ตามคำพูดของไคซาร์ เอียนมองผู้อาวุโสใหม่
‘หากพวกเขารอดชีวิตหลังต่อสู้กับไคซาร์ นั่นหมายความว่าพวกเขาอยู่ในเลเวลเดียวกันใช่ไหม?’
ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเป็นคนที่น่ากลัวและเอียนก็ตรวจสอบเวลาคูลดาวน์สกิลของเขาเพื่อให้พวกเขาสามารถเริ่มต่อสู้ได้ทันที
อย่างไรก็ตามแตกต่างจากเอียนที่ระวัง ไคซาร์เข้าหาผู้อาวุโสด้วยการก้าวยาวๆและพูดกับเขา
“ไม่ได้เจอกันนานครับผู้เฒ่า”
และผู้เฒ่าที่ไคซาร์จ้องมองเล็กน้อยขณะที่เขาพูด
- เจ้าตัวร้ายพูดให้ดีๆหน่อย ข้ายังมีชีวิตอยู่งั้นหรอ? ข้าตายแล้ว ข้าจะไม่เป็นผีถ้าข้าไม่ตายด้วยมือของเจ้าเมื่อสิบปีก่อน
ในขณะที่เขามองเขาบ่น ไคซาร์แสยะยิ้ม
“อ่อ อย่างงั้นหรอ?”
ในขณะที่ทั้งสองพูดคุย เอียนเดินเข้ามาใกล้ทั้งสองจนเขาจะอยู่ตรงหน้าพวกเขาและสายตาของผู้เฒ่าหันไปหาเอียน
- ใครคือเจ้าเด็กนั่น? เจ้าเป็นศิษย์หรือเปล่า? อ่า นั่นอาจจะไม่ใช่ นั่นคือเนื่องจากเจ้าจะไม่ได้รับเป็นซัมมอนเนอร์ในฐานะศิษย์
ไคซาร์ซึ่งหัวเราะออกมาได้ตอบกลับสั้นๆ
“เขาเป็นเจ้าหนูลอร์ดที่ข้ารับใช้”
เอียนท้วงด้วยเสียงเบาๆ
“นายเรียกฉันว่าลอร์ดแทนได้ไหม?”
“ฉันไม่อยากเรียก เจ้าอ่อนแอเกินไป”
“…”
ไคซาร์ชี้ไปที่ผู้อาวุโสขณะที่เขาพูดอีกครั้ง
“เมื่อเจ้าแข็งแรงพอๆกับผู้เฒ่าแล้ว ข้าจะพิจารณาดู”
“อะแฮ่ม…”
เอียนเหลียวมองไปทางผู้เฒ่าและเขาได้พบกับดวงตาทั้งสองข้างของผู้เฒ่าซึ่งก็มองเขาด้วยเช่นกัน
เอียนพูดกับผู้เฒ่า
“ท่านชื่ออะไรครับ?”
- นายเรียกใครว่าท่าน? ข้าเป็นผู้พิทักษ์แห่งเผ่าเซลามัส อิคริบ จะว่าไปแล้วสำหรับเจ้าที่เป็นลอร์ดด้วยไคซาร์เป็นผู้ติดตาม การคิดสิ่งนั้นเป็นไปได้ แม้ว่าข้าไม่รู้ว่าเจ้าพูดกับเจ้าโง่นี่ได้ยังไง แต่เจ้าค่อนข้างมีทักษะ
“…”
อิคริปส์พูดอย่างรวดเร็วโดยไม่พัก
คำว่า ‘คุณเพียงแค่ต้องจ่ายส่วยไอเทมระดับ Legendary 1 ชิ้น’ อยู่ที่ปลายลิ้นของเขา แต่เขาแทบกลืนพวกเขากลับก่อนที่จะพูด
“อะไรก็แล้วแต่… แต่ท่านก็เป็นซัมมอนเนอร์ใช่ไหมครับ?”
