the first order สู่รุ่งอรุณเเห่งมวลมนุษย์ 317 คุณสมบัติล้ำค่า

ตอนที่ 317 คุณสมบัติล้ำค่า

พอ​เริ่น​เสี่ยว​ซู่เห็น​คำ​ว่า​ ‘ตระกูล​ลู่​’ ก็​คิด​ว่า​อาจารย์​สอน​ศิลปะ​การต่อสู้​ที่​หยาง​เสียว​จิ่น​หา​มาให้​อาจจะ​เป็น​ลู่​หย่วน​

ตอนที่​ยังอยู่​ใน​ป้อมปราการ​ 109 ลู่​หย่วน​สามารถ​เดินผ่าน​ความวุ่นวาย​อย่าง​สบายใจ​โดย​มีหยาง​เสียว​จิ่น​คอย​ปกป้อง​จาก​ไกลๆ​ อยู่​บน​ตึกสูง​ ตอนนั้น​เริ่น​เสี่ยว​ซู่ยัง​ไม่รู้​ว่า​ลู่​หย่วน​มาจาก​สมาคม​ตระกูล​หยาง​

แต่​เริ่น​เสี่ยว​ซู่ยัง​ไม่เข้าใจ​แน่ชัด​ว่า​ลู่​หย่วน​กับ​หยาง​เสียว​จิ่น​มีความสัมพันธ์​อย่างไร​ต่อกัน​

ตอนนี้​แนวหน้า​ของ​สมาคม​ตระกูล​หยาง​กำลัง​เผชิญ​ศึก​หนัก​ ถึงดู​ห​มือ​น​ว่า​พวกเขา​จะชนะ​อย่าง​แน่นอน​แล้ว​ ทว่า​คำถาม​คือ​ทำไม​ลู่​หย่วน​ที่​เป็น​ผู้​มีพลัง​พิเศษ​ของ​สมาคม​ถึงไม่ถูก​ส่งไป​แนวหน้า​ด้วย​

ต่อให้​ผู้​มีพลัง​พิเศษ​จะทำ​อะไร​ไม่ได้​มาก​นัก​ใน​สงคราม​หลัก​ แต่​ก็​ยัง​ดีกว่า​ไม่ถูก​ส่งไป​ทำงาน​เลย​ ให้​ผู้​มีพลัง​พิเศษ​ไป​เป็น​คอย​คุ้มกัน​เหล่า​นายพล​ก็​เป็น​ความคิด​ไม่เลว​

ดังนั้น​พอ​เริ่น​เสี่ยว​ซู่เห็น​ลู่​หย่วน​ใน​ป้อมปราการ​แล้ว​ ก็​คิด​ว่า​เขา​น่าจะ​สนิท​กับ​หยาง​เสียว​จิ่น​มากกว่า​ที่จะ​ใกล้ชิด​กับ​สมาคม​ตระกูล​หยาง​

ลู่​หย่วน​พา​เริ่น​เสี่ยว​ซู่เข้าไป​ใน​ลาน​หลังบ้าน​ ระหว่าง​ที่​เดิน​อยู่​ก็​หัวเราะ​ “ไม่ต้อง​มาก​พิธี​ ฉัน​เคย​เป็น​พ่อบ้าน​ให้​ครอบครัว​ของ​เสียว​จิ่น​นะ​ ฉัน​เป็น​คน​เลี้ยงดู​เธอ​มา เรียน​ฉัน​ว่า​คุณอา​ลู่​ก็ได้​ เมื่อก่อน​ฉัน​รับใช้​สมาคม​ตระกูล​หยาง​ แต่​เพราะ​ฮาร์ด​ไดร์​ฟนั่น​ฉัน​ถึงได้รับ​อิสรภาพ​และ​สามารถ​ใช้ชีวิต​เกษียณ​อย่าง​มีความสุข​ได้​เสียที​”

ลู่​หย่วน​เป็น​คน​ใจเปิดกว้าง​ ใน​เมื่อ​หยาง​เสียว​จิ่น​เชื่อมั่น​ใน​ตัว​เริ่น​เสี่ยว​ซู่ เขา​ก็​ย่อม​เปิดเผย​ตัวตน​และ​แนะนำ​ตัวเอง​

“สวัสดี​ครับ​คุณอา​ลู่​” เริ่น​เสี่ยว​ซู่ถาม “หลัว​หลาน​ก็​อยู่​ใน​ป้อมปราการ​ด้วย​นี่​ครับ​ ไม่ไปหา​แล้ว​อัด​เขา​สัก​ป๊าบ​ล่ะ​ พวกเขา​กำลัง​ดื่ม​ฟรี​กิน​ฟรี​จาก​ของ​ครอบครัว​เรา​อยู่​นะ​ครับ​”

