บทที่212
ผู้แปล : N.
“อย่าคิดมากเกินไป” ลูชินได้พูดทำลายจินตนาการของเซียวไบว่า “เสี่ยวเหม่ย เธอเป็นเพียงโปรแกรมปัญญาประดิษฐ์ที่ใช้บนรถเท่านั้น เธอไม่ได้เป็นแบบนาย”
” อะไรนะ!” เซียวไบทำหน้าตกตะลึงที่ได้ฟังแบบนั้นก่อนที่เขาจะพูดว่า ” สุดท้ายเธอก็เป็นเพียงตุ๊กตากระเบื้องเท่านั้น”
“นายช่วยหยุดพูดก่อนได้ไหม?! “ลูชินไม่รู้ว่าทำไมไอ้เซียวไบถึงมีลักษณะแบบมนุษย์มากขนาดนี้
“นายรู้ตัวไหมว่าตัวเองทำอะไรลงไปบ้างก่อนที่นายจะมาอยู่ที่นี้ ” ลูชินถามออกมา
“เกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้เหรอ?” เซียวไบได้ใช้เวลาคิดซักพักก่อนที่จะตอบว่า “ผมจำไม่ได้ … ”
ลูชินที่ได้ยินแบบนั้นก็ตอบกลับว่า: “ไม่เป็นไร งั้นฉันขอสั่งนายไว้ตรงนี้เลยว่าถ้านายไม่ได้รับอนุญาตจากฉัน นายห้ามเปลี่ยนรางเด็ดขาด นายต้องรักษารูปลักแบบรถมอเตอร์ไซค์เท่านั้น”
“ถ้ามีใครขึ้นขี่ผมละ?” เซียวไบพูดต่อว่า “ผมก็พอมีเกียรติของดาวไซเบอร์ตรอนอยู่ในตัวนะ ถ้าคนนั้นเป็นผู้ชายผมอาจจะเผลอทำร้ายเขาไปก็ได้!”
“แต่ถ้าเป็นผู้หญิง ผมก็หยวนๆให้ได้ ”
“นอกจากนี้ผมก็มีเรื่องที่จะพูดในเรื่องอาวุธของผมด้วย ทำไมผมถึงไม่มีอาวุธจำพวกเลเซอร์หรือแม่เหล็กไฟฟ้าเลยละ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับผมจะทำไง? พ่อจะมาช่วยผมได้ตลอดไหม? “
” ดังนั้น ผมจึงมีความเห็นว่าพ่อควรติดตั้งตาเลเซอร์ไว้ตรงไฟหน้าของผม ถ้าเกิดมีศัตรูอยู่ข้างหน้าผมก็สามารถเผามันให้เป็นจุนได้ทันที แล้วเรื่องพลังงานนั้นผมขอเถอะอย่าเป็นน้ำมันเบนซินได้ไหม ผมกินเข้าไปแล้วเหมือนกินขยะยังไงไม่รู้! ”
“ระบบเร่งความเร็วนี้ผมก็คิดว่าจำเป็นต้องได้รับการปรับปรุง! ถ้าพ่อเพิ่มปีกหางเข้าไปด้วยมันจะช่วยทำให้ผมนั้นบินได้ด้วยนะ พ่อคิดดูว่ามันจะเท่แค่ไหนที่รถมอเตอร์ไซค์สามารถบินได้…”
“หยุดก่อน!” ลูชินได้พูดต่อว่า “ปัญหาพวกนั้นเราจะแก้มันทีหลัง แต่เรื่องที่นายจำเป็นต้องทำตอนนี้คือกลับไปเป็นรถมอเตอร์ไซค์ได้แล้ว “
เซียวไบไม่เต็มใจที่จะกลับไปเป็นแค่รถมอเตอร์ไซค์ธรรมดาอีกครั้ง มันจึงได้เดินหนีไปทันใดนั้นมันก็สังเกตเห็นโปสเตอร์นักร้องและเทปต่างๆในร้าน
มันได้เดินเข้าไปกดปุ่มที่อยู่ติดกับแผ่นเสียงที่ล้าสมัยและเพลงที่ไพเราะก็ดังขึ้น เซียวไบได้พูดอย่างตื่นเต้นว่า: “ช่างวิเศษเหลือเกิน พ่อดูสิ ผมคิดว่าได้เจอสิ่งที่รักแล้ว!”
