the first order สู่รุ่งอรุณเเห่งมวลมนุษย์ 336 คนที่สนับสนุนโจร

ตอนที่ 336 คนที่สนับสนุนโจร

เริ่น​เสี่ยว​ซู่สงสัย​ “เป็น​สมาคม​ตระกูล​จงหรือเปล่า​ เธอ​บอ​กว่า​พวก​โจร​มีต้นตอ​มาจาก​พวกเขา​ไม่ใช่เหรอ​”

หยาง​เสียว​จิ่น​ส่ายหน้า​ “ไม่น่า​ใช่ กองกำลัง​ที่​สนับสนุน​ด้าน​ทรัพยากร​ให้​พวก​โจร​เหมือน​กำลัง​ต่อต้าน​สมาคม​ตระกูล​จงอยู่​ นี่​เป็น​เหตุผล​ด้วยว่า​ทำไม​สมาคม​จงถึงเผชิญ​ทางตัน​กับ​สถานการณ์​นี้​อยู่​ คน​ที่อยู่​เบี้ย​งหลัง​ทำ​ตัวอย่าง​กับ​เป็น​หนู​ หาว่า​เป็น​ใคร​ยาก​มาก​“

เริ่น​เสี่ยว​ซู่กำลัง​สับสน​อยู่​ แต่​พอ​หยาง​เสียว​จิ่น​พูดถึง​ ‘หนู​’ ไม่รู้​ทำไม​แต่​เขา​ก็​นึก​ไป​ถึงหลัว​หลาน​ขึ้น​มา ถึงสอง​สิ่งนี้​จะมีรูปร่าง​ต่างกัน​มาก​ แต่​ก็​มีอย่างหนึ่ง​ที่​มีร่วมกัน​คือ​ชอบ​วิ่ง​แจ้น​ไป​ทั่ว​ใต้​ท่อระบายน้ำ​

ตอนนี้​เอง​เริ่น​เสี่ยว​ซู่ก็​พอ​เดา​ออก​แล้ว​ว่า​ใคร​สนับสนุน​พวก​โจร​มาปั่นป่วน​สมาคม​ตระกูล​จง ถ้าเป็น​อย่าง​ที่​เขา​คิด​จริงๆ​ วิสัยทัศน์​ของ​ชิ่งเจิ่งและ​หลัว​หลาน​นับว่า​ยาว​ไกล​กว่า​สมาคม​ตระกูล​หยาง​อยู่​โข​

อย่างไร​สมาคม​ตระกูล​หยาง​เพิ่ง​คิด​จะสร้าง​พันธมิตร​กับ​สมาคม​ตระกูล​จงใน​ปี​หรือ​สอง​ปี​นี้​เอง​ ส่วน​พวก​โจร​นั้น​สร้าง​ปัญหา​ให้​สมาคม​ตระกูล​จงมาห้า​หก​ปี​แล้ว​

ถ้าชิ่งเจิ่น​กับ​หลัว​หลาน​อยู่​เบื้องหลัง​จริงๆ​ พวกเขา​กำลัง​วางแผน​อะไร​อยู่​ และ​พวกเขา​กำลัง​ต้องการ​ทำ​อะไร​กัน​แน่​?

แน่นอน​ว่า​เริ่น​เสี่ยว​ซู่ไม่รู้เรื่องราว​เบื้องหลัง​การ​เปลี่ยน​ถ่าย​อำนาจ​ปกครอง​ของ​สมาคม​ตระกูล​ชิ่ง และ​ก็​ไม่รู้​ด้วยว่า​ชิ่งเจิ่น​วางแผน​มายาว​ไกล​ขนาด​ไหน​

และ​ตอนนี้​ ดูเหมือนว่า​พวก​โจร​จะสร้าง​ปัญหา​ให้​สมาคม​ตระกูล​จงอย่าง​หนักหน่วง​ ไม่อย่างนั้น​พวกเขา​คง​ไม่ร้อง​ขอความช่วยเหลือ​จาก​สมาคม​ตระกูล​หยาง​และ​ป้อมปราการ​ 178 หรอก​ อย่างไร​พวกเขา​ก็​เป็น​คน​ฟูมฟัก​พวก​โจร​ตั้งแต่แรก​และ​สุดท้าย​ปัญหา​ก็​เกิน​จะรับมือ​ไหว​ ถ้าคนอื่น​รู้เรื่อง​เข้า​ พวกเขา​ไม่กลายเป็น​ตัวตลก​ไป​เลย​เหรอ​

