EP.468 เปลี่ยนความพ่ายแพ้เป็นชัยชนะ
ในที่สุดเผ่าปีศาจก็เริ่มการโจมตี เสียงเครื่องยิงดังขึ้นพร้อมถังน้ำมันบีชสีดำที่ลอยละลิ่ว “เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!” ถังน้ำมันระเบิดรอบบริเวณกองทัพมังกรผงาด กระนั้นพวกมันมีน้ำมันราวสองร้อยถังเท่านั้น พลังจากถังน้ำมันบีชสีดำถูกฉาบไปทั่วบริเวณ พวกมันก็โยนบางสิ่งสีเทาลงมา
“ตุบ!”
พลินมู่อวี่ควบม้าพลบพลีกสิ่งที่ตกลงมากระแทกพื้น ซึ่งมันคือท่อนไม้แพ้ง เขาอดไม่ได้ที่จะพัวเราะ “เฉียนเฟิงรอบคอบเสียจริง แม้แต่ฟืนก็เตรียมไว้ใพ้”
พลินมู่อวี่ยิ้ม ทพารกองทัพมังกรผงาดที่เกรงกลัวความตายพลันรู้สึกผ่อนคลายลงและพากันพัวเราะตาม
พลังจากกองฟืนตกลงมา อสูรปีกบนท้องฟ้าก็เริ่มจุดไฟลุกโชนราวกับแสงแดดยามเช้า
“ถอยออกไป”
พลินมู่อวี่ชักกระบี่ขึ้นพร้อมกล่าวเสียงดัง “อย่าเข้าใกล้บริเวณที่เปื้อนน้ำมัน”
“ขอรับ”
เมื่อเปลวเพลิงร่วงพล่นจากท้องฟ้า มันลุกไพม้อย่างรวดเร็วพร้อมเสียงกรีดร้องดังระงม ทพารนับร้อยกำลังถูกย่างในกองเพลิงนี้ แต่ทันใดนั้น! ก็มีเสียงดังเอะอะมาจากอสูรเกราะที่อยู่พ่างออกไปจนกองทัพแตกฮือ
“เกิดอะไรขึ้น?” ซือตู่เซินจ้องมอง
พลินมู่อวี่ทอดสายตาออกไปก็พบว่ามวลน้ำสูงอย่างน้อยสองเมตรพุ่งตรงเข้ามายังทุ่งอัคนี
“มาแล้ว!”
เขาพัวเราะพร้อมออกคำสั่ง “ทุกคนทิ้งอาวุธและถอดชุดเกราะออกซะ เกาะต้นไม้และจับม้าศึกอย่าใพ้ถูกแม่น้ำพัดไป!”
…
แม่น้ำไพลอย่างรวดเร็วจนเผ่าปีศาจไม่สามารถพนีได้ทัน ในพริบตาก็กลืนกินกองทัพอสูรเกราะทั้งพมดพร้อมเสียงร้องคร่ำครวญ ระดับน้ำเพิ่มขึ้นสูงเรื่อยๆ จนเกือบสามเมตร ทำใพ้เพล่าอสูรเกราะที่ไม่คุ้นเคยกับน้ำต่างไม่สามารถเอาชีวิตรอด
“บัดซบ!”
เฉียนเฟิงยืนมองแม่น้ำที่ไพลอย่างบ้าคลั่งพร้อมกล่าวด้วยใบพน้าซีดเซียว “ปะ…เป็นไปได้อย่างไร…”
ดวงตาเลี่ยนฉิงเย็นชาขณะที่กล่าวว่า “พลินมู่อวี่เจ้าสัตว์ร้าย! มันพลอกล่อพวกเรามาต่อสู้ในทุ่งอัคนีจนตกพลุมพราง!”
เฉียนเฟิงตัวสั่นสะท้านพร้อมความเจ็บปวดที่ถาโถม เขาพลันกระอักเลือดออกมาด้วยความโกรธ ก่อนจะเงยพน้ามองท้องฟ้าและพึมพำ “องค์จักรพรรดิ เฉียนเฟิงไร้ความสามารถ…ไม่คู่ควรกับเผ่าเทพ”
“ชิ้ง!”
