บทที่510
ผู้แปล : N.
“ทำไมพวกเขายังไม่รีบเข้าไปอีก?!” ผู้ชมทางบ้านอดใจรอไม่ได้ที่จะได้เห็นสภาพของผู้ป่วย
ไม่นานภาพที่พวกเขาได้รับก็ถูกเปลี่ยนไปยังทางเข้าวอร์ดอย่างรวดเร็ว ตรงหน้าประตูของวอร์ดเองก็ได้มีนักข่าวหญิงยืนอยู่ และพวกเขาเหมือนได้ยินเสียงดังออกมาจากหลังประตูนั้น ถ้าพวกเขาไม่ได้หูฝาดเหมือนกันทั้งหมดละก็ เสียงที่พวกเขาได้ยินนั้นเป็นเสียงคนกำลังหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข
เธอได้เคาะประตูก่อนที่จะเดินเข้าไป เธอได้สังเกตว่าผู้ป่วยทั้งสามนั้นกำลังนั่งและพูดคุยกันอย่างมีความสุข
คุณครูที่อยู่ใกล้ทางเข้ามาที่สุดได้สังเกตเห็นว่ามีแขกเข้ามา เธอจึงได้ยิ้มออกมาพร้อมกับพูดขึ้นว่า “พวกคุณคงเป็นนักข่าวใช้ไหม? มาๆ เดียวฉันจะปลอกแอปเปิ้ลให้พวกคุณ”
จากนั้นเธอก็ได้หยิบแอปเปิ้ลที่อยู่ข้างเตียงขึ้นมา แล้วเริ่มทำมัน
“ไม่จำเป็นเลยค่ะ! คุณไม่จำเป็นต้องมาเสียเวลากับเรื่องพวกนี้จริงๆ นี่คือ … ” นักข่าวรู้สึกเขินอายและแปลกใจเล็กน้อยกับการกระทำนี้ของผู้ป่วย
ตากล้องเองก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ เขาได้หันกล้องไปหาอีกสองและสภาพร่างกายที่ปรากฏออกมามันก็ทำให้พวกเขารู้สึกประหลาดใจมากยิ่งขึ้น!
ชายวัยกลางคนที่เคยดูมืดในตอนแรก มาตอนนี้เขากำลังพูดคุยออกมาอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าเขาจะยังไม่แข็งแรงเหมือนคนธรรมดา แต่เขาก็สามารถนั่งคุยและหัวเราะได้แล้ว
นักดับเพลิงเองก็มีอาการดีขึ้นมา เขายังพูดคุยหยอกคู่หมั่นสาวของเขาอย่างอารมณ์ดีอีกด้วย
คนที่มีสายตาปกติทุกคนจะเห็นได้ว่าสถานการณ์ของผู้ป่วยทั้งสามนั้นดีขึ้นมาก มิฉะนั้นพวกเขาจะไม่มีความสุขแบบนี้อย่างแน่นอน
ข้อมูลสามารถปลอมแปลงได้ แต่มันไม่สามารถปลอดรอยยิ้มที่เกิดขึ้นมาจากความสุขจริงๆได้ ดวงตาที่เคยว่างเปล่าและความสิ้นหวัง ในตอนนี้มันได้หายไปแล้ว และถูกแทนที่ด้วยดวงตาแห่งความหวังแทน!
