ในขณะที่โจวยู่ชุ่ยกำลังจะลงมือกับฉินต้าหย่ง เสียงดัง”แอ๊ด” ทันใดนั้นประตูห้องผู้ป่วยก็เปิดออก
โจวยู่ชุ่ยตกใจจนสะดุ้ง รีบรามือทันที
พอเธอหันไป ก็เห็นหมอคนหนึ่งเข็นรถเข็นทางการแพทย์เข้ามาในห้องผู้ป่วย
“ดึกขนาดนี้แล้ว ต้องฉีดยาอีกหรือ?”
โจวยู่ชุ่ยพูดอย่างไม่พอใจ
เนื่องจากมีความผิดติดตัว เธอจึงไม่ทันรู้ตัวว่าอีกฝ่ายเป็นชายที่สวมหน้ากากอนามัย
ตามปกติ คนที่เข้ามาในห้องผู้ป่วยตอนตีสองต้องเป็นนางพยาบาล
“นายแพทย์” เหลือบมองโจวยู่ชุ่ยเรียบๆ ไม่ได้สนใจ
“ปึ้ง”
เขาเปิดหลอดแก้วยาออกมา เอาเข็มดูดยาขึ้นมา ก่อนจะเตรียมฉีดให้ฉินต้าหย่ง
“เพียะ”
และในตอนนั้น ร่างของชายหนุ่มเยาว์วัยคนหนึ่งปรากฏขึ้นข้างกาย“นายแพทย์”โดยไม่ให้สุ้มให้เสียง เขาคว้าไปที่ข้อมือของ“นายแพทย์”
“หยางเฉิน!”
โจวยู่ชุ่ยร้องออกมาอย่างตกใจ เธอคิดไม่ถึงว่าหยางเฉินจะมา
“คุณจะทำอะไร?”
ตอนที่“นายแพทย์”รู้ตัวว่าหยางเฉินมา เขารู้สึกคับขันประหนึ่งเจอศัตรูตัวฉกาจ แต่ยังกลั้นจิตสังหารไว้และถามคาดคั้น
หยางเฉินจับข้อมืออีกฝ่ายแน่นและถาม “คุณเป็นใคร?”
“ผมคือหมอที่อยู่เวรดึกวันนี้ ตอนนี้จะให้ยากับเขา”
เสียงแหบเล็กน้อยของ“หมอ” ดังขึ้นจากส่วนลึกในลำคอเขา
หยางเฉินส่ายหัว “ผมไม่เคยเห็นหมอแบบคุณที่นี่มาก่อนเลย”
ตอนแรก หยางเฉินตั้งใจให้โจวยู่ชุ่ยเปิดเผยตัวเองออกมาโดยสมบูรณ์ แต่คิดไม่ถึงว่า หน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ กลับมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้น
ผู้ชายในชุดกาวน์คนนี้ไม่ใช่หมอ แต่เป็น นักฆ่า!
นักฆ่ารู้ว่าตัวตนถูกเปิดเผยแล้ว เขาเตะไปที่ท้องน้อยของหยางเฉินโดยไม่ลังเล
“ตู้ม”
แต่อีกฝ่ายยังไม่ทันแตะโดนตัวหยางเฉิน ตัวเองกลับถูกหยางเฉินต่อยเข้าหน้า คนทั้งคนกระเด็นออกไป
“ฟิ้ว”
ร่างของหยางเฉินแวบผ่าน พุ่งออกไปในบัดดล
และในตอนนั้น นักฆ่าโดนหมัดเมื่อกี้ของหยางเฉินต่อยจนกระแทกไปอัดกับกำแพง
“เพียะ”
หยางเฉินเอามือคว้าไปที่คอเขา จากนั้นออกแรงที่แขนเล็กน้อย วินาทีต่อมา ท่ามกลางความตื่นตระหนกของโจวยู่ชุ่ย นักฆ่าโดนหยางเฉินยกขึ้นเหนือพื้นด้วยมือข้างเดียว
แขนขาของนักฆ่าดิ้นพล่านไม่หยุด แต่ไม่อาจสลัดหลุดได้เลย
อยู่ท่านี้ได้ไม่นาน นักฆ่าก็จะหมดอากาศหายใจ ทันใดนั้นหยางเฉินปล่อยมือ
“ตุ้บ”
ร่างของนักฆ่าอ่อนปวกเปียกอยู่ที่พื้นในบัดดล เขาหายใจแรงเพื่อเอาอากาศเข้า
หยางเฉินเหยียบไปที่หน้าอกของเขา ถามด้วยสีหน้าเย็นยะเยือก “บอกมานะ ใครเป็นคนส่งแกมา”
หน้ากากอนามัยบนใบหน้านักฆ่าหล่นลงมาแล้ว เผยใบหน้าของชายวัยกลางคน
