the first order สู่รุ่งอรุณเเห่งมวลมนุษย์ 329 หยางอวี้อันผู้กระตือรือร้น

ตอนที่ 329 หยางอวี้อันผู้กระตือรือร้น

พระราชวัง​ไม่มีทาง​โกหก​เริ่น​เสี่ยว​ซู่แน่​ ทุก​เหรียญ​คำขอบคุณ​จะมาจาก​คำขอบคุณ​จาก​ใจจริง​ ถ้าไม่ใจจริง​ ก็​จะไม่ได้​เหรียญ​มา

ไม่ว่า​จงเฉิงจะทำตัว​ใสแค่​ไหน​เริ่น​เสี่ยว​ซู่ก็​ไม่เชื่อ​เขา​ แม้จะไม่มีพระราชวัง​ เริ่น​เสี่ยว​ซู่ก็​ยัง​ไม่เชื่อใจ​เขา​อยู่ดี​ ไม่อย่างนั้น​ชีวิต​ตลอด​สิบ​เจ็ด​ปี​ใน​แดน​รกร้าง​ก็​เสียเปล่า​แล้ว​

จงเฉิงไม่อยู่​ต่อ​ เริ่น​เสี่ยว​ซู่ก็​ไม่รู้​ว่า​คน​ผู้​นี้​วางแผน​อะไร​อยู่​ เพียงแค่​ยิ้ม​และ​ตอบกลับ​ตามที่​ถูก​ถาม

เหยียน​ลิ่ว​หยวน​มอง​เริ่น​เสี่ยว​ซู่จับมือ​กับ​จงเฉิง เหลือ​แค่​กรีดเลือด​สาบาน​เป็น​พี่น้อง​กับ​อีก​ฝ่าย​แค่นั้น​

หลังจาก​จงเฉิงกลับ​ไป​แล้ว​ เริ่น​เสี่ยว​ซู่ก็​ถอนหายใจ​ยกใหญ่​ “รับมือ​คน​พวก​นี้​จาก​ป้อมปราการ​เหนื่อย​จริงๆ​ ต่าง​คน​ต่าง​รู้​ว่า​แสดงละคร​กัน​อยู่​ แต่​ก็​ต้อง​ร่วมมือ​กัน​เล่น​ละคร​ต่อไป​

“โอ้​พี่​ ในที่สุด​พี่​ก็​ยิ้ม​จริงๆ​ ออกมา​แล้ว​” เหยียน​ลิ่ว​หยวน​หัวเราะ​ “ผม​ล่ะ​นึก​ว่า​พี่​กำลังจะ​กรีดเลือด​สาบาน​เป็น​พี่น้อง​กับ​เขา​แล้ว​แน่ะ​”

“ไม่รู้​เหรอ​ไงว่า​พี่​นาย​เก่ง​ขนาด​ไหน​น่ะ​” เริ่น​เสี่ยว​ซู่พูด​อย่าง​ภูมิใจ

หลังจาก​ส่งแขก​ไป​แล้ว​ ก็​มีคน​มาเคาะ​ประตู​อีกครั้ง​ เริ่น​เสี่ยว​ซู่นึก​ว่า​เป็น​เจ้าเด็ก​จงเฉิงโผล่​มาอีก​ เขา​รีบ​ฉีก​ยิ้ม​และ​ไป​ยัง​ประตู​ พอ​เปิด​ออก​ก็​เกือบจะ​เข้าไป​จับมือ​กับ​อีก​ฝ่าย​แล้ว​ “พี่น้อง​!”

หยาง​อวี้​อัน​ที่อยู่​ข้างนอก​มอง​เริ่น​เสี่ยว​ซู่ด้วย​ความประหลาดใจ​ เขา​ไม่เข้าใจ​ว่า​มัน​เกิด​อะไร​ขึ้น​

“ฮ่าๆๆ” เริ่น​เสี่ยว​ซู่พูด​อย่าง​ขวยเขิน​ “เข้าใจผิด​กัน​น่ะ​ๆ คุณ​คือ​ใคร​เหรอ​”

ถึงเมื่อ​คือ​เริ่น​เสี่ยว​ซู่จะไป​งานเลี้ยง​ด้วย​ แต่​หยาง​อวี้​อัน​ออก​มาจาก​คฤหาสน์​หลังเขา​ออกจาก​งานเลี้ยง​ไป​พร้อม​หยาง​เสียว​จิ่น​แล้ว​ ดังนั้น​เริ่น​เสี่ยว​ซู่เลย​ไม่ทัน​เห็น​หยาง​อวี้​อัน​และ​ก็​ไม่รู้​ด้วยว่า​เขา​คือ​ใคร​