“สวัสดีค่ะ! ฉันเป็นนักข่าวจากซีซีทีวี! ที่ฉันมาวันนี้ก็เพื่อต้องการสัมภาษณ์พวกคุณเกี่ยวกับการรักษาของพวกคุณในโรงพยาบาลฮงซินอินเตอร์เนชั่นแนล มันเป็นอย่างไรบ้างค่ะ! กับการระงับเซลล์มะเร็ง มันมีประสิทธิภาพจริงอย่างที่ทางโรงพยาบาลหงซินอินเตอร์เนชั่นแนลประกาศเอาไว้ไหม?” ผู้สื่อข่าวได้ถามเข้าประเด็นทันที
“มันมีประสิทธิภาพจริงๆ!” นักดับเพลิงได้ตอบกลับมาเป็นคนแรก “จริงๆนะ! และผมไม่ได้โกหกพวกคุณจริงๆ ผมจะบอกตรงๆว่าก่อนที่ผมจะได้รับการรักษานั้นแค่ผมลุกขึ้นมานั่งมันก็เป็นอะไรที่ปวดเป็นอย่างมาก แต่หลังจากที่ผมได้รับการรักษาแล้วไม่เพียงแต่อาการนั้นจะหายไป ผมยังสามารถลุกขึ้นเดินไปปกติอีกด้วย”
ถัดจากเขาไปไม่ไกล ทางคู่หมั้นของเขาได้ยิ้มออกมาและพูดว่า “คุณไม่ใช้แค่เดินได้ปกติเท่านั้น เมื่อไม่กี่วันก่อนฉันได้เห็นคุณตีลังกากลับหลังด้วย!”
“โอ้! ขอบคุณค่ะ! แล้วคุณคิดว่าสิ่งนี้มีประสิทธิภาพจริงไหมค่ะ?” นักข่าวได้หันไปถามชายวัยกลางคนที่อยู่ถัดไป
“ผม … ” ชายวัยกลางคนค่อนข้างรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยกับการถูกสัมภาษณ์แบบนี้ แต่เขาก็พยายามพูดออกมาว่า “ผมรู้สึกดีมาก! ร่างกายของผมเองก็ดีขึ้นมากเช่นกัน ผมต้องบอกว่าผมนั้นเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร ก่อนหน้านั้นผมไม่สามารถกินอะไรได้เลย เพราะกระเพาะอาหารของผมนั้นมันไม่ย่อย แต่หลังจากที่ผมได้รับการรักษาแล้วผมก็สามารถกินได้ตามปกติแล้วในตอนนี้”
” ใช้! การรักษาที่นี้ได้ผลจริงๆ “คำพูดของครูได้ดังขึ้นชัดเจนที่สุด ” ก่อนที่ฉันจะได้เข้ามารับการรักษาที่นี้ เซลล์มะเร็งในร่างกายของฉันได้แพร่กระจายออกไปแล้ว และไม่ว่าฉันจะไปรักษาที่ไหนพวกแพทย์ต่างก็บอกว่ามันสายเกินไปแล้ว มันไม่มีทางรักษาให้หายได้! แต่หลังจากที่ฉันได้เข้ามารับการรักษาที่นี่ เพียงครั้งแรกเซลล์มะเร็งที่กระจายไปทั่วมันก็ได้หยุดลง ”
” หลังจากสัปดาห์แรกผ่านไป เมือฉันได้รับการตรวจสภาพร่างกายปกติ แพทย์ได้บอกผลว่าเซลล์มะเร็งที่กระจายไปยังส่วนอื่นๆนั้นได้หายไปแล้ว และผลตรวจล่าสุดบอกว่าไม่เกินสองเดือน มะเร็งทั้งหมดของฉันก็จะถูกยับยั้งเอาไว้ได้ ”
หลังจากนั้นนักข่าวได้นำรายการตรวจสอบและเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์มาเพื่ออธิบายเพิ่มเติม
นอกเหนือจากการสัมภาษณ์ผู้ป่วยแล้ว พวกเขายังสัมภาษณ์ทีมแพทย์ของโรงพยาบาลหงซินอินเตอร์เนชั่นแนลอีกด้วย ตามด้วยผู้แทนองค์การอนามัยระหว่างประเทศ
