The Divine Nine Dragon Cauldron 565

ตอนที่ 565

หลังจากที่ต่อสู้ครั้งใหญ่มาหลายครั้งและใช้สมบัติกึ่งวิญญาณไปหลายชิ้น พลังชีวิตและพลังวิญญาณของซือหยูอยู่ในจุดต่ำสุดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาต้องฟื้นฟูพลังให้เร็วที่สุด

 

ขณะที่ฟื้นพลัง ซือหยูเพียงแต่นั่งพักเฉยๆ เขาบังคับวิญญาณเข้าไปในมุกวิญญาณเก้าหยก เมื่อเข้าไปยังมุกวิญญาณซือหยูก็มองรอบๆ

 

“ข้าคิดว่าเจ้ายังอยู่ที่นี่ มิใช่หรอกรึ?”

 

ในมุกหยก เสียงของเขาดังสะท้อนก้อง

 

ไม่มีสิ่งใดตอบเขา จากนั้นก็มีเงาปรากฏตรงหน้าทันที ในเงานี้คือร่างอันรางเลือนของจิ้งจอกเก้าหาง นี่คือเจ้าของคนก่อนของมุกวิญญาณเก้าหยก!

 

ตั้งแต่ที่นางปรากฏตัวครั้งแรก นางหายตัวไปอย่างสมบูรณ์ นางเพียงแค่แสดงตัวออกมาเมื่อซือหยูเรียกนางในตอนนี้

 

“เจ้าเรียกหาข้าทำไมกัน?”

 

เสียงของจิ้งจอกเก้าหางเบาบางอย่างมาก

 

ซือหยูดีใจมากที่ได้รับคำตอบจากนาง

 

“ช่วยบอกความสัมพันธ์ระหว่างเจ้ากับหุ่นเชิดสีเงินจะได้หรือไม่?”

 

สัญชาตญาณบอกซือหยูว่ามีบางอย่างที่จิ้งจอกเก้าหางยังไม่ได้บอกเขา

 

จิ้งจอกเก้าหางไม่แปลกใจ

 

“เจ้าจะถามตอนนี้ไปทำไมกัน? ดูเหมือนว่าหุ่นเชิดจะเจอตัวเจ้าแล้วนะ!”

 

“ข้าไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดๆกับมัน วันนั้นที่อสูรเนรมิตรได้สู้กันในอดีต ข้ามาเจอกับสมบัติวิญญาณชิ้นนี้โดยบังเอิญ หุ่นเชิดสีเงินเองกับคนอื่นๆก็ถูกย้ายเข้ามาที่นี่ ข้าบาดเจ็บหนักในตอนนั้น โชคร้ายที่หุ่นเชิดวิญญาณกลืนกินมันเข้าไป”

 

จิ้งจอกเก้าหางพูดต่อ

 

“หลังจากนั้นหุ่นเชิดสีเงินก็บาดเจ็บสาหัสจากคนที่แข็งแกร่งและหลับใหลมานาน มันฟื้นฟูส่วนหนึ่งของพลังมาได้หลังจากที่เจ้ามาที่กระโจมเทพสวรรค์ ถ้าหากมันไล่ล่าจนเจ้าต้องซ่อนตัวเช่นนี้ก็แสดงว่ามันได้ดูดกลืนแก่นโลหิตไปมากแล้ว ข้าพูดถูกไหมล่ะ?”

 

การต่อสู้รึ? นางกำลังพูดถึงการต่อสู้ระหว่างเทียนจี่จื้อกับคนทรยศซือตี๋รึ?

 

แล้วทำไมคนที่เหลือถึงเกี่ยวข้องกับการต่อสู้นี้ด้วยเล่า?

 

ซือหยูสับสน แต่จากที่นางบอก เขาเดาว่าคงจะมีเหตุการณ์หลายอย่างเกิดขึ้นในกระโจมเทพสวรรค์ เหล่าสัตว์ประหลาดนี้คงจะเกิดจากผู้แข็งแกร่งที่อัญเชิญมันเข้ามา พวกเขาทิ้งสมบัติเอาไว้เพราะหมดหวังที่จะหลบหนี สมบัติของจักรพรรดิสายฟ้าเองก็เป็นหนึ่งในนั้น!

 

จิ้งจอกเก้าหางถอนหายใจเบาๆ นางชี้แนะซือหยู

 

“เจ้าจะต้องไปซ่อนตัวให้ดี ถ้าข้าฟื้นพลังเต็มที่ หุ่นเชิดสีเงินคงทำได้แค่หนีเท่านั้น แต่ในตอนนี้ เสี้ยววิญญาณอย่างข้าไม่มีทางช่วยเหลือเจ้าได้”

 

ซือหยูยังคงคิดว่าจิ้งจอกเก้าหางยังคงปิดบังอะไรบางอย่างกับเขา

 

“ถ้าเช่นนั้นก็ขออภัยที่รบกวนเจ้า”

 

ซือหยูประสานหมัดแสดงความขอบคุณ

 

