บทที่317
ผู้แปล : N.
“ฮาฮาฮา! มันต้องสุดยอดอยู่แล้ว พวกผมใช้เวลากว่าหนึ่งสัปดาห์กว่าที่จะทำฉากนี้ออกมาได้!” เหวยเหว่ยพูด ด้วยท่าทางค่อนข้างภูมิใจ
“ ว้าว!” ผู้กำกับวังถึงกับต้องยกนิ้วโป้งให้ และเขายังพูดด้วยอารมณ์ว่า :“ ถ้าเทียบกับการทำงานปกติที่ต้องให้นักแสดงแสดงอารมณ์ออกมาโดยที่มองไปยังอากาศธาตุ กับตอนนี้ที่มีการตอบสนองจากภาพสามมิติ มันเป็นอะไรที่แตกต่างกันมากจริงๆ! “
“มันสุดยอดเกินไปแล้ว!” หลุมไฟเองก็พูดชมไม่ขาด “ในตอนแรกผมก็คิดว่าเอฟเฟ็กต์ในนิยายของผมนั้นจะไม่สามารถทำออกมาได้ แต่ไม่คิดเลยว่าพวกคุณจะสามารถทำมันออกมาได้จริงๆ และมันยังดูสมจริงกว่าที่ผมคิดอีกด้วย!”
“ แต่ผมมีคำถาม! ผมอยากรู้ว่าภาพสามมิตินี้สามารถโต้ตอบกับนักแสดงได้ไหม? ตัวอย่างเช่นถ้าผมเข้าไปเล่นกับต้นไม้ มันจะมีการเคลื่อนไหวไหม?”
“ตอนนี้ยังไม่ได้! แต่ถ้าคุณต้องการให้เป็นแบบนั้น พวกผมก็สามารถทำให้ได้ แต่มันคงต้องใช้เวลาซักพักกว่าจะได้ฉากแบบนั้นออกมา” เหวยเหว่ยอธิบายออกมา
“ โอ้! ไม่ต้องถึงขนาดนั้น แค่นี้ก็พอแล้ว” ดวงตาของผู้กำกับวังเปล่งประกายด้วยความหวัง เขาหันไปพูดกับนักแสดงนำหญิงว่า :“ เธอมีความมันใจกับฉากนี้ไหม?”
นักแสดงนำหญิงคนนี้ยังเป็นนักศึกษาที่โรงเรียนภาพยนตร์อยู่ นี่ถือเป็นการแสดงครั้งแรกของเธอที่จะได้แสดงหนังแนวนี้ ในตอนแรกเธอเองก็กังวลว่าเธอจะทำงานได้ไม่ดีพอ แต่เมื่อเธอมาเจอกับเหตุการณ์นี้ก็ได้ปัดความรู้สึกกังวลในตอนแรกออกมาไปทันที: “ผู้กำกับวังไม่ต้องกังวล! ฉันได้ทำความเข้าใจฉากนี้ตั้งแต่เมื่อวานนี้เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นมันจะไม่เกิดปัญหาขึ้นอย่างแน่นอน!”
“ฮ่าฮ่า! ดี! งั้นเรามาเริ่มถ่ายกันเลยเถอะ!” เสียงของผู้กำกับวังจบลง ทุกคนก็เริ่มเข้าไปจำตำแหน่งของตัวเองทันที
……
ความคืบหน้าการถ่ายทำนั้นเร็วมาก ที่มันเร็วแบบนี้เป็นเพราะกระบวนการทั้งหมดได้รับการสนับสนุนจากเทคโนโลยีชั้นสูงที่ทางบริษัทเรทเอ็นเตอร์เทนเม้นท์มี สำหรับภาพยนตร์แนวไซไฟนั้นการแต่ละฉากจำเป็นต้องใช้เวลาและจำนวนคนที่มากกว่าการถ่ายหนังแบบปกติไปมาก
ในการถ่ายฉากที่เป็นไฮไลน์ของภาพยนตร์บางครั้งต้องใช้เวลากว่าสิบวัน ครึ่งหนึ่งของเวลาที่ใช้ไปนั้นส่วนมากก็มาใช้กับการสร้างไอเท็มหรือไม่ก็ฉากหลัง
แต่สำหรับการถ่ายภาพยนตร์ของบริษัทเรทเอ็นเตอร์เทนเม้นท์นั้นไม่เหมือนทั่วไป เพราะไม่ว่าเขาจะต้องการฉากหลังหรืออุปกรณ์ประกอบฉากแบบใด ทางทีมงานที่รับผิดชอบเรื่องนี้จะสามารถตอบสนองความต้องการของเขาได้จะทันที
เหตุที่เป็นแบบนี้เพราะลูชินได้ดึงตัวจางเกวียงมาเป็นคนช่วยทำอุปกรณ์ประกอบฉากต่างๆ ดังนั้นมันจึงสามารถทำให้พวกเขาผ่านเรื่องนี้ไปได้อย่างง่ายดาย
ผู้กำกับวังเองยังรู้สึกประทับใจกับเรื่องนี่อย่างมาก เขาคิดว่าการถ่ายทำให้กับบริษัทเรทเอ็นเตอร์เทนเม้นท์นั้นเป็นอะไรที่สบายที่สุดเท่าที่เขาเคยทำมา