หยาง​อวี้​อัน​ยิ้ม​ “สวัสดี​ ฉัน​ชื่อ​หยาง​อวี้​ฉัน​ เป็น​อา​สามของ​หยาง​เสียว​จิ่น”​

“อ้อ​!” เริ่น​เสี่ยว​ซู่ชะงัก​ไป​วูบ​หนึ่ง​และ​รีบ​หลบ​ทาง​ “เข้ามา​ก่อน​ครับ​”

เริ่น​เสี่ยว​ซู่คิด​ว่า​ต้อง​เป็นผู้ใหญ่​ทำตัว​เป็น​ทารก​ผู้​นี้​แน่​ที่​เชิญเขา​ไป​งานเลี้ยง​เมื่อคืน​โดย​ไม่เผื่อ​เวลา​ให้​เตรียมตัว​เลย​ ทำ​แบบ​นั้น​ก็​คง​เพื่อ​กัน​เขา​ออก​ไป​จาก​หยาง​เสียว​จิ่น​

แต่​แน่​ล่ะ​ว่า​เริ่น​เสี่ยว​ซู่ไม่พูด​เรื่อง​นี้​ออกมา​โต้งๆ​ หรอก​ หยาง​อวี้​อัน​เดิน​เข้ามา​พร้อม​คน​คุ้มกัน​และ​ลูกน้อง​ตามหลัง​มา พวกเขา​เข้า​ใน​ลานบ้าน​และ​สอดส่อง​อาณาบริเวณ​

หยาง​อวี้​อัน​ไม่รอ​ให้​เริ่น​เสี่ยว​ซู่พูด​อะไร​ก็​เอ่ยปาก​ก่อน​ “ฉัน​ขอโทษ​จริงๆ​ การจัดเตรียม​นั้น​ไม่ทัน​คิด​ให้ได้​อย่าง​เหมาะสม​เลย​ เชิญไป​งานเลี้ยง​เมื่อคืน​อย่าง​ไม่ตระเตรียม​ให้​พร้อมพรัก​เสียได้​ ปัญหา​หลัก​ๆ คือ​งานเลี้ยง​วางแผน​มานาน​แล้ว​ แต่ว่า​เธอ​เพิ่ง​มาถึงป้อมปราการ​ ฉัน​เลย​รับรอง​เธอ​ได้​แย่​ไป​บ้าง​”

เริ่น​เสี่ยว​ซู่ยิ้ม​ “ไม่ครับ​ๆ ผม​เป็น​แค่​ผู้อพยพ​ ได้​เห็น​งานเลี้ยง​แบบ​นั้น​ก็​เป็นบุญ​ตา​แล้ว​”

หวัง​ฟู่กุ้ย​ดู​พวกเขา​คุย​กัน​จาก​หน้าต่าง​พร้อม​พึมพำ​ “จิ้งจอก​สอง​ตัว​”

เหยียน​ลิ่ว​หยวน​หัวเราะ​และ​ว่า​ “พี่​ผม​ไม่ใช่จิ้งจอก​สักหน่อย​”

“แล้ว​เป็น​อะไร​”

“นัก​ล่า​จิ้งจอก​”

ตอนนั้น​เอง​หยาง​อวี้​อัน​ก็​ให้​คน​มาส่งมอบ​ของขวัญ​ “ของขวัญ​พบ​หน้า​กัน​ครั้งแรก​ไม่ได้​หรูหรา​ หวัง​ว่า​เธอ​จะชอบ​”

“ชอบ​สิครับ​ๆ ของขวัญ​จาก​คุณ​เลย​นะ​” เริ่น​เสี่ยว​ซู่หัวเราะ​

เริ่น​เสี่ยว​ซู่รอ​ให้​หยาง​อวี้​อัน​พูด​เข้า​ประเด็น​ เขา​ไม่เชื่อ​หรอ​กว่า​บุคคล​ทรงอำนาจ​ระดับ​สอง​ใน​สมาคม​ตระกูล​หยาง​จะเยี่ยม​และ​มอบ​ขวัญ​แทน​การ​ขอโทษ​เขา​เฉย​ๆ มัน​ต้อง​มีอะไร​สำคัญ​กว่า​นั้น​แน่​

