หยางเสียวจิ่นเอียงคอมองเริ่นเสี่ยวซู่ สองวันมานี้เธอกาลังคิดอยู่ ว่าสร ้างบ้านแบบไหนให้ตัวเองดี
จะให้ไปเบียดกับโจรคนอื่นๆ คงไม่ได้ งั้นพวกเธอควรสร ้างหลัง ใหญ่หน่อยไหม อย่างเช่นแบบที่มีครัวกับลานบ้านเล็กๆ ด้วย อาจจะ ให้เริ่นเสี่ยวซู่ไปล่าหมูหรือไก่ป่ามาเลี้ยง อาจจะเลี้ยงวัวสักตัวสองตัว ด้วย
คิดแล้วหยางเสียวจิ่นก็เฝ้ ารอวันพรุ่งนี้ที่อิฐจะพร ้อมใช ้สร ้างบ้าน
แต่ว่าเธอก าลังคิดอยู่ว่าควรจะรออีกหน่อยค่อยสร ้างบ้านให้ ตัวเองดีไหม อย่างไรตอนนี้ใช่ว่าจะมีบ้านอิฐครบทุกคน ในเมื่อเริ่น เสี่ยวซู่อยากใช ้ตัวเองเป็ นตัวอย่าง เธอก็ไม่เกี่ยงจะลาบากไปกับเขา
แต่เธอกาลังสงสัยว่าตอนนี้ส่งมอบปืนไปแล้ว เริ่นเสี่ยวซู่จะใช ้ อะไรคอยสะกดพวกโจร
จากนั้นเธอก็ได้ยินเริ่นเสี่ยวซู่พูด “พรุ่งนี้เราจะทาอิฐต่อ อิฐชุด ต่อไปจากเตาเผาใช ้สร ้างพวกการป้ องกัน”
จินเหลียนพึมพ า “นึกว่าไม่ต้องท างานแล้วเสียอีก”
ถึงเริ่นเสี่ยวซู่จะลงแรงอยากหนักเปลี่ยนความคิดพวก แต่ สันดานขุดยากสันดอนขุดง่าย พวกจินเหลียนรู ้สึกว่าพอตัวเองมีปืน
แล้วก็ควรไปออกฆ่าฟันออกปล้นสะดม หรือต่อให้ไม่ออกไปฆ่าฟัน หรือปล้นสะดมก็ไม่ควรต้องท างานต่อแล้วไหม
เริ่นเสี่ยวซู่ว่า “เริ่มจากพรุ่งนี้ ทุกกระสุนสองร ้อยนัดสามารถเอา ไปแลกรถจักรยานยนต์ได้คันหนึ่ง”
จินเหลียน จางอี้เหิง และคนอื่นๆ มองรถจักรยานยนต์ใหม่เอี่ยม ด้ว ย ส า ย ต า วิบ วับ ตั้ง แ ต่ ม า ถึง นิ ค ม นี้ก็ ยัง ไ ม่ ไ ด้แ ต ะ ต้อ ง รถจักรยานยนต์เลย
ผู้ชายทุกคนชอบของที่ดูแข็งแกร่งกันทั้งนั้น และพวกยานยนต์ก็ เป็ นหนึ่งในนั้น ไม่ว่าจะเป็ นรถสองล้อหรือสี่ล้อ เสียงเครื่องยนต์ดัง กระหึ่มก็เหมือนเสียงคารามก้องจากหัวใจ เป็ นความรู ้สึกอันสุขสันต์ ล้นปรี่
สู่จินหยวนลังเลใจนิดหน่อย เขาควรจะรีบท างานให้เสร็จไวๆ จะ ได้เอากระสุนไปแลกรถจักรยานยนต์ดีไหม เขาเป็ นแรงงานฝีมือด้วย ดังนั้นต้องแลกได้ไวกว่าคนอื่นแน่
เช ้าวันต่อมา เริ่นเสี่ยวซู่ตื่นแล้วก็เดินไปตามริมน้า น้าหลากฤดู ใบไม้ผลิน่าจะทะลักมาอีกพักใหญ่ และยิ่งอากาศร ้อนขึ้นแม่น้าก็ กว้างขึ้นเรื่อยๆ
พอถึงฤดูร ้อน แม่น้าที่เหมือนจะไหลไปตลอดนี้ ด้วยว่ามันยืดยาว ไปทั่วแดนรกร ้าง มันจะกลายเป็ นเส้นชีวิตในการเอาตัวรอดของ มนุษย์
เริ่นเสี่ยวซู่เดินตรงต่อไปยังนิคม วันนี้เป็ นวันที่จะเอาอิฐออกมา จากเตาเผา พวกโจรรู ้สึกว่าใช ้เตาเดียวเผาอิฐมันช ้าเกินไปหน่อย เลยตัดสินใจสร ้างเพิ่มที่ใหญ่กว่าเดิม