หลังจากผ่านไปสองเดือน ภาพยนตร์สามมิติก็ได้ประกาศอย่างเป็นทางการถึงจุดสิ้นสุดของการถ่ายทำ
เมื่อตัวอย่างถูกนำออกไปตรวจสอบ ก็เกิดความกังวลขึ้นเล็กๆกับพวกเขา เพระถึงยังไงนี้ก็ถือว่าเป็นภาพยนตร์สามมิติเรื่องแรกที่พวกเขาเคยทำมา
แต่เมื่อส่งพวกเขาได้ส่งตัวอย่างไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการตรวจสอบ มีข่าวลือมาว่าผู้นำของแผนกตรวจสอบนั้นเองก็ได้เข้ามาชมตัวอย่างนี้ด้วยตัวเอง ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นพูดชมไม่ขาดปากว่าภาพยนตร์สามมิติเรื่องนี้นั้นสุดยอด!
ดังนั้นภาพยนตร์เรื่องนี้จึงผ่านการตรวจสอบอย่างรายรื่น
“ วันฉายที่เร็วที่สุดนั้นคือช่วงปลายเดือนตุลาคมนี่!”
ในสำนักงานใหญ่ของบริษัทเรทเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ผู้กำกับวัง ซูเฉิง และลูชินกำลังหารือเกี่ยวกับวันฉายหนังของพวกเขา
“ เราสามารถเปิดตัวในวันชาติที่ 11 ได้ไหม?” ซูเฉิงถามออกมา
ผู้กำกับวังที่ได้ฟังแบบนั้นก็คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วส่ายหัวออกมา “มันยากเกินไป! ในช่วงนั้นเป็นช่วงที่บริษัทภาพยนตร์ยักใหญ่ต่างก็เปิดตัวหนังของตัวเอง และผมคิดว่าถ้าหนังของเราเข้าฉายวันนั้นจริงๆ รอบฉายของเราอาจจะเป็นช่วงเวลาที่ไม่ดีก็ได้”
“และจากรายงานที่ผมได้รับมา มีหนังจากบริษัทลิดาฟิล์มถูกปล่อยออกมาถึง 3 เรื่อง ทั้งสามเรื่องนั้นก็ถือว่าเป็นหนังฟรอมยักอีกด้วย”
ซูเสียวที่ได้ฟังการวิเคราะห์อย่างมืออาชีพของผู้กำกับวังก็นิ่งเงียบไป : “พวกนั้นต้องรู้ว่าเราจะทำการเปิดตัวหนังของเราในช่วงนั้น ไม่อย่างนั้นพวกนั้นไม่จงใจปล่อยหนังของตัวเองออกมามากขนาดนั้น!”
ผู้กำกับวังเองก็ยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า: “มันเป็นความจริงของวงการนี้! ที่พวกนั้นสามารถทำแบบนี้ได้เพราะพวกนั้นมีความสัมพันธ์ในวงกว้างแต่เรากับไม่มีเลย ดังนั้นมันจึงไม่แปลกที่อีกฝ่ายจะกดดันเราได้มากขนาดนี้”
“แต่ถ้าเราไม่เปิดตัวในวันชาตินี้ เรายังสามารถไปเปิดตัวในเทศกาลฤดูใบไม้ได้”
“ปีหน้า?” ลูชินที่ได้ฟังมาซักพักก็ได้พูดขัดขึ้นมา “มันนานเกินไป! เพราะในช่วงเวลานั้นอาจจะมีบริษัทอื่นที่สามารถทำตัวกล้องฉายภาพเสมือนขึ้นมาได้ ฉันกลัวว่ามันอาจจะส่งผลกระทบต่อหนังของเราได้”
ที่ลูชินพูดออกมาแบบนั้นมีเหตุผล เพราะเขารู้ว่าตอนนี้ผลิตภัณฑ์ฉายภาพสามมิติของเขานั้นกำลังถูกสถาบันต่างๆศึกษาอยู่ ถึงแม้เขาจะมั่นใจว่าพวกนั้นไม่มีทางทำออกมาให้มีประสิทธิภาพเท่ากับของเขา
แต่มันก็ไม่อาจจะปฏิเสธได้ว่าถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง พวกเขาจะมีคู่แข่งขึ้นมา ดังนั้นเพื่อให้สอดคล้องกับแผนของสำนักงานใหญ่ บริษัทเรทเอ็นเตอร์เทนเม้นท์จะต้องพัฒนาภาพยนตร์สามมิตินี้ให้เร็วที่สุด