อีคริปส์จะโกนออกมาขณะที่เขาตอบกลับ
- ข้าบอกเจ้าแล้วไม่ใช่ท่าน! เรียกข้าว่าอีคริปส์! มันคือชื่ออันทรงเกียรติ
เอียนถอนหายใจขณะที่เขาพูด
“อ๊ะ เข้าใจแล้วอีคริปส์ แค่ตอบผมมา”
- ถูกต้อง ข้าเป็นซัมมอนเนอร์ อย่างไรก็ตาม ข้าเป็นนักรบที่กล้าหาญเช่นกัน
เมื่ออีคริปส์พูด เอียนแสดงอาการงุนงง
‘อะไรวะเนี่ย? เขากำลังจะบอกว่าอาชีพคู่สามารถเป็นไปได้งั้นหรอ?’
ช่วงเวลาที่เอียนซึ่งแสดงความสนใจกำลังจะถามอะไรบางอย่าง ไคซาร์ได้พูดก่อน
“อีคริปส์ เจ้าคิดว่ายังไง?”
- เกี่ยวกับอะไรล่ะ?
“ข้ากำลังถามว่าเจ้าหนูลอร์ดของเรา เจ้าคิดว่าเขามีสิทธิ์ที่จะเผชิญกับการทดสอบของเซลามัสหรือไม่”
เห็นได้ชัดว่าเอียนซึ่งไม่เข้าใจสิ่งที่เขากำลังพูดจึงจ้องมองไปมาที่ทั้งสองคนด้วยท่าทางที่ตะลึงและหลังจากนั้นไม่นานอีคริปส์ก็พูดอย่างช้าๆ
- อืมมม แน่นอน…
คำพูดของอีคริปส์ที่มองขึ้นและลงที่เอียนอย่างต่อเนื่อง
- แน่นอนเขาจะดีกว่าคนที่โง่เขลาเหมือนเจ้า เขาไม่พอใจ แต่มันก็คุ้มค่าที่จะให้โอกาสเขาถ้ามาตรฐานของเขาเป็นแบบนี้
ไคซาร์ยิ้มและแสดงสีหน้าว่าเขาไม่รู้เหตุผล เอียนถามพอลลีนซึ่งยืนอยู่ข้างเขา
“พอลลีนนายเข้าใจสิ่งที่พวกเขาพูดมั้ย?”
อย่างไรก็ตาม ไม่มีทางที่พอลลีนจะรู้
“ไม่ครับ ผมไม่ทราบ”
อย่างไรก็ตามจากนั้น ทันใดนั้นหน้าต่างแจ้งเตือนเควสต์โผล่ขึ้นมาต่อหน้าต่อตาเอียน
กริ๊ง-
- บททดสอบเผ่าเซลามัส (เควสต์ลับเชื่อมต่อกัน)
ชนเผ่าที่เป็นกลางหลายคนมีอยู่ในทวีปกลางโบราณ
แม้แต่ในหมู่พวกเขาก็คือเซลามัสซึ่งเป็นเผ่าที่มีพลังเหลือเชื่ออยู่ด้านบนถูกกำจัดหลังจากต่อสู้กับยักษ์มนุษย์ที่มีลักษณะคล้ายเทพเจ้าที่ติดเชื้อกับคำสาปแห่งอมตะและเพียงผู้นำยังคงอยู่แท่นบูชาใต้ดิน
อีคริปส์ผู้พิทักษ์เผ่าเซลามัสได้ค้นพบศักยภาพที่จะฟื้นรัศมีแห่งเซลามัสและสง่าราศีของซัมมอนเนอร์ในตัวคุณ
เขาวางแผนที่จะทดสอบท่าน
หากท่านผ่านการทดสอบทั้งหมดของเขา ท่านสามารถได้รับพลังของเผ่าเซลามัสซึ่งถูกฝังอยู่ในผืนทรายของทวีปกลาง
ระดับความยากของเควสต์ : SS
เงื่อนไขเควสต์
ผู้เล่นซัมมอนเนอร์ที่ได้รับคะแนนพิเศษจำนวนมากในทวีปกลาง
เวลาจำกัด : ไม่มี
รางวัล : หนังสือสกิลที่มีวิสัยทัศน์ของเซลามัส (สุ่ม)
ไอเทมคำพิพากษาของจิตวิญญาณราชา (อาวุธสุ่ม)
เอียนอ่านอย่างละเอียดผ่านหน้าต่างเควสต์
อย่างไรก็ตามตามความเป็นจริงแม้จากในบรรทัดแรกที่อ่านว่ามันเป็นเควสต์ลับและเชื่อมต่อกัน เอียนก็คิด
‘จากการอ่านนั้นฉันไม่รู้เลยว่ารางวัลคืออะไร แต่แน่นอนว่ามันจะต้องเป็นสิ่งที่ดีอย่างไม่น่าเชื่อใช่ไหม?’
