ ในที่สุดก็เจอดินแดนที่ต้องการแล้ว!”
ป้อมปราการเหนือเวหา ลาพิวต้าตรงตามความต้องการของคังชอลอินเกือบทุกอย่าง มันตอบสนองต่อความต้องการแรกซึ่งก็คือเป็นดินแดนเคลื่อนไหวแต่ไม่ใช่บนสิ่งมีชีวิตตามข้อที่สอง มันอยู่ห่างไกลจากดินแดนของกัลเวกและบัลเดอร์ เขตที่ตั้งของดินแดนนี้จะอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ แคว้นแพนดิโมเนียมขอบด้านนอกสุดของแพนเจีย
‘แพนดิโมเนียม…ช่างเป็นชื่อที่เหมาะแก่จอมราชันย์จ้าวพิชิตอย่างเราซะจริง ๆ’
ดินแดนปีศาจเป็นดั่งสวรรค์ของผู้คนที่คลั่งไคล้สงคราม ที่แพนดิโมไม่เคยเงียบสงบเลยสักคราแม้สงครามแร็กนาร็อกจะยังไม่เริ่มร้อนระอุท่ามกลางเหล่าราชันย์ มันคือสถานที่ที่ราชันย์คนอื่นเรียกว่าสวรรค์ของคนที่บ้าคลั่งในสงครามอย่างมาก เป็นพื้นที่ที่ปลีกตัวออกห่างได้อย่างสมบูรณ์แบบ ดินแดนปีศาจแห่งนี้ต่างต่อสู้กันไม่เว้นวันจนทำให้ราชันย์ที่อยู่ดินแดนใกล้เคียงกับแพนดิโมเนียมไม่อาจเป็นจอมราชันย์ต่อไปได้ ด้วยเหตุนี้แพนดิโมเนียมจึงเป็นแคว้นที่มีการดิ้นรนต่อสู้เพื่อชีวิตที่ยอดเยี่ยมที่ไม่มีใครสามารถชนะได้ แทนที่จะขยายอาณาเขตดินแดนพวกเขากลับยุ่งอยู่แต่การทำสงคราม ไม่มีเวลามาสร้างสินทรัพย์ของตัวเองให้งอกเงย
‘ต้องทำให้แพนดิโมเนียมเกิดความสันติสุขและทำให้ที่นี่กลายเป็นกองบัญชาการหลักของเราให้จงได้ จากนั้นก็มุ่งหน้าสู่วัลฮัลลาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อปรับเปลี่ยนเส้นทางอนาคตที่กำลังจะคลาดเคลื่อน’
ภายในหัวของคังชอลอินเต็มไปด้วยแผนการใหญ่
‘ทำเลที่ตั้งก็ดี แต่หากมีอะไรผิดปกติ ระบบรักษาตัวเองก็น่าจะมีประโยชน์ต่อเราบ้างไม่น้อย’
แพนดิโมเนียมห่างไกลจากแผ่นดินใหญ่มาก นอกจากจะเป็นพื้นที่ทิวเขาหน้าผาสูงและอันตรายแล้วมันยังมีความสามารถในการป้องกันกองบัญชาการใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพในกรณีที่เขาต้องพ่ายแพ้ให้กับแผ่นดินใหญ่
สมบูรณ์แบบ!
ทักษะการพรางตัวอาจยินยอมให้เขาซ่อนดินแดนหรือบดบังได้อย่างสมบูรณ์ซึ่งหมายความว่ามันจะรับประกันความลับภายในดินแดนแห่งนี้ให้เขาด้วยได้ การปกปิดเป็นตัวเลือกหนึ่งที่มีประโยชน์สำหรับการป้องกันและการจู่โจม สมควรแล้วที่แนวโน้มของดินแดนนี้จะถูกเรียกว่าอเนกประสงค์เพราะมันมีประโยชน์ทั้งในเชิงรุกและเชิงรับ นอกจากนี้ระบบการรักษาตัวเองยังหมายถึงที่ดินแห่งนี้จะมีการรักษาตัวเองจากความเสียหายใด ๆ ที่ได้รับราวกับว่ามันมีชีวิต!
‘ทำไมตอนนั้นเราถึงไม่เลือกที่นี่กันนะ?’
คังชอลอินนึกถึงอดีตเมื่อเขาตัดสินใจเลือกดินแดนเป็นวัลฮัลฮาด้วยความรีบเร่งก่อนจะยิ้มขึ้นอย่างขมขื่น วัลฮัลลาที่เขาเลือกไม่ได้มีเหตุผลอื่นใดนอกเหนือจากราคาถูกจนได้นำพาให้เขามาถึงความตกต่ำจนถึงขีดสุดในชีวิต หากเขามีดินแดนเคลื่อนที่เขาคงไม่ต้องเผชิญหน้ากับความอับอายและการสูญเสียหัวของตัวเองจนไปอยู่ในมือของรอสต์ไชลด์แบบนั้น
“ฉันเลือกดินแดนนี้”
คังชอลอินที่ได้พบดินแดนของตัวเองในที่สุดพึมพำและกดปุ่มซื้อโดยไม่ลังเล
ไม่จำเป็นต้องไตร่ตรองหรือมองดินแดนไหนเพิ่มเติม
ดินแดนที่เลือกจะเป็นไปตามข้อกำหนดทั้งหมดที่อธิบายมาและเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เขาสนใจ แต่ตอนนี้เขาสงสัยถึงทักษะ “กองทัพอวกาศ” มากกว่าว่ามันจะเป็นเช่นไร เขาต้องการเห็นดินแดนของตัวเองโดยเร็วที่สุด ที่นั่นจะสามารถใช้เป็นกองบัญชาการทหารได้หรือไม่?