“ฮ่าๆ” ลู่​หย่วน​หัวเราะ​ “ตอนที่​สวมบทบาท​ทำ​ภารกิจ​ฉัน​ก็​จะสวม​มัน​อย่าง​เต็มที่​ แต่​หลังจากนั้น​ฉัน​ต้อง​ออกจาก​บทบาท​ให้ได้​ ไม่อย่าง​งั้น​คง​เจอ​ปัญหา​เยอะแยะ​แน่​ ใน​เมื่อ​ฉัน​ไม่ใช่ผู้ปกครอง​ป้อมปราการ​ 109 อีกต่อไป​แล้ว​ เรื่อง​ที่​เกิดขึ้น​ก่อนหน้า​นั้น​ก็​ไม่ใช่เรื่อง​ของ​ฉัน​อีก​”

เริ่น​เสี่ยว​ซู่คิด​ว่า​เขา​เป็น​คน​ที่​ให้อภัย​คน​ง่าย​จริงๆ​ ถึงว่า​ทำไม​สามารถ​เกษียณ​ได้​อย่าง​สบายใจ​จน​ถึงขนาด​เปิด​สำนัก​สอน​ศิลปะ​การต่อสู้​ได้​เช่นนี้​ “เสียว​จิ่น​แนะนำ​ให้​ผม​มาเรียน​วิชา​ต่อสู้​กับ​คุณอา​ ผม​สามารถ​มาได้​ตอน​ไหน​ครับ​”

“เสียว​จิ่น​บอก​แล้ว​ว่า​เธอ​จะไป​อ่านหนังสือ​ที่​ห้องสมุด​ตั้ง​แต่เช้า​ถึงเย็น​เป็นประจำ​ งั้น​ก็​มาตอน​ฟ้ามืด​เถอะ​” ลู่​หย่วน​ว่า​ “เคย​ฝึก​อะไร​มาก่อน​ไหม​”

เริ่น​เสี่ยว​ซู่คิด​พัก​หนึ่ง​แล้ว​ว่า​ “ผม​ไม่เคย​เรียน​อย่าง​เป็นระบบ​น่ะ​ครับ​ แต่​ตอนที่​อาศัย​อยู่​ใน​แดน​รกร้าง​ก็​คิด​อยาก​จะเรียน​อยู่​”

“งั้น​ฉัน​จะสอน​อย่าง​เป็นระบบ​แล้วกัน​ เริ่ม​ด้วย​การ​ส่งแรง​จน​ไป​ถึงเทคนิค​ต่อสู้​ใน​การต่อสู้​จริง​ หลังจากนั้น​ฉัน​จะฝึก​ปฏิกิริยาตอบโต้​กับ​ความเข้าใจ​คู่ต่อสู้​ให้​เธอ​” ลู่​หย่วน​ว่า​

เริ่น​เสี่ยว​ซู่ชะงัก​ “ไม่ใช่ว่า​ผม​ต้อง​เรียน​กระบวนท่า​หมัด​มวย​อะไร​เหรอ​ครับ​ อย่าง​ที่​คน​ข้างนอก​กำลัง​ฝึก​อยู่​”

ตอนที่​เขา​มาถึงสำนัก​ ก็​เห็น​ว่า​มีเด็ก​หลาย​คน​เลย​ที่​รำ​มวย​อยู่​ วิธีการ​ฝึก​นี้​เปิดหูเปิดตา​เขา​ไม่น้อย​

แต่​ลู่​หย่วน​กลับ​ยิ้ม​ “นั่น​มัน​เป็น​ของ​ที่​เด็ก​จะเรียน​กัน​ ฉัน​ไว้​ใช้หลอก​เงิน​จาก​พวก​พ่อแม่​นักเรียน​น่ะ​ พ่อแม่​สมัยนี้​เห็น​ลูก​เจ็บ​นิด​เจ็บ​หน่อย​ก็​เป็น​โมโห​แล้ว​ แบบ​นั้น​จะเรียน​วิชา​หมัด​มวย​ได้​ยังไง​”

ต้อง​เป็น​คน​ตรง​ขนาด​ไหน​ถึงพูด​ออกมา​อย่าง​โต้งๆ​ ว่า​กำลัง​หลอก​เงิน​จาก​คนอื่น​เนี่ย​ เริ่น​เสี่ยว​ซู่คิด​กับ​ตัวเอง​

