The Man from Hell 128 : ฉันต้องการชีวิตของแกไงล่ะ

TMFH ตอนที่ 128 : ฉันต้องการชีวิตของแกไงล่ะ

 

หลังจากได้ยินเสียงนั่น ผู้หญิงคนนั้นก็กลัวจนวิญญาณ เกือบจะหลุดจากร่าง!

 

เธอรีบร้อนถามด้วยความตกใจที่แสดงอยู่บนใบหน้าที่สวยงามของเธอ “นั่นใครน่ะ!!”

 

เธอแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ในห้องน้ําเมื่อตอนที่เธอเข้ามา

 

นอกจากนี้เมื่อตอนที่เธอเข้ามา เธอได้ปิดประตูแล้วล็อคเรียบร้อยแล้ว

 

เขาเข้ามาได้ยังไงกัน!”

 

หญิงสาวรีบหันมองไปรอบๆ

 

ทันใดนั้นเธอก็เห็น เด็กหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ข้างหลังเธอ

 

ด้วยรอยยิ้มที่ร้ายกาจ!

 

และชั่วร้าย!

 

เด็กหนุ่มคนนั้นปรากฏตัวขึ้นมาราวกับเป็นปีศาจจากนรก!

 

“แกนั่นเอง! แกเข้ามาทางไหน? ออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้นะ นี่มันห้องน้ําผู้หญิง!”

 

ผู้หญิงคนนี้คือโม่หลี่หง

 

และคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอก็คือเย่เฟิง!

 

เมื่อดูท่าทางลุกลี้ลุกลนของโม่หลี่หง เย่เฟิงก็เผยรอยยิ้มชั่วร้ายยิ่งขึ้น ขณะที่เขายิ้มมุมปากและเอ่ยถามว่า “มือสังหารนั่นเป็นคนของเธอใช่ไหม ?”

 

“อะไรนะ!”

 

ใบหน้าที่สวยงามของโม่หลี่หงเปลี่ยนเป็นหวาดกลัว เมื่อเธอตระหนักถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น เธอก็ตะโกนใส่ เย่เฟิงอย่างโกรธเกรี้ยว “อย่ามาไร้สาระ! ฉันจ้างมือสังหาร เมื่อไหร่กัน อย่ามาใส่ร้ายฉันนะ!”

 

“ใส่ร้ายงั้นเหรอ”

 

หลังจากได้ยินคําพูดของเธอ เย่เฟิงก็ยิ้มเล็กน้อยขณะที่ เขาพูด “ตาของเธอกะพริบเร็วขึ้น นอกจากนี้เธอยังมองขวา ที่ซ้ายที เห็นได้ชัดว่าเธอนั้นกําลังโกหก!”

 

“และเมื่อเธอมองไปที่หลินหลาน ตาของเธอก็เต็มไปด้วยความชั่วร้ายและไม่พอใจ เห็นได้ชัดว่าเธอนั้นมีค วามตั้งใจที่จะฆ่าหลินหลานแน่ ๆ!”

 

“และเธอก็ยังมองไปที่ศพของมือสังหาร ด้วยหน้าตาที่ ตกตะลึงและไม่อยากจะเชื่อ เห็นได้ชัดว่าเธอนั้นไม่พอใจกับความล้มเหลวของไอ้มือสังหารนั่น!”

 

ดวงตาของเย่เฟิงเย็นชายิ่งขึ้น ขณะที่เขาสรุปว่า“เธอนั่นแหละที่เป็นคนร้าย!”

