The Divine Nine Dragon Cauldron 509

ตอนที่ 509

และเมื่อนางคิดถึงตอนที่ซือหยูมองอกตัวเองไม่หยุดหลังจากที่โดนกักขัง นางก็ตัวสั่น

 

ลู่จือยี่ยืนถือตำราสีดำอย่างนิ่งไม่ไหวติง จนมีพลังมิติโอบล้อมและกำลังจะย้ายตัวนางออกไป

 

“ตำราเล่มนี้…เจ้าคิดจะให้มันกับข้าอยู่แล้วรึ?”

 

เสียงของนางแหบแห้งเพราะการตะโกนอย่างบ้าคลั่งเมื่อครู่

 

ซือหยูฝืนยิ้มและไม่ตอบอะไร

 

ลู่จือยี่หมดคำพูด นางก้มหน้ามองตำราทมิฬในมือ ความรู้สึกมากมายผสมผสานต่อกัน ขณะที่นางวางแผนเล่ห์เหลี่ยมกับซือหยู ซือหยูกลับคิดถึงนาง

 

ความรู้สึกมิคู่ควรทำให้นางหยุดคิดทำร้ายซือหยู เป็นนางแต่แรกที่แม้จะไล่ล่าเขา ซือหยูก็ยังช่วยชีวิตนาง แม้นั่นจะหมายถึงการได้รับฝ่ามือของนางในเวลาต่อมา ในค่ำคืนของเวทความฝัน ซือหยูไม่ได้ทิ้งนางในกระท่อมกลางทุ่งหิมะ เมื่อคิดถึงเหตุการณ์ในวันนั้น หัวใจของนางเจ็บแปลบอย่างไม่มีเหตุผล

 

ความชิงชังในดวงตาแทนที่ด้วยน้ำตาที่ไหลพราก นางไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อใด แต่ภาพของซือหยูก็สลักอยู่ในหัวใจของนางโดยไม่รู้ตัว

 

ความรู้สึกเข้าต่อสู้กัน ความชิงชังบนใบหน้าหายไปและแทนที่ด้วยความเจ็บปวดในที่สุด เพราะอย่างไรสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด นั่นก็เกิดจากนางที่ทำผิดบาปเป็นคนแรก นางมิอาจโทษใครได้มากกว่าตัวเองกับการที่ถูกช่วงชิงครั้งแรกไป และตอนนี้นางกำลังจะถูกย้ายออกจากกระโจมเทพสวรรค์

 

ลู่จือยี่หันไปทางเขาลูกหนึ่งและเอื้อมมือคว้าความว่างเปล่า จากนั้นเว่ยกังที่อยู่ในทิศทางนั้นก็ถูกพามาในพลังมิติที่จะย้ายพวกเขาออกไป

 

นางไม่หันกลับมามองซือหยูแม้แต่ครั้งเดียวจนหายลับ นางจากไปไร้คำร่ำลา นางทิ้งชั้นแปดของกระโจมเทพไปเหลือแต่เพียงบุรุษผู้โดดเดี่ยว…ซือหยู

 

“ลู่จือยี่…”

 

เขามองแผ่นหลังของนางในตอนที่นางหายไป หัวใจของเขาว่างเปล่า เขาไม่รู้สึกถึงความยินดีแม้แต่น้อย ไม่มีแม้แต่ความรู้สึกจากการที่รอดพ้นความตายมาได้

 

ฟึ่บ ฟึ่บ–

 

เสียงกรีดนภานับไม่ถ้วนทำลายความเงียบ สีหน้าซือหยูเปลี่ยนไปในที่สุด เขาสวมเสื้อผ้าหันกลับไปยังหมอกหนา

 

******

 

หลังจากนั้นครึ่งวัน ณ ครึ่งทางของภูเขา

 

ซือหยูยืนอยู่หน้าถ้ำที่ถล่มลงมา มันดูเก่าแก่และพังด้วยตัวเองมาหลายปีแล้ว

 

“ที่นี่จะมีสมบัติอะไรกันนะ…”

 

ซือหยูกระซิบกับตัวเอง

 

หลังจากที่หนีลู่จือยี่มา เขาก็บอกไม่ได้ว่าตัวเองอยู่ที่เขาลูกใด ส่วนถ้ำตรงหน้านี้ก็อาจจะมีสมบัติอยู่

 

ซือหยูได้ยินเสียงเบาๆจากในถ้ำ เขาตาเป็นกระกายและเข้าถ้ำในพริบตา

 

ถ้ำนั้นเป็นเส้นตรงและให้ความรู้สึกว่ามันไร้จุดสิ้นสุด กำแพงนั้นเป็นสีน้ำตาลเข้มค่อนไปทางดำ ทั้งสองด้านมีรอยหลากหลายขนาด ขวดเปล่ากับเหยือกถูกทิ้งเอาไว้ด้วย ซือหยูหยิบหนึ่งในนั้นขึ้นมาดมและก็ต้องแปลกใจ เขาได้กลิ่นอ่อนๆของโอสถที่ยังเหลืออยู่ในขวด

 

“หรือว่ามันจะเป็นสมบัติโอสถ?”

 

ซือหยูขมวดคิ้ว ทุกคนนั้นเห็นด้วยว่าสมบัติหนึ่งในห้าที่ล้ำค่าที่สุดก็คือโอสถ ถ้าเขาโชคดีพอ เขาจะได้มีพลังขอบเขตภูติในคราเดียว เขาโชคดีจริงๆ!

 

ซือหยูเข้าไปลึกขึ้นในถ้ำ เขาได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวเป็นระยะๆจากภายใน เสียงเหล่านั้นยิ่งดังขึ้นในทุกขณะ

 

เมื่อซือหยูเข้าไปในส่วนลึกของถ้ำ เขาใช้เนตรวิญญาณมองดูภายใน เขาเห็นได้อย่างชัดเจนว่าที่ข้างหน้านั้นมีชายคนหนึ่งที่กำลังทำลายกำแพงศิลาด้วยความตื่นเต้นที่สุดทางของถ้ำ ซือหยูเห็นรอยมากมายบนกำแพง นั่นแสดงว่าชายคนนี้ไม่ใช่คนเดียวที่เสียเวลาขุดทำลายกำแพงศิลาเหล่านี้

 

ดูเหมือนว่าคนที่เข้ามาที่นี่ในอดีตจะสงสัยว่าอาจจะมีโอกาสอยู่อีกในส่วนลึกในกำแพง และก็ดูเหมือนว่าพวกเขาจะจากไปมือเปล่า

 

ซือหยูผิดหวังเล็กน้อยเมื่อมองดูด้วยเนตรวิญญาณ มันไม่มีทางลับใดในกำแพงเหล่านั้น ดูเหมือนว่าสมบัติโอสถจะถูกขุดค้นไปหมดแล้ว

 

มีเสียงสั่นสะเทือนดังขึ้นเมื่อเขาจะกำลังจะออกจากถ้ำ ศิลาคล้ำก้อนใหญ่ถูกขุดจากชายคนนั้น และเผยให้เห็นถึงแพงศิลาสีขาวราวหิมะ!

 

กำแพงขาวนั้นดูเหมือนจะถูกฝังด้วยศิลาขาว มีสัญลักษณ์แปลกๆสลักเอาไว้อยู่ด้วย มันคือเวทที่ซ่อนอยู่ในชั้นที่สองของศิลา!

 

ซือหยูตกใจ เขาเพียงแค่สนใจเรื่องทางลับในกำแพง เขาไม่คิดเลยว่าตัวศิลาเองจะมีความลับอยู่ด้วย

 

ชายคนนั้นหัวเราะราวกับคนคลั่ง

 

“ฮ่าๆๆๆ ท่านอาจารย์พูดถูกจริงๆด้วย สมบัติโอสถยังไม่ถูกเอาไป ยังมีมิติอื่นอยู่ในกำแพงศิลา!”

 

ชายคนนั้นหัวเราะเสียงดัง เขาใส่พลังชีวิตลงในเวทบนศิลา จากนั้นเวทก็พาเขาไปยังสถานที่อื่น

 

ซือหยูจดจำเสียงของชายคนนั้นได้ ดวงตาเขาคมกริบขึ้น

 

“ดูเหมือนว่าศัตรูเก่าจะได้มาเจอกับข้าอีกแล้ว…ข้าต้องเจอกับโจวฉีหมิง!”

