เพียงแต่อาจารย์ของเธอไม่ได้หวั่นไหว ไม่แม้แต่จะตกใจสักนิดด้วยซ้ำ เขาเหวี่ยงไม้เท้าไปรับกรงเล็บก่อนตวัดพลิกใช้มันกดแขนทั้งสองข้างของคู่ต่อสู้ลงพร้อมกันนั้นก็กระแทกใบหน้าซัดโหงอาคมจนมันเซไปทางซ้าย เอลเดรดขยับเท้าข้างหนึ่งถอยหลัง เอี้ยวตัวหันเปิดทางให้มันคะมำ ควงไม้เท้าด้วยท่าทางสง่างามขึ้นฟาดหลังศีรษะโหงอาคมจนมันร่วงลงไปกับพื้น
ไม่รู้ว่ามันทำได้อย่างไรเหมือนกัน ทว่าโหงอาคมที่ควรจะหน้าทิ่มพื้นกลับกระโจนพรวดกลับขึ้นหาเอลเดรดในชั่วพริบตา ซึ่งนั่นเป็นการเคลื่อนไหวในแบบที่เป็นไปไม่ได้เลยนอกจากมันจะพลิกอวัยวะทุกส่วนของมันสลับหน้าหลัง ควันสีดำระเบิดจากร่างแปลกประหลาดตอนที่มันกระแทกกับพื้น ในสายตาวาร์ริ เธอเชื่อว่าตัวเองเห็นอวัยวะของมันเปลี่ยนด้านกับตา ใบหน้าเปลี่ยนกับหลังหัว แขนซ้ายสลับกับขวา พุงยุบแล้วเลื่อนไปโผล่แทนสันหลังคดงอ การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เกิดอย่างฉับพลัน แค่วินาทีเดียวเท่านั้น กรงเล็บสิบนิ้วก็จ่อประชิดถึงคอเอลเดรดได้แล้ว
แสงสีขาวสว่างวาบเมื่ออาจารย์ของเธอแบมือออก โหงอาคมถูกคลื่นพลังล่องหนอัดร่วงกลับลงพื้นในทันใดโดยไม่สามารถทำอันตรายเอลเดรดได้ ครั้งนี้โหงอาคมแตกกระจายเป็นกลุ่มควันสีดำ สายควันเล็ก ๆ เลื่อนไหลไปเกาะกลุ่มกันห่างจากชายกลางคนในชุดคลุมซ่อมซ่อมากกว่าสิบเมตร เอลเดรดมองดูโหงอาคมปรากฏตัวหลังจากควันทั้งหมดควบแน่นเป็นกายเนื้อของผีผมยาวอีกครั้งหนึ่งด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“เป็นเวทมนตร์ที่แปลกประหลาดดี” เอลเดรดเอ่ย “พนันว่าแกคงเอาชนะทุกคนด้วยการเคลื่อนไหวที่น่าประหลาดใจนี่สินะ”
“น่าเสียดาย ถ้าแกยอมตายง่าย ๆ ตั้งแต่เมื่อครู่ก็คงจะไม่ทรมานแล้ว แต่ก็นั่นแหละ พวกผู้ใช้มนตร์ขาวมักจะดันทุรังไม่เข้าเรื่อง ทำให้จุดจบของพวกแกเละเทะมากกว่าจะสง่างามอย่างที่พวกแกชอบเสแสร้ง!” โหงอาคมหัวเราะ
วินาทีต่อมาความมืดเข้มข้นก็ระเบิดจากร่างผิดมนุษย์มนา กระแสลมแรงเหวี่ยงหมุนเช่นรัศมีพายุโดยมีใจกลางอยู่ที่สิ่งชั่วร้ายนั้น คลื่นระลอกแรกทำเอากองหินงอกขนาดใหญ่ที่วาร์ริใช้เป็นที่กำบังถึงกับสั่นไหวราวกับจะแตกสลายเลยทีเดียว จากนั้นสายลมหนักหน่วงระลอกที่สองก็ปะทะตามมาติด ๆ ขณะที่ความรู้สึกไม่มั่นคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เด็กหญิงหรี่ตาลง จดจ้องใจจดใจจ่อว่าอาจารย์ของเธอจะรับมือกับสถานการณ์นี้อย่างไร