ลู่​หย่วน​ว่า​ “ต้อง​เรียน​เรื่อง​การ​ส่งแรง​ก่อน​ ต้อง​เรียนรู้​จาก​การ​ฝึก​อย่าง​หนักหน่วง​ถึงจะควบคุม​ร่างกาย​ได้​อย่าง​เชี่ยวชาญ​”

วิชาการ​ส่งแรง​ เช่น​ระหว่าง​ที่​ต่อย​ออก​ไป​ต้อง​บิด​สะโพก​ด้วย​ ไม่อย่างนั้น​หมัด​จะแรง​น้อย​มาก​

ลู่​หย่วน​พูด​ต่อ​ “วิชา​ที่​ใช้ใน​การต่อสู้​จริง​ก็​คือ​เทคนิค​ที่​ใช้ฆ่าคน​ อธิบาย​ยาก​อยู่​ แต่​มัน​จะทำให้​เธอ​รู้​ว่า​จะโจมตี​คน​ต้อง​คิดถึง​เรื่อง​อะไร​บ้าง​ และ​รู้​ว่า​ฝ่ายตรงข้าม​กำลัง​มองหา​อะไร​อยู่​ด้วย​ อะไร​แบบ​นั้น​น่ะ​”

“แล้ว​ความเร็ว​ปฏิกิริยาตอบโต้​กับ​การ​เข้าใจ​คู่ต่อสู้​ล่ะ​ครับ​” เริ่น​เสี่ยว​ซู่ถาม

“ความเร็ว​ปฏิกิริยาตอบโต้​แต่ละคน​ไม่เท่ากัน​” ลู่​หย่วน​ว่า​ “ความเร็ว​ปฏิกิริยาตอบโต้​สามารถ​เพิ่มพูน​ได้​จาก​การฝึกฝน​ แต่​แน่​ล่ะ​ ทุกคน​ล้วน​มีเพดาน​อยู่​”

“พูด​อีก​อย่าง​ก็​คือ​ศักยภาพ​ของ​แต่ละคน​ไม่เท่ากัน​เหรอ​ครับ​” เริ่น​เสี่ยว​ซู่ถาม

“ใช่ เอา​เสียว​จิ่น​เป็น​ตัวอย่าง​นะ​ สมมุติ​ถ้าเธอ​ต้อง​ยิง​เป้าหมาย​ที่​เคลื่อนที่​ด้วย​ความ​ไว​สูงโดย​เธอ​มีโอกาส​เพียง​ชั่วพริบตา​ และ​ชั่วพริบตา​ที่ว่า​ของ​เสียว​จิ่น​คือ​ 0.06 วินาที​ เป็น​ของ​ที่เกิด​มามีก็​คือ​มี ถ้าเกิด​มาไม่มี ฝึก​แค่​ไหน​ก็​ไม่อาจ​ทำได้​ ต่อให้​เป็น​ผู้​มีพลัง​พิเศษ​ก็ตาม​”

“0.06 วินาที​?” เริ่น​เสี่ยว​ซู่ตะลึง​ เขา​ไม่เคย​ใช้ทศนิยม​สอง​ตำแหน่ง​มาคำนวณ​เวลา​เลย​ ปฏิกิริยาตอบโต้​ของ​หยาง​เสียว​จิ่น​น่ากลัว​ขนาด​นี้​เลย​?

ทว่า​ที่​ลู่​หย่วน​กำลัง​พูด​อยู่​คือ​เรื่อง​ทฤษฎี​ว่าด้วย​พรสวรรค์​ ถ้าทุกคน​ทุ่มเท​เท่ากัน​ ก็​จะต่าง​ถึงมาตรฐาน​ระดับ​หนึ่ง​ อย่างเช่น​ทักษะ​ระดับ​ปรมาจารย์​เป็นต้น​

แต่​ถ้าคน​ผู้​หนึ่ง​อยาก​ทะลุ​เพดาน​และ​คืบหน้า​ไป​สู่ระดับ​ไร้​ที่​ติ​ พวกเขา​จำเป็นต้อง​มีพรสวรรค์​ที่​แท้จริง​ เป็น​ของ​ที่​มีพร้อมกับ​การ​เกิด​มา

ทันใดนั้น​เริ่น​เสี่ยว​ซู่เกิด​ความ​กระอึก​กระ​อ่วน​ขึ้น​มาเล็กน้อย​ เขา​จำได้​ว่า​ตนเอง​มีทักษะ​ระดับ​ไร้​ที่​ติ​เพียง​หนึ่งเดียว​อยู่​ ‘กวนโอ๊ย​คน​’