มีคนถามจินเหลียนว่าจะเอาอิฐเยอะแยะไปท าไมกัน อย่างไรบ้าน อิฐก็ต้องสร ้างให้เสร็จหมดอยู่ดี หลังจากนั้นก็ใช ้เตาเผาอิฐทาอะไร ไม่ได้แล้ว
จินเหลียนพูดอย่างลึกลับว่า “ถ้าเกิดว่าป้ อมปราการ 179 ถูก สร ้างขึ้นที่นี่ล่ะ”
ข้อสงสัยว่าเริ่นเสี่ยวซู่และหยางเสียวจิ่นมาที่นี่ทาไมนั้นเวียนอยู่ ในหัวพวกโจรมานานแล้ว หลังจากวิเคราะห์กันพักหนึ่ง ทุกคนก็ สงสัยว่าป้ อมปราการก าลังขยายอิทธิพลเข้าไปในแผ่นดินใหญ่ หุบ เขากว้างใหญ่ว่างเปล่าก็เป็ นจุดเริ่มต้นที่ดีเลยไม่ใช่เหรอ
ไม่เคยมีสมาคมไหนมาสร ้างป้ อมปราการที่นี่เพราะแดนเถื่อน เป็ นพื้นที่อ่อนไหวเกินไป ฝ่ ายอานาจอื่นไม่มีทางปล่อยให้ใครมา สร ้างป้ อมปราการที่นี่แน่
แต่ถ้าเป็ นองค์กรทรงอ านาจอย่างป้ อมปราการ 178 ลงมือล่ะก็ สมาคมตระกูลหยางที่ตอนนี้กาลังตกอยู่ในไฟสงสงครามคงไม่อาจ ขัดขวางอะไรได้ ขณะเดียวกันสมาคมตระกูลจงก็ไม่อาจเปรียบอะไร กับป้ อมปราการ 178 แม้ตาแหน่งที่ตั้งจะไม่ดี แต่โอกาสมันอานวย!
อีกอย่างถ้าป้ อมปราการ 178 อยากส่งแร่ขายเข้าไปใน แผ่นดินใหญ่ ก็เลี่ยงไม่ได้ต้องผ่านหุบเขา!
พอคิดได้เช่นนี้พวกจินเหลียนก็เหมือนจะเข้าใจว่ามันกาลังเกิด อะไรขึ้น
และตลอดระยะมานี้ ยามเจอหน้ากันทุกคนก็จะทักทายกันเอง อย่างอบอุ่นว่า ‘พี่น้อง’ ราวกับหลังปาฐกถาของเริ่นเสี่ยวซู่ ทุกคนก็ กลายเป็ นครอบครัวเดียวกันจริงๆ แล้ว
บางคนก็เชื่อเช่นนั้นจริงๆ บางคนก็ยังแคลงใจ แต่ท่ามกลาง สถานการณ์โดยรวม คนที่ยังไม่เชื่อก็พูดอะไรไม่ได้นัก
ตอนนี้เองโจรที่มาที่นี่พร ้อมสู่จินหยวนก็กาลังเฝ้ ามองอย่าง เงียบๆ พวกเขาไม่เชื่อสิ่งที่เริ่นเสียวซู่พูดไป
มีคนลองนับวันดู ก็ประมาณได้ว่ากรอบเวลาที่หัวหน้าพวกเขา ให้มานั้นเหลือไม่มากแล้ว ตามเวลาที่นัดกันไว้ คืนนี้พวกเขาต้อง ลอบเข้าไปในแดนรกร ้างเพื่อรายงานแผนบุกจู่โจมให้หัวหน้าพวก เขาทราบ หลังจากนั้นพวกเขาก็ลอบบุกโจมตีนิคมในคืนวันต่อไป
“พี่สู่ มาเตรียมถอนตัวกันเถอะ” มีคนกล่าวกับสู่จินหยวน “คืนนี้ …”
สู่จินหยวนจ้องเขาเขม็ง “พูดเรื่องอะไรน่ะ พวกเราจะถอนตัวไป จากครอบครัวได้ยังไง”
โจรที่อยู่ภายใต้เขา “???”
ครอบครัวกะผีสิ! สติสตังไปหมดแล้วเหรอ!
ตอนแรกทุกคนนึกว่าสู่จินหยวนพูดเล่นเสียอีก แต่พอพวกเขา พูดอย่างจริงจังอีกครั้งก็ได้รู้ว่าสู่จินหยวนไม่ได้ล้อเล่นเลย!