เริ่น​เสี่ยว​ซู่บอก​ข้อ​อนุมาน​ของ​ตน​ให้​หยาง​เสียว​จิ่น​ฟัง “ฉัน​คิด​ว่า​สมาคม​ตระกูล​ชิ่งกำลัง​ลอบ​ช่วยเหลือ​พวก​โจร​อยู่​”

“จะยังไง​ก็​เถอะ​” หยาง​เสียว​จิ่น​โคลง​ศีรษะ​ “มัน​ไม่เกี่ยว​อะไร​กับ​ฉัน​อยู่ดี​”

“ความสัมพันธ์​ของ​เธอ​กับ​สมาคม​ตระกูล​หยาง​…” เริ่น​เสี่ยว​ซู่อึกอัก​อยู่​พัก​หนึ่ง​แต่​ไม่กล้า​ถามต่อ​

“ไม่ต้อง​เกรงใจ​อะไร​หรอก​น่า​” หยาง​เสียว​จิ่น​ว่า​ “สมาคม​ตระกูล​หยาง​เริ่ม​ตกต่ำ​ สายสัมพันธ์​ครอบครัว​กลายเป็น​ของ​ที่​ละทิ้ง​ได้​ เดินทาง​ไป​เขา​ต๋า​ป่าน​กัน​ก่อน​ แถมนั้น​มีรัง​โจร​กับ​นิคม​ผู้อพยพ​เล็ก​ๆ อยู่​”

“เธอ​รู้จัก​พื้นที่​ของ​ที่นี่​ดี​ไหม​” เริ่น​เสี่ยว​ซู่ถาม

“ฉัน​พอ​คุ้นเคย​กับ​รอบนอก​ของ​หุบเขา​อยู่​” หยาง​เสียว​จิ่น​ว่า​ “หลาย​ปีก่อน​ฉัน​มาที่นี่​บ่อยๆ​”

เริ่น​เสี่ยว​ซู่ผงะ​ “เธอ​มาทำ​อะไร​น่ะ​”

“มาฝึก​ยิงปืน​” หยาง​เสียว​จิ่น​ตอบ​

และ​เริ่น​เสี่ยว​ซู่ก็ได้​รู้​ว่า​หยาง​เสียว​จิ่น​ใช้โจร​ใน​แดน​รกร้าง​นี้​เป็น​เป้า​ซ้อม​ยิง​ ถึงว่า​ทำไม​บางครั้ง​เริ่น​เสี่ยว​ซู่ถึงคิด​ว่า​หยาง​เสียว​จิ่น​ช่างคล้าย​กับ​ตน​นัก​ เป็น​ดั่ง​ต้น​หญ้า​ที่​เติบโต​ใน​แดน​รกร้าง​

“อยาก​เรียน​ไหม​” หยาง​เสียง​จิ่น​หัน​มอง​เริ่น​เสี่ยว​ซู่และ​ว่า​ “ฉัน​สอน​ให้ได้​”

เริ่น​เสี่ยว​ซู่ตา​กระตุก​ “ทักษะ​ยิงปืน​ฉัน​ไม่เลว​นะ​”

“ฉัน​ไม่รู้​หรอก​นะ​ว่า​นาย​มีพลัง​อะไร​ถึงเรียน​ทักษะ​ของ​คนอื่นๆ​ ได้​ตรงๆ​” หยาง​เสียว​จิ่น​ว่า​ “แต่​นาย​ไม่ได้​เรียนรู้​ไป​อย่าง​สมบูรณ์​ใช่ไหม​ เทคนิค​หายใจ​ของ​นาย​มัน​ไม่ถูก​”

