The Bloodline System 346: อุบาย

“กุสตาฟชนะอย่างที่คาดไว้”

-“เราไม่มีโอกาสชนะเลย เพราะเดทริคไม่สามารถแม้จะเปิดใช้สายเลือดของเขาแล้ว และไม่สามารถทําให้กุสตาฟเปิดใช้งานสายเลือดของเขาได้เลย”

-“ถ้าเขาเปิดใช้สายเลือดแปลงร่างของเขา แสดงว่าเขาได้เริ่มจริงจัง”

“นี่แสดงให้เห็นว่าฉันต้องฝึกให้หนักขึ้นและแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม ก่อนที่จะพยายามต่อสู้กับเขา”

กุสตาฟก็กลายเป็นที่มาของแรงจูงใจให้กับเพื่อนๆ ของเขาที่สนใจในตัวมาทิลด้า

บาเรียถูกปิดใช้งาน และครอบครัวโอดาลี่ก็ขึ้นไปบนชั้นบนอย่างรวดเร็วเพื่อไปพาแพทย์ไปพบเดทริก

กุสตาฟเดินลงมาจากเวทีและรีบหยิบเสื้อแจ็กเก็ตของเขาและสวมมันเพื่อปิดด้านหลังเสื้อผ้าที่ฉีกเป็นชิ้นๆ

“ทําได้ดีมาก… นายเพิ่งช่วยชีวิตมาทิลด้าจากการทรมานที่เธอจะต้องผ่านการแต่งงานกับคนที่เธอไม่ชอบ” อีอีกล่าวกับกุสตาฟ

“อืม ฉันยังสงสัยว่าเธอกําลังเล่นอะไรอยู่… และเธอตั้งใจจะทําต่อไปอีกนานแค่ไหน” กุสตาฟกล่าวด้วยท่าทางสงสัยเล็กน้อย

เกลด เรีย ทีมี และแองจี้ก็จ้องมาทางมาทิลด้า เมื่อพวกเขาได้ยินอย่างนั้น

“ไปคุยกับเธอ” ทีมีเสนอ

“ฉันลองแล้ว… คราวนี้ฉันจะลองอย่างอื่นดู” กุสตาฟพูด ขณะเดินจากไป

“เดี๋ยวก่อน กุสต… ฟ” แองจี้ร้องเรียก แต่เขาหายไปแล้ว…

แขกรับเชิญจ้องที่กุสตาฟด้วยท่าทางชื่นชมและอิจฉา ในขณะที่เขาเดินไปหามาทิลด้า

แองจี้ยืนอยู่ข้างเกลดด้วยสีหน้าสงสัย “เธอบอกอะไรเธอล่วงหน้าเกี่ยวกับคําเชิญหรือเปล่า” เกลดถาม

“เปล่า เธอไม่ได้พูดอะไร…ฉันไม่ได้บอกเขาว่าฉันได้รับเชิญ ดังนั้น..” แองจี้ตอบแต่ยังพูดไม่ครบประโยค

“ทําไมบรรยากาศระหว่างเธอ 2 คนดูจืดชืด” เกลดถาม ขณะดึงแองจี้ไปด้านข้าง

“ก็เพราะว่า… มีบางอย่างเกิดขึ้นเมื่อวานนี้” แองจี้พึมพํา

เกลดเล็กคิ้วขึ้นข้างหนึ่งเมื่อได้ยินว่า “บอกมาสิ”

ด้านครอบครัวของมาทิลด้า เธอเพิ่งเสร็จสิ้นการโต้เถียงกับสมาชิกในครอบครัวของเธ อบางคนเกี่ยวกับความต้องการของเธอ พวกเขาต้องเห็นด้วยกับเธอหลังจากที่เธอพูดถึงบางสิ่ง “แล้วถ้าไม่มีใครสามารถเอาชนะกุสตาฟได้ในที่สุดล่ะ?” ผู้อาวุโสคนหนึ่งถามขึ้น

มาทิลด้ามีสีหน้าครุ่นคิดเมื่อได้ยินเรื่องนี้ เธอไม่สามารถให้คําตอบได้ในไม่กี่วินาที

“ฉันจะรับผิดชอบในการแต่งงานกับเธอเอง” กุสตาฟพูดขึ้นจากข้างหน้าขณะที่เขาเดินเข้าไปใกล้กลุ่ม

“หือ? คุณจะรับผิดชอบงั้นเหรอ?” ผู้อาวุโสบางคนก็เปล่งเสียงออกมาพร้อมกัน

“ใช่ หรือฉันไม่คู่ควรพอ?” กุสตาฟถามเมื่อมาถึงตรงหน้าพวกเขา

“อ่า ไม่ ไม่ ฮ่าฮ่า คุณมีค่าพอแน่นอน…ครอบครัวไควเอ็นจะต้องมีความสุขอย่างยิ่งที่มีคนอย่างคุณเป็นลูกเขยของเรา” ผู้เฒ่าผู้โศกเศร้าในตอนแรกของมาทิลด้าพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม มาทีลด้าเบิกตากว้าง ขณะที่เธอจ้องที่กุสตาฟด้วยท่าทางไม่เชื่อ เขากําลังทําอะไรอยู่

“แต่นั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าคู่ครองของเธอไม่มีใครสามารถเอาชนะฉันได้ในอนาคต…ถ้าฉันพ่ายแพ้โดยคนใดคนหนึ่ง เธอยังคงต้องหมั้นกับบุคคลนั้น” กุสตาฟกล่าว