ขณะนั้นนักฆ่าหน้าซีดถึงขีดสุด กัดฟันแน่นพลางเอ่ย “แกเป็นใครกันแน่? ไม่เคยได้ยินชื่อยอดฝีมือที่ยังหนุ่มอย่างแกที่เมืองเจียงโจวเลย
“แคร่ก”
หยางเฉินเหยียบไปที่ขาของเขา เสียงกระดูกหักดังขึ้น
“อืออือ~”
นักฆ่ายังไม่ทันได้คร่ำครวญ หยางเฉินก็เอาผ้าผืนหนึ่งยัดเข้าปากนักฆ่า
โจวยู่ชุ่ยที่เห็นทุกอย่างกับตากลัวจนแทบบ้า เธอซ่อนตัวอยู่ในมุม สั่นเทิ้มไปทั้งตัว
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นด้านที่น่าสะพรึงขนาดนี้ของหยางเฉิน
เหยียบทีเดียวก็ทำให้คนคนนั้นขาหักหนึ่งข้าง เสียงกระดูกหักนั่นดังวนอยู่ในหูเธอ ประหนึ่งเสียงต้องสาป
หยางเฉินไม่ได้สนใจโจวยู่ชุ่ย เขาเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา “ถ้าแกกล้าส่งเสียงอีกแม้แต่แอะเดียว ก็ตายซะเถอะ”
พูดจบ เขาก็ดึงผ้าในปากนักฆ่าออก
นักฆ่าฝืนทนกับความเจ็บปวดที่ขาหักไว้ ไม่ให้ตัวเองส่งเสียงแม้แต่แอะเดียว ตัวเขาสั่นไม่หยุด
เขารู้ว่าชายหนุ่มตรงหน้า มีความสามารถอันน่าสยดสยอง ไม่ใช่การดำรงอยู่ที่เขาต่อกรด้วยได้
อีกฝ่ายฆ่าเขาได้ง่ายเหมือนบี้มดตัวหนึ่งตาย
“ให้โอกาสแกได้มีชีวิตรอดครั้งสุดท้าย บอกฉันมาว่าใครส่งแกมาฆ่าพ่อตาของฉัน”
“ท่านหงเป็นคนส่งผมมา บอกให้มาฆ่าเจ้าชายนิทราคนหนึ่ง แต่ไม่ได้บอกข้อมูลอย่างอื่น”
นักฆ่าไม่กล้าปิดบัง เขาบอกทุกอย่างที่ตัวเองรู้ออกมาหมด
“ท่านหงคือใคร?” หยางเฉินถามอีก
“เขาชื่อว่าหงเหยียน เป็นพี่ใหญ่ดูแลสถานบันเทิงในเมืองโจวเฉิง” นักฆ่าตอบอย่างฉะฉาน
หยางเฉินสายตาไหวระริกไปวูบหนึ่ง เมืองโจวเฉิงหรือ?
จู่ๆเขาก็นึกถึงคนคนหนึ่ง แม้จะยังไม่มีหลักฐาน แต่พอจะมั่นใจได้เลยว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเธอแน่นอน
“ตุ้บ”
หยางเฉินเหยียบไปที่หัวของนักฆ่า นักฆ่าสลบเหมือดไปทันที
“คุณหยาง”
ไม่นานนัก ผู้ชายร่างกายกำยำสองคนเข้ามาถึงห้องผู้ป่วย พอพวกเขาเห็นนักฆ่าในห้องผู้ป่วย ต่างมีสีหน้าตะลึงงันทั้งคู่
ชายร่างกำยำสองคนนี้เป็นคนที่ตระกูลกวนสั่งให้เฝ้าอยู่ที่โรงพยาบาล นอกจากคอยคุ้มกันฉินต้าหย่งแล้ว ต้องคอยช่วยหยางเฉินด้วย
“พาเขาออกไปซะ แล้วจัดการให้สะอาด” หยางเฉินพูดอย่างเย็นชา
“ครับ คุณหยาง”
ชายร่างกำยำสองคนรีบบอก ก่อนจะหามนักฆ่าคนนั้นออกจากห้องผู้ป่วย
ตั้งแต่นักฆ่าปรากฏตัวเพื่อฆ่าฉินต้าหย่ง จนถึงถูกหยางเฉินจัดการ ทั้งกระบวนการเสร็จสิ้นในเวลาสั้นๆเพียงห้านาที
แต่โจวยู่ชุ่ยกลับเห็นทุกอย่างกับตาตัวเอง นาทีนี้แววตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
เมื่อกี้ที่หยางเฉินสั่งชายกำยำสองคนนั้น ให้พวกเขาพาคนออกไปแล้วจัดการให้สะอาดนั่น หมายความว่ายังไง?