ทางองค์การอนามัยระหว่างประเทศและองค์กรทางการแพทย์ต่างก็ดำเนินการตรวจสอบและสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นที่นี้อย่างจริงจัง ก่อนที่พวกเขาจะพบว่าผลการวิจัยของโรงพยาบาลหงซินอินเตอร์เนชั่นแนลในปัจจุบันนั้นไม่มีปัญหาใดๆ
หลังจากที่ผลการยืนยันนี้ออกมาผู้คนจำนวนมากที่ติดตามข่าวนี้ก็ไม่สามารถระงับอาการตื่นเต้นได้อีกต่อไป รวมไปถึงผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งจำนวนมากต่างก็เร่งรีบติดต่อไปยังโรงพยาบาลหงซินอินเตอร์เนชั่นแนลทันที
ไม่นานมานี้เองก็ได้ใครบางคนที่มีความเชี่ยวชาญในการทำธงเป็นพิเศษ เขาต้องการมอบธงนี้ให้กับทีมวิจัยและพัฒนายาเพื่อเป็นการแสดงถึงความขอบคุณที่พวกเขาทำคุณประโยชน์ให้กับผู้คนทั้งโลก
สื่อต่างประเทศและผู้ป่วยจากต่างประเทศเองก็ติดตามข่าวนี้อย่างใกล้ชิด พวกเขาต่างก็รีบติดต่อขอความร่วมมือกับโรงพยาบาลหงซินอินเตอร์เนชั่นแนลทันที
เมื่อเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ทางโรงพยาบาลหงซินอินเตอร์เนชั่นแนลได้ทำการการจัดตารางใหม่ทันที เพื่อที่ว่าพวกเขาจะสามารถเลือกแผนการให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่สุด และภาระงานหนักเช่นนี้มันก็ถูกโยนให้เป็นหน้าที่ของสมองควอนตัมอย่างเลี้ยงไม่ได้
นอกจากนี้เพื่อตอบแทนสังคมในนามของบริษัทลู่เทคโนโลยี พวกเขาจำเป็นต้องมีการรับอาสาสมัครเพื่อดูผู้ป่วยที่ป่วยหนักทุกเดือนไม่ว่าโรคจะร้ายแรงแค่ไหน!
การเคลื่อนไหวเช่นนี้ทำให้บริษัทลู่เทคโนโลยีได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทันที และมันยังสงผลให้เมืองในอนาคตแห่งนี้ในทะเลทรายซาหาร่านี้ได้รับความสนใจมากขึ้นตามไปด้วย
สามเดือนต่อมา เรื่องนี้ก็มาถึงจุดสูงสุด
เหตุผลที่เป็นแบบนั้นก็เนื่องมากจาก มหาเศรษฐีอย่างกามาได้ถูกปล่อยออกมาจากโรงพยาบาลหงซินอินเตอร์เนชั่นแนลเป็นที่เรียบร้อย และผลตรวจล่าสุดของเขาคือ เขานั้นได้หายจากการเป็นโรคมะเร็งแล้วร้อยเปอร์เซ็นต์!
อาจพูดได้ว่าเขานั้นเป็นผู้ป่วยรายแรกที่ได้รับรักษาให้หายจากโรคมะเร็งอย่างแท้จริง ตั้งแต่เปิดโรงพยาบาลหงซินอินเตอร์เนชั่นแนลมา!
แต่เดิมการรักษาโรคมะเร็งที่โรงพยาบาลหงซินอินเตอร์เนชั่นแนลนั้นไม่ได้รับประกันว่าจะหายขาด แต่เป็นเพียงการยับยั้งการเติบโตและการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็งเท่านั้น
แต่เคสของกามาที่หายขาดนั้นก็อาจจะเป็นเพราะสภาพทางการแพทย์ที่เขาได้รับจากช่วงแรกๆนั้นเป็นสิ่งที่ดีเป็นอย่างมาก และเพิ่มโชคอีกเล็กน้อย มันจึงทำให้เซลล์มะเร็งของเขาได้หายไปหมด!