“ใช่ เราเข้าใจ” ผู้เฒ่ารวมทั้งพ่อของมาทิลด้ายิ้มและพยักหน้าขณะพูด

“ตอนนี้ ถ้าคุณไม่ว่าอะไร ฉันต้องคุยกับเธอคนเดียว” กุสตาฟพูดขณะจับมือมาทิลด้าและดึงเขาไปด้วย ขณะที่เขาเดินออกจากสนามฝึกซ้อม

แองจี้และเกลดไม่ได้สังเกตเห็นกุสตาฟออกจากพื้นที่ร่วมกับมาทิลด้าเพราะตอนนี้แองจี้กําลังอธิบายว่าเกิดอะไรขึ้นกับเอนดริกให้เกลดฟัง

“ทุกคน ขอบคุณที่มา… ตามข้อกําหนดของเจ้าหญิงน้อยของเรา ใครก็ตามที่สามารถเอาชนะกุสตาฟได้ก็จะได้แต่งงานกับเธอ” ผู้อาวุโสคนหนึ่งประกาศอีกครั้ง

“มีอีกอย่างที่ฉันอยากจะประกาศ…” ผู้เฒ่าพูด ทําให้ทุกคนหันมาสนใจเขา รวมทั้งแองจี้ด้วย

“ถ้าไม่มีใครสามารถเอาชนะกุสตาฟได้ในอนาคต ลูกสาวของเราจะหมั้นกับเขา” เหมือนกับระเบิดที่ระเบิดออกมาในขณะที่เขาเปิดเผยว่า

ดวงตาของทุกคนเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ เมื่อสถานที่ทั้งหมดส่งเสียงดัง

“อะไร?” แองจี้เปล่งเสียงออกมาอย่างไม่รู้ตัวเมื่อได้ยินเช่นนั้น

“กุสตาฟอยู่ที่ไหน” เธอพูดขณะหันกลับมามอง เธอรู้สึกได้ถึงความรู้สึกผสมปนเปที่อธิบายไม่ได้ขณะที่เธอมองไปรอบๆ ที่ของกุสตาฟ

เกลดตามเธอไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับอีอี เรีย และทีม

นี่เป็นจุดสิ้นสุดของกิจกรรมในวันนี้ ขณะที่แขกเริ่มทยอยออกจากที่พักของครอบครัวไควเอิน

ครอบครัวโอดาลียังกล่าวคําอาลาเพราะพวกเขาสัญญาว่าในที่สุด เดทริกจะเอาชนะกุสตาฟ

เดทริกได้รับยาฟื้นฟูและตอนนี้ก็กลับมายืนได้อีกครั้ง

เขาได้ตรวจสอบกุสตาฟแล้ว และเขาอยากคุยกับกุสตาฟ หลังจากที่มีสติสัมปชัญญะ แต่เขาหากสตาฟไม่พบที่ไหนเลย ดังนั้นเขาจึงออกไปกับครอบครัวของเขา

หลายนาทีต่อมา ขณะที่พวกเขานั่งอยู่ในเครื่องบินส่วนตัวที่จะพาพวกเขากลับไปที่เมือง ลุงของพวกเขาพูด

“วันนี้คุณทําได้ดี” เขาพูดออกมา

“อ็ม แต่นั่นจําเป็นจริงๆเหรอ?” เดทริกถาม

“ใช่… ครั้งต่อไปที่คุณต้องต่อสู้กับเขา คุณจะเอาชนะเขาได้ เพราะตอนนี้ เขาจะไปเจอกับคนอื่นๆ และลุงเชื่อว่าหลานต้องกระตุ้นส่วนต่างๆ ของร่างกายเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง โดยที่จริงแล้วหลานไม่จําเป็นต้องทํา ..ครั้งหน้าที่หลานต่อสู้กับเขา หลานจะต้องแกล้งเขาอีกหน่อย แล้วค่อยเปิดประตูที่ 7 เพื่อกําจัดเขาทันที… ลุงรับรองได้เลยว่าเขาจะไม่เห็นแม้แต่ฝุ่น” ลุงของเดทริก หัวเราะเบา ๆ เขาเปล่งเสียงออกมา

“อืม ก็ได้ลุง แต่เขาก็ค่อนข้างทรงพลังเหมือนกันนะ… ใครจะไปรู้ล่ะ ว่าครั้งหน้าฉันจะสู้เขาที่แข็งแกร่งมากขึ้นแค่ไหนกัน” เดทริกพูดด้วยแววตาระมัดระวัง

“ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งขนาดไหน ประตูที่ 7 ก็เพียงพอที่จะหยุดเขา เพราะมันทรงพลังพอที่จะรับมือกับอันดับสูงสุดของกิลเบิร์กได้ในตอนนี้… เพียงให้แน่ใจว่าคุณต่อสู้กับเขาโดยไม่มีใครเข้าร่วม เราจะทําการบันทึกวิดีโอเป็น หลักฐาน แต่ไม่มีใครต้องเห็นการต่อสู้ระหว่างคุณทั้งสอง” ลุงของเดทริก กล่าวพร้อมกับมองเตือน

กุสตาฟพามาทิลด้าไปยังสถานที่ที่ไม่รู้จักภายในบ้านพักของตระกูลไควเอิน ซึ่งสามารถมองเห็นดอกไม้ที่ปลูกไว้รอบๆ ต้นไม้สีน้ําตาลแดงประมาณ 400 ฟุต

เขาจึงต้นไม้และจ้องมองมาทิลด้าต่อหน้าเขา

“ตอนนี้ บอกฉันสิว่าเธอกําลังปิดบังอะไรทุกคนอยู่ เธอกําลังวางแผนอะไรอยู่กันแน่” กุสตาฟถามขณะเหล่ตา..