 

หลังจากได้ยินข้อสรุปของเย่เฟิง โม่หลี่หงก็เริ่มหน้าเสีย

 

เธอไม่คิดเลยว่าเย่เฟิงจะอ่านความคิดและท่าทางของเธอออกทั้งหมด ทั้งๆที่เธอพยายามจะปกปิดมันแล้ว

 

“อะไร แกต้องการอะไร”

 

โม่หลี่หงถามเขาด้วยท่าทางที่ลุกลี้ลุกลน

 

หลังจากนั้น เธอก็พยายามหันไปสบตาตรงๆ กับเย่เฟิง และพูดว่า “เย่เฟิงฉันรู้ว่านายเป็นประธานกลุ่มคราวน์และมีเงินมากมาย! แต่ฉันก็สามารถให้อะไรก็ได้ที่นายต้องการ! อํานาจ อิทธิพล หรือสถานะทางสังคม!”

 

โม่หลี่หงตื่นเต้นระคนหวาดหวั่นมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่เธอยังคงพยายามพูดต่อไป “ตราบใดที่นายทิ้งหลินหลานแล้วมาอยู่กับฉัน ฉันยังสามารถช่วยนายยึดครองโม่กรุ๊ปและก็หลินกรุ๊ปได้อีกด้วย! ตราบเท่าที่เราร่วมมือกัน เราจะสามารถครองอุตสาหกรรมการค้าทั้งหมดในจีนตอนใต้ได้ นายคิดว่ายังไง ?”

 

เย่เฟิงเป็นผู้ชายที่ลึกลับที่สุดเท่าที่โม่หลี่หงเคยพบมา!

 

ในสายตาของเธอ เย่เฟิงมีเสน่ห์มากกว่านายแบบและซูเปอร์สตาร์ชายทั่วโลกด้วยซ้ํา

 

ถ้าเธอได้ครอบครองหัวใจของเย่เฟิง เธอก็พร้อมจะทรยศต่อตระกูลโม่!

 

หลังจากได้ยินคําพูดของโม่หลี่หงเย่เฟิงก็ยิ้มเยาะเล็กน้อย

 

“ฉันต้องการอะไรงั้นเหรอ?”

 

หลังจากเงียบไปชั่วครู่ เย่เฟิงก็ถอนหายใจลึกๆ และตอบกลับไปว่า“ฉันต้องการชีวิตของแกไงล่ะ!”

 

“อะไรนะ!”

 

โม่หลี่หงตกตะลึงในทันที สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

 

จากนั้นเย่เฟิงก็สะบัดฝ่ามือของเขา

อ่านนิยาย เรื่องนี้ ก่อนใคร ที่ novelza.com

ดาบขึ้นสนิมเก่าๆ ปรากฏอยู่ในมือของเขา!

 

เย่เฟิงแกว่งดาบของเขาไปทางโม่หลี่หง!

 

จากนั้นเขาก็หันหลังกลับมาและก็เดินออกไปจากห้องน้ํา!

 

“จําไว้ว่าอย่าหาเรื่องคนผิดในชีวิตหลังความตายล่ะ!”

 

“หืมม?”

 

หลังจากได้ยินคําพูดของเย่เฟิง โม่หลี่หงก็ตัวแข็งที่อไปในทันที

 

“เขาไม่ต้องการชีวิตฉันแล้วงั้นเหรอ?

 

“ทําไมเขาถึงแกว่งดาบเก่าๆ นั่นแล้วเดินจากไป??

 

โม่หลี่หงรู้สึกสับสน อย่างไรก็ดี อยู่ๆคอของเธอก็รู้สึกร้อนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

 

เมื่อเธอลูบคอด้วยฝ่ามือของเธอ ตัวของเธอก็เริ่มชุ่มเหงื่อด้วยความกลัว!

 

คอของเธอนั้นค่อยๆ มีเลือดไหลออกมา!

 

หัวของเธอก็ค่อยๆ เลื่อนออกจากคอที่ตั้งอยู่บนบ่า!

 

“เป็นเป็นไปไม่ได้”

 

ด้วยเสียงอู้อี้ ร่างของเธอล้มลงไปกองกับพื้น!

 

โม่หลี่หงไม่รู้สึกถึงการโจมตีของเย่เฟิงสักนิดจนกระทั่งเธอเสียชีวิต!