เอลเดรดยืนหลังตรง ท่าทางสบายอกสบายใจท่ามกลางสภาพปั่นป่วนซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับคนทั่วไปที่จะทานไหว อย่าว่าแต่ยืนเลย แค่จะทรงตัวไม่ให้ล้มยังเป็นเรื่องยากด้วยซ้ำไป
ลมไงล่ะ! เด็กหญิงตระหนักได้จากทิศทางของฝุ่นทรายที่ปลิวอยู่รอบ ๆ เอลเดรด แม้จะมองเห็นได้ยากก็เถอะ ทว่าเธอก็พอบอกได้อยู่ว่ารอบตัวอาจารย์มีกระแสลมอีกสายซึ่งรุนแรงยิ่งกว่าพัดต้านทานไว้ไม่ให้อำนาจของโหงอาคมสามารถเล่นงานถึงตัวเขาได้
ความมืดมหาศาลกำลังโถมใส่เขา พวกมันบดบังแสงเลื่อมพรายในชั้นหินผิวถ้ำไปจนหมด อำนาจลี้ลับนั้นอันตรายถึงตาย ขนาดวาร์ริอยู่ห่าง ๆ ยังสามารถสัมผัสถึงมันได้เลย
เอลเดรดชูไม้เท้า แสงขาวเจิดจ้าราวดวงตะวันสาดส่องจากท่อนไม้ในมือ ไอหมอกแห่งความมืดกระจายตัวออกทันทีที่สัมผัสกับแสงสว่างในลักษณะเหมือนควันกระทบกำแพงแก้วทรงกลม ก่อนที่แสงขาวจะเป็นฝ่ายแทงทะลุม่านสีดำสนิทประหนึ่งคมดาบนับไม่ถ้วน ปรากฏการณ์นั้นเปิดเผยร่างพุงโตแขนขาเก้งก้างที่ซ่อนเป็นส่วนหนึ่งภายในหมอกควันด้วย โพรงถ้ำสะเทือนไหวจากเสียงกรีดร้องลั่นของโหงอาคมตอนที่ตัวมันถูกแสงฉายเข้าใส่ตรง ๆ อำนาจเรียกพายุจากฝั่งของมันอันตรธานไปในชั่วพริบตาส่งผลให้มันโดนกระแสลมของฝ่ายเอลเดรดกระแทกปลิว
โหงอาคมเปลี่ยนสภาพจากกายเนื้อเป็นหมอกดำสามสายเลื่อนไหลแหวกว่ายอากาศไปรวมตัวกันนอกรัศมีที่แสงขาวจะแผ่พลานุภาพไปถึง แม้แสงสว่างของเอลเดรดจะทรงพลังก็ตาม ทว่าความมืดในที่แห่งนี้ก็ไม่อาจดูแคลนได้ อำนาจของเขาติดตามโหงอาคมไปได้เพียงระยะหนึ่ง จากนั้นจึงกลับเป็นฝ่ายถูกความมืดอันหนาแน่นอีกฟากกลืนกินหายไป
ผิวหนังสีเทาซีดปรากฏปื้นแดงเข้มกระจายทั่ว โหงอาคมในเวลานี้ดูเหมือนมันเพิ่งหนีรอดจากกองไฟมาได้อย่างหวุดหวิดพร้อมแผลไฟไหม้ถึงเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง ถึงอย่างนั้นความเสียหายก็คงอยู่ไม่นานเมื่อหมอกดำโดยรอบสัมผัสกับบาดแผล วาร์ริเพิ่งเงยหน้าขึ้นหลังจากกระแสลมคลั่งระลอกสุดท้ายผ่านไปพบว่ารอยไหม้ทั้งหมดบนตัวโหงอาคมฟื้นฟูกลับเป็นผิวหนังปกติต่อหน้าต่อตาเธอเลยทีเดียว
“เจ้าไม่มีอำนาจที่นี่” โหงอาคมหัวเราะเสียงสูงปรี๊ด “ภูเขาแห่งนี้ซึมซับความชั่วร้ายของผู้คนมานานจนกล้าแข็ง ไม่มีอำนาจแห่งแสงสว่างอีกต่อไป เป็นบ้านของพลังมืดอย่างสมบูรณ์!”
