แผนการเดิมของเริ่นเสี่ยวซู่คือคอยสังเกตการณ์อยู่ที่รังโจรบน เขาสักพักหนึ่ง แต่ว่าหน้าตาของหยางเสียวจิ่นนั้นล่อตาล่อใจพวก โจรให้แตะต้องเธอเกินไป ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ เริ่นเสี่ยวซู่คงไม่ลงมือ หรอก
แต่ในเมื่อลงมือไปแล้ว เขาก็ต้องทาให้มั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาทิ้ง ท้าย ไม่คิดจะทาตัวเป็ นคนขี้เห็นอกเห็นใจคนอื่นปลอมๆ แบบพวก ชาวป้ อมปราการหรอก
ทว่าเหตุการณ์ดูจะกลับกลายอย่างไม่คาดคิดเล็กน้อย เริ่นเสี่ยว ซู่พบว่าหลังจากจินเหลียนและพรรคพวกถูกโค่นล้มแล้วก็ไม่เห็นจะ เกลียดหรือพูดวาจาผรุสวาทใส่เขาเลย กลับกันพวกเขากลับอยาก ให้ผู้มีพลังพิเศษมาเป็ นหัวหน้านาไปสู่ความยิ่งใหญ่กว่าเดิมเสียได้!
ในสมองมีอะไรกันอยู่เนี่ย!
เห็นพวกโจรเรียกเริ่นเสี่ยวซู่ว่าพี่ใหญ่แบบนี้ ขนาดผู้อพยพที่อยู่ ใกล้ๆ กันก็อ้าปากค้างไป เรื่องราวมันกลับตาลปัตรเกินคาดไปแล้ว!
ตอนนี้เองพวกเขาก็ตระหนักแล้วว่าเริ่นเสี่ยวซู่และหยางเสียนจิ่น ไม่ใช่คนธรรมดา คู่รักมาที่นิคม พวกเขาไม่ได้อยากมาทาไร่ทานา แต่ที่จริงอาจจะเป็ นโจรจากภูเขาลูกอื่นต่างหาก
หยางเสียวจิ่นยังไม่ลดความระวังลง ทาหน้าที่คอยกันไม่ให้คน ลอบยิงพวกเธอ แต่หลังจากผ่านไม่พักหนึ่ง เธอก็พบว่าคนพวกนี้ จริงจังเรื่องยกเริ่นเสี่ยวซู่มาเป็ นพี่ใหญ่…
เขามาที่นี่ปราบโจร แต่ทาไมไปๆ มาๆ กลายเป็ นหัวหน้าโจรเสีย เองได้…
แต่สิ่งแรกที่เริ่นเสี่ยวซู่พูดคือ “รีบไปเอาพวกปืนกระสุนและถัง น้ามันออกไปไกลๆ ฉัน เอาทุกอย่างมารวมกันแบบนี้ ไม่กลัวจะระเบิด ใส่ตัวเองเหรอไง”
จินเหลียนที่เลือดกาเดายังไหลอยู่รีบยืนขึ้น “ฟังคาพี่ใหญ่ รีบไป ขนของออกเร็ว อย่าปล่อยไว้ให้พี่ใหญ่ราคาญสายตา!”
หยางเสียวจิ่นเดินมาอยู่ข้างเริ่นเสี่ยวซู่ สายตามองคนทางานกัน อย่างจ้าละหวั่น เธอพูดเสียงเบา “เอายังไงต่อดี”
เริ่นเสี่ยวซู่คิดอยู่พักหนึ่ง “ตามหลักแล้วคือพวกเรามาปราบโจร ใช่ไหม” “ใช่”
“พวกเรามาหาว่าพวกโจรซ่อนตัวอยู่ที่ไหนและตามจับให้หมด!” “ใช่”
“ดูแล้วพวกเราต้องลงทุนลงแรงไปเยอะเลยว่าจะตามหารังโจรเจอ และวาดแผนที่ภูมิประเทศได้” เริ่นเสี่ยวซู่ว่า “พอทหารของสมาคม ตระกูลจงและหยางโถมมาไล่ล่า ก็อาจจะไม่เจอพวกโจรก็ได้”
โจรพวกนี้เหมือนกับหนู และหุบเขาที่มีแม่น้าหลายสายตัดผ่านก็ เหมือนท่อระบายน้า จะส่งทหารมาต่อสู้ที่นี่ไม่ใช่เรื่องยากเลย แค่ต้อง ส่งคนมาเยอะๆ ก็จะหมดปัญหากับการรับมือพวกโจร เริ่นเสี่ยวซู่ไม่ เชื่อหรอกว่าสมาคมตระกูลจงพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง พวกเขาต้องมี ความตั้งใจอื่นแน่
แต่ถ้ากองก าลังทหารไม่คุ้นชินกับพื้นที่ จะปราบปรามพวกโจร ให้หมดสิ้นนั้นเป็ นไปไม่ได้เลย พูดกันตรงๆ คือไม่ใช่ว่าทาไม่ได้ แต่ ถ้าจะท า มันจะไม่คุ้มกับการลงทุน
ตอนนี้หยางเสียวจิ่นยังไม่รู ้ว่าการทาเช่นนี้จะนาไปสู่อะไร ส่วน ใหญ่เป็ นเพราะว่าเริ่นเสี่ยวซู่มีวิธีคิดแตกต่างไปจากคนอื่นเกินไป หน่อย ถ้าอยู่ในสถานการณ์ทั่วไป จะเดาไม่ออกเลยว่าเขาคิดอะไร อยู่
เริ่นเสี่ยวซู่หันไปหาพวกผู้อพยพ “กลับไปทาไร่ทานา!”