ดูซีรีย์ ฟรีได้ที่ series-max.com

ในขณะนั้นพลังฉีสีดําส่วนหนึ่งลอยเข้าไปในห้องน้ําและเข้าไปในศพของโม่หลี่หง

 

ในพริบตาศพนั่นก็กลายเป็นขี้เถ้าและหายไป

 

ห้องน้ําสะอาดเหมือนเดิม ไม่มีรอยเลือดแม้แต่หยดเดียว!

 

มันเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ทว่าประธานของโม่กรุ๊ปสาขาเมืองเจียงซีนั้นได้หายตัวไปจากโลกนี้แล้วอย่างสิ้นเชิง!

 

เมื่อเย่เฟิงกลับไปที่ห้องจัดเลี้ยง ตํารวจได้จัดการกับศพของมือสังหารเรียบร้อยแล้ว

หลังจากจดบันทึกคําให้การต่างๆ งานเลี้ยงก็ดําเนินต่อไป!

 

เกือบทุกคนในงานเลี้ยงฉลาดและมีเล่ห์เลี่ยม ไม่มีใครกล่าวถึงการลอบสังหารเมื่อครู่ก่อนนั้น

 

พวกเขายังคงจับแก้วและดื่มไวน์ราวกับว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

เมื่อเย่เฟิงเข้าประตูมา แขกทุกคนก็เข้ามารุมล้อมเขาในทันที

 

“คุณเย่ครับ คุณหายไปไหนมา? ผมอยากจะดื่มกับคุณสักแก้ว!”

 

“คุณเย่ครับ ผมเป็นประธานของบริษัทการค้าฉางหง เราจะทานมื้อเย็นร่วมกันสักครั้งเมื่อคุณว่าง สะดวกไหมครับ”

 

“คุณเย่ครับ คุณมีอุปกรณ์เวทมนตร์มากกว่านี้อีกไหม? ผมอยากจะซื้อมัน!”

 

ในขณะนั้นบุคคลระดับสูงทั้งหมดในห้องจัดเลี้ยงกําลังมารวมตัวกันอยู่รอบๆ เย่เฟิง ด้วยความชื่นชมและเยินยอ

 

ตรงกันข้ามกับโม่เต่าที่กําลังนั่งอยู่ที่มุมๆ หนึ่ง คนเดียวด้วยท่าทางสีหน้ามืดมน

 

“ไอ้พวกเหยียบเรือสองแคมพวกนี้สมควรตายจริงๆ!”

 

โม่เต๋าโกรธมาก เพราะเขายังคงถูกทําให้ต้องพ่ายแพ้

 

เพราะท้ายที่สุดสร้อยคอดวงใจราชินีของเขามีมูลค่าเพียง 1 พันล้านหยวนเท่านั้น แต่สร้อยข้อมือของเย่เฟิงกลับมีมูลค่ามากกว่า 1 หมื่นล้านหยวน

 

พวกเขาไม่สามารถเทียบกันได้เลย

 

“ฮี! เมื่อสมาชิกของตระกูลพี่บี้มาถึงที่นี่เมื่อไหร่ ก็มารอดูกันว่าใครคือผู้ชนะคนสุดท้าย!”

 

โม่เต๋าจ้องมองไปที่เย่เฟิงและหลินหลานด้วยความโกรธในใจที่พลุ่งพล่าน

 

จากนั้นโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น

 

หลังจากวางสาย โม่เต๋าเผยให้เห็นท่าทางขี้เล่น ในขณะที่เขายกมุมปากของเขาขึ้น “นี่ไง!”

 

โม่เต๋าลุกขึ้นยืน และเขาปรบมือทําให้ทั้งห้องจัดเลี้ยงกลับเข้าสู่ความเงียบสงบในเสี้ยววินาที!