เริ่น​เสี่ยว​ซู่ยิ้ม​ สมแล้ว​ที่​เป็น​คน​มีทักษะ​การ​ใช้ปืน​ระดับ​ไร้​ที่​ติ​ มอง​แวบเดียว​ก็​รู้​ว่า​เขา​มีจุดอ่อน​ตรงไหน​ ถึงเขา​จะคัดลอก​ทักษะ​การ​ใช้ปืน​ของ​เธอ​มาได้​ แต่ว่า​ช่องว่าง​ความ​เชี่ยวชาญ​ระหว่าง​ทักษะ​การ​ใช้ปืน​ระดับสูง​และ​ระดับ​ไร้​ที่​ติ​ก็​ยัง​ห่าง​กัน​เป็น​โยชน์​อยู่​

เขา​หยุด​ทำตัว​เป็น​เด็ก​ “เธอ​จะสอน​ฉัน​ยังไง​”

“สอน​นาย​ผ่าน​การสู้​จริง​” หยาง​เสียว​จิ่น​พูด​เสียง​นิ่ง​

เริ่น​เสี่ยว​ซู่พึมพำ​ “นึก​ว่า​จะจับมือ​สอน​ซะอีก​”

“อะไร​นะ​” เพราะ​เริ่น​เสี่ยว​ซู่พูด​เบา​ไป​ หยาง​เสียว​จิ่น​เลย​จับความ​ไม่ถนัด​

เริ่น​เสี่ยว​ซู่ว่า​ “เปล่า​!”

หยาง​เสียว​จิ่น​มอง​เขา​และ​ถาม “ฉัน​ต้อง​ทำ​ยังไง​ให้​ตัวเอง​เหมือน​ผู้อพยพ​”

“ถามถูก​คน​แล้ว​ เธอ​ห้าม​ใส่หมวก​” เริ่น​เสี่ยว​ซู่ว่า​ “ผู้อพยพ​ที่ไหน​เขา​ใส่หมวก​กัน​”

หยาง​เสียว​จิ่น​ถอด​หมวก​ออก​ทันที​ เริ่น​เสี่ยว​ซู่อึ้ง​ไป​เพราะ​น้อย​นัก​ที่จะ​เห็น​เธอ​แบบ​ไม่สวม​หมวก​

“แล้ว​ไงต่อ​” หยาง​เสียว​จิ่น​ถาม

เริ่น​เสี่ยว​ซู่สำรวจ​มอง​เธอ​ “ผม​เธอ​ดู​เรียบร้อย​เกินไป​ แต่​ไม่ต้อง​ขนาด​รก​เกิน​ แต่​ปล่อย​ผม​ให้​ยุ่ง​หน่อย​ๆ” ถึงชุด​เธอ​จะเหมือน​ผู้อพยพ​ แต่​รายละเอียด​บางอย่าง​ถ้าดู​ใกล้​ๆ ก็​เห็นชัด​อยู่​บ้าง​ ผู้อพยพ​มักจะ​ตัดผม​ด้วยตัวเอง​ ทรงผม​แต่ละคน​จึงดู​กระเซอะกระเซิง​

พอ​เขา​พูด​จบ​ ก็​เห็น​หยาง​เสียว​จิ่น​ชัก​มีด​ออก​มาจาก​ชาย​แขน​เสื้อ​ตัดผม​ตัวเอง​ทันที​ จากนั้น​เธอ​ก็​ขยี้​มัน​นิดหน่อย​

เดิมที​หยาง​เสียว​จิ่น​มีผมบ๊อบ​ยาว​ถึงคาง​ แต่​หลัง​ใช้มีด​ตัด​แล้วก็​ดู​ยุ่งเหยิง​

ถึงเธอ​จะกลับมา​อยู่​สภาพเดิม​ใน​อีก​เดือน​หรือ​สอง​เดือน​ให้หลัง​ แต่​เริ่น​เสี่ยว​ซู่ก็​ยัง​แปลกใจ​ที่​เห็น​ว่า​เพื่อ​ทำตัว​เหมือน​ผู้อพยพ​แล้ว​ หยาง​เสียว​จิ่น​ดูจะ​ไม่สนใจ​หน้าตา​ตัวเอง​เลย​ เขา​รู้​มาว่า​เด็กสาว​บาง​คนใน​ป้อมปราการ​รัก​ผม​ตัวเอง​เหมือน​ชีวิต​ แต่​หยาง​เสียว​จิ่น​พร้อม​ทำ​ทุกอย่าง​เพื่อ​เป้าหมาย​