พวกผู้อพยพชะงักไป “พวกเรากลับไปท าไร่ท านาได้เหรอ”
พวกเขานึกว่าเริ่นเสี่ยวซู่จะอยู่บนรังโจรบนเขาในฐานะหัวหน้า โจรต่อและจับพวกเขาเป็ นเชลยเสีย อย่างไรโจรก็เป็ นโจรเหมือนกัน
หมด แต่เริ่นเสี่ยวซู่คิดจะให้พวกเขากลับไปทาไร่ทานาจริงๆ อย่างนั้น เหรอ
“ใช่น่ะสิ” เริ่นเสี่ยวซู่พูดอย่างฮึกเหิม “ขุดคูน้าทาเกษตรกันแล้ว ไม่ใช่เหรอไง ขุดไปแล้วก็ต้องหว่านเมล็ดสิ! ตอนนี้พวกเรามีอาวุธ แล้ว พวกเราสามารถเลือกไม่เป็ นโจร และใช้อาวุธคอยปกป้ องพืชพล เรา ใช้อาวุธคอยป้ องกันไม่ให้พวกโจรมาท าร้ายเรา”
พวกผู้อพยพนิ่งไป แต่พวกเขายังไม่กล้าหยิบปืนขึ้นมาอยู่ดี ราว กับกลัวว่าถ้าหยิบขึ้นมาแล้วจะเจอตอเข้า
ไม่ใช่ว่าทุกคนจะชอบการสู้รบฆ่าฟัน พวกเขาเลือกหนีมาท า การเกษตรที่นี่เพราะอยากจะหลบหนีทุกสรรพสิ่งที่เกิดขึ้นที่โลก ภายนอก พวกเขาเพียงต้องการตั้งรกรากในสถานที่สงบๆ
ถ้าในหมู่ผู้อพยพมีคนดุร ้ายอย่างเช่นเริ่นเสี่ยวซู่ฉันใด ก็มีคนขี้ ขลาดที่หลีกหนีความขัดแย้งฉันนั้น แต่จะเรียกพวกเขาว่าขี้ขลาดก็ ไม่เชิง พูดได้เพียงว่าเพราะพวกเขาไม่อยากจะสู้รบกับผู้อื่น
เริ่นเสี่ยวซู่ว่า “พวกเราไม่ต้องไปสู้กับใครเขา แต่ถ้าไม่มีวิธี ปกป้ องตัวเอง ก็เลิกคิดจะท าไร่ท านาอย่างสงบสุขไปได้เลย คิดถึง ครอบครัวและลูกๆ ของตัวเองสิ!”
พอพูดถึง ‘ลูกๆ’ ขึ้นมา ผู้อพยพบางคนก็เกิดสะท้านใจขึ้นมา พวกเขาเคยชินกับการอาศัยอยู่ในหุบเขาอย่างสงบสุขมาหลายปี แต่
พวกเขารับรู ้แล้วว่ามันไม่ปลอดภัยเหมือนแต่ก่อนแล้ว พวกเขาเริ่ม กลายเป็ นเป้ าหมายของเหล่าโจร
ก็อย่างเช่นวันนี้ที่มีโจรมาพาตัวพวกเขาไป พวกเขาไม่อาจตอบ โต้อะไรได้ด้วยซ้า และผู้ที่ต้องลาบากก็คือเด็กๆ ส่วนภรรยาตัวเองก็ อาจจะลงเอยกลายเป็ นภรรยาของผู้อื่นไป
อาวุธใช ้รุกรานผู้อื่นได้ฉันใด ก็ใช ้ปกป้ องตัวเองได้ฉันนั้น
ผู้อพยพบางคนค่อยๆ หยิบปืนใหม่เอี่ยมขึ้นมา ทว่าพวกเขาใช ้ งานพวกมันไม่เป็ น ตอนนี้ได้แต่ใช ้มันเพิ่มพูนความกล้าหาญของ ตนเอง
ยามจับปื นเย็นเยียบในมือ พวกเขาก็เกิดความรู ้สึกปลอดภัย ขึ้นมาสายหนึ่ง
เริ่นเสี่ยวซู่ล่อลวงให้จินเหลียนและพรรคพวกพาผู้อพยพกลับไป ยังทางที่พวกเขาเพิ่งมากัน ส่วนเริ่นเสี่ยวซู่นั่งซ ้อนท้ายอยู่หลัง รถจักรยานยนต์ของหยางเสียวจิ่น ก่อนหน้านี้ขณะที่คนไม่ทันสังเกต เขาก็ลอบโยนระเบิดมือทั้งลังไปเก็บในช่องเก็บของ