เริ่น​เสี่ยว​ซู่ถาม “ผมขอ​ทดสอบ​ความเร็ว​ปฏิกิริยาตอบโต้​ได้​ไหม​ครับ​”

ลู่​หย่วน​ยิ้ม​ “ค่อยเป็นค่อยไป​ดีกว่า​ อย่า​เพิ่ง​โลภมาก​แต่​เริ่ม​เลย​ ใน​เมื่อ​เธอ​ไม่เคย​ผ่าน​การฝึกฝน​มาก่อน​ อันดับ​แรก​คือ​ส่งแรง​ออก​อย่าง​เชี่ยวชาญ​ให้​เป็น​”

“ครับ​” เริ่น​เสี่ยว​ซู่รับฟัง​ ใน​เมื่อ​เขา​มาด้วย​การ​อยาก​ขอ​ความรู้​ เขา​ย่อม​ต้อง​เรียน​อย่าง​เป็น​ขั้น​เป็น​ตอน​ ไม่อาจ​เย่อหยิ่ง​เพียง​เพราะ​คิด​ว่า​ตนเอง​แกร่งกล้า​สามารถ​ได้​

ทั้งสอง​คน​มาถึงสวน​หลังบ้าน​ที่​ลู่​หย่วน​แขวน​กระสอบทราย​อยู่​ตรงกลาง​ เขา​ว่า​ “ต่อย​ให้​สุด​แรง​ ให้​ฉัน​ดู​หน่อย​ว่า​เธอ​แข็งแกร่ง​แค่​ไหน​”

“อืม​” พอ​เริ่น​เสี่ยว​ซู่เดิน​ไป​ยัง​กระสอบทราย​ ลู่​หย่วน​มอง​เริ่น​เสี่ยว​ซู่งอ​เข่า​เล็กน้อย​ ส่งพลัง​ทั้ง​ร่าง​ไป​ถึงหมัด​และ​ต่อย​ตรง​ทะลุ​กระสอบทราย​!

ลู่​หย่วน​ตะลึงพรึงเพริด​ กระสอบทราย​นี้​เตรียม​ไว้​เพื่อ​ผู้​มีพลัง​พิเศษ​โดยเฉพาะ​นะ​!

แต่​ที่​ทำให้​เขา​ตะลึง​ไม่ใช่พละกำลัง​ของ​เริ่น​เสี่ยว​ซู่ พลัง​กำลัง​ของ​ผู้​มีพลัง​พิเศษ​มีสูงต่ำ​อยู่แล้ว​ พลัง​ที่​เริ่น​เสี่ยว​ซู่แสดง​ออกมา​ก็​ไม่ใช่ของ​หา​ยาก​อะไร​นัก​ อย่าง​มาก​คือ​ทรงพลัง​มาก​แต่​ก็​ไม่ได้​น่าตื่นตาตื่นใจ​ขนาด​นั้น​ แน่นอน​นี่​เป็น​พละกำลัง​ก่อน​เริ่น​เสี่ยว​ซู่จะเปิด​ใช้งาน​ทลาย​นคร​

ที่​ทำให้​ลู่​หย่วน​ตะลึง​คือ​ทันทีที่​เริ่น​เสี่ยว​ซู่ส่งแรง​ กล้ามเนื้อ​ทั้ง​ร่าง​ก็​ราว​หลอม​รวม​เป็นหนึ่งเดียว​อย่าง​ไร้​ความ​บกพร่อง​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​เขา​บิด​ขา​หลัง​เล็กน้อย​ด้วย​ ซึ่งเป็น​เรื่องสำคัญ​มาก​ คน​ส่วนใหญ่​ไม่อาจ​แสดง​พละกำลัง​ได้ดี​เพราะ​ไม่ได้​ใช้พลัง​จาก​ขา​เลย​

เขา​ไม่เคย​ฝึก​มาก่อน​จริงๆ​ งั้น​เหรอ​

แถมเขา​ยัง​รู้​ด้วยว่า​เริ่น​เสี่ยว​ซู่ยัง​ไม่ได้​ใช้แรง​เต็มที่​ มือ​กับ​แขน​ซ้าย​อยู่​ใน​สภาวะ​กึ่ง​ผ่อนคลาย​ตั้งแต่​เริ่ม​จน​จบ​ สามารถ​ถอน​หมัด​กลับ​ได้​ใน​ทุก​วินาที​