ให้ฆ่าเขาทิ้งหรอ?
โจวยู่ชุ่ยหวาดกลัวถึงขีดสุด
ทันใดนั้นเธอนึกขอบคุณที่เมื่อกี้นักฆ่าคนนี้ปรากฏตัว ไม่อย่างนั้น จุดจบของนักฆ่าคนนั้นก็คงเป็นจุดจบของตัวเองใช่มั้ย?
“แก….แกจะทำอะไร?”
โจวยู่ชุ่ยเห็นอยู่ๆหยางเฉินหันมามองตัวเอง สั่นไปทั้งตัว กลัวจนฉี่แทบราด
เธอพลันรู้สึกขึ้นมาว่า สายตาที่หยางเฉินมองเธอเหมือนกำลังมองคนที่ตายไปแล้ว
หยางเฉินไม่ตอบคำถามของโจวยู่ชุ่ย เขาเดินไปหาฉินซี ตรวจสอบดูแล้วพบว่าเธอแค่หลับลึก คงเพราะเหนื่อยเกินไป จึงวางใจลง
เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาและโทรออก ไม่นานนักอีกฝ่ายก็รับ “คุณหยาง”
“ไปสืบเรื่องหนึ่งมาให้ผม ที่เมืองโจวเฉิงมีคนชื่อหงเหยียน เขาส่งคนมาฆ่าพ่อตาผมที่เมืองเจียงโจว ไปถามเขาว่าใครกันที่อยากฆ่าพ่อตาผม?” หยางเฉินถาม
“ครับ”
หลังจากวางสายแล้วหยางเฉินไม่มีทีท่าจะไปไหน เขานั่งอยู่ที่โซฟาอีกด้าน ไม่พูดไม่จา ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่
ส่วนโจวยู่ชุ่ย หลังจากผ่านพ้นเรื่องเมื่อกี้มา ตอนนี้ง่วงที่ไหนกันล่ะ?
ตอนนี้ เธอแค่อยากไปจากที่นี่ แต่ก็ไม่กล้า
“เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!”
นิ้วของหยางเฉินเคาะโต๊ะด้านข้างไม่หยุด ส่งเสียงดังขึ้นอย่างเป็นระเบียบ
ขณะนั้นเป็นเวลาตีสองครึ่งแล้ว ห้องผู้ป่วยเงียบมาก มีเพียงเสียงหยางเฉินเคาะโต๊ะ
ทุกครั้งที่เคาะ เหมือนเคาะไปที่ใจของโจวยู่ชุ่ย
ไม่นานนัก โทรศัพท์ของหยางเฉินดังขึ้น เขากวาดตามองโจวยู่ชุ่ยอย่างเย็นยะเยือก ก่อนจะกดเปิดลำโพง
“คุณหยาง หงเหยียนสารภาพมาหมดแล้ว เจิ้งหยันแห่งตระกูลเจิ้งให้เขามาห้าล้าน เพื่อให้เขาฆ่าพ่อตาของท่าน”
เสียงของเฉินซิงไห่ดังมา
ส่วนชื่อเจิ้งหยันที่เขาพูดถึงประหนึ่งสายฟ้าที่ฟาดลงกลางใจของโจวยู่ชุ่ย ใจเธอเต้นตุ้บๆ
เธอรู้ดีกว่าทำไมเจิ้งหยันถึงจ้างวานคนมาฆ่าฉินต้าหย่ง ต้องเป็นเพราะเจิ้งเหม่ยหลิงแน่นอน
โจวยู่ชุ่ยได้ยินเนื้อหาสนทนาแล้วตึงเครียดขึ้นมาทันที
ถ้าเป็นเมื่อก่อน เธอไม่มีทางเชื่อหรอกว่าหยางเฉินจะทำอะไรเธอได้ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในสองสามวันนี้เป็นผลให้เธอเริ่มตระหนักแล้วว่า หยางเฉินกล้าฆ่าเธอจริงๆ
อย่างเมื่อกี้ หยางเฉินเหยียบขาข้างหนึ่งของนักฆ่าหัก ไม่แม้แต่จะขมวดคิ้วด้วยซ้ำ
หยางเฉินคิดไว้แล้วว่าเรื่องเมื่อกี้ เกี่ยวพันกับตระกูลเจิ้ง