“พ่อ พวกเขาเกิดมาก็สามารถร้องเพลงได้ดีขนาดนี้เลยไหม? ผมตัดสินใจแล้วว่าผมจะไปเป็นนักร้อง! ” เซียวไบได้พูดด้วยความตื่นเต้นและมันก็กำลังเลียนแบบเสียงร้องจากเทปที่มันได้ฟังอีกด้วย
แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงดังมาจากข้างนอกและก็มีคนเดินเข้ามาว่า
“นายรีบเปลี่ยนกลับมาเป็นรถมอเตอร์ไซค์ได้แล้ว!” ลูชินพูดจบเซียวไบก็กลับมาเป็นรถทันที
มีคนวัยกลางคนสองคนเข้ามาที่นี่ก่อนที่จะพูดกับว่า: “นายกำลังทำอะไรอยู่? หรือว่านายเป็นโจร?”
ลูชินที่ฟังแบบนั้นก็รีบอธิบายว่า: “ไม่ใช้ครับ พอดีเพื่อนของผมเมาหนักไปหน่อย เขาก็เลยขับรถมาชนร้านนี้เข้า แต่ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับผมจะรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมดเอง”
“เมาเหรอ?” ทั้งสองมองเข้าไปในร้านและแน่นอนว่าพวกเขาต้องเห็นเซียวไบที่กลับมาเป็นรถมอเตอร์ไซค์แบบเดิมแล้วและจางเกวียงที่กำลังแกล้งทำเป็นเมาด้วย
“นายได้ทำลายร้านของคนอื่น ยังไงนายก็ต้องการรับผิดชอบอยู่แล้ว เดียวฉันจะติดต่อเจ้าของร้าน พวกนายอย่าไปไหนละ!”
ลูชินไม่ได้ไปไหนเขาให้ความร่วมมืออย่างดี ในไม่ช้าเจ้าของร้านก็มาถึงและสิ่งแรกที่เขาแสดงออกมานั้นคือความโกรธ แต่ลูชินก็ได้เขาไปพูดกับเขาดีๆนั้นจึงทำให้สามารถแก้ไขได้อย่างง่ายดาย
เขาได้เสนอจะชดเชยค่าเสียหายทั้งหมดเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์และเขายังได้บวกเงินเพิ่มเขาไปอีก นั้นจึงทำให้เจ้าของร้านไม่ได้ติดใจเอาความอะไร
ในส่วนเรื่องที่พวกเขาได้ขับรถผิดกฎจราจรนั้นก็ได้รับการแก้ไขโดยชองบินเรียบร้อย แต่ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดสำหรับเขาตอนนี้คือเรื่องร้านของฟานฟาน นอกจากกำแพงที่ทะลุเป็นรูขนาดใหญ่แล้ว เซียงไบยังได้ทำลายอุปกรณ์ต่างๆที่อยู่ในร้านรวมถึงรถทุกคันที่อยู่ในร้านนั้นด้วย
ที่ร้านซ่อมรถ ฟานฟานเป็นคนแรกที่มาถึง หลังจากที่เธอได้รับโทรศัพท์จากพ่อของเธอในตอนเช้า และบอกว่าร้านของเธอได้เกิดอุบัติเหตุ เธอจึงรีบมาที่นี้กับจิงกวงทันที
เมื่อเธอมาถึงร้านเธอก็ตกใจกับสภาพร้านของเธอ!
ตอนนี้ในร้านเต็มไปด้วยสภาพยุ่งเหยิงเต็มไปหมด เหมือนเกิดอุบัติเหตุรถยนต์เข้ามาชนร้านของยังไงยังงั้นและแทบไม่มีอุปกรณ์ที่จะใช้ได้เลย!
รถยนต์ในร้านของเธอทั้งหมดก็ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์นี้เช่นกัน!