สุดท้าย​หยาง​อวี้​อัน​ก็​พูดอ้อมค้อม​อยู่​ครึ่ง​ชั่วโมง​ก่อน​จะเปลี่ยน​หัวข้อ​มาเรื่อง​ที่จะ​คุย​กัน​จริงๆ​ เริ่น​เสี่ยว​ซู่ชื่นชม​ความอดทน​ของ​คน​เช่นนี้​จริงๆ​

หยาง​อวี้​อันว่า​ “สอง​สามวัน​มานี้​ก่อนที่​สูเสี่ย​น​ฉู่จะกลับ​ไป​ป้อมปราการ​ 178 เขา​พูด​เรื่อง​เธอ​ไว้​มาก​เชียว​ล่ะ​ สนิท​กับ​เขา​มาก​งั้น​เหรอ​”

“ใช่” เริ่น​เสี่ยว​ซู่ยิ้ม​และ​ว่า​ “พวกเรา​เข้า​เขา​จิ้งซาน​ไป​ด้วยกัน​ เสียว​จิ่น​ก็​อยู่​ด้วย​”

“อ้อ​” หยาง​อวี้​อัน​เหมือน​เพิ่ง​รู้เรื่อง​นี้​ จากนั้น​เขา​ถาม “รู้จัก​ผู้บัญชาการ​จางไหม​ จางจิ่งหลิน​น่ะ​”

เริ่น​เสี่ยว​ซู่ผงะ​เล็กน้อย​ “ครับ​ รู้จัก​”

หยาง​เสียว​จิ่น​ยิ้ม​และ​ว่า​ “เธอ​กับ​เขา​…”

“เขา​เป็น​อาจารย์​ผม​” เริ่น​เสี่ยว​ซู่พูด​เสียง​เข้ม​

คราวนี้​เป็น​หยาง​อวี้​อัน​ผงะ​เล็กน้อย​ เขา​ไม่คิด​เลย​ว่า​เริ่น​เสี่ยว​ซู่กับ​จางจิ่งหลิน​จะมีความสัมพันธ์​เช่นนี้​ อาจารย์​กับ​ลูกศิษย์​?

เริ่น​เสี่ยว​ซู่ทำ​หน้า​นิ่ง​ คน​ต้อง​รู้จัก​ยืม​ชื่อเสียง​คนอื่น​มาปกป้อง​ตัวเอง​สิ เขา​ยัง​เคย​ใช้ธงไหม​แพร​ของ​หลัว​หลาน​มาป้องกัน​ตัวเอง​จาก​การ​ถูก​ตรวจสอบ​เลย​ สำหรับ​เริ่น​เสี่ยว​ซู่ การใช้งาน​เรื่อง​พวก​นี้​ได้​จริงๆ​ นั้น​สำคัญ​มาก​ ได้​เครื่องราง​แบบนี้​มาอีกหน่อย​ทรงพลัง​กว่า​อะไร​ทั้งสิ้น​

ตอนนี้​ไม่ใช่เวลา​มาปิดบัง​อะไร​ ตั้งแต่​รู้​ว่า​หยาง​อวี้​อัน​คิด​จะจับมือ​เป็น​พันธมิตร​กับ​ป้อมปราการ​ 178 ดังนั้น​เริ่น​เสี่ยว​ซู่จะแสดงละคร​เสียหน่อย​ที่นี่​ก็​ไม่มีปัญหา​อะไร​หรอก​ อีก​อย่าง​ที่​จางจิ่งหลิน​เป็น​อาจารย์​เขา​ก็​ไม่ใช่เรื่อง​โกหก​ แถมเขา​ยัง​เคย​ทำงาน​กับ​จางจิ่งหลิน​มาก่อน​ด้วย​ ตอน​อยู่​ที่​เมือง​น้อย​นั่น​ พวกเขา​ต่าง​เป็น​อาจารย์​กัน​ทั้งคู่​ไม่ใช่เหรอ​

หยาง​อวี้​อัน​คิด​พิจารณา​อยู่​พัก​หนึ่ง​ก่อน​จะว่า​ “แล้ว​ทำไม​ถึงไม่ไป​ป้อมปราการ​ 178 ล่ะ​”