“ หากเราไม่ได้เปิดตัวในวันชาติและเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ ช่วงเวลาอื่นผมคิดว่ามันอาจจะทำให้กระแสหนังของเราไม่ดีเท่าที่ควร!” ผู้กำกับวังได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ เพราะว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ถือได้ว่าเป็นผลงานที่เขาภาคภูมิใจที่สุด และเขารู้ว่าถ้าเขาเลือกช่วงเวลาได้ถูก มันมีความเป็นไปได้ที่เขาจะได้รับรางวัลหรือไม่เขาก็จะกลายเป็นผู้กำกับชั้นนำทันที
“ถ้าช่วงปลายเดือนไม่ได้ งั้นเราก็เลื่อนมันมาช่วงกลางเดือนเป็นไง?” ลูชินได้พูดต่อว่า “นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับปัญหานี้ เพราะยังไงหนังของเราก็ไม่สามารถไปฉายในโรงภาพยนตร์ขนาดกลางและเล็กได้อยู่แล้ว ดังนั้นการเลือกช่วงไหนในการเปิดตัวก็ไม่ได้แตกต่างก็เท่าไหร่ “
“และถ้าหนังของเราดีจริง! เราก็ไม่ต้องกลัวว่าผู้ชมจะไม่มาดูใช้ไหม?”
“นี่เป็นความจริง!” ผู้กำกับวังเหมือนกับนึกอะไรขึ้นได้ เขามัวแต่ไปกังวลเกี่ยวกับวันเปิดตัวมากเกินไป จนเขาลืมไปว่าภาพยนตร์ของเขานั้นมันดีขนาดไหน และการตัดสินใจของประธานลูนั้นก็ทำให้เขาคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาได้
“ นอกจากนี้เราไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์” ลูชินพูดยิ้มๆว่า “ เพราะภาพยนตร์สามมิติของเรานั้นถ้าขาดอุปกรณ์ฉายภาพเสมือนจริงไปก็ไร้ประโยชน์”
……
หลังจากที่พวกเขาหารือกันอีกซักพัก ทุกอย่างก็สรุปได้ว่าพวกเขาจะทำการเปิดตัวภาพยนตร์ของพวกเขาในวันที่ 9 ตุลาคมในโรงภาพยนตร์ขนาดใหญ่ที่มีการติดตั้งอุปกรณ์ “ฉายภาพเสมือน” ทั่วประเทศ
ในตอนแรกพวกบริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์ยักใหญ่ต่างก็ต้องการกดดันบริษัทเรทเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ พวกเขาจึงทำการกำหนดวันเปิดตัวหนังของพวกเขาในช่วงเทศกาลใหญ่ๆ แต่พวกเขาไม่คิดว่าพวกนั้นจะมาไม้นี้ และกว่าที่พวกเขาจะรู้ตัวก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้แล้ว
และในช่วงเวลานั้นทางบริษัทเรทเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ได้ทำการโฆษณาอย่างยิ่งใหญ่ โดยที่พวกเขาบอกว่านี้จะเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่สำหรับทุกคน มันจะไม่เหมือนกับภาพฉายสามมิติที่เห็นในงานคอนเสิร์ตหรือไม่ก็ตามงานเทคโนโลยีต่างๆ
ในหน้าเว็บคาเฟ่ต่างๆเองก็มีการลงโฆษณาเกี่ยวกับภาพยนตร์นี้เช่นกัน สิ่งนี้ยิ่งเป็นตัวช่วยเสริมกระแสภาพยนตร์สามมิติให้ร้อนแรงมากขึ้น
ร้านคาเฟ่แห่งหนึ่ง ขณะนี้มีคนกำลังจพเล่นเกมสามก๊ก ระหว่างที่เขากำลังเริ่มเกมนั้น ตรงคอนโซลก็ได้ฉายเสมือนและหน้าจอการฉายที่คุ้นเคยปรากฏบนเดสก์ท็อป ถ้าเป็นช่วงเวลาปกติมันจะต้องเขาหน้าเกมทันที แต่ครั้งนี้มันกับปรากฏอินเทอร์เฟซอื่นขึ้นมา เขาที่เห็นแบบนั้นก็ได้อ่านข้อความที่ปรากฏว่า: “ภาพยนตร์สามมิติเรื่องแรกประวัติศาสตร์ที่จะสร้างความตื่นเต้นให้พวกทุกคน!”