ตอนที่7 ตายแล้วซะแล้วสิ
ผมค่อยๆเดินตามรอยเท้าไปเรื่อยๆ
ผ่านไปซักพัก…
“เอ๋ รอยเท้าหยุดอยู่ตรงนี้??” เบลซมองรอยเท้าที่หยุดอยู่บริเวนใกล้พุ่มไม้
“ตามต่อไม่ได้แล้วสิ” เบลซทำหน้าเซ็งๆแต่ทันใดนั้น เขาก็รู้สึเสียงสันหลังอย่างบอกไม่ถูก
“จี๊ดดดดดด”
“เฮ่อ ที่แท้ก็หนูนี่เอง” เบลซถอนหายใจอย่างโล่งอกพอได้ยินเสียงและหันกลับมา…
“หนูเหี้ยอะไรว่ะเนี่ย!” พอหันกลับพอว่ามันเป็นหนูขนเทาที่ตัวใหญ่เท่าหมาป่าแถมฟันคู่หน้าที่ยื่นออกมาก็โค้งหยั่งกับดาบจันทร์เสี้ยวกรงเล็บงอกออกมาก็ดูแล้วอย่างกับกรงเล็บหมาป่า ตรงหน้าผากก็มีขนสีขาวเป็นรูปจันทร์เสี้ยว แค่มองตาก็สัมผัสได้ถึงจิตสัหาร
“โกยเถอะโยมมม” ผมคิดในใจ
“บิ๊บ พบเจอศัตรูเริ่มสาธิตการต่อสู้ จากประสบการณ์ของท่านได้รับง้าวกรีดนภาเปิดค่าสถานะใหม่เนื่องจากฉุกเฉินข้อมูลบางส่วนจะยังไม่อธิบาย
ชื่อ เบลซ แร็คน่าร์ อายุ 17
อาชีพ นักตัดแต่งยีน เลเวล 1
ระดับนักรบ – นักรบ0ดาว
พลังธาตุ (ไม่มี)
Strength(แรงกาย) : 12(10)
Agility(ความว่องไว) : 12(10)
Vitality(พละกำลัง) : 8(10)
Stamina(ความทรหด) : 9(10)
พลังวิญญาณ(คิดตามความฉลาด) : 20(10)
ความอดทน : 11(10)
(ค่ามาตราฐานของมนุษย์ปกติอยู่ที่10)
“ระบบจะมาอะไรตอนนี้” เบลซกรีดร้องในใจแต่ว่าเขาก็มีสติดีพอจึงเรียกง้าวออกมาจากช่องเก็บของ
แน่นอนว่าเบลซมีความฝันอย่างเป็นแม่ทัพทหารม้าแน่นอนว่าแม่ทัพขี่ม้าใช้อะไรเท่ห์สุด?
ก็ต้องง้าวยังไงเล่า ความจริงไม่ใช่แค่ง้าวแต่เขายังฝึกอย่างอื่น เช่น ดาบ หอก ธนู ค้อน ขวาน อีกด้วย แต่ถ้าที่ถนัดที่สุดก็ต้อง ง้าวเนี่ยแหละ
“ฉึก” หันหลังกลับมา เบลซแทงง้าวเข้าไปหนึ่งที
ง้าวแท่งไปที่ระหว่างต้นขาและคอของหนูขนเทายักษ์พอดี
“จี๊ดดดด” มันกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด มันกระโดดถอยหลังผละออกจากง้าวเห็นได้ชัดว่าขามันกระเผกๆ เลือดสายเล็กๆไหลออกมาจากบาดแผล แววตาปรากฏจิตสังหารที่มากกว่าเดิมและ กระโจนเข้าใส่เบลซพร้อมกับกรงเล็บอันแหลมคม
“แคร้ง แคร้ง แคร้ง” กรงเล็บปะทะกับง้าวอย่างต่อเนื่องต่างฝ่ายต่างไม่เปิดช่องว่าง
“นี้มันใช่สัตว์ป่าจริงๆหรอเนี่ย” เบลซคิดในใจ ขณะที่ต่อสู้เขาสัมผัสได้ถึงท่วงท่าการต่อสู้ทั้งเชิงรุกเชิงรับหรือแม้กระทั่งการหลบอย่างมีชั้นเชิงที่ซับซ้อนดูมีความคิด แต่ที่สำคัญคิดมันมีการขยับหลอกด้วย มันแสดงถึงสติปัญญาของมันที่ดูเหมือนจะสูงผิดปกติจากสัตว์ทั่วๆไป ถ้าเป็นสัตว์ป่าปกติหละก็คงโจมตีตรงๆหรือไม่ก็โจมตีแบบเฉียบขาดแต่ว่าถ้าขยับหลอกด้วยแสดงว่ามีความคิดที่จะหลอกล่อคู่ต่อสู้ซึ่งหมายความว่ามันมีความคิด
