บทที่160
ผู้แปล : N.
เห็นสถานการณ์กลายเป็นแบบนี้ เฉิงหยิงไม่รู้ว่าต้องทำอะไร
เมื่อหูจิงได้ยินแบบนั้นก็พูดขึ้ยว่า: “นายพูดว่าอะไรนะ! ได้! ฉันจะไปเรียก ร.ป.ภ มาลากพวกแกออกไป!”
“คุณหูนี่ … ” เฉิงหยิงได้รีบเข้าไปห้ามทันทีแต่ก็ไม่ทัน
หูจิงได้วิ่งไปที่ประตูแล้วไปหาผู้คุ้มกันของซู่เซ๋วเหมิง
ทางด้านภายในห้องนั้น เซี่ยยูได้รู้ว่าตอนนี้ลูชินมาถึงแล้ว เขาประหลาดใจ: “ประธานลูมาถึงแล้ว ผมต้องออกไปรับเขาก่อน”
หลิงยูเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม: “อ่า ประธานลูมาถึงแล้ว พวกเราควรออกไปต้อนรับเขาด้วยกัน”
ซู่เซ๋วเหมิงได้ยืนขึ้นและออกไปกับพวกเขา
เมื่อพวกเขาออกมาพบ หูจิงพร้อมกับบอดี้การ์ดของซู่เซ๋วเหมิงสองคนกำลังเข้าไปหาลูชินและพวกเขายังได้ยินว่า: “พวกนั้นเป็นตัวสร้างปัญหา พามันออกไป!”
หลิงยูเฟิงไม่รู้จักลูชิน และเซี่ยยูก็ยังไม่ได้ออกมาจากห้อง
ซู่เซ๋วเหมิงได้เห็นการกระทำทั้งหมด เขาเข้าไปถามทันทีว่า: “หูจิง เกิดอะไรขึ้น?”
หูจิงกระซิบตอบว่า: “คนพวกนี้เข้ามาสร้างปัญหาให้พวกเรา ดังนั้นฉันจึงได้ให้คนไล่พวกนั้นออกไป!”
ซู่เซ๋วเหมิงได้ยินแบบนั้นก็ได้มองดูทั้งสามด้วยสายตาที่น่ารังเกียจและพูดว่า: “เป็นพวกที่น่ารำคาญจริงๆ”
เป็นเวลานานที่ไม่มีใครพูดคำนี้กับลูชิน
ทางด้านของหลิงยูเฟิงเขาได้เห็นว่าซู่เซ๋วเหมิได้เข้าไปผสมโรงการทะเลาะครั้งนี้ด้วยตัวเอง และเขายังได้พูดคำพูดที่รุนแรงออกไปอีกด้วย มันทำให้เขาต้องขมวดคิ้วออกมาหลังจากที่ได้เห็นการกระทำนั้น
ในความเป็นจริงเขาไม่ชอบซู่เซ๋วเหมิงมากนัก แต่เขาก็อยู่ในวงการนี้เช่นกัน ดังนั้นเขาต้องสุภาพกับเพื่อนร่วมทางคนนี้ แต่ในใจของเขาคิดว่า ‘คุณภาพของซู่เซ๋วเหมิงนั้นน่าผิดหวังจริง!’
เขาจึงได้เดินเข้าไปและพูดว่า: “เพื่อน นายควรเชิญพวกเขาออกไปดีๆ พวกเขาอาจจะมาผิดห้องก็ได้?”
เห็นการกระทำของหลิงยูเฟิง, ซู่เซ๋วเหมิงพูดในใจของเขาว่า: “แกมันใจกว้างจริงๆนะ!”
จากนั้นเขาก็พูดว่า: “โอ้ เห็นแก่หน้าของคุณหลิง พวกแกก็ออกไปจากห้องนี้ได้!”
ซู่เสี่ยวที่เห็นหลิงยูเฟิงก็ตื่นเต้นอยู่เล็กน้อย แต่เมื่อเธอได้ยินคำพูดของซู่เซ๋วเหมิงก็หมดอารมณ์ทันที!