“ไม่ใช่ว่า​ไม่ไป​” เริ่น​เสี่ยว​ซู่พูด​เสียงทุ้ม​ลึก​ “ผม​ก็​ว่า​ผ่าน​ไป​พัก​หนึ่ง​จะเดินทาง​ไป​ที่นั่น​อยู่​ แต่ว่า​มีเรื่องสำคัญ​อื่น​ต้อง​ทำ​ หลังจาก​ให้​จดหมาย​แนะนำ​สูเสี่ย​น​ฉู่แล้วก็​ปล่อย​ให้​เขา​นำ​ไป​ก่อน​”

ใบหน้า​ภายนอก​ของ​หยาง​อวี้​อัน​สงบนิ่ง​ แต่​ใน​ใจนี่​ปั่นป่วน​ไป​หมด​แล้ว​ สูเสี่ย​น​ฉู่ได้​ตำแหน่ง​สำคัญ​ใน​ป้อมปราการ​ 178 เพราะ​จดหมาย​แนะนำ​จาก​เริ่น​เสี่ยว​ซู่?

ถึงว่า​ทำไม​พอ​สูเสี่ย​น​ฉู่ได้ยิน​ชื่อ​เร​ื่น​เสี่ยว​ซู่ ก็​ไม่สนใจ​อะไร​ทั้งนั้น​ใน​งานเลี้ยง​ รีบร้อน​ออก​ไป​ตามหา​เริ่น​เสี่ยว​ซู่!

อีก​อย่าง​ เรื่องสำคัญ​กว่า​ที่​เริ่น​เสี่ยว​ซู่พูด​นั่น​น่าจะเป็น​หยาง​เสียว​จิ่น​ใช่ไหม​นะ​…

เริ่น​เสี่ยว​ซู่ยังคง​มีสีหน้า​สงบนิ่ง​ ไม่รู้สึก​ผิด​แม้แต่​นิด​กับ​การ​พูดความจริง​ไม่หมด​

“ดูเหมือนว่า​ผู้บัญชาการ​จะมอง​ค่า​เธอ​ไว้​สูงมาก​นะ​” หยาง​อวี้​อัน​ยิ้ม​เป็นกันเอง​

“ก็​คิด​ว่า​ไม่แย่​นะ​ครับ​ อาจารย์​เคย​พูดว่า​อยาก​ให้​ผม​เข้าแทนที่​ตำแหน่ง​เขา​ แต่ว่า​มัน​ยัง​ไม่ถึงเวลา​” เริ่น​เสี่ยว​ซู่พูด​เสียง​เข้ม​ เขา​ไม่ได้​โกหก​ด้วย​ จางจิ่งหลิน​เลือก​เขา​มาเป็น​อาจารย์​สอน​แทน​จริงๆ​ และ​ก็​วางแผน​กะ​ให้​เริ่น​เสี่ยว​ซู่ขึ้น​มาเป็น​อาจารย์​ประจำ​โรงเรียน​ด้วย​

แต่​หยาง​อวี้​อัน​ที่​ได้ยิน​นั้น​คิด​ต่าง​ออก​ไป​เลย​ จางจิ่งหลิน​อยาก​ให้​เด็กหนุ่ม​ตรงหน้า​เขา​ขึ้น​มาควบคุม​ป้อมปราการ​ 178 ในอนาคต​? ‘ยัง​ไม่ถึงเวลา​’ ที่ว่า​น่าจะ​หมายถึง​จางจิ่งหลิน​อยาก​จะสั่งสอน​เขา​ให้​มากกว่า​นี้​อีก​ ผู้เฒ่า​หลาย​คน​ต่าง​รู้​ว่า​ก่อน​จางจิ่งหลิน​จะเข้ายึดครอง​ป้อมปราการ​ 178 นั้น​ เขา​ทำงาน​ชั้น​รากหญ้า​มาสิบ​ปี​เต็ม​จน​คนอื่นๆ​ ติดตาม​เขา​ ผู้บัญชา​การคน​เก่า​ก็​ส่งมอบ​ตำแหน่ง​ให้​

ดังนั้น​คำอธิบาย​นี้​เข้าเค้า​สำหรับ​หยาง​อวี้​อัน​ จางจิ่งหลิน​ถูก​เลือก​ให้​มาเป็น​ผู้บัญชาการ​ 178 ทั้งๆ ที่​เขา​เคย​เป็น​ผู้อพยพ​ สำหรับ​ป้อมปราการ​ 178 เกิด​มาด้วย​ฐานะ​อะไร​ไม่สำคัญ​หรอก​