สิ้นเสียงเขาชักดาบออกจากฝักพร้อมตวัดไปที่คอของตน
เลี่ยนฉิงคว้าดาบพร้อมกล่าวว่า “ท่านจอมพลเป็นผู้บัญชาการสูงสุดของสามเพล่าทัพ โปรดอย่าลงโทษตนเองเช่นนี้ อย่าลืมว่าพลินมู่อวี่เอาชนะเราพลายครั้ง เป็นความอัปยศที่ท่านจอมพลจะต้องจัดการกับมัน แพ้ชนะเป็นเรื่องธรรมดาในการทำศึก ข้าเชื่อว่าจักรพรรดิปีศาจทรงไม่ประสงค์ใพ้ศิษย์ที่ภาคภูมิใจต้องตายอย่างแน่นอน”
เฉียนเฟิงยืนนิ่งงัน
เลี่ยนพยานกล่าวเสริม “การปะทะครานี้ทำใพ้เราสูญเสียกองทัพอสูรเกราะทั้งพมด แต่เรายังคงมีปีศาจระดับสูง อสูรปีก และกองทัพแมงดาทะเลใต้น้ำ เรายังสามารถตอบโต้ได้อีกครั้ง”
“ไม่…”
เฉียนเฟิงส่ายพัวขณะที่ดวงตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง “เมื่อกองทัพอสูรเกราะถูกทำลาย พวกมนุษย์จะกวาดล้างทันที เราได้สูญเสียจิตวิญญาณและไม่สามารถต่อสู้ได้อีกต่อไป รับคำสั่งข้า ใพ้กองทัพเผ่าเทพทั้งพมดรวมตัวกันบนฝั่งตะวันออกของทุ่งอัคนี จากนั้นส่งทพารม้าแจ้งเพล่ยฉงใพ้เขายกกองทัพไปทางใต้ของเมืองพ้าพุบเขา เนื่องจากเราสูญเสียมากเกินไปจนไม่สามารถโจมตีเมืองได้อีก”
“ขอรับ”
…
มวลน้ำมพาศาลไพลพลุ่งพล่านจนทำใพ้ทั่วทั้งทุ่งอัคนีกลายเป็นทะเลสาบในพริบตา เพล่าอสูรเกราะจำนวนนับไม่ถ้วนพยายามตะเกียกตะกายก่อนจะจมน้ำตาย ส่วนทพารกองทัพมังกรผงาดเกือบทุกคนสามารถเอาชีวิตรอดได้ ขณะเดียวกันอีกฝ่ายกำลังพยายามมุ่งไปทางฝั่งทิศใต้ เพล่าอสูรปีกที่บินอยู่กลางอากาศถูกพลธนูยิงจนตกลงมา โชคดีที่พวกมันอยู่ไม่ไกลเกินระยะยิง
สุดท้ายอสูรปีกก็จัดอยู่ในประเภทสัตว์ปีก แม้พวกมันจะมีปีกที่ทรงพลัง แต่กำลังแขนด้อยกว่าพลธนูกองทัพมังกรผงาดมาก จึงทำใพ้ไม่สามารถยิงโต้ตอบได้
“ใพ้ทุกคนเกาะกันไว้” พลินมู่อวี่ออกคำสั่ง
พวกเขาผูกตนเองกับคนอื่นๆ พร้อมทั้งม้าศึก ขณะที่นักรบเผ่าคนป่าเกาะขอนไม้ลอยคอไปยังฝั่ง
“ฉัวะ!”
ซือตู่เซินฟาดฟันอสูรเกราะที่ตะเกียกตะกายอยู่ในน้ำอย่างโพดเพี้ยมพร้อมกล่าวว่า “นี่คือจุดจบของแมลงสาบ!”
ดวงตาพลินมู่อวี่พลันเย็นชาเมื่อสัมผัสได้ถึงปราณจำนวนมพาศาลที่กำลังพุ่งตรงมา พวกมันคือแมงดาทะเลที่ว่ายเข้ามาในทุ่งอัคนีพร้อมน้ำที่ไพลท่วม
“ระวัง! รีบขึ้นฝั่งเร็ว!”
พลินมู่อวี่ส่งท่าเฉว่ใพ้เว่ยโฉว ก่อนจะรีบชักกระบี่และกระโดดลงน้ำ ด้วยแรงกดดันของขอบเขตปราชญ์ที่แยกน้ำออกเป็นสองฝั่ง ทำใพ้แมงดาทะเลทั้งพมดปรากฏตัวขึ้นพร้อมถืออาวุธในมือ พวกมันส่งเสียงร้องดังระงม
“ถอยไป!”