สิ้นเสียงพูดของมัน แสงระยิบระยับดั่งประกายสะท้อนหลากสีของอัญมณีที่ฝังตามผิวหินทั่วโพรงถ้ำก็กะพริบรัว ๆ ระดับความสว่างตกฮวบฮาบ บางจุดถึงกับดับวูบไปสองถึงสามวินาทีจากนั้นค่อยสว่างขึ้นมาใหม่แต่ก็ไม่เท่าก่อนหน้า ความมัวหมองแผ่จากฝั่งของโหงอาคมปกคลุมสีสันบนพื้น ผนังและเพดาน
“ข้ามีอำนาจของสถานที่นี้หนุนหลังอยู่ ลำพังเจ้าตัวคนเดียวจะมาต้านทานอะไรได้ แค่นี้ก็รู้ผลแล้วละ พ่อมดมนตร์ขาว” มันว่าต่อ ริมฝีปากเข้มปี๋โผล่ท่ามกลางเส้นผมที่ปรกใบหน้าบิดโค้งกระหยิ่มยิ้มย่อง “หลังเชือดเจ้าแล้ว ข้าจะบังคับให้นังเด็กนั่งรับข้าเป็นอาจารย์” วาร์ริหนาวสันหลังวาบเมื่อศีรษะของมันหันมาทางเธอ “ข้าเกลียดการถูกปฏิเสธ ถ้าเจ้าปฏิเสธ ข้าจะกินเจ้าเสีย!”
“ดูท่าเจ้าจะเก็บตัวจนเสียสติไปแล้ว” เอลเดรดพูดเรียบ ๆ “จริงอยู่ที่สถานที่นี้อบอวลด้วยอำนาจมืด แต่มันก็ไม่ได้ส่งผลอะไรนักหรอก เพราะเส้นทางของเจ้าได้มาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว”
“อวดดีนักนะ! ไอ้เด็กเมื่อวานซืน!” โหงอาคมคำราม มันกระโจนจากจุดที่ยืนอยู่ ทว่าพริบตาถัดมาร่างพิกลพิการก็หายวับไปหลงเหลือเพียงหมอกควันสีดำจาง ๆ ฟุ้งกระจาย ขณะเดียวกันโหงอาคมก็ปรากฏตัวใกล้กับเอลเดรดมากกว่าเดิมพร้อมกระแสความมืดที่ฟุ้งกระจายปกคลุมรอบตัว การกระโจนอันเหนือธรรมชาตินี้เกิดขึ้นอีกสองครั้งในทิศทางที่ต่างกัน ครั้งแรกมันปรากฏทางซ้ายมือที่ระยะห่างประมาณสี่เมตร และผ่านไปไม่เกินหนึ่งวินาทีโหงอาคมก็ระเบิดจากควันที่ระยะสองเมตรจากด้านขวาของเอลเดรด ถ้าไม่ใช่ว่ามันเคลื่อนไหวเร็วกว่าสายตาจะมองทัน ก็เป็นไปได้ว่ามันน่าจะมีพลังหายตัว
เอลเดรดขยับขาขวาไปทางด้านหลังแล้วย่อตัวลง มือทั้งสองข้างจับไม้เท้าแนบกับสะโพกซ้ายในลักษณะคล้ายนักรบเตรียมชักดาบจากฝักตั้งแต่โหงอาคมกระโจนครั้งแรก และที่แปลกที่สุดก็คือเขาหลับตาลง สงบนิ่งตั้งแต่หัวจรดเท้า
การโจมตีแรกมาจากด้านหลัง โหงอาคมกระโจนจากหมอกมืด เอลเดรดเคลื่อนไหวปุบปับยกแขนขวาข้ามศีรษะตนเองตวัดไม้เท้าไปรับกรงเล็บอย่างแม่นยำทั้งที่ไม่ได้ลืมตาด้วยซ้ำ เขาสืบเท้าไปข้างหน้าครึ่งก้าวก่อนหมุนตัว ไม้เท้าผลักกรงเล็บออกข้างและคงกวาดขาทำให้คู่ต่อสู้ล้มได้แล้วถ้าโหงอาคมไม่ชิงสลายเป็นควันเสียก่อน กรงเล็บปรากฏอีกครั้งทางซ้าย เอลเดรดยกแขนข้างที่ไม่ได้จับไม้ชูขึ้นไปทางตำแหน่งเดียวกับที่โหงอาคมพุ่งมาใส่ แสงขาวระเบิดจากฝ่ามือซัดกลางตัวสิ่งชั่วร้ายจนมันแตกกระจายในวินาทีถัดมา