สิ่งต่าง ๆ เช่นการโจมตีจากรอบวงโคจร ยิงแสงเลเซอร์หรือการยิงอาวุธผ่านดาวเทียมจะเป็นไปได้จริง ๆ น่ะหรือ? แม้แต่โลกในปี 2020 ที่ซึ่งเทคโนโลยีก้าวหน้าไปมากแต่การโจมตีจากรอบวงโคจรก็ยังเป็นไปได้แค่ในหนังสือหรือภาพยนตร์เท่านั้น บางทีมันอาจเป็นการควบคุมอาวุธผ่านการใช้กองทัพอวกาศโดยตรงไปยังดินแดนของศัตรูซึ่งจะทำงานเหมือน ICBM (ขีปนาวุธข้ามทวีป)
ไม่มีทางรู้ได้ในตอนนี้ แต่ถ้าเขาวางแผนการเติบโตดินแดนของตัวเองอย่างเป็นระบบเขาก็จะสามารถเรียนรู้วิธีการและใช้ประโยชน์จากกองทัพอวกาศนี้ได้
[ท่านต้องการซื้อลาพิวต้าด้วยราคา 9,800 เหรียญทองนี้หรือไม่? ใช่ หรือ ไม่ใช่?]
การแจ้งเตือนของการตัดสินใจขั้นสุดท้ายปรากฏ
[ใช่]
คังชอลอินกดปุ่มยืนยัน
[ขอแสดงความยินดี! ท่านได้ทำการซื้อป้อมปราการเหนือเวหา ลาพิวต้าสำเร็จ!]
ข้อความแสดงความยินดีกับผู้ซื้อปรากฏขึ้นและหายไปก่อนจะตามมาด้วยข้อความแจ้งเตือนเพื่อเคลื่อนย้ายไปยังแพนเจีย
[ราชันย์คังชอลอิน เคลื่อนย้ายไปยังแพนเจียผ่านการเคลื่อนย้ายข้ามมิติภายใน 5 … 4 … 3 … 2 … 1 …]
ทันใดนั้นร่างกายของคังชอลอินก็กระจายตัวออกเป็นเพียงอนุภาคขนาดเล็กและก็หายไป เขาถูกพาไปยังแพนเจียเหมือนกับราชันย์คนอื่น ๆ ที่เลือกซื้อดินแดนสำเร็จ
[การเคลื่อนย้ายข้ามมิติสำเร็จ!]
[เปิดระบบคำนวณระดับราชันย์!]
[คำแนะนำ!]
[ยินดีต้อนรับสู่แพนเจีย!]
ประโยคต้อนรับมากมายเกิดขึ้นต่อหน้าและทัศนียภาพของเขาก็เปลี่ยนไป
“ช่วงเวลาอันยาวนาน เนิ่นนานอย่างมากที่ข้าเฝ้ารอท่านผู้เป็นนายแก่ข้า”
ใครบางคนกำลังกล่าวทักทายคังชอลอินเมื่อเขาลืมตาตื่นขึ้นมาใจกลางป้อมปราการเวหาที่แพนเจีย
นางคุกเข่าลงข้างหนึ่งพร้อมทำท่าโค้งคำนับคังชอลอิน ด้วยชุดคอเต่าที่มีส่วนเว้าช่วงเนินหน้าอกเผยให้เห็นถึงหน้าอกหน้าใจของนางเต็ม ๆ ตา มีแว่นตากรอบพลาสติกที่ทำให้นางดูเหมือนเป็นคนเข้มงวดรั้งอยู่บนปลายจมูก
“ข้าคือผู้รับใช้ประจำตัวนายท่าน ที่จะรับใช้และภักดีต่อนายท่านจนกว่าลมหายใจสุดท้ายของข้าจะสูญสลาย ข้ามีนามว่าลูเซีย”
*ชี้แจง*
รูปแบบการสนทนาและบทบรรยายจะถูกเปลี่ยนไปตามพื้นที่ที่ตัวละครหลักอยู่ หากเป็นบนโลกปกติจะใช้คำนามและคำเรียกแบบธรรมดาทั่วไปแต่หากเข้าสู่โลกของแพนเจียเมื่อไหร่จะใช้เป็นสรรพนามข้า/เจ้าตามระบบภาษาของแพนเจียเพื่อให้เข้ากับยุคสมัยนั้น