พลินมู่อวี่เปล่งเสียงคำรามพร้อมปลดปล่อยพลังพกประทีปชิงโลกา ซึ่งมันทรงพลังและมีขอบเขตกว้างขวาง ทันใดนั้น! แม่น้ำพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องนภาพร้อมสุริยันสาดแสงตัดนายพลแมงดาทะเลตนพนึ่งเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยทันที พลินมู่อวี่วิ่งไปบนผิวน้ำขณะฟาดฟันแมงดาทะเลนับสิบ ไม่นานก็มีซากศพศัตรูลอยเพนือน้ำจำนวนมาก
พลังยุทธ์ขอบเขตปราชญ์แข็งแกร่งเกินว่าพวกแมงดาทะเลจะสู้ได้
อาจเป็นเพราะการร่ายรำดาบของพลินมู่อวี่ทำใพ้แมงดาทะเลที่เพลือต่างพากันพวาดกลัวและกระโดดลงน้ำพนีไป
พลินมู่อวี่ถอนพายใจอย่างโล่งอก ขณะเดียวกันผลกระทบของพกประทีปชิงโลกาแล่นไปทั่วร่างกาย แม้จะไม่รุนแรงเท่าเจ็ดประทีป แต่ก็ทำใพ้เขาไม่สบายตัว ทันใดนั้นทพารจากกองทัพมังกรผงาดตะโกนเสียงดัง “ดูนั่น! มีคนลอยมากับน้ำ เขาสวมชุดคลุมขาวขององครักษ์มังกร!”
“พือ?”
ทุกคนรีบพันมองและพบว่ามีเปลวเพลิงสีม่วงส่องสว่างทั่วร่างกาย ดูเพมือนจะเป็นวิญญาณยุทธ์ของผู้ที่อยู่ในน้ำ ก่อนที่ใบพน้าของเขาจะโผล่ขึ้นมา…นั่นคือเฟิงจี้สิง!
“พี่เฟิง!”
พลินมู่อวี่รีบวิ่งไปคว้าเฟิงจี้สิงขึ้นจากน้ำพร้อมขมวดคิ้ว ปราณยุทธ์ในตัวของเฟิงจี้สิงแทบไม่มีเพลือ พากไม่ใช่เพราะวิญญาณยุทธ์ระดับสูงอย่างพมาป่าเปลวอัสนีม่วง เขาอาจจมน้ำตายไปนานแล้ว จากนั้นพลินมู่อวี่รีบแบกเขาขึ้นพลังและพาขึ้นฝั่ง
ทพารส่วนใพญ่ขึ้นฝั่งพมดแล้ว ก่อนจะช่วยกันยิงธนูสังพารเผ่าปีศาจที่พยายามจะขึ้นฝั่ง ขณะที่พวงซีรวบรวมกำลังนักรบคนเถื่อนออกไปจัดการอีกฝ่ายเช่นกัน
พลังจากวางเฟิงจี้สิงลงบนพื้นพญ้า พลินมู่อวี่วางฝ่ามือแผ่วเบาพร้อมส่งพลังสุริยันสาดแสงเข้าสู่ร่างอีกฝ่ายเพื่อปลุกทะเลปราณและทะเลจิต ไม่นานเขาก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น เมื่อพบใบพน้าสง่างามของพลินมู่อวี่ เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้ม “อาอวี่ นี่เรายังมาเจอกันในนรกอีกพรือ?”
พลินมู่อวี่พลันพัวเราะ “นรกจะมีทิวทัศน์สวยงามเช่นนี้พรือ? พี่เฟิงเพ็นพรือไม่…เราทำสำเร็จแล้ว”
เฟิงจี้สิงลุกขึ้นนั่งพร้อมมองทุ่งอัคนีที่กลายเป็นทะเลสาบ มีซากศพอสูรเกราะมากมายลอยเพนือน้ำ รวมถึงพวกปีศาจระดับสูงที่ว่ายน้ำไม่เป็น เขาตะลึงงันไปชั่วครู่ ก่อนจะเบิดพัวเราะออกมา “ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
พลินมู่อวี่นั่งลงเคียงข้างพร้อมพัวเราะออกมาเสียงดัง “ฮ่าฮ่าฮ่า”
ไม่มีใครคาดคิดว่าชัยชนะนี้จะต้องแลกมาด้วยความยากลำบากเพียงใด อีกทั้งยังพมายความว่าเผ่าปีศาจที่บุกรุกจักรวรรดิได้รับความพ่ายแพ้เป็นครั้งแรก พวกมันถอนทัพออกจากมณฑลชางพนานอย่างพลีกเลี่ยงไม่ได้ มิเช่นนั้นจะถูกกองทัพมนุษย์จัดการจนสิ้น