หลังจากที่เขาได้รับข่าวนี้ เขาได้รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก มันทำให้เขาดูเด็กลงไปอีกสิบปีโดยฉับพลัน
ในวันเดียวกันนั้นเอง กามาได้ประกาศออกมาโดยตรงว่านอกเหนือจากค่ารักษาพยาบาลที่เขาต้องจ่ายแล้ว เขายินดีที่จะบริจาคเงินจำนวน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้แก่โรงพยาบาลหงซินอินเตอร์เนชั่นแนล ในชื่อส่วนตัวของเขา เพื่อเป็นการส่งเสริมการวิจัยทางการแพทย์และการก่อสร้างโรงพยาบาล
หลังจากที่ได้ยินข่าวนี้แบบนี้ ทางพี่น้องของกามาเองก็ได้บริจาคเฮลิคอปเตอร์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยที่สุดให้ทางโรงพยาบาลหงซินอินเตอร์เนชั่นแนลถึงสามลำทันที
พฤติกรรมของพวกเขาทำให้เกิดอิจฉาริษยาและความเกลียดชังแก่คนรอบข้างขึ้นมา แต่สำหรับผู้ป่วยแล้วเรื่องพวกนี้เป็นเหมือนพรสำหรับพวกเขา โดยการบริจาคในครั้งนี้พวกเขาก็จะมีเปอร์เซ็นต์ที่จะได้รับการรักษามากขึ้น
เมื่อไม่นานมานี้เอง พื้นที่ใกล้ๆกับโรงพยาบาลหงซินอินเตอร์เนชั่นแนลก็ได้ปรากฏโรงแรมสามดาวขึ้นมาถึงสามแห่ง และนอกเหนือจากนั้นก็ปรากฏสถาบันทางการแพทย์ที่มีชื่อเสียงขึ้น แห่งช็อปปิ้ง ร้านอาหาร การบริการขนส่ง และอื่นๆ
นอกจากนี้ยังมีบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งที่สมัครเข้ามาเพื่อร่วมกันพัฒนาเมืองแห่งอนาคตนี้ขึ้นมาในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา
ทางบริษัทลู่เทคโนโลยีเองก็ยังได้อนุมัติให้องค์กรขนาดใหญ่กว่า 300 แห่งเข้ามาตั้งรกรากในเมืองแห่งอนาคตนี้ทันที ซึ่งบริษัทมากกว่า 80 แห่งนั้นติดอันดับ 500 อันดับต้นๆบริษัทที่มีอิทธิผลของโลก!
ด้วยความสามารถและทรัพยากรทางการเงิน มันจึงทำให้การพัฒนาเมืองแห่งอนาคตกำลังดำเนินไปอย่างรวดเร็ว และมาตรฐานการก่อสร้างทั้งหมดเองก็ได้รับการตรวจสอบโดยแดงน้อยตลอดเวลา เพื่อให้แน่ใจว่าการก่อสร้างของเมืองตรงตามข้อกำหนดการก่อสร้างของเมืองอัจฉริยะ
ในเวลานี้ลูชินไม่ได้กระตือรือร้นที่จะพัฒนาและสร้างอะไรใหม่ๆขึ้นมา เขายังคงพยายามผลักดันให้โรงพยาบาลหงซินอินเตอร์เนชั่นแนลตั้งหลักได้โดยเร็วที่สุด
ศูนย์สมองควอนตัมของแดงน้อย ลูชินได้มาที่นี่เพื่อช่วยยกระดับของเธอและยังคอยมาบำรุงรักษาในขณะที่ตรวจสอบข้อมูลที่เกี่ยวข้องของโรงพยาบาลหงซินอินเตอร์เนชั่นแนลในช่วงเดือนที่ผ่านมา
“จำนวนผู้เข้าชมในเว็บไซต์ของโรงพยาบาลหงซินอินเตอร์เนชั่นแนลได้มาถึง112 ล้านคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว”
” จำนวนผู้ป่วยนอกเฉลี่ยต่อวันในแผนกผู้ป่วยนอกเท่ากับ 13,000 คนและจำนวนผู้ป่วยใน … ” ข้อมูล
ส่วนใหญ่ดำเนินไปด้วยดี
จนมาถึงเรื่องนี้ : “เนื่องจากมีผู้ป่วยจำนวนมากที่ได้ร้องขอเข้ามารักษาในโรงพยาบาลหงซินอินเตอร์เนชั่นแนล มันจึงทำให้ธนาคารเลือดและอวัยวะสำรองของเรามีไม่เพียงพอ ดังนั้นหนูจึงคิดว่าเราควรจะให้ความสำคัญกับการสร้างอาคารทั้งสองแห่งนี้เป็นการด่วน”