“แคร้ง แคร้ง แคร้ง ฉัวะ” หลังจากประมือได้อีกพักนึง เบลซก็หาช่องว่างได้และฟันง้าวเข้าไปหนึ่งที
“พุฟฟฟ” ง้าวฟันไปที่ลำตัวของหนูขนเทา แน่นอนว่าโดนเต็มๆ ดอกไม้สีแดงฉานค่อยๆเบ่งบาน
“จี๊ดดดดดด”
“จี๊ดดดดดดดด”
“จี๊ดดดดดดดดด”
หลังจากโดนฟันไปอีกทีหนูขนเทายักษ์ก็ถอยหลังออกไปแล้วกรีดร้องดังกังวาลแถมเริ่มมีเสียงตอบกลับมาด้วย
“มันเรียกพวกมาหรอเนี่ย!” เบลซคิดพลางวิ่งหนีสุดชีวิตขณะที่เห็นฝูงหนูขนเทายักษ์จากการเหลื่อมๆมอง
หลังจากวิ่งไปพักนึงอยู่ดีพวกมันก็วิ่งกลับไป
“เฮอะ เฮอะ เหมือนจะโชคดีแฮะที่มันแค่ไล่เราออกจากอาณาเขตเฉยๆ” เบลซนั่งลงบนพื้นพลางหอบด้วยความเหนื่อยล้า
“ไม่ๆเดี๋ยวก่อนปกติเวลาสัตว์ป่าไล่มามันควรจะไล่ฆ่าเราสิ แถมดูแล้วมันก็ฉลาดกว่าสัตว์ป่าทั่วไปด้วย แต่ว่ามันกลับหนี……”
ทันใดนั้นเบลซกลับรู้สึกถึงความเสียวสันหลังนัยตาหดแคบเหมือนกำลังถูกปีศาจจากขุมนรกจ้องมอง
ใช่แล้วลางสังหรณ์ความตายยังไงหละ
“โฮกกกกกก” ทันทีที่หันกลับไปกับพบกับหมาป่าหรือสิงโตก็ไม่รู้มันยืนสี่ขาตัวใหญ่เท่าช้างขนสีส้มแดงเหมือนเปลวไฟแผงคอกว้างแสดงถึงความองอาจ ลมหายใจเข้าออกก็มีประกายเล็กๆเหมือนเปลวเพลิงระยิบระยับ กรงเล็บที่ยาวและคมเหมือนดาบยักษ์และตาที่คมกริบเหมือนนักล่าที่ล่าเหยื่อมานับไม่ถ้วน
“นี้เราต้องตายแล้วหรอ”
นั้นคือภาพสุดท้ายที่เบลซเห็น แม้แต่การโจมตีนั้นตาเปล่ายังมองแทบไม่ทันเลยเห็นเป็นแค่ภาพเบลอๆเท่านั้นไม่รู้ว่ามันใช้กรงเล็บ ฟัน หรือว่า พ่นไฟออกมาจากปากกันแน่
แต่ว่าการโจมตีสุดท้าย!!!
ไม่รู้เหมือนกันว่าผมคิดอะไรอยู่ถึงได้แทงง้าวออกไป อาจจะแค่อยากลองฝากบาดแผลดูมั้ง อยากจะรู้ว่าด้วยพลังเล็กๆนี้ จะฝากรอยขีดข่วนให้มันได้รึปล่าว
“แครกกก” ทันทีที่ง้าวสัมผัสกับขนของมันก็ปริแตกและทันทีที่ขนของมันเริ่มลุกท่วมด้วยเปลวเพลิงสีส้มดังดวงอาทิตย์ง้าวก็เริ่มหลอมละลาย
ละลายมาเรื่อยๆจนถึงด้ามง้าวและถึงจุดที่มือผมถือง้าว
“มีด- ผ่า- ตัด-” เบลซทิ้งด้ามง้าวและเรียกมีดผ่าตัดออกมาที่มือจากนั้นแทงตรงหน้า
“ฉึบ” ขนประมาณหนึ่งกำมือและเลือดจำนวนหนึ่งได้ไหลรินออกมา
“บิ๊บ คุณได้สร้างความเสียหายกับศัตรูที่แข่งแกร่งกว่าหลายระดับ ตามกฎจะได้รับยีนของสิ่งมีชีวิตที่ได้สร้างความเสียหายข้ามระดับ”
“บิ๊บ ยินดีด้วยคุณได้รับยีน ราชสีห์อเวจีเพลิงกัลป์”
“บิ๊บ คุณตาย”
“จากการประเมินคุณผ่าน! ระบบเริ่มปลุกพลังโอนช่องเก็บของและถ่ายทอดความทรงจำ”
“เนื่องจากมีพลังงานน้อยกว่าที่ควรการถ่ายทอดความทรงจำจึงทำได้เพียง30%”
“ปลุกพลังเสร็จสิ้น”
“โอนช่องเก็บของเสร็จสิ้น”
“ถ่ายทอดความทรงจำเสร็จสิ้น”
“ระบบทำหน้าที่เสร็จสิ้น เริ่มกระบวนการปลุก”
.
.
.
.