หลังจากที่ซู่เซ๋วเหมิงพูดประโยคนั้นจบ เขาได้ยิ้มอย่างน่ารังเกียจและใช้สายตาดูหมิ่นไปทางพวกลูชินทันที ลูเว่ยที่เห็นทัศนคติที่รุนแรงของซู่เซ๋วเหมิงก็ไม่ไม่กล้าพูดอะไรเลย
ลูชินได้เข้าไปปลอบโยนและพูดว่า: “อย่ากลัวเลยฉันอยู่ที่นี่ ในวันนี้จะไม่มีใครสามารถรังแกพวกเธอได้”
เขาพูดจบก็ได้พากซู่เสี่ยวและลูเหว่ยไปนั่งบนโซฟาทันที เขานั่งตรงกลางแล้วพูดด้วยเสียงเบาๆว่า : “เซี่ยยู อีกนานไหมที่นายจะออกมา”
หลิงยูเฟิงได้เห็นว่าคนตรงหน้ายังคงดูสงบและเขายังพูดชื่อของเซี่ยยูขึ้นมาอีกด้วย หลิงยูเฟิงจึงถามไปว่า “สุภาพบุรุษคนนี้ คุณรู้จักเซี่ยยูด้วย?”
“แน่นอน ฉันรู้จัก” ลูชินพูดจบเซี่ยยูก็ได้เดินออกมาจากในห้อง
เมื่อเขาเห็นลูชินนั่งอยู่บนโซฟาเขาได้ยิ้มออกมาและพูดว่า: “ประธานมาเร็วจริงๆ ผมเพิ่งพูดว่าจะไปรับ ไม่คิดว่าประธานจะมาถึงแล้ว”
“ประธาน” หลิงยูเฟิงที่ได้ยินแบบนั้นก็แสดงอาการประหลาดใจออกมา ซู่เซ๋วเหมิงและหูจิงก็ไม่ใช่คนโง่มันเป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาเห็นว่าเซี่ยยูนั้นให้ความเคารพในน้ำเสียงตอนพูดไปแค่ไหน
หูจิงไม่เชื่อว่าลูชินจะเป็นประธานของของบริษัทลู่เทคโนโลยี เธอถามไปอย่างรวดเร็วว่า: “ประธานลู?”
เซี่ยยูได้ยินแบบนั้นก็พูดแนะนำ: “ใช้ คนตรงหน้าของผมนี้คือประธานใหญ่ของบริษัทลู่เทคโนโลยีของเรา ประธานลูชิน ”
เซี่ยยูที่พูดจบซุ่เสี่ยวก็ถามเป็นครั้งแรกว่า: “พี่เขย พี่เป็นประธานลูคนนั้น? “
ลูชินพยักหน้ายอมรับและลูเหว่ยที่อยู่ด้านข้างมองไปยังลูชินด้วยความประหลาดใจ พี่เขยของซู่เสี่ยวเป็นถึงเจ้าของบริษัทยักใหญ่ ก่อนที่เธอจะมาเธอก็คิดว่าพี่เขยของซุ่เสี่ยวแค่เป็นหัวหน้าแผนกเสียอีก ใครจะไปคิดว่าเขาจะสุดยอดขนาดนั้น
อย่างไรก็ตามไม่ใช้แค่พวกเธอจะตกใจ คนที่อยู่ที่นี้ก็ตกใจไม่แพ้พวกเธอเหมือนกัน!
หูจิงตะลึงทันทีที่นี้คือเรื่องจริง มันเป็นเรื่องจริง! เขาได้พูดให้พวกเธอออกมาขอโทษและเขาก็ยังเป็นประธานของบริษัทลู่เทคโนโลยีจริงๆ
ยิ่งกว่านั้นการที่เธอพึ่งไปด่าและไล่เขาออกไป มันเป็นการตัดอนาคตของพวกเธอไปจริงๆ นี่เป็นการเทน้ำมันลงบนกองไฟ!
หูจิงรู้สึกว่าตอนนี้โลกได้หมุน ตลอดมาที่เธอทำอาชีพของเธอ เธอไม่เคยประสบกับภัยพิบัติครั้งใหญ่เช่นนี้มาก่อน!