อีคริปส์พูดอย่างช้าๆกับเอียน
- ซัมมอนเนอร์จากทวีปตะวันตก ท่านจะยอมรับการทดสอบของเซลามัสหรือไม่?
เสียงและวิธีการพูดของเขาหนักแน่นกว่าครั้งก่อนๆ
เอียนพยักหน้าทันที่ขณะที่เขาตอบกลับ
“อืมมม ผมจะลองดู”
* * *
“เวรเอ้ย ฉันควรทำยังไงเพื่อเอาชนะเจ้าสัตว์ประหลาดนั่น? “
ฮูนี่ย์ซึ่งคุยเรื่องใหญ่กับไคซาร์และบุกออกจากเมืองไพโรนั้นกำลังวิ่งผ่านดันเจี้ยนในบริเวณใกล้เคียงขณะที่เขาล่าอย่างขยันขันแข็ง
‘อย่างไรก็ตามมันจะยากที่จะขึ้นไปอีก 1 เลเวลเช่นนี้… ค่าประสบการณ์ที่ฉันได้รับขณะที่เข้าร่วมในสงครามปิดล้อมกับเอียนก็เหมือนกับน้ำผึ้งจริงๆ’
เมื่อวานนี้
ฮูนี่ย์ประสบความสำเร็จในการรวบรวมพลังงานมืดทั้งหมดที่อยู่ในมงกุฎโฮลดรีมที่ไคซาร์ใส่ไว้ในป้ายไม้
และเพื่อให้ได้มาซึ่งอิสรภาพ เขาได้ท้าทายไคซาร์
อย่างไรก็ตามผลที่ได้คือการพ่ายแพ้อย่างท่วมท้นถึงจุดที่น่าอายที่จะพูดถึง
ฮูนี่ย์พยายามบังคับให้ทำลายสัญญาโดยใช้ชื่อเสียง 100,000 หน่วยที่เขาเก็บออมไว้เป็นไพ่ตาย แต่ไม่มีทางที่จะไดัผล
นั่นเป็นเพราะตั้งแต่แรก การทำลายสัญญาหัวหน้าและสัญญาคนรับใช้เป็นไปได้พร้อมกับชื่อเสียง 100,000 หน่วย หากไคซาร์ต้องการ
บัลลัมซึ่งอยู่ข้างๆฮูนี่ย์พูดกับเขา
- วิธีเดียวคือการได้รับพลังแห่งอมตะทั้งหมดฮูนี่ย์ ท่านไม่สามารถเอาชนะไคซาร์ด้วยวิธีปกติ
เมื่อบัลลัมพูด ฮูนี่ย์พยักหน้า
อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่ว่าเขาจะสามารถทำเควสต์ผู้อมตะได้ทันที
เนื่องจากสามวันที่ไคซาร์ให้เขานั้นสั้นเกินไปที่จะเริ่มเควสต์ผู้อมตะ
มันเป็นเพราะเขาใช้วิธีการสุ่มการล่าแบบนี้
“เมื่อเมืองไพโรปลอดภัย ฉันควรให้เอียนเข้าไปเกี่ยวข้องและพาเขาไปทำเควสต์ผู้อมตะกับฉัน”
บัลลัมพยักหน้าเห็นด้วย
- ครับ นั่นเป็นความคิดที่ดี ถ้าลอร์ดเอียนช่วย มันจะง่ายมากที่จะประสบความสำเร็จเควสต์
“แต่ถ้าเอียนช่วยน่ะนะ…”
อย่างไรก็ตามทันใดนั้นเด็กผู้ชายคนหนึ่งจ้องมองฮูนี่ย์ซึ่งบ่นในขณะที่เขาพูดกับบัลลัม
นั่นเป็นซัมมอนเนอร์และมังกรแดงและพวกเขาก็ต่อสู้กับแมงป่องทรายที่ดูเหมือนจะเป็นเลเวล 130
ฮูนี่ย์ซึ่งสนใจเข้าหาเขาอย่างช้าๆ
“เขากำลังทำอะไร? ทำไมซัมมอนเนอร์เลเวล 100 อยู่ตรงทวีปกลางอย่างนั้น?”