จิ้งจองเก้าหากพยักหน้าอย่างสง่างาม ร่างของนางค่อยๆจางหายไป นางพูดขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะหายไป

 

“หวังว่าเจ้าจะยังคงจำความปรารถนาของข้าได้”

 

“นั่นคือคำสาบานที่ข้าลั่นวาจาไว้ ข้าไม่มีวันลืม”

 

ซือหยูพยักหน้าเบาๆ ทั้งคูากำลังพูดถึงสิ่งที่ซือหยูต้องแลกเพื่อให้ได้มาซึ่งมุกวิญญาณเก้าหยกซึ่งงเขาต้องไปหาตระกูลจิ้งจอกอสูรและส่งข้อความแทนจิ้งจอกเก้าหาง

 

“เช่นนั้นข้าก็จะได้อยู่อย่างเป็นสุข”

 

จิ้งจอกเก้าหางหายลับไป สิ่งที่ยังเหลืออยู่คือเสียงที่ดังสะท้อนหุบเขา

 

ตระกูลจิ้งจอกอสูรรึ? ซือหยูเริ่มสงสัยเกี่ยวกับทวีปจิวโจวมากขึ้น ที่นั่นจะเป็นโลกแบบใดกัน?

 

ตระกูลปีศาจกับตระกูลจิ้งจอกอสูร…พวกนั้นอยู่ร่วมกับมนุษย์ได้อย่างไร?

 

“นายท่าน!”

 

หวูอู๋ยี่รีบปรี่เข้ามาด้วยความตกอกตกใจ

 

แม้จะไม่เจอกันเพียงวันเดียว พลังของหวูอู๋ยี่ก็เติบโตขึ้นมาก! พลังชีวิตของนางเอ่อล้นออกมา นี่เป็นสัญญาณว่านางอยู่ในระดับกึ่งภูติ นางจึงยังควบคุมพลังชีวิตให้คงที่ได้ไม่ดีนัก

 

“ดีจริงๆ! เจ้าเป็นกึ่งภูติแล้ว”

 

ซือหยูพูดด้วยรอยยิ้ม

 

หวูอู๋ยี่หัวเราะแม้ว่าสีหน้าจะไม่ได้เปลี่ยนไปมาก นางงดงามอย่างเห็นได้ชัด

 

หวูอู๋ยี่ฝืนหยุดหัวเราะเพราะกลัวว่าจะไม่สมควร นางโทษตัวเองที่ทำตัวผ่อนคลายกับซือหยูมากเกินไป นางลืมว่านางเป็นทาสของซือหยูไปครู่หนึ่ง ท่าทางลืมตัวของนางนั้นน่าขันยิ่งนัก

 

“ทั้งหมดก็เป็นเพราะนายท่าน…”

 

หวูอู๋ยี่พูดโดยไม่แสดงสีหน้าอะไร

 

แม้ว่าจะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงท่าทีของนาง ซือหยูก็ไม่ได้จดจำใส่ใจ

 

“ไผ่เงินกล้วยไม้สวรรค์เป็นอย่างไรบ้าง? มันโตขึ้นหรือไม่?”

 

เมื่อได้ยินดังนั้น หวูอู๋ยี่แสดงสีหน้ายินดีออกมา

 

“นายท่าน มันเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงแล้ว!”

 

ไผ่เงินกล้วยไม้สวรรค์เป็นไม้เทวะที่หายากแม้แต่ในจิวโจว การได้เห็นมันถือกำเนิดอีกครั้งทำให้หวูอู๋ยี่มิอาจปิดบังความตื่นเต้นเอาไว้ได้ นั่นก็เพราะไผ่เงินกล้วยไม้สวรรค์เป็นสิ่งที่แม้แต่อสูรเนรมิตรก็ต้องการอยากจะปลูกให้เติบโตขึ้นมา!

 

“อะไรนะ?”

 

ซือหยูตกใจ นี่เป็นข่าวดีจริงๆ!

 

ซือหยูโบกมือพาหวูอู๋ยี่ย้ายมาที่หน้าสวน สมุนไพรสายฟ้าในตอนนี้ถูกเก็บเกี่ยวไปหมดแล้ว สวนในตอนนี้ว่างเปล่ายกเว้นทับทิมวิญญาณขนนกที่มีสีขาวราวขนวิหค

 

ผลที่ถูกเด็ดเอาไปเริ่มเติบโตอีกครั้ง ในตอนนี้มีอยู่สามถึงสี่ผล แต่ละผลขนาดเท่ากำปั้น การเติบโตระดับสูงเช่นนี้เป็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อเลย!

 

ในโลกข้างนอก พืชพรรณเหล่านี้ต้องใช้เวลาหลายสิบปีกว่าจะออกดอกและติดผล แต่ในดินเพาะบ่มชั้นสูงในมุกวิญญาณเก้าหยก ต้นไม้พวกนี้กลับเติบโตออกดอกผลอย่างรวดเร็ว!