แต่สิ่งที่เป็นปริศนาที่สุดสำหรับเธอคือมีรูรูปรถมอเตอร์ไซค์ที่ผนังร้านของเธอ! มันเกิดขึ้นได้ยังไง ก่อนกลับไปมันยังไม่มีอยู่เลย แล้วใครมันบังอาจมาทำแบบนี้กับร้านของเธอ?
“ พ่อ! มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกับร้านของหนู ทำไมมันถึงพังแบบนี้?” ฟานฟานได้ถามออกมาด้วยเสียงดัง
ทางชองบินเองก็กำลังงงกับเรื่องนี้เช่นกัน ในตอนแรกที่เขาได้ยินลูชินพูดก็คิดไปว่ามันเป็นเพียงปัญหาเล็กน้อย แต่เมื่อเขามาเจอจริงก็งงไม่ต่างจากลูกของเขาเช่นกัน
เขาคิดว่าอาจจะเป็นจางเกวียงที่เมาแล้วเผลอทำลายร้านก็เป็นได้ เพราะเขารู้ดีว่าคนนี้มีความสามารถอะไรบ้าง?
ชองบินพูดอย่างมีเลศนัยว่า: “มันก็แค่เกิดอุบัติเหตุเล็กๆน้อยๆเท่านั้น ลูกไม่ต้องตกใจไปและอีกอย่างเรื่องนี้คุณลูเขาจะเป็นคนชดเชยให้ลูกเองทั้งหมด!”
ลูชินยังพูดอีกว่า: “ฉันต้องขอโทษเธอด้วยในสิ่งที่ฉันทำลงไป ฉันจะชดเชยค่าเสียหายให้เธอทั้งหมด ในอีกแง่หนึ่งไม่ว่าเธอจะเรียกมาเท่าไหร่ฉันก็ยินดีจ่าย “
” นายรู้ไหมว่ารถพวกนี้มีค่าเท่าไหร่? “จิงกวงได้พูดออกมาอย่างโกรธ “แล้วไหนจะพวกอุปกรณ์ที่เสียหายพวกนี้อีกละ ถ้าคิดเป็นเงินก็สูงถึงสิบล้านดอลลาร์ฮ่องกง!”
“นอกจากนี้ยังมีพวกรถมอเตอร์ไซค์ที่เสียหายไปอีก นายรู้ไหมว่ามันคิดเป็นเงินถึงสามล้านดอลลาร์ฮ่องกง! แล้วนายคิดว่าจะมีปัญญาจ่ายไหวหรือไง! ”
” เอาล่ะ ฉันต้องพูดขอโทษอีกครั้งและฉันก็ยืนยันคำเดิมที่ว่าจะชดใช้ให้พวกนายเอง “ลูชินพูดอย่างไม่เต็มใจ เพราะอุบัติเหตุนี้ไม่ใช้เขาเป็นคนทำ แต่มันเป็นไอ้รถเฮงซวยที่จอดอยู่นอกร้านนั้นต่างหากที่เป็นคนทำ!
ชองบินได้พูดกับจิงกวงตรงๆว่า: “เธอสามารถมั่นใจได้ว่าจำนวนเงินที่เธอพูดมานั้นไม่ได้มากมายอะไรเลยสำหรับคุณลู ฉันสามารถรับประกันแทนเขาได้ หรือไม่เธอก็มาเรียกเก็บเงินที่ฉันได้โดยตรง”
“แต่กว่าที่พวกหนูจะทำรถพวกนั้นได้ก็ลงทุนไปจำนวนมาก แล้ววันนี้เราก็มีนัดที่จะส่งให้ลูกค้าแล้วด้วย! “ฟานฟานได้พูดออกมา โดยที่เธอหวังว่าเรื่องนี้จะสามารถกดดันลูชินได้บ้าง
“เรื่องนั้นลูกไม่ต้องกังวลไป” ชองบินพูดต่อว่า “พ่อจะให้เงินลูกเป็นค่าเสียหายครั้งนี้ 5 ล้านเหรียญ ”
ลูชินเองก็พูดว่า: “ฉันเองก็จะให้เธอ 10 ล้านเหรียญเช่นกัน และฉันก็รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปจริงๆ
“สิบห้าล้านเหรียญ!” จิงกวงได้เผลอพูดออกมา