 

“เงียบก่อน ผมเพิ่งได้รับข่าวบุคคลสําคัญของงานเลี้ยงนี้ กําลังจะมาแล้ว!”

 

“อะไรนะ!”

 

แขกทุกคนต่างตกตะลึงในทันที

 

“บุคคลสําคัญของงานเลี้ยงนี้?”

 

ทุกคนต่างดูสับสนและงุนงง

 

เมื่อมองดูท่าทางสงสัยของพวกเขา โม่เต๋าก็อธิบายด้วยรอยยิ้มกว้าง “ไม่ต้องเดาอีกแล้วครับ บุคคลสําคัญของงานเลี้ยงนี้คือตระกูลฟีบี้!”

 

เมื่อพวกเขาได้ยินคําสองคํานั้น ทุกคนในห้องก็ตกตะลึงกันอย่างมาก

 

“ตระกูลฟีบี้ ? ยักษ์ใหญ่ทางการเงินที่หล่อเลี้ยงในภาคใต้ของจีนถึง 60%? โอ้พระเจ้า!”

 

“ตระกูลฟีบี้ หนึ่งในผู้มีอํานาจลึกลับที่สุดในอเมริกาทั้งหมด! กล่าวกันว่า 60% ของ บริษัทในจีนตอนใต้นั้นมีความสัมพันธ์ทางการค้าโดยตรงกับพวกเขา!”

 

“โอ้พระเจ้า! ตระกูลฟีบี้ ฉันร่วมมือกับตระกูลฟีบี้มาเป็นเวลา 10 ปี แล้วแต่ฉันยังไม่เคยเห็นหน้าของสมาชิกตระกูลฟีบี้เลย!”

 

“นายน้อยโม่ ไม่ธรรมดาจริงๆ ที่เขาสามารถเชิญตัวแทนจากตระกูลฟีบี้มาได้”

 

ในเสี้ยววินาที ทั้งห้องจัดเลี้ยงนั้นก็พูดคุยกันอย่างฮือฮา เพราะทุกคนต่างประหลาดใจกับเรื่องนี้อย่างมาก

 

ตระกูลฟีบี้ยังเป็นที่รู้จักในฐานะสุดยอดตระกูลที่ฉลาดมากที่สุด

 

พวกเขาไม่ได้เข้าร่วมในกิจการทางการเมืองหรือทางทหาร แต่พวกเขาสนใจในธุรกิจเพียงอย่างเดียวเท่านั้น!

,

สิ่งที่น่ากลัวคือ การรับมือของธุรกิจของพวกเขานั้นครอบคลุมหลายอุตสาหกรรม พวกเขามีความสัมพันธ์ทางการค้าโดยตรงถึง 60% ของกรุ๊ปต่างๆ ทางตอนใต้ของจีน

 

อาจกล่าวได้ว่าตระกูลฟีบี้นั้นเปรียบเสมือนเป็นเจ้าสัวในการค้า!

 

แม้แต่หลินหลานเองก็ตกตะลึง

 

ตระกูลฟีบี้เป็นพันธมิตรความร่วมมือที่ใหญ่ที่สุดกับหลินกรุ๊ปและตระกูลหลินในภาคใต้ของจีน

 

หลินหลานไม่คิดมาก่อนว่าตระกูลฟีบี้ จะมอบหมายให้ตัวแทนได้มาเข้าร่วมงานเลี้ยงเช่นนี้

 

ขณะนั้นคนเดียวในห้องที่สงบสติอารมณ์ได้คือเย่เฟิง!

 

“ฟีบี้”

 

เย่เฟิงเผยให้เห็นท่าทางยิ้มกรุ้มกริ่ม ขณะที่เขาลูบสร้อยข้อมือสีดําบนข้อมือโดยไม่รู้ตัว

 

ทันใดนั้นประตูห้องจัดเลี้ยงก็ถูกเปิดออกจากด้านนอก!

 

Favorite