 

และบังเอิญมากที่อีกไม่กี่วัน กระโจมเทพสวรรค์จะดำเนินมาถึงจุดจบในรอบนี้ พิธีแลกเปลี่ยนจะถูกจัดขึ้นในลานนกกระจอกเทวะ นี่เป็นเวลาอันสมบูรณ์แบบที่ซือหยูจะได้ใช้ทับทิมเหล่านี้ในการแลกเปลี่ยนสิ่งของต่างๆที่ต้องการ!

 

แต่หุ่นเชิดสีเงินกำลังไล่ล่าตามฆ่าเขาไม่หยุดหย่อน เขาไม่แน่ใจว่าจะได้เข้าร่วมพิธีแลกเปลี่ยนหรือไม่ ซือหยูสงสัยด้วยซ้ำว่าจะมีคนที่รอดมาเข้าร่วมพิธีแลกเปลี่ยนอยู่อีกไหม!

 

ในช่วงที่อยู่กระโจมชั้นเจ็ด ยอดฝีมือมากมายจากกว่าร้อยสำนักได้มาพบเจอกับหุ่นเชิดสีเงิน เมื่อคิดถึงหุ่นเชิดสีเงินก็ทำให้ซือหยูไม่สบายใจทุกครั้งราวกับมีมีดแขวนไว้เหนือศีรษะ

 

เขาหายใจเบาๆและมองไผ่เงินกล้วยไม้สวรรค์ในสวน เขาเห็นต้นอ่อนสองต้นเริ่มผุดขึ้นมาเหนือดิน

 

พวกมันดูคล้ายกับหัวหอมหยก มันผุดขึ้นมารับแสงไม่สูงนัก หน่อทั้งสองโผล่พ้นดินเพียงเล็กน้อย

 

“หน่อพวกนี้คือไผ่เงินกล้วยไม้สวรรค์รึ?”

 

ดวงตาซือหยูเริ่มเร่าร้อน

 

ถ้าหากมันเติบโตเต็มที่ มันจะใช้สร้างกระบี่อีกหกเล่มได้ ซือหยูจะได้ใช้ลำดับเก้าหยินหยางอีกครั้ง!

 

พลังของมันเทียบไม่ได้เลยกับเข็มเก้าเล่ม พลังเต็มที่ของมันจะต้องทรงพลังมากอย่างแน่นอน!

 

ซือหยูรู้สึกดีขึ้นเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ในที่สุดเขาก็ได้ข่าวดีเสียที

 

แต่ก่อนที่เขาจะพูดอะไร แสงสีชมพูก็แล่นผ่านเข้ามา! จากนั้นหมอกชมพูก็ปรากฏเหนือไผ่เงินกล้วยไม้สวรรค์และมีตัวขนาดเท่ากำปั้นโผล่ออกมา!

 

ซือหยูตกใจไปครู่หนึ่ง นี่มันกิเลนวิญญาณ!

 

มันแอบเข้ามาในมุกวิญญาณเก้าหยกตั้งแต่เมื่อไหร่?

 

จากนั้นกิเลนน้อยก็อ้าปากกว้างอย่างตื่นเต้นและพยายามจะกัดไผ่เงินกล้วยไม้สวรรค์ที่เพิ่งเกิดใหม่! ซือหยูทำใจให้เย็นและหัวเราะออกมาแม้จะกำลังโกรธ!

 

ไม่เพียงแต่มันจะชิงสายใยมังกรไป มันยังกล้าผ่านเข้ามาในมุกวิญญาณเก้าหยกและพยายามจะกินไผ่เงินกล้วยไม้สวรรค์ของเขา!

 

“เจ้าจะต้องอยากตายสินะ!”

 

ซือหยูตะโกน

 

จิตสังหารของเขาแผ่ออกมา มีชั้นเพลิงล้อมรอบกาย เขารีบพุ่งไปหากิเลนน้อย!

 

กิเลนน้อยตกใจและรีบหันหนี! แต่มันก็ไม่ได้หนีไปยังโลกภายนอก มันกลับวิ่งไปที่หน้าอกของหวูอู๋ยี่!

 

หวูอู๋ยี่กอดกิเลนน้อยเอาไว้และถาม

 

“นายท่าน นี่ไม่ใช่สัตว์เลี้ยงของนายท่านหรอกรึ? ท่านจะทำอะไร?”

 

กิเลนน้อยเบิกตากว้างและทำหน้าตาน่าสงสาร มันพยักหน้าอย่างเร่าร้อนและถึงกับยืนเหมือนมนุษย์ มันประกบกีบเท้าคู่หน้าเข้าหากันไปทางซือหยู

 

จากนั้นมันก็ทำเสียงที่ไม่เข้าใจ หลังจากผ่านไปนาน มันก็พูดสองคำที่เข้าใจได้ออกมา

 

“เจ้า…นาย…”

 

เจ้านายรึ? ซือหยูตกตะลึง เขาไปเป็นเจ้านายของกิเลนวิญญาณตั้งแต่เมื่อใดกัน?

The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 450 อ่านนิยาย


หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ

เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

Options

not work with dark mode
Reset