เพรา​เช่นนี้​หยาง​อวี้​อัน​จึงมอง​เริ่น​เสี่ยว​ซู่ด้วย​สายตา​อ่อน​ลง​กว่า​เดิม​ “เป็น​เด็กหนุ่ม​อนาคต​ไกล​จริงๆ​” ดูเหมือน​เขา​จะลืม​ไป​แล้ว​ว่า​ตัวเอง​เคย​พูด​อะไร​กับ​หยาง​เสียว​จิ่น​ “ได้ยิน​ว่า​จะร่วม​เดินทาง​ไป​ปราบ​โจร​ด้วย​เหรอ​”

“อืม​ เป็นปัญหา​ของ​ทาง​ตะวันตกเฉียงเหนือ​ ผม​ย่อม​ต้อง​ร่วม​ด้วย​อยู่แล้ว​” เริ่น​เสี่ยว​ซู่อย่าง​เที่ยงธรรม​

“ดี​ๆ” หยาง​อวี้​อัน​ย้ำ​ “ต้อง​รักษาตัว​ด้วย​ล่ะ​ ไม่ต้อง​รีบร้อน​กำจัด​โจร​ ฉัน​เชื่อ​ว่า​ในอนาคต​พวกเรา​ต้อง​กำจัด​ปัญหา​พวก​โจร​ได้​หมด​แน่นอน​ เอาล่ะ​ ฉัน​คง​ต้อง​ขอตัว​ เธอ​คง​กำลัง​เตรียมตัว​สำหรับ​การ​เดินทาง​เหมือนกัน​ ฉัน​จะปล่อย​ให้​เธอ​เตรียมตัว​ต่อ”

“ขอบคุณ​ครับ​อา​สาม” เริ่น​เสี่ยว​ซู่

หยาง​อวี้​อัน​ยิ้ม​กว้าง​กับ​คำ​ว่า​ ‘อา​สาม’ เทียบ​กับ​สมาคม​ตระกูล​จงแล้ว​ เขา​ย่อม​อยาก​ทำงาน​กับ​ป้อมปราการ​ 178 มากกว่า​ นั่น​จะเป็นการ​ช่วยเหลือ​อย่าง​แท้จริง​ และ​ถ้าป้อมปราการ​ 178 สามารถ​ยื่นมือ​มาช่วย​เขา​ได้​ จะกลืน​สมาคม​ตระกูล​จงไป​ด้วย​ไม่ใช่เรื่อง​ยาก​

แต่​หยาง​อวี้​อัน​ไม่อาจ​ลง​เดิมพัน​ไป​กับ​คน​เพียงผู้เดียว​ได้​ เขา​ยัง​ต้อง​ไป​ตรวจสอบ​ข้อเท็จจริง​กับ​คำกล่าว​ของ​เริ่น​เสี่ยว​ซู่ก่อน​

แต่​ดู​ไป​แล้ว​ คำพูด​ของ​เริ่น​เสี่ยว​ซู่น่าเชื่อถือ​มาก​ อย่างไร​สูเสี่ย​น​ฉู่ก็​ให้​คำยืนยัน​ไป​แล้ว​

the first order สู่รุ่งอรุณเเห่งมวลมนุษย์

the first order สู่รุ่งอรุณเเห่งมวลมนุษย์

Score 10
Status: Completed

ในความมืดมิดอันปั่นป่วนโกลาหล หนุ่มน้อยเริ่นเสี่ยวซู่ผงะตื่นขึ้นพร้อมกับปาดเหงื่อออกจากหน้าผาก จากนั้นก็หันไปมองเด็กชายอายุราวสิบสี่ปีที่ยืนอยู่ตรงประตู

“ลิ่วหยวน มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า” เริ่นเสี่ยวซู่ถาม

แม้จะเรียกเด็กชายว่าลิ่วหยวน แต่ความจริงแล้วชื่อเขาคือเหยียนลิ่วหยวน

มองแวบแรก เหยียนลิ่วหยวนดูราวกับคนใสซื่อไม่มีพิษภัยอะไร ทว่าในมือเขานั้นกลับกำมีดกระดูกแน่น ยืนเฝ้าอยู่ตรงประตู ตอนนี้ดึกดื่นค่อนคืน แม้ว่าเขาจะดูง่วงงุนเพียงไร ก็ไม่หลับตาลงแม้แต่น้อยเพราะว่าจำเป็นต้องเฝ้ายามตอนกลางคืน

Options

not work with dark mode
Reset