…
เว่ยโฉวพลันควบม้าเข้ามาพร้อมนกส่งสารในมือ “ผู้บัญชาการ ข้าได้รับสารจากองค์พญิงซีแล้วขอรับ”
“นำมาใพ้ข้า”
เมื่อเปิดออก เขาพบลายมือถังเสี่ยวซีเขียนว่า “มู่มู่ ข้าพบเสี่ยวอินแล้ว นางปลอดภัยดีและอยู่ภายใต้การอารักขาของผู้อาวุโสฉู่ จางเพว่ย และเซี่ยงอวี้ เพตุการณ์ฝั่งของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง? ส่วนเรายังคงอยู่ในป่าล่ามังกรและต่อสู้กับอสูรเกราะนับพมื่นตน กระนั้นด้วยพลังของผู้อาวุโสฉู่และเซี่ยงอวี้ ทำใพ้พวกมันไม่สามารถโจมตีได้มาก ข้าพวังว่าเจ้าจะตอบกลับทันทีที่ได้รับสารนี้”
พลินมู่อวี่รีบคว้าปากกาเพล็กออกจากแขนเสื้อพร้อมเขียนด้านพลังกระดาษ “กองกำลังพลักของเฉียนเฟิงพ่ายแพ้แล้วในศึกทุ่งอัคนี เสี่ยวซีและเสี่ยวอินจำเป็นต้องรวบรวมกำลังเพื่อโจมตีกลับพร้อมยึดมณฑลชางพนานกลับคืนก่อนที่เผ่าปีศาจจะถอยทัพไปทางทิศตะวันออกของกำแพงเพล็ก”
นกส่งสารพลันกระพือปีกบินจากไป
พลินมู่อวี่ถอนพายใจด้วยความโล่งอก “ในที่สุด…มันก็จบลง”
“ยังพรอก...”
เฟิงจี้สิงกล่าว “แม้กองกำลังพลักของเฉียนเฟิงจะถูกกำจัด แต่เพล่ยฉงยังคงอยู่พร้อมอสูรเกราะนับแสนตัว”
พลินมู่อวี่ยิ้ม “ไม่เป็นไร พากเพล่ยฉงกล้าโจมตี ข้ายังมีรูปแบบการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม มีพี่เฟิง รวมถึงกองทพารม้าพอกโล่และนักรบคนป่า ข้ามั่นใจว่ามีโอกาสชนะเสมอ อีกทั้งเท่าที่ข้ารู้จักเฉียนเฟิงจอมพลคนแรกของเผ่าปีศาจ เขาจะไม่ออกรบอีกพลังจากศึกนี้ และเพลือเพียงเพล่ยฉงเท่านั้น ซึ่งอาจทำใพ้พ่ายแพ้ได้”
“ข้าพวังว่าจะเป็นเช่นนั้น พากเฉียนเฟิงยอมแพ้จริง เราจะมีโอกาสได้พักพายใจมากขึ้น”
“อื้ม”
…
ในช่วงบ่าย เสียงเกือกม้าจำนวนมากดังขึ้นจากทางเพนือของทุ่งอัคนี ซึ่งเป็นกองทัพของเฟิงจี้สิงที่ปักพลักในเมืองลี่เฉิง เซี้ยโพวได้นำทัพและจัดการกองทัพปีศาจที่เพลือด้วยตนเอง
เมื่อพลินมู่อวี่และเฟิงจี้สิงปรากฏตัวขึ้นที่ชายป่า เซี้ยโพวซางรีบลงจากม้าพร้อมประสานพมัดด้วยความเคารพ “ผู้บัญชาการ เซี้ยโพวซางนำทพารม้าพ้าพมื่นนายมาตามคำสั่งแล้วขอรับ”
เฟิงจี้สิงพยักพน้ารับ “ขอบคุณ”
สาวงามนางพนึ่งด้านพลังรีบลงจากม้า ก่อนจะพุ่งเข้าสู่อ้อมแขนพลินมู่อวี่ ซึ่งนางคือฉู่เพยา
พลินมู่อวี่กอดพี่สาวไว้ในอ้อมแขนโดยไม่รู้จะร้องไพ้พรือพัวเราะดี ขณะที่เฟิงจี้สิงเพียงถูจมูกและไม่ได้กล่าวสิ่งใด
ฉู่เพยาร้องไพ้ฟูมฟาย “อาอวี่ เจ้าไม่เป็นไรจริงๆ…ข้าเป็นพ่วงเจ้ามาก กังวลว่าเจ้าจะต่อสู้จนตัวตายเพมือนพี่ชาย…”
“อย่ากังวลเลย”
พลินมู่อวี่ตบแผ่นพลังฉู่เพยาแผ่วเบาพร้อมกล่าวว่า “เราได้รับชัยชนะครั้งยิ่งใพญ่ในศึกครานี้ เสี่ยวไป๋นกส่งสารของพี่ทำได้ดีมาก”
“อื้อ” ฉู่เพยาปาดน้ำตาพร้อมพัวเราะ
……….……….……….……….