ควบคุม​พลัง​ยาก​กว่า​ใช้พลัง​เต็มที่​นัก​

ลู่​หย่วน​ถาม “ทำไม​ไม่ใช้แรง​สุดตัว​ล่ะ​”

“อ้อ​” เริ่น​เสี่ยว​ซู่อธิบาย​ “น่าจะ​เป็นนิสัย​น่ะ​ครับ​ ใน​แดน​รกร้าง​ผม​เจอ​พวก​สัตว์ป่า​ตลอด​ บางที​ก็​ไม่รู้​ว่า​พวก​มัน​โจมตี​ยังไง​ เลย​ต้อง​ระวัง​ไว้​ก่อน​”

ลู่​หย่วน​ว่า​ “ขอ​ดู​ลูก​เตะ​หน่อย​ เตะ​ข้าง​”

แต่​ลู่​หย่วน​ก็​ยัง​ไม่พบ​ข้อบกพร่อง​ใน​การ​ออกท่า​ของ​เริ่น​เสี่ยว​ซู่เลย​ นี่​น่าจะเป็น​พรสวรรค์​ประการหนึ่ง​ ลู่​หย่วน​ถอนหายใจ​ “ดู​แล้ว​ชีวิต​เธอ​คง​ลำบาก​มาก​เลย​สินะ​”

ถ้าเป็น​ก่อนหน้านี้​เขา​มีชีวิต​อย่าง​อิสระ​เสรี​และ​เรียบง่าย​ คง​ไม่สามารถ​เค้น​พลัง​ออกมา​ได้ดี​เพียงนี้​

เริ่น​เสี่ยว​ซู่ยิ้ม​ “ส่วนใหญ่​เป็น​เพราะ​ผม​กลัว​ตาย​น่ะ​ครับ​”

ลู่​หย่วน​ยิ้ม​ “ไม่ต้อง​เรียน​วิชาการ​ส่งแรง​แล้ว​เพราะ​เธอ​รู้​เรียบร้อย​ งั้น​เรา​มาเริ่ม​เรียน​ที่​วิชา​ต่อสู้​จริง​กัน​เลย​ดีกว่า​”

“ครับ​” เริ่น​เสี่ยว​ซู่พยักหน้า​

หลังจาก​รอ​อยู่​พัก​หนึ่ง​ ลู่​หย่วน​นึก​ว่า​เริ่น​เสี่ยว​ซู่จะถามว่า​เขา​จะทดสอบ​ความเร็ว​ปฏิกิริยาตอบโต้​ได้​ไหม​เสีย​อีก​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​เขา​เพิ่ง​ชมเริ่น​เสี่ยว​ซู่ไป​หมาดๆ​ ด้วย​ แต่ว่า​เริ่น​เสี่ยว​ซู่กลับ​ไม่พูด​อะไร​ เพียง​ค่อยๆ​ เรียน​สิ่งที่​เขา​สอน​ไป​อย่าง​อย่าง​อดทน​

นี่​ไม่ใช่พรสวรรค์​ แต่​เป็น​คุณสมบัติ​ล้ำค่า​ใน​ตัว​ของ​คน​ผู้​หนึ่ง​

the first order สู่รุ่งอรุณเเห่งมวลมนุษย์

the first order สู่รุ่งอรุณเเห่งมวลมนุษย์

Score 10
Status: Completed

ในความมืดมิดอันปั่นป่วนโกลาหล หนุ่มน้อยเริ่นเสี่ยวซู่ผงะตื่นขึ้นพร้อมกับปาดเหงื่อออกจากหน้าผาก จากนั้นก็หันไปมองเด็กชายอายุราวสิบสี่ปีที่ยืนอยู่ตรงประตู

“ลิ่วหยวน มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า” เริ่นเสี่ยวซู่ถาม

แม้จะเรียกเด็กชายว่าลิ่วหยวน แต่ความจริงแล้วชื่อเขาคือเหยียนลิ่วหยวน

มองแวบแรก เหยียนลิ่วหยวนดูราวกับคนใสซื่อไม่มีพิษภัยอะไร ทว่าในมือเขานั้นกลับกำมีดกระดูกแน่น ยืนเฝ้าอยู่ตรงประตู ตอนนี้ดึกดื่นค่อนคืน แม้ว่าเขาจะดูง่วงงุนเพียงไร ก็ไม่หลับตาลงแม้แต่น้อยเพราะว่าจำเป็นต้องเฝ้ายามตอนกลางคืน

Options

not work with dark mode
Reset