ทางด้านซู่เซ๋วเหมิงเองก็รู้สึกกลัวขึ้นมาเช่นกัน เขาได้พูดดูถูกลูชินไปและเขายังไล่ให้พวกเขาออกไปจากที่นี้อีกด้วย
แม้ว่าเขาจะได้รับความนิยมอย่างมากเมื่อเร็วๆนี้ และมีการขยายตัวของฐานแฟนคลับจำนวนมาก แต่เขาก็ยังไม่มีกล้าพอที่จะไปทำให้บริษัทลู่เทคโนโลยีโกรธได้!
ตอนนี้ในสถานการณ์นี้ เขาไม่รู้ว่าจะต้องพูดยังไงเขาได้มองไปทางหูจิงเพื่อขอความช่วยเหลือ อย่างไรก็ตามเขาเห็นได้ว่าตอนนี้ใบหน้าของหูจิงได้มีเหงื่อออกจำนวนมากบนหน้าผากของเธอ
เฉิงหยิงเองก็ตกใจเช่นกันที่สถานการณ์กลับกลายเป็นแบบนี้
หลิงยูเฟิงนั้นดีกว่าพวกนั้นมาก เพราะเขาไม่เพียงไม่ได้รุกรานลูชิน แต่เขากลับเข้าไปปกป้องพวกเขาในตอนแรกอีกด้วย
เขาพูดอย่างรวดเร็วว่า “เป็นโชคดีของผมในวันนี้ที่ได้เจอคุณลู ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก”
ลูชินลุกขึ้นยืนแล้วจับมือกับหลิงยูเฟิงแล้วนั่งลงอีกครั้ง
หูจิงได้ยิ้มออกมาและพูดว่า: “โอ้! คุณคือประธานลู ฉันต้องขอโทษในเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย!”
“มันเป็นเรื่องตลกร้ายที่ซู่เซ๋วเหมิงชอบทำ ฉันต้องขอ……… “
เธอต้องการแก้ไขเรื่องที่เกิดขึ้นนี้แต่เมื่อเธอกำลังพูดนั้นลูชินได้พูดขัดจังหวะเธอโดยตรงว่า “หยุด!”
เสียงของหูจิงหยุดลงทันที เธอครวญครางด้วยความประหลาดใจและมองดูซู่เซ๋วเหมิงและหลิงยูเฟิง
“ประธานลู เกิดอะไรขึ้น?” เซี่ยยูถามออกไป
“ คนสองคนนี้ ฉันไม่อยากเห็น” ลูชินพูดออกมาอย่างง่าย ๆ
ใบหน้าของซู่เซ๋วเหมิงนั้นแสดงออกอย่างน่าละอาย เขาคุ้นเคยกับเป็นผู้กระทำคนอื่นเสมอมา เขาไม่คิดเลยว่าเขาจะมีวันนี้ วันที่เขาเป็นฝ่ายที่ถูกกระทำ!
เขาต้องการที่จะทำอะไรบางอย่าง แต่หูจิงที่อยู่ข้างๆเขา ได้คว้าเขาไว้ก่อนและพูดด้วยน้ำเสียงที่น่ายินดีว่า: “คุณยังติดหนี้ขอโทษเด็กหญิงคนนั้นอยู่ คุณจำได้ไหม?”
“อะไรนะ? ฉันขอโทษ?” ซู่เซ๋วเหมิงแสดงอาการโกรธออกมาและพูดต่อว่า “เป็นไปไม่ได้ ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด ฉันไม่ต้องการพูดขอโทษออกไป”
“ฉันไม่ต้องการเป็นพรีเซนเตอร์ของบริษัทนี้แล้ว ฉันไม่คิดว่ามันจะหายากเย็นอะไรกับการเป็นพรีเซนเตอร์พวกนั้น!”
ลูชินพูดกับเซี่ยยูว่า: “ฉันไม่คิดเลยว่า นายจะไปหาดาราที่มีพฤติกรรมแย่ๆแบบนี้มาเป็นพรีเซนเตอร์ของบริษัทเรา”
เซี่ยยูได้ยินแบบนั้นหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีดำในทันทีและพูดขอโทษลูชินว่า: “ประธานลู ผมต้องขอโทษในความประมาทของผมในครั้งนี้ด้วย ผมจะไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก “