the first order สู่รุ่งอรุณเเห่งมวลมนุษย์ 308 พบหลัวหลานอีกครั้ง

ตอนที่ 308 พบหลัวหลานอีกครั้ง

พอ​หยาง​เสียว​จิ่น​ได้ยิน​ว่า​เริ่น​เสี่ยว​ซู่อยาก​จัด​ให้​หวัง​อวี่ฉือ​และ​นักเรียน​คนอื่นๆ​ เข้าไป​เรียน​ใน​มหาวิทยาลัย​ เธอ​ก็​คิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​แล้ว​ว่า​ “ต่อให้​เป็น​ฉัน​เอง​ก็​ไม่สามารถ​ส่งพวกเขา​เข้า​มหาวิทยาลัย​ได้​ แต่​ฉัน​จะจัด​ให้​พวกเขา​เข้า​สอบ​ใน​อีก​สามเดือน​”

“แบบ​นั้น​ก็ได้​” เริ่น​เสี่ยว​ซู่พูด​

หวัง​อวี่ฉือ​ถาม “หัวหน้า​ห้อง​ไม่เข้า​มหาวิทยาลัย​พร้อม​พวกเรา​เหรอ​”

เริ่น​เสี่ยว​ซู่ชะงัก​ไป​วูบ​หนึ่ง​ก่อน​จะว่า​ “พวก​นาย​เข้าไป​เรียน​กัน​ก่อน​เลย​”

ถึงเขา​อยาก​จะเรียน​มาก​ แต่​ก็​รู้​ความสามารถ​ตัวเอง​ดี​ ต่อให้​สามเดือนก่อน​ถึงช่วง​สอบ​นี้​เขา​จะตั้งใจ​เรียน​แบบ​สุดตัว​ ก็​แทบ​เป็นไปไม่ได้​เลย​ที่​เขา​จะสอบผ่าน​!

นอกจาก​ว่า​พอ​เข้า​ป้อมปราการ​ไป​ปุ๊บ​เขา​จะได้​ภารกิจ​ทุกวัน​ และ​ได้รับ​คัมภีร์​คัดลอก​ทักษะ​ขั้นพื้นฐาน​จำนวนมาก​ จากนั้น​ก็​คัดลอก​ทักษะ​คณิตศาสตร์​ ฟิสิกส์​ และ​เคมี​มาจาก​หยาง​เสียว​จิ่น​

แต่​พอ​เริ่น​เสี่ยว​ซู่นึก​ไป​ถึงทักษะ​อัน​มั่วซั่ว​ที่​เธอ​มีแล้ว​ ก็​คิด​ว่า​กว่า​จะคัดลอก​ได้​คง​นานโข​แน่นอน​

ทันใดนั้น​เริ่น​เสี่ยว​ซู่ก็​เห็น​ร้าน​ทอง​ข้าง​ถนน​แห่ง​หนึ่ง​และ​สงสัย​ว่า​เงิน​สกุล​ห​ลี่​กับ​ชิ่งของ​ที่นี่​จะเสื่อมค่า​ไป​เหมือนกัน​ไหม​นะ​ ถ้าเป็น​แบบ​นั้น​เขา​ก็​จะทำ​เหมือนเดิม​

ต่อให้​เขา​เอา​ไป​ใช้ภายนอก​ไม่ได้​ แต่​ในอนาคต​ก็​ยัง​สามารถ​ใช้กับ​พระราชวัง​ได้​เรื่อยๆ​

ระหว่างทาง​นั้น​เริ่น​เสี่ยว​ซู่ก็ได้​ยืน​เสียง​ไพ่​นกกระจอก​กระทบ​กัน​จาก​ใน​อาคาร​แห่ง​หนึ่ง​ข้าง​ถนน​ เขา​นิ่งงัน​ไป​ “เสียง​อะไร​น่ะ​”

หยาง​เสียว​จิ่น​ “อ๋อ​ พวกเขา​กำลัง​เล่นไพ่​นกกระจอก​”

“มีคน​เล่น​กัน​เยอะ​ขนาด​นั้น​เลย​” เริ่น​เสี่ยว​ซู่แปลกใจ​

พอ​พวกเขา​ไป​ถึงสถานที่​ที่​หยาง​เสียว​จิ่น​เตรียม​ไว้​ให้​พวกเขา​ เธอ​ก็​ปลีกตัว​ไป​ด้วย​มีเรื่อง​ให้​จัดการ​อีก​มาก​เพราะ​ออกจาก​ป้อมปราการ​ไป​นาน​

ก่อน​เธอ​จะจากไป​นั้น​ หยาง​เสียว​จิ่น​พูด​ด้วยว่า​ “ทน​กับ​ที่นี่​ไป​ก่อน​ เดี๋ยว​จะหา​ที่พัก​แห่ง​ใหม่​ให้ได้​เร็ว​ที่สุด​”

เริ่น​เสี่ยว​ซู่เห็น​บ้าน​ที่​มีลาน​ก็​พอใจ​ไม่น้อย​ “ไม่เป็นไร​ ที่นี่​ก็​ไม่เลว​เลย​”

พอ​เริ่น​เสี่ยว​ซู่เข้าไป​ใน​ลานบ้าน​ ก็​เห็น​หัว​ท้วมๆ​ ของ​หลัว​หลาน​พลุ​บ​มาเหนือ​กำแพง​ลอบมอง​พวกเขา​ เริ่น​เสี่ยว​ซู่หัวเราะ​ “ทำ​อะไร​น่ะ​”

หลัว​หลาน​ที่​เห็น​เริ่น​เสี่ยว​ซู่ก็​อุทาน​ “นาย​ก็​ถูกจับ​เหมือนกัน​เหรอ​”

เริ่น​เสี่ยว​ซู่พูด​เสียง​นิ่ง​ “เข้าใจผิด​แล้ว​ พวกเรา​ไม่ได้​อยู่​สถานการณ์​เดียว​กับ​นาย​”

มีเสียง​กระซิบ​จาก​หลัง​กำแพง​ “เจ้านาย​เห็น​อะไร​นะ​ พวกเรา​ดู​ด้วย​ได้​ไหม​”

หลัว​หลาน​ไม่พอใจ​ “จะมีอะไร​ให้​ดู​ ดัน​ฉัน​ขึ้นไป​!”

“เจ้านาย​ตัว​หนัก​เกิน​…”

เริ่น​เสี่ยว​ซู่ตา​กระตุก​เล็กน้อย​ คือ​ที่​หลัว​หลาน​ปีน​กำแพง​ขึ้น​มาได้​เพราะ​มีคน​คอย​ช่วย​ดัน​สินะ​

แต่​ดู​แล้ว​หลัว​หลาน​กับ​พรรคพวก​อยู่​ใน​สภาพ​จิตใจ​ไม่เลว​เลย​ เริ่น​เสี่ยว​ซู่ถาม “ถูก​คุมตัว​อยู่​ไม่ใช่เหรอ​ไง ทำไม​ดู​ไม่เศร้า​เลย​ล่ะ​”

หลัว​หลาน​พูด​อย่าง​ไม่ใส่ใจ “สมาคม​ตระกูล​หยาง​ไม่ทำ​อะไร​ฉัน​หรอก​ เจ้าอ้วน​ที่​มีชีวิต​อยู่​มีค่า​กว่า​เจ้าอ้วน​ที่​ตาย​แล้ว​ แถมฉัน​โดน​คุมตัว​อยู่​ใน​ป้อม​ 111 จน​ชิน​แล้ว​”

“คำพูดคำจา​มองโลกในแง่ดี​จริง​เชียว​” เริ่น​เสี่ยว​ซู่เบ้​ปาก​ “ได้ยิน​เรื่อง​นี้​ยัง​ ชิ่งเจิ่น​ยึดครอง​สมาคม​ตระกูล​ชิ่งสำเร็จ​แล้ว​นะ​ ยินดี​ด้วย​”