หยาง​เสียว​จิ่น​สะบัด​ผม​เบา​ๆ สอง​สามที​และ​ว่า​ “เป็นไง​บ้าง​แล้ว​ ดูเหมือน​แล้ว​ยัง​”

“อืม​ เหมือน​กว่า​เดิม​” เริ่น​เสี่ยว​ซู่พยายาม​กั้น​ขำ​ “หน้า​เธอ​สะอาด​ไป​หน่อย​ ลาย​เสื้อผ้า​อีก​ แต่ว่า​ไม่ต้อง​สนใจ​หรอก​ จาก​ที่​เธอ​ว่า​ กว่า​จะถึงเขา​ต๋า​ป่าน​ใช้เวลา​อีก​วัน​หรือ​สอง​วัน​ เดิน​ทางใน​แดน​รกร้าง​ฝุ่นตลบ​แบบนี้​ไป​วันหนึ่ง​จะเอา​อะไร​มาสะอาดสะอ้าน​ไหว​

“ได้​” หยาง​เสียว​จิ่น​พยักหน้า​ “มาตกลง​ที่มา​กัน​ก่อน​ ฉัน​ไม่อยาก​ไป​เจอ​นิคม​มนุษย์​แล้ว​พอ​มีคน​ถามถึงความสัมพันธ์​พวกเรา​แล้ว​ความ​แตก​ทันที​ ว่า​…ว่าแต่​นาย​อายุ​เท่าไร​”

ดูเหมือนว่า​นี่​จะเป็นครั้งแรก​ที่​พวกเขา​สอง​คน​ได้​ถามไถ่ข้อมูล​ส่วนตัว​กัน​ พวกเขา​ไม่เคย​ได้​คุย​กัน​เรื่อง​นี้​เลย​ ย้อน​ไป​ตอน​อยู่​เขา​จิ้งซาน​ พวกเขา​ก็​คุย​กัน​แค่​ว่า​ใน​เขา​น่าจะ​มีอะไร​ พอ​มาถึงป้อมปราการ​ 109 ก็​คุย​กัน​เรื่อง​ผลงานวิจัย​ของ​สมาคม​ตระกูล​ห​ลี่​ ใน​ช่วง​วัน​ที่ผ่านมา​ก็​คุย​กับ​ถึงสภาพการณ์​ของโจร​ใน​หุบเขา​ บางที​พวกเขา​ก็​ลืม​ไป​แล้ว​ว่า​ยัง​ไม่ได้​แนะนำตัว​กัน​อย่าง​เป็น​กิจจะลักษณะ​ ราวกับ​พวกเขา​ไม่สนใจ​อย่างไร​อย่างนั้น​

เริ่น​เสี่ยว​ซู่พอ​จำคร่าวๆ​ ได้​ว่า​หยาง​เสียว​จิ่น​น่าจะ​อายุ​สิบ​แปด​ ส่วน​ตนเอง​อายุ​สิบ​เจ็ด​ ถ้าเขา​บอก​ไป​ตรงๆ​ ก็​ต้อง​เรียก​เธอ​ว่า​พี่สาว​สิ แบบ​นั้น​เขา​แย่​แน่​

เริ่น​เสี่ยว​ซู่คิด​ก่อน​จะเอ่ย​ว่า​ “ปี​นี้​ฉัน​อายุ​ยี่สิบ​”

หยาง​เสียว​จิ่น​พยักหน้า​ “อืม​ ฉัน​อายุ​ยี่​สิบเอ็ด​ เรียก​ฉัน​ว่า​พี่สาว​ซะ เวลา​เจอ​คนอื่น​อย่า​หลุดปาก​ล่ะ​”

เริ่น​เสี่ยว​ซู่ “???”

โกหก​ตา​ไม่กะพริบ​เลย​โว้ย​ เมื่อก่อน​เริ่น​เสี่ยว​ซู่เชื่อ​มาตลอด​ว่า​ตนเอง​คือ​นัก​ขุด​หลุมพราง​ดัก​คนอื่น​ แต่​วันนี้​เขา​กลับ​ตกหลุมพราง​คนอื่น​เสีย​เอง​!