 

โจวฉีหมิงพยายามจะสังหารซือหยูสองครั้ง แต่เขาก็ไม่มีเวลาจะได้ทำเช่นนั้น

 

ซือหยูอัดพลังวิญญาณลงในเวทและถูกพาตัวไปเช่นกัน พื้นที่เหยียบหมุนวนไปมา สายลมเย็นยะเยือกพัดขึ้นมาจากเบื้องล่างมาถึงลำตัวและแทงไปยังจุดชีพจร แต่ซือหยูก็ไม่ตกใจ เกราะราชาศิลานิรันดร์เข้าปกป้องร่างกาย

 

เสียงกระแทกดังปะทะเข้ากับเกราะ ประกายไฟมากมายเกิดขึ้นราวกับพายุฝน

 

เมื่อเขาลืมตาเขาก็พบโจวฉีหมิงอย่างที่คิด ในมือของเขาถือมีดสีโลหิตที่ปล่อยพลังวิญญาณอันน่าตกใจ นั่นคือสมบัติเทพระดับสูงที่แข็งแกร่งอย่างมาก!

 

“ฮื่ม! เกราะนั่นอีกแล้วเรอะ!”

 

โจวฉีหมิงตะโกนด้วยความรำคาญ ดวงตาเขาแผดเผาด้วยความแค้น

 

โจวฉีหมิงนั้นกำลังจะได้ทะลวงพลังเป็นขอบเขตภูติ เขาอยู่ในจุดสำคัญที่สุด เขาจะต้องสัมผัสได้ถึงซือหยู ดังนั้นเขาจึงรอที่จะจู่โจมซือหยูโดยหวังจะปลิดชีพให้เร็วที่สุด

 

ซือหยูหัวเราะ

 

“โจวฉีหมิง ไม่เจอกันนานนะ!”

 

โจวฉีหมิงถือมีดด้วยมือข้างหนึ่ง มืออีกข้างนั้นไพล่หลังเอาไว้ เขาหัวเราะอย่างอวดดี

 

“ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะกล้าฉวยโอกาสของข้า”

 

ในใจของโจวฉีหมิง เขาคิดว่าซือหยูนั้นมีพลังที่นับว่าน่าตกใจถ้าเทียบกับคนที่มีฐานพลังเท่ากัน แต่สำหรับเขา ซือหยูไม่มีค่าแม้แต่จะชายตามอง

 

“ฉวยโอกาสเจ้ารึ?”

 

ซือหยูหัวเราะเบาๆ

 

“เจ้าจะประเมินตัวเองสูงไปซะแล้ว สิ่งที่ข้าต้องการคือสมบัติ ส่วนชีวิตเจ้า…ข้าจะรับไว้เป็นของแถมก็แล้วกัน”

 

“ฮ่าๆๆ…”

 

โจวฉีหมิงหัวเราะอย่างขมขื่น

 

“เจ้าไปเอาความมั่นใจมาจากไหนกัน? เอาชีวิต…..”

 

ฟึ่บ–

 

ขณะที่โจวฉีหมิงหัวเราะก็มีแสงสีทองเปล่งประกาย

 

“มีดเกล็ดทองอีกแล้วรึ?”

 

“เปล่าประโยชน์!”

 

เขาได้เตรียมการมานานแล้ว เขาหันไปจู่โจมด้วยมีดสีเลือดในมือ

 

ปั้ง–

 

แต่ต่อมาสีหน้าโจวฉีหมิงก็เปลี่ยนไป มีดสีเลือดในมือที่เป็นสมบัติเทพระดับสูงนั้นหักเป็นสองท่อน! แต่เขาก็ตอบสนองได้เร็วอย่างไม่น่าเชื่อ เขาถอยหนีไปได้ร้อยศอก

 

แสงสีทองส่องประกายจากใต้ดินในจุดที่เขาเคยยืน แสงนั้นตัดมาจากส่วนลึกของใต้ดิน มันเฉือนพื้นได้ราวกับมีดร้อนที่หั่นเนย ถ้าโจวฉีหมิงลังเลแม้แต่นิดเดียว ร่างของเขาจะถูกผ่าครึ่ง!

 

ซือหยูที่ถือมีดสองเล่มทำให้โจวฉีหมิงตกตะลึง

 

“สมบัติกึ่งวิญญาณ…”

 

“แล้วเจ้าก็มีสองชิ้นงั้นเรอะ?”

 

ซือหยูยิ้มเยาะ

 

“สองเรอะ? ฮ่าๆๆๆ….”

 

โจวฉีหมิงหัวใจแทบหยุดเต้น เขารู้สึกถึงความเย็นเยือกที่ช่องท้อง

 

แสงสีทองเปล่งประกายจากเบื้องล่างอีกครั้ง! เท้าของเขาเพิ่งจะสัมผัสพื้น เขาไม่มีเวลาจะป้องกันตัวจากแสงสีทองที่สาม

 

The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 450 อ่านนิยาย


หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ

เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

Options

not work with dark mode
Reset