หลัว​หลาน​ได้ยิน​เช่นนั้น​ก็​แทบ​บ่อ​น้ำตา​แตก​ “ฉิบหาย​แล้ว​ ฉัน​ฉิบหาย​ของจริง​แล้ว​ไง สมาคม​ตระกูล​หยาง​ไม่มีทาง​ปล่อย​ฉัน​ไป​แน่​”

และ​หลัว​หลาน​ก็​เข้าใจ​คุณค่า​ของ​ตัวเอง​ใน​ชั่วพริบตา​ ใน​ฐานะ​พี่ชาย​ของ​ผู้นำ​สมาคม​ตระกูล​ชิ่ง เขา​มีค่า​กว่า​ป้อมปราการ​ทั้ง​หลัง​อีก​ แต่​คิด​แล้ว​หลัว​หลาน​ก็​ตื่นเต้น​ขึ้น​มา เขา​มีค่า​ขนาด​นั้น​จริงๆ​ เหรอ​เนี่ย​

“มาๆ ยก​ฉัน​สูงกว่า​นี้​หน่อย​” หลัว​หลาน​บอก​กับ​คน​ข้างล่าง​ตนเอง​ “ยก​ฉัน​ข้าม​ไป​ฟังนู้น​ให้ได้​พูดคุย​สาร​ทุกข์สุข​ดิบ​พี่น้อง​เสี่ยว​ซู่”

เริ่น​เสี่ยว​ซู่กดหัว​หลัว​หลาน​ลง​ไป​ไม่ยอมให้​เขา​ข้าม​มา “เป็น​นักโทษ​ อยู่​ๆ จะวิ่ง​มาหา​ฉัน​ได้​ไง ถ้าสร้างเรื่อง​ให้​ฉัน​ล่ะ​”

หลัว​หลาน​พูด​อย่าง​ไม่พอใจ​ “ดู​สิ ฉัน​เรียก​นาย​เป็น​พี่น้อง​เลย​นะ​ ดั่ง​คำพูด​มือ​ที่​ยืด​ออก​ไม่ตบ​คน​หน้ายิ้ม​ไง นาย​ทำ​กับ​ฉัน​แบบนี้​ไม่ได้​!”

เริ่น​เสี่ยว​ซู่มอง​เขา​ตาขวาง​ “แต่​ฉัน​ตบ​คน​ที่​ยิ้ม​แบบ​ปลอม​ๆ ได้​นะ​”

“ฉัน​มีเงิน​!” หลัว​หลาน​ตะโกน​

เริ่น​เสี่ยว​ซู่ถึงปล่อยมือ​จาก​หัว​หลัว​หลาน​ “ไม่ใช่เรื่อง​อะไร​หรอก​ ฉัน​แค่​อยาก​จะเชิญนาย​ข้าม​มาเฉย​ๆ”

จากนั้น​เริ่น​เสี่ยว​ซู่ก็​มอง​หลัว​หลาน​กระต้วมกระเตี้ยม​ปีน​กำแพง​มา ถ้าไม่ใช่มีเขา​คอย​รับ​หลัว​หลาน​จาก​อีก​ฝั่ง หลัว​หลาน​ได้​หล่น​โครม​ลงพื้น​แล้ว​

เริ่น​เสี่ยว​ซู่ถาม “ปีน​กำแพง​ข้าม​ลานบ้าน​ข้างๆ​ ได้​ง่ายๆ​ แบบนี้​ ทำไม​ไม่หนี​จาก​ที่นี่​ไป​เลย​ล่ะ​”

“เดิมที​พวก​ที่อยู่​นี่​เป็น​เป็น​ทหาร​นอก​เครื่องแบบ​ที่​คอย​จับตามอง​ฉัน​” หลัว​หลาน​ปัดฝุ่น​ข้างหลัง​ตัวเอง​แล้ว​ว่า​ “ไม่รู้​ว่า​ทำไม​เมื่อเช้า​ก็​ย้ายออก​กัน​ไป​หมด​ฉัน​เลย​ชะเง้อ​มาดู​นี่​ไง แต่​ไม่ใช่ว่า​พวกเขา​ไม่จับตาดู​ฉัน​แล้ว​เสียหน่อย​ ถนน​ทั้ง​เส้น​มีทหาร​นอก​เครื่องแบบ​เต็มไปหมด​ แค่​ฉัน​ก้าว​ออก​ไป​ก้าว​เดียว​ก็​เละ​เป็น​โจ๊ก​แล้ว​!”