“ยี่​สิบเอ็ด​?” เริ่น​เสี่ยว​ซู่ไม่เชื่อ​ “ไหน​ควัก​ใบ​แสดงตน​ออกมา​ดู​หน่อย​”

“ฉัน​ทำ​หาย​” หยาง​เสียว​จิ่น​พูด​อย่าง​ไม่ยี่หระ​ “เลิก​พูด​ ไม่ต้อง​สนใจ​รายละเอียด​เล็กๆ น้อยๆ​ นั่น​หรอก​ นาย​เป็น​คน​โกหก​ก่อน​นะ​”

เริ่น​เสี่ยว​ซู่ได้​แต่​กล้ำกลืน​ความพ่ายแพ้​ไป​อย่าง​เงียบๆ​ ขนาด​ระหว่าง​เดิน​ทางขึ้น​ตะวันตกเฉียงเหนือ​กัน​ สมอง​เขา​ก็​ยัง​คิด​หา​วิธี​แก้เผ็ด​เธอ​ไม่สร่าง​

ใน​แดน​รกร้าง​อัน​กว้างใหญ่​ พวกเขา​สอง​คน​ไม่ต่าง​ไป​จาก​จุด​สีดำ​เล็ก​จ้อย​สอง​จุด​ เนิน​ดิน​เป็น​ดั่ง​ระลอกคลื่น​บน​พื้น​พสุธา​

พอ​ถึงตอนเย็น​ เงาของ​ทั้งสอง​ก็​ลาก​ยาว​ไป​บน​พื้น​ หมู่​เมฆกระจัดกระจาย​บน​ฟ้ายาวเหยียด​จน​เชื่อมต่อ​กับ​พื้นดิน​

ตกดึก​ หมู่​ดารา​ดาษ​บน​นภา​แน่นขนัด​ราว​อยู่​ใกล้​เพียง​เอื้อม​

หยาง​เสียว​จิ่น​พูด​ขณะ​รีบ​เดิน​ “หิว​แล้ว​”

เริ่น​เสี่ยว​ซู่พูดตาม​ “หิว​เหมือนกัน​”

“นั่น​ไม่ใช่คำ​ที่​ฉัน​ต้องการ​ได้ยิน​…”

“อย่า​บอก​นะ​ว่า​เธอ​ไม่ได้​พก​เสบียง​มาด้วย​น่ะ​”

“ฉัน​เป็น​ผู้อพยพ​แล้ว​ ผู้อพยพ​ที่ไหน​มีอาหาร​กัน​” หยาง​เสียว​จิ่น​พูด​อย่าง​มั่นอกมั่นใจ​ “และ​มีนาย​ตามมา​ด้วย​ ฉัน​ไม่ต้อง​พก​อาหาร​มาเสียหน่อย​”

the first order สู่รุ่งอรุณเเห่งมวลมนุษย์

the first order สู่รุ่งอรุณเเห่งมวลมนุษย์

Score 10
Status: Completed

ในความมืดมิดอันปั่นป่วนโกลาหล หนุ่มน้อยเริ่นเสี่ยวซู่ผงะตื่นขึ้นพร้อมกับปาดเหงื่อออกจากหน้าผาก จากนั้นก็หันไปมองเด็กชายอายุราวสิบสี่ปีที่ยืนอยู่ตรงประตู

“ลิ่วหยวน มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า” เริ่นเสี่ยวซู่ถาม

แม้จะเรียกเด็กชายว่าลิ่วหยวน แต่ความจริงแล้วชื่อเขาคือเหยียนลิ่วหยวน

มองแวบแรก เหยียนลิ่วหยวนดูราวกับคนใสซื่อไม่มีพิษภัยอะไร ทว่าในมือเขานั้นกลับกำมีดกระดูกแน่น ยืนเฝ้าอยู่ตรงประตู ตอนนี้ดึกดื่นค่อนคืน แม้ว่าเขาจะดูง่วงงุนเพียงไร ก็ไม่หลับตาลงแม้แต่น้อยเพราะว่าจำเป็นต้องเฝ้ายามตอนกลางคืน

Options

not work with dark mode
Reset