โจรคนหนึ่งพูดอย่างปวดใจ “พี่สู่ นายพูดเองไม่ใช่เหรอว่าไม่เชื่อ การแสดงละครตลกของที่นี่น่ะ”
สู่จินหยวนถอนหายใจและว่า “เป็ นโจรมีจุดจบที่ดีเหรอ นายเคย ได้ยินว่าโจรมีบั้นปลายที่สงบสุขไหมล่ะ”
ทุกคนคิดตามอย่างตั้งใจและพบว่าพูดไม่ผิดเลย
สู่จินหยวนพูดต่อ “พวกนายก็เคยใกล้ชิดกับเริ่นเสี่ยวซู่และหยาง เสียวจิ่นแล้วนี่ ช่างเรื่องว่าพวกเขามาจากป้ อมปราการ 178 จริงหรือ เปล่าไป คิดว่าพวกเขาเทียบกับหัวหน้าเราคงเก่าแล้วเป็ นไง”
“ในด้านความแข็งแกร่ง ก็ล้วนเป็ นผู้มีพลังพิเศษทั้งสองฝั่ง” เจ้า โจรวิเคราะห์ “แต่ฝั่งนี้มีผู้มีพลังพิเศษสองคน”
“ถ้าพูดเรื่องการวางตัว ที่นี่สบายกว่าเยอะเลย” มีคนว่า “ถิ่นเดิม พวกเรา จะท าอะไรก็กดดันมาก ปกติแล้วพวกเราไม่กล้าถอนหายใจ ดังๆ ด้วยซ้า”
สู่จินหยวนพยักหน้า “และที่นี่ล่ะ”
“ที่นี่เหมือนเป็ นครอบครัวเดียวกัน เล่นมุกตลกก็ได้ ร่วมมือกัน ท างาน…”
“ไม่ต้องพูดเรื่องอื่นต่อ คิดดูว่าพวกนายชอบฝั่งไหนมากกว่า” สู่ จินหยวนว่า “คิดว่าฉันถูกพวกเขาล่อลวงไปเหรอ เปล่าเลย เป็ น เพราะเริ่นเสี่ยวซู่และหยางเสียวจิ่นทาให้ฉันเห็นแสงแห่งความหวังอยู่ ลางเลือน”
สู่จินหยวนมองจินเหลียนและจางอี้เหิงที่กาลังขนอิฐอยู่ไกลๆ พวกโจรอยู่ที่นี่เพราะถูกล้างสมองกันหมดเหรอ ไม่ใช่หรอก แต่เป็ น เพราะสิ่งที่เรียกว่าความหวังต่างหาก พวกเขายอมตกเข้ามาใน หลุมพรางแห่งความหวังนี้อย่างเต็มใจ
ถ้าหลุมพรางความหวังนี้พาทุกคนไปสู่อนาคตที่ดีได้ เช่นนั้นมัน จะยังถือว่าเป็ นหลุมพรางอยู่อีกหรือ
สู่จินหยวนนอนไม่หลับคิดเรื่องนี้ จนในที่สุดก็ตัดสินใจได้
“งั้นพวกเราจะไม่วางแผนโจมตีนิคมนี้กับคนอื่นๆ แล้วใช่ไหม” มี คนถาม
“อืม” สู่จินหยวนพยักหน้า “ถ้าจะหาโอกาสเตือนให้พี่ใหญ่ระวัง การลอบโจมตี”
มีคนถาม “แต่ถ้าเขารู ้ว่าพวกเราเป็ นสายลับถูกส่งมา เขาจะไม่ ไล่พวกเราเหรอ”
สู่จินหยวนผงะ เขาสูดลมหายใจลึกก่อนจะว่า “ฉันเชื่อว่าเขาไม่ ท าหรอก”
จากนั้นสู่จินหยวนก็เดินไปหาเริ่นเสี่ยวซู่ เขานึกว่าตนเองจะโน้ม น้าวพี่น้องของตนเองให้อยู่ที่นี่ต่อได้แล้ว แต่สุดท้ายก็ยังมีคนลอบหนี ไปอยู่ดี ก่อนจะจากไป โจรผู้นั้นยังพูดด้วยว่า “ถึงฉันจะคิดว่าที่นี่ดี มาก แต่ดูสิพวกเขายังใช ้ปืนกันไม่เป็ นเลย พอหัวหน้ามาถึงที่นี่คงถูก เป่าเป็ นผุยในชั่วข้ามคืน ฉันยังไม่อยากตาย!”
คนอื่นๆ มองหน้ากัน ไม่อาจตัดสินใจได้ว่าจะทาอย่างไรดี
พอสู่จินหยวนเดินไปหาเริ่นเสี่ยวซู่ก็อึกๆ อักๆ พูดไม่ออก เริ่น เสี่ยวซู่หันมาหาเขาและยิ้มถามว่า “โจรพวกนั้นจะบุกโจมตีเราตอน ไหน”