แม้จะมองจากที่ไกลๆ เขาก็สามารถควบคุมและต่อสู้ได้ไม่ดี
แน่นอน ในขณะที่ซัมมอนเนอร์คนเดียวที่เขาได้เห็นเมื่อไม่นานมานี้คือเอียนมาตรฐานของฮูนี่ย์จึงสูง
อย่างไรก็ตามความจริงที่ว่าซัมมอนเนอร์ที่อยู่ข้างหน้าเขาแปลกๆก็ไม่ผิด
บัลลีมเอียงหัว
- ข้าไม่แน่ใจ… อย่างไรก็ตาม มังกรนั่นดูเหมือนกับมังกรที่ลอร์ดเอียนมี มันแค่เล็กกว่า
ในขณะเดียวกันเด็กที่มีปัญหาซึ่งทั้งสองคนกำลังเฝ้าดูอยู่นั้นไม่มีใครอื่นนอกจากคาโนเอล
“ยงยง ฉันคิดว่าเราจะโจมตีที่หางก่อน!”
โฮกก-!
“ฉันจะพยายามบล็อคการโจมตีจากด้านหน้าเอง!”
คาโนเอลต่อสู้กับแมงป่องยักษ์อย่างหนักจนถึงจุดที่เขาไม่รู้ว่าฮูนี่ย์เข้าใกล้เขาจนเขาอยู่หลัง
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นไม่นานก็พบบางสิ่ง ดวงตาของฮูนี่ย์เบิกโพลง
“นะ นั่น!”
บัลลัมถามด้วยอาการงุนงง
- มีอะไรฮูนี่ย์?
“บัลลัม นายเห็นเข็มขัดนั่นไหม?”
เมื่อนั้น บัลลัมหันไปจ้องทางเข็มขัดที่คาโนเอลสวมใส่
- …!
“นั่นใช่ไหม? นั่นคือคำมั่นสัญญาของราชาแห่งความมืดแน่นอน!”
คำมั่นสัญญาของราชาแห่งความมืดเป็นหนึ่งในสิ่งที่จำเป็นสำหรับฮูนี่ย์เพื่อดำเนินการต่อในเควสต์ผู้อมตะ
‘ฉันไม่รู้เลยว่าทำไมคนอย่างเขาถึงสวมใส่ในเมื่อเขาไม่ได้เป็นนักเวทมืด แต่…’
ฮูนี่ย์ดึงคฑาที่แขวนไว้ที่หลังของเขาโดยไม่ลังเล ขณะที่พุ่งเข้าหาแมงป่อง
เมื่อนั้น บัลลัมซึ่งงุนงง ถามโดยประหลาดใจ
- ทำอะไรน่ะฮูนี่ย์!
ฮูนี่ย์ร่ายเวทมนตร์มืดขณะที่เขาตะโกน
“เราจำเป็นต้องช่วยผู้ชายคนนั้นก่อนที่เราจะถามใช่มั้ยล่ะ?”
* * *
Whoong-
Thu-thud- Keu-keu-keung-!