โหงอาคมไม่สนใจร่างกายที่เต็มไปด้วยแผลไหม้ของมันจู่โจมต่อจากด้านหน้าทันทีที่หมอกดำกลั่นตัวเป็นกายเนื้อ เอลเดรดพลิกไหล่เอนหลังหลบกรงเล็บพร้อมสวนกลับด้วยไม้เท้าที่วาดต่อเนื่องจากจังหวะที่แล้ว ไม้เท้าฟาดลาดไหล่โหงอาคมดังพลั่กขนาดวาร์ริยังได้ยิน สิ่งชั่วร้ายแปลกประหลาดล้มกระแทกพื้นและกระจายเป็นควันดำ เอลเดรดปิดวงสวิงไม้เท้าด้วยการใช้สองมือจับมันแนบข้างเอวด้านซ้ายในท่านักดาบเตรียมชักอาวุธจากฝักดังเช่นก่อนหน้า
ท่าทางนั้นเปิดช่องว่างชัดเจนและโหงอาคมก็ไม่รีรอที่จะคว้าโอกาสนี้ไว้ มันโผล่จากความว่างเปล่าทางขวาซึ่งเวลานี้กลายเป็นจุดบอดของเอลเดรดไปเสียแล้ว
เพียงแต่เอลเดรดรวดเร็วยิ่งกว่าราวกับได้คาดการณ์ทั้งหมดไว้แต่แรกแล้ว ไม่ใช่ ‘ราวกับ’ หรอก เด็กหญิงรู้ดี นี่เป็นหนึ่งในเทคนิคพื้นฐานที่เอลเดรดมักจะใช้ โดยเฉพาะกับคู่ต่อสู้ที่มีความคล่องแคล่วมากผิดปกติหรือความสามารถพิเศษเหนือธรรมดาเช่นครั้งนี้ การจงใจเปิดช่องโหว่เพื่อล่อลวงให้โจมตีควบคู่ไปกับการบิดเบือนข้อมูลที่ป้อนให้ศัตรู ใช่แล้ว ทั้งหมดนี้เป็นแผนการเพื่อชัยชนะของอาจารย์เธอ
ประกายสีเงินสว่างวาบประหนึ่งดาวหาง คมดาบตัดผ่านร่างของโหงอาคมไปดั่งสายลมอันเงียบงัน เวลาคล้ายกับโดนหน่วงให้ยืดยาวออก กรงเล็บของสิ่งผิดธรรมชาติเอื้อมอีกนิดเดียวก็จะถึงใบหน้าของเอลเดรดแล้ว กระนั้นการเคลื่อนไหวของมันก็ช้าลง ปากมันอ้ากว้าง ร่างกายเริ่มสั่นเทิ้มจากความพยายามที่จะหลุดพ้นจากพันธนาการซึ่งไม่อาจมองเห็นได้
ในมือขวาของเอลเดรดคือดาบเล่มหนึ่ง แสงสีเงินโอบล้อมใบดาบบางเฉียบหาใช่เพียงแสงสะท้อนแต่เป็นรัศมีที่แผ่จากทุกอณูของเนื้อโลหะ ขณะที่มือซ้ายถือฝักดาบซึ่งอยู่ในรูปลักษณ์ของไม้เท้าตะปุ่มตะป่ำ
“เจ้า-” โหงอาคมร้องออกมาได้เพียงเท่านี้ ก่อนที่ร่างของมันจะแยกออกเป็นสองส่วนตามรอยตัดเรียบกริบ ระหว่างที่ร่วงหล่นลง แต่ละส่วนของโหงอาคมกลายเป็นผุยผง ครั้งนี้ไม่ใช่กลุ่มควันอีกต่อไป ทว่าเป็นขี้เถ้าฟุ้งกระจาย แตกสลายเล็กลงเรื่อย ๆ กระทั่งสาบสูญไปในที่สุด
เป็นไปได้ยังไง… วาร์ริคล้ายได้ยินเสียงกระซิบกระซาบสะท้อนไกลออกไป