ระเบิดมือนี้มีอานาจทาลายพอๆ กันกับไพ่ระเบิดสามแต้มสี่ใบ ซึ่ง พอจะทาให้เริ่นเสี่ยวซู่ประหยัดเหรียญคาขอบคุณไปได้หน่อย
หลังจากมาถึงนิคมแล้ว เริ่นเสี่ยวซู่ก็ให้คาสั่งกับพวกจินเหลียน “พวกนายก็เคยเป็ นผู้อพยพเหมือนกัน ตอนนี้ไม่ต้องคิดว่าตนเองเป็ น โจรอะไรทั้งนั้น ทาตัวดีๆ ทานาทาไร่ไป เข้าใจไหม”
พวกจินเหลียนทาสีหน้าขมขื่น พวกโจรจากภูเขาลูกอื่นลักพา ตัวผู้อพยพและเปลี่ยนผู้อพยพให้กลายเป็ นโจรด้วย แต่ขณะเดียวกัน พวกเขาที่เป็ นโจรกลับถูกพาตัวกลับมาทาการเกษตรที่นิคมนี้
หยางเสียวจิ่นมองผู้อพยพที่กลับมาไถนาอีกครั้ง เธอถาม “นาย วางแผนจะทาอะไรกับผู้อพยพแล้วก็โจรพวกนี้”
เริ่นเสี่ยวซู่แหงนหน้ามองฟ้ าและยิ้ม “พวกเรารอ”
และตอนนี้เอง ก็มีเมฆฝุ่ นอีกกลุ่มพามาแต่ไกล หยางเสียวจิ่นม องกลุ่มโจรที่ส่งเสียงกระหึ่มมาและนึกออกทันทีว่า “นายกาลังรอให้ คนมาเยือนถึงที่สินะ…”
ก็อย่างที่เริ่นเสี่ยวซู่ว่า จะคอยตามหาพวกโจรทีละกลุ่มมันช ้า เกินไป
จากที่จินเหลียนว่าไว้ โจรทุกกลุ่มต่างพยายามขยายกองกาลัง ไม่น่าจะไม่พลาดจู่โจมนิคมของมนุษย์ที่เจอแน่
ถ้าแบบนี้เริ่นเสี่ยวซู่ก็ไม่ต้องเสียเวลาไปตามหาพวกเขาแล้ว รอ ให้พวกโจรในบริเวณเขาต๋าป่ าน เขาถังหวัง และเขากวนซานมาหา เขาอย่างสบายใจก็พอ
วางกับดับล่อโจร!
“แต่แบบนี้พวกเราคงได้แต่จับโจรกลุ่มเล็กกลุ่มน้อยทางใต้” หยางเสียวจิ่นหัวเราะพูด
“ไม่เป็ นไร ถ้าโจรกลุ่มใหญ่โผล่มาฉันคงกลัวจริงๆ แล้ว แต่ไม่ ต้องห่วง อีกไม่นานพวกเราก็จะปราบโจรกลุ่มใหญ่ได้แล้ว!” เริ่นเสี่ยว ซู่พูดอย่างฮึกเหิม
ขณะที่โจรกลุ่มใหม่กาลังใกล้มาถึง ผู้อพยพที่เพิ่งกลับมาถึง นิคมตัวเองนั้นเริ่มวิตกกังวลทาตัวไม่ถูก พวกเขาเพิ่งได้กลับมาบ้าน เอง นี่จะต้องถูกโจรกลุ่มอื่นพาตัวไปอีกแล้วหรือ แต่ขณะที่พวกเขา กาลังวิตกกังวลอยู่นั้น ก็เห็นเริ่นเสี่ยวซู่พุ่งไปหาพวกโจรด้วยความ ตื่นเต้น
ดูจากสีหน้าเริ่นเสี่ยวซู่แล้ว อย่างกับกาลังออกไปต้อนรับญาติ สนิทมิตรสหายของตนอย่างไรอย่างนั้น!
หยางเสียวจิ่นตั้งปืนสไนเปอร ์เล็งอยู่บนเนินเขาแห่งหนึ่งเตรียมยิง สนับสนุนเริ่นเสี่ยวซู่จากระยะไกลเรียบร ้อย เธอมองผ่านกล้องสโค ปจ้องไปยังพวกกลุ่มโจรที่ยังไม่รู ้ว่ากาลังเกิดอะไรขึ้นกับพวกตน เธอ พลันรู ้สึกว่าการเดินทางมาปราบโจรครั้งนี้น่าสนุกมาก
อย่างน้อยที่สุดก็น่าสนุกกว่าตอนเธอมาครั้งล่าสุด