แวนด์ เมืองมหาปราการที่ยิ่งใหญ่และงดงามที่สุดในทวีปกลาง หรือรู้จักกันในอีกนามหนึ่งว่าเรือบกแห่งเบลเทมไฮม์
มันคือปราการสีขาวบริสุทธิ์ขนาดใหญ่ที่ตั้ง ณ เขตชายแดนทางตะวันออกของอาณาจักรเวทมนตร์ ติดกับทุ่งราบสีเขียวมรกตที่กว้างใหญ่สุดขอบฟ้าและเทือกเขาสูงที่ทอดยาวไปจนถึงแดนเหนือ เมืองแห่งนี้มีลักษณะคล้ายกับเรือรบสีขาวที่ถูกล้อมรอบด้วยกำแพงหินแกะสลักรูปทรงวิจิตรตาทั้งหมด 9ชั้น ที่กินพื้นที่กว้างไปจนถึงสุดขอบชายแดนของอาณาจักร เป็นดั่งโล่ที่คอยป้องกันดินแดนแห่งปัญญาชนจากการรุกรานของศาสนจักรจากเทือกเขาทุมบาร์
ตลอด 1ปีมานี้ฉันทำหน้าที่เป็นผู้นำทางให้กับหน่วยทหารและกลุ่มนักผจญภัยที่รับงานลาดตระเวณบริเวณชายแดนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกคนเถื่อนจากอีกฝากจะไม่หลุดรอดเข้ามายังอาณาจักรของพวกเราได้ ด้วยความที่ฉันเกิดมาพร้อมกับสิ่งที่ถูกเรียกว่า “ความทรงจำสมบูรณ์”นั่นทำให้ฉันสามารถจดจำสิ่งต่างๆ ได้ทุกระเบียบนิ้วผ่านการสัมผัสทุกรูปแบบ นั่นทำให้ฉันสามารถจดจำรายละเอียดเกี่ยวกับบริเวณชายแดนทั้งหมดได้อย่างละเอียด และการนำทางให้ผู้คนเหล่านี้ได้กลับบ้านไปพบหน้าครอบครัวกันได้อย่างปลอดภัยก็คือหน้าที่ของฉัน
“วันสุดท้ายแล้วสินะ”
“นั่นสินะ อยากกลับไปกินอาหารฝีมือมาเรียเร็วๆ จัง” เสียงพูดคุยกันของเหล่าชายหนุ่มที่ดีใจจะได้กลับบ้านจากการลาดตระเวนอันยาวนานพูดคุยกัน
พวกเขาส่วนใหญ่เป็นอดีตทหารที่อพยพมาจากนอร์ทวินด์ซึ่งพ่อกับแม่ของฉันเคยให้ความช่วยเหลือเมื่อนานมาแล้ว คงจะบอกได้แค่ว่าพวกเขาคือกลุ่มคนที่เสียสละมามากและไม่ควรจะมาอยู่ที่นี่มากที่สุด แต่จะพูดอะไรมากก็ไม่ได้หรอกนะเพราะต่อให้ฉันจะฉลาดขนาดไหนยังไงก็เป็นแค่เด็ก 6ขวบและเป็นคนที่ไม่ควรจะอยู่ที่นี่มากกว่าพวกเขาซะอีก
“เป็นอะไรไปนาคาซหน้าเครียดเชียว พักผ่อนซักหน่อยเถอะ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ” ฉันตอบกลับไประหว่างกำคทาที่ร่ายเวทตรวจจับตลอดเวลาตั้งแต่ตอนที่เราตั้งแคมป์กัน
“พักเถอะน่า ตลอด 4วันมานี้แกช่วยพวกเรามามากพอแล้ว พักซักหน่อยจะเป็นอะไรไป” วินซ์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพร้อมยื่นแก้วไม้ที่มีชาแอปเปิ้ลอุ่นๆ มาให้พร้อมกับซุปเนื้อและขนมปังอีก 3ก้อน
วินเซนต์เป็นชายชราร่างยักษ์ที่มีผมสีเงินและดวงตาสีฟ้าครามที่ใจดีผิดกับรูป เขาเป็นอดีตทหารมากประสบการณ์ที่เดินทางจากบ้านเกิดมาไกล และเขายังเป็นคนที่คอยสอนวิชาต่างๆ ให้กับฉันตั้งแต่ที่จำความได้ วินซ์มักจะตามมาดูแลฉันทุกครั้งที่มีโอกาสเสมอจนเรียกได้ว่าเขาเป็นทั้งอาจารย์คนแรกและคนที่ร่วมงานกับฉันบ่อยที่สุดเลยก็ว่าได้
“เป็นเด็กเป็นเล็กต้องเข้านอนเช้าๆ และก็กินเยอะๆ ร่างกายจะได้แข็งแรงและโตไวนะ เพราะฉะนั้นกินซะแล้วอีกซักพักค่อยไปนอน”
พวกเราสบตากันนานสักพักและฉันก็ส่งสายตาเป็นการปฏิเสธไปกลายๆ แต่วินซ์ก็ไม่ยอมแพ้จนฉันต้องถอดใจ
“คราบๆ จะไปนอนแล้วคราบ” ฉันตอบแบบไร้ใจนิดหน่อยพร้อมกับเก็บไม้คทาและกินอาหารที่เขายื่นมาให้หลังจากนั้นสักพักก็ไปนอนในที่ของตัวเอง
“ไม่ต้องทำหน้ากังวลนักหรอกน่า ที่เหลือพวกเราจัดการกันต่อเอง” เหล่าอดีตทหารพูดไล่หลังฉันมาด้วยน้าเสียงขึงขัง
เฮ้อ~ เหนื่อยเป็นบ้าเลยแฮะ ขอหลับซักเวรนึงแล้วค่อยตื่นมาคุมเวรต่อก็แล้วกัน……