“เอ๋​?” เริ่น​เสี่ยว​ซู่ตะลึง​ เป็น​แบบนี้​นี่เอง​

“ตอนเช้า​มีคน​มาทำ​สะอาด​เป็นพิเศษ​ด้วย​” หลัว​หลาน​พูด​ขณะ​เดิน​ไปมา​ใน​ลานบ้าน​ พอ​เห็น​พวก​นักเรียน​หญิง​อยู่​ข้างหลัง​เจียง​อู๋​ก็​ไม่อาจ​ละสายตา​ไป​จาก​พวก​เธอ​ “สาว​สวย​ทั้งหลาย​ครับ​ ขอ​ผม​แนะนำ​ตัวเอง​ ผม​ชื่อ​หลัว​หลาน​ เป็น​พี่ชาย​ของ​ผู้นำ​สมาคม​ตระกูล​ชิ่งคน​ปัจจุบัน​!”

แต่​ตอนนี้​ไม่มีใคร​อยาก​จะคุย​กับ​เขา​ เริ่น​เสี่ยว​ซู่เอง​ก็​กำลัง​คิดถึง​สถานการณ์​ปัจจุบัน​ของ​ตัวเอง​ ถ้าถนน​ทั้ง​เส้น​อยู่​ภายใต้​การสอดส่อง​ของ​สมาคม​ตระกูล​หยาง​ แล้ว​ทำไม​หยาง​เสียว​จิ่น​ถึงพา​เขา​มาที่นี่​ล่ะ​ เป็น​เพราะ​เธอ​ไม่มีทางเลือก​ หรือว่า​เธอ​เอง​ก็​อยาก​จับตาดู​พวกเขา​เหมือนกัน​ แล้ว​หยาง​เสียว​จิ่น​รู้เรื่อง​หรือเปล่า​

เดี๋ยว​นะ​ ถึงว่า​ทำไม​ก่อน​เธอ​ไป​ หยาง​เสียว​จิ่น​ถึงบอ​กว่า​ให้​ทน​กับ​ที่นี่​ไป​ก่อน​ เธอ​คง​รู้เรื่อง​นี้​แล้ว​แน่​แต่​ก็​ไม่อาจ​ทำ​อะไร​ได้​

ดูเหมือนว่า​ความขัดแย้ง​ของ​ผู้​ก่อ​จลาจล​และ​สมาคม​ตระกูล​หยาง​จะส่งผลกระทบ​ต่อ​สถานะ​ของ​หยาง​เสียว​จิ่น​ใน​สมาคม​ตระกูล​หยาง​ด้วย​

เหยียน​ลิ่ว​หยวน​กระซิบ​อยู่​ด้าน​ข้าง​ “ท่าที​ของ​ทั้ง​สมาคม​ไม่เปลี่ยนไป​เพราะ​มีพี่​เสียว​จิ่น​คนเดียว​หรอก​ พี่​คิด​ว่า​เรา​จะเจอ​อะไร​ต่อ​”

เริ่น​เสี่ยว​ซู่ลูบ​หัว​เขา​และ​ว่า​ “ไม่เป็นไร​ ถ้าฉัน​หาย​ดีแล้ว​สมาคม​ตระกูล​หยาง​ก็​หยุด​เรา​ไม่ได้​หรอก​ พอ​ถึงเวลา​นั้น​พวกเรา​ก็​ขึ้น​เหนือ​ไป​เป็น​โจร​กัน​ ได้ยิน​ว่า​พื้นที่​ระหว่าง​สมาคม​ตระกูล​หยาง​ ตระกูล​จง และ​ป้อมปราการ​ 178 เป็นแดน​เถื่อน​”

เริ่น​เสี่ยว​ซู่พูด​ถูก​แล้ว​ ขนาด​สูเสี่ย​น​ฉู่เอง​ก็​เจอ​โจร​ระหว่างทาง​ไป​ป้อมปราการ​ 178

หลาย​ปีก่อน​นู้น​ขณะ​สมาคม​ตระกูล​จงยัง​สามารถ​ซื้อขาย​ได้​อย่าง​อิสระ​เสรี​ เหล่า​โจร​ป่า​ล้วน​มีสายสัมพันธ์​กับ​สมาคม​ตระกูล​จง โจร​บางราย​เป็น​ทหาร​ประจำ​การณ์​ของ​สมาคม​ตระกูล​จงปลอมตัว​มาปล้น​ชิงสินค้า​ด้วยซ้ำ​

แต่วัน​เวลา​ผ่าน​ไป​ สมาคม​ตระกูล​จงเลี้ยง​เสือ​มากัด​ตัวเอง​ โจร​มากมาย​หลุด​บังเหียน​และ​ใช้ชีวิต​ตามใจ​ใน​แดน​เถื่อน​

เริ่น​เสี่ยว​ซู่คิด​ว่า​พื้นที่​ไร้​กฎเกณฑ์​เช่นนั้น​น่าจะ​ไม่เลว​ และ​ด้วย​ทักษะ​ของ​เขา​น่าจะ​ตั้งตัว​ไม่ยาก​

แต่​เขา​ต้อง​อยู่​ใน​ป้อมปราการ​อีก​หลาย​ปี​เพื่อ​ฟื้นตัว​และ​สำรวจ​สถานการณ์​ก่อน​ ถ้าพวกเขา​คิด​ว่า​ป้อมปราการ​ 88 ไม่น่าอยู่​จริงๆ​ ก็​สามารถ​ขึ้น​เหนือ​ไป​เป็น​จ้าว​ภูเขา​ได้​

ทว่า​ตอนนี้​เอง​ ก็​มีคน​มาเคาะ​ประตู​ หวัง​ฟู่กุ้ย​เดิน​ไป​เปิด​ และ​ก็​แปลกใจ​ที่​เห็น​คน​กลุ่ม​หนึ่ง​อยู่​ข้างนอก​พร้อม​ถือ​อาหาร​มา

ชาย​วัยกลางคน​ตรง​ประตู​ยิ้ม​ “สวัสดี​ครับ​ทุกท่าน​ ทาง​เบื้องบน​สั่งให้​ผม​มาส่งอาหาร​”

หลัว​หลาน​อ้าปากค้าง​ ไหง​การ​รับรอง​ระหว่าง​เขา​กับ​เริ่น​เสี่ยว​ซู่มัน​ต่างกัน​ลิบลับ​เลย​ล่ะ​

the first order สู่รุ่งอรุณเเห่งมวลมนุษย์

the first order สู่รุ่งอรุณเเห่งมวลมนุษย์

Score 10
Status: Completed

ในความมืดมิดอันปั่นป่วนโกลาหล หนุ่มน้อยเริ่นเสี่ยวซู่ผงะตื่นขึ้นพร้อมกับปาดเหงื่อออกจากหน้าผาก จากนั้นก็หันไปมองเด็กชายอายุราวสิบสี่ปีที่ยืนอยู่ตรงประตู

“ลิ่วหยวน มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า” เริ่นเสี่ยวซู่ถาม

แม้จะเรียกเด็กชายว่าลิ่วหยวน แต่ความจริงแล้วชื่อเขาคือเหยียนลิ่วหยวน

มองแวบแรก เหยียนลิ่วหยวนดูราวกับคนใสซื่อไม่มีพิษภัยอะไร ทว่าในมือเขานั้นกลับกำมีดกระดูกแน่น ยืนเฝ้าอยู่ตรงประตู ตอนนี้ดึกดื่นค่อนคืน แม้ว่าเขาจะดูง่วงงุนเพียงไร ก็ไม่หลับตาลงแม้แต่น้อยเพราะว่าจำเป็นต้องเฝ้ายามตอนกลางคืน

Options

not work with dark mode
Reset