พร้อมกับเสียงคลื่นต่ำและเสียงเสียดแทรกดังไปทั่ว ก้อนหินที่ด้านหลังของพื้นที่โล่งกว้างถูกย้ายไปด้านข้างเมื่อมีพื้นที่ใหม่ปรากฏขึ้น
อีคริปส์เดินอย่างช้าๆขณะที่เขาเข้าไป
- เข้ามาสิเอียน
“ครับ”
เอียนซึ่งตามหลังอีคริปส์โดยไม่คิดมาก ช่วยไม่ได้ที่จะงุนงงหลังจากนั้นไม่นาน
กริ๊ง-
นี่เป็นเพราะตามด้วยเสียงแจ้งเตือนข้อความระบบที่ไม่คาดว่าจะโผล่ขึ้นมา
- ท่านได้เข้าสู่อาณาเขตแรกของการทดสอบของเซลามัส
- นี่เป็นพื้นที่ที่สัตว์เลี้ยงไม่สามารถเรียกได้
- สัตว์เลี้ยงทั้งหมดที่ถูกเรียกจะถูกถอนออก
- ความสามารถของอุปกรณ์ทั้งหมดนั้นไร้ความสามารถ
- สกิลที่ถูกครอบครองทั้งหมดจะถูกผนึก
- สามารถใช้ได้เฉพาะอุปกรณ์และสกิลที่มอบให้ภายในเส้นทางการทดสอบของเซลามัส
มันเป็นการลงโทษที่ชั่วร้ายอย่างแท้จริงที่มือและเท้าของเขาถูกมัดเข้าด้วยกัน
แม้ว่าส่วนอื่นๆจะถูกตั้งไว้ การลงโทษที่ไม่สามารถอัญเชิญสัตว์เลี้ยงของเขานั้นสำคัญอย่างยิ่งต่อเอียน
‘ไม่สิ พวกเขาคาดหวังให้ซัมมอนเนอร์ทำอะไรโดยปราศจากสัตว์เลี้ยงงั้นหรอ?’
เอียนจ้องไปที่อีคริปส์ด้วยท่าทางงุนงง
“อะไร… กัน?”
เมื่อเอียนถามซึ่งเต็มไปด้วยหลายๆความหมาย อีคริปส์ยิ้มขณะที่เขาตอบกลับ
- เจ้าหมายความว่าอะไร ‘อะไรกัน’ น่ะ? มันเป็นอย่างที่คุณเห็นในตอนนี้ เผ่าเซลามัสของเรายอมรับว่าเป็นนักรบที่แท้จริง เมื่อพวกเขารู้วิธีที่จะหลบหนีผ่านอุปสรรคที่ยากลำบากโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์หรือสัตว์เลี้ยง
“อะไรวะเนี่ย…”
เอียนซึ่งเปิดหน้าต่างสกิลของเขาและหน้าต่างไอเทมด้วยท่าทางที่ตกตะลึง ช่วยไม่ได้นอกจากจะถอนหายใจ
สกิลทั้งหมดของเขาถูกปิดผนึกและค่าสถานะทั้งหมดของไอเทมของเขาแทนที่ด้วย 0
เอียนพูด
“ไม่สิ ท่านคาดหวังให้ซัมมอนเนอร์ทำอะไรโดยไม่มีสัตว์เลี้ยงใช่ไหม?”
อีคริปส์ยิ้มขณะที่เขาพูดต่อ
- นั่นคือสิ่งที่ขึ้นอยู่กับความสามารถของเจ้า สำหรับข้อมูลของเจ้า ข้าก็เป็นซัมมอนเนอร์ แต่ข้าผ่านการทดสอบทั้งหมดโดยมีบทลงโทษทั้งหมดนี้
อีคริปส์ซึ่งพูดจบ เดินไปพื้นที่ข้างหลัง
เอียนแทบจะกลั้นคำสบถที่จะหลุดออกมาจากปากของเขาไม่อยู่ ในขณะที่เขาระงับความโกรธของเขา
‘นั่นมีเพียงแกที่ทำได้ เนื่องจากแกเป็น NPC ที่ผู้พัฒนาสร้างขึ้นมา!’
และทันทีที่เขาจากไปม่านสีฟ้าขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 20 เมตรก็เกิดขึ้นกับสถานที่ที่เอียนยืนอยู่ตรงกลาง
‘เป็นวิธีการที่คล้ายกันหรอ เมื่อเราต้องผ่านหอคอยมิติเพื่อพบกับกริปเปอร์?’
เอียนซึ่งสภาพร่างกายไม่แตกต่างจากร่างเปลือยเปล่า ผ่อนคลายอย่างช้าๆและเริ่มเตรียมตัวต่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่จะปรากฏขึ้นในไม่ช้า
อย่างไรก็ตามจากนั้น ข้อความระบบโผล่ขึ้นมา
- ท่านสามารถเลือกอาวุธหนึ่งอย่างที่จะใช้ในเกตเวย์นี้
ในบรรดาข้อความที่เขาเห็นหลังจากเข้ามาในพื้นที่อันวุ่นวายนี้ มันเป็นข้อความเชิงบวกครั้งแรกที่ปรากฏ
อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาต่อมาเอียนซึ่งแสดงออกถึงความสดใส ช่วยไม่ได้ที่จะบึ้งอีกครั้ง
- อาวุธชนิดต่างๆอยู่ในแต่ละกล่องและจนกว่าท่านจะเลือกหนึ่งชิ้น ท่านจะไม่ทราบเนื้อหาของพวกมัน
จากข้อความ กล่องทั้ง 5 ปรากฏขึ้นต่อหน้าของเอียน
‘จะมีระบบที่โหดร้ายเช่นนี้ได้อย่างไร’
เขาเจ็บปวดใจ แต่ไม่มีวิธีอื่น เอียนค่อยๆวางมือลงบนกล่องหนึ่ง
เอียนดีใจเมื่อเขาถาม
“โอ้ เป็นคนที่นายรู้จักด้วยงั้นหรอบักค์?”
เมื่อเอียนถาม บักค์พยักหน้าขณะที่เขาตอบกลับ
- ฉันรู้จักพวกเขาดี อย่างไรก็ตามเซลามัสไม่ใช่ชื่อของคน
“ถ้างั้น?”
บักค์พูดต่อ
- มันเป็นชื่อของหนึ่งในชนเผ่าที่เป็นกลางของทวีปกลางโบราณ
เอียนซึ่งครุ่นคิดสักครู่หนึ่งได้ถามอีกครั้ง
“พวกเขาเหมือน… นักรบทะเลทรายงั้นหรอ?”
คราวนี้ไคซาร์ตอบกลับ
“ถูกต้องเจ้าหนูลอร์ด หากชื่อของเผ่านักรบทะเลทรายที่ช่วยอาณาจักรไคม่อนในตอนนี้คือ ‘มาเจนต้า’ เจ้าสามารถคิดได้ว่ามันเป็นเผ่าทะเลทรายอื่นที่เรียกว่า ‘เซลามัส’ ซึ่งมีอยู่ก่อนเช่นกัน”
“…!”
ดวงตาทั้งสองของเอียนเบิกโพลง
เนื่องจากถ้าเขาสามารถได้รับโบราณวัตถุที่คล้ายกับ ‘หน้ากากของมาเจนต้า’ จากแท่นบูชาแห่งเซลามัส มันจะเป็นความช่วยเหลือที่มากมาย
เอียนพูดอีกครั้ง
“ถ้างั้นมีอะไรเหมือนกับหน้ากากของเซลามัสหรืออะไรบางอย่างมั้ย?”
ไคซาร์ซึ่งรู้ถึงความคิดของเอียน แสยะยิ้มขณะที่ตอบกลับ
“ฮุฮุ โชคร้ายนะ คงไม่มีอะไรแบบนั้นกรอก เนื่องจากเป็นที่ทราบกันว่าผู้คนในเซลามัสถูกกำจัดไปนานแล้ว”
เอียนเดาะลิ้น
“จิ๊ เกือบจะดีแล้วเชียว แต่ทำไมนายถึงบอกว่าเป็นสถานที่ที่ฉันจะสนใจ?”
“ถึงแม้ว่าอาจจะไม่มีโบราณวัตถุที่นำความแข็งแกร่งของชนเผ่าที่เป็นกลางเช่นหน้ากากของมาเจนต้า เจ้าอาจพบโบราณวัตถุอื่นที่มีความสามารถแตกต่างกันไป”
เมื่อไคซาร์พูด เอียนพยักหน้าขณะที่เขาคิดกับตัวเอง
‘แต่แล้วหากว่ามันเป็นสถานที่ที่ฉันค้นพบครั้งแรก อย่างน้อยอาจจะได้รางวัลผู้คนพบครั้งแรก’
และบักค์ได้พูดเพิ่มเติม
เนื้อหาของมันก็เพียงพอแล้วที่จะล่อลวงเอียน
- และในบรรดาชนเผ่ากลางที่ทรงพลังซึ่งปกครองเหนือทวีปกลางโบราณ เผ่าเซลามัสเป็นชนเผ่าเพียงกลุ่มเดียวที่ประกอบด้วยซัมมอนเนอร์
หัวของเอียนหันไปหาบักค์
“อะไรนะ จริงหรอ?”
และเขาจ้องไปที่ไคซาร์เล็กน้อย
“เจ้าผู้ติดตาม ทำไมไม่บอกฉันถึงข้อมูลที่สำคัญขนาดนี้?”
อย่างไรก็ตาม ไคซาร์แค่พยักไหล่เท่านั้น
* * *
“เอาล่ะ จากนี้ไปแล้วแต่พวกนายแล้ว! ผู้ที่ต้องการอยู่ข้างหน้าและต่อสู้กับกองทัพอาณาจักรไคม่อนสามารถไปที่ค่ายทหารที่นั่นและสมัครเป็นทหารรับจ้างและถ้าไม่เป็นเช่นนั้น มันจะเป็นการดีที่สุดที่จะมอบความไว้วางใจของพวกนายไว้ในเมืองที่เกี่ยวข้องกับอาณาจักร”
ในคำพูดของหัวหน้าอัศวินของปาร์ตี้ตระกูลราชวงศ์ที่ยืนเป็นแถวก็เริ่มแยกย้ายกันไปที่ต่างๆ
พวกเขาเป็นกำลังเสริมของอาณาจักรลัสเปลที่เดินทางออกจากทวีปตะวันออกและมาถึงทวีปกลาง
และผู้เล่นของอาณาจักรลัสเปลที่มาถึงทวีปกลางโดยการเข้าร่วมกลุ่มของกำลังเสริมก็เริ่มเคลื่อนไหวอย่างวุ่นวาย
“โฮ่ ในที่สุดก็เข้ามาในทวีปกลาง!”
คาโนเอลซึ่งออกจากปาร์ตี้แสดงความพึงพอใจขณะที่เขามองไปรอบๆตัว
“ฮ่า เป็นทะเลทรายที่โรแมนติค ฉันได้ยินมาว่ามอนสเตอร์ในทวีปกลางให้ค่าประสบการณ์จำนวนมาก ดังนั้นนั่นหมายความว่าฉันแค่เพิ่มเลเวลที่เหลือใช่ไหม?”
คาโนเอลยิ้มเมื่อเขาหันหน้าไปทางมังกรแดงที่อยู่ข้างๆเขา
“ยงยง นายก็ชอบที่นี่ใช่มั้ย?”
มังกรตัวนั้นคือยงยงซึ่งถือได้ว่าเป็นจิตวิญญาณของคาโนเอล
Keu-reu-reu-reu-!
มังกรพยักหน้าอย่างมีความสุขและขณะที่ลูบหัวมังกร คาโนเอลก็พึมพัม
“อืมมม แต่ฉันไม่มีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบริเวณล่าที่นี่… ฉันต้องออกจากระบบและดูในชุมชนก่อนหรือไม่?”
อย่างไรก็ตามจากวิสัยทัศน์ของคาโนเอล ชายสองคนเดินออกไปขณะที่พวกเขาพูดคุย
คาโนเอลฟังบทสนทนาของทั้งสองคนอย่างตั้งใจ
นี่เป็นเพราะเขารู้สึกว่าเขาจะได้รับข้อมูลที่เขาตั้งการจากพวกเขา
“นายกำลังจะไปทำอะไร? นายจะไปลงสมัครเป็นทหารรับจ้างและสู้ในแนวหน้าหรอ?
“ทำไมคุณถึงพูดเรื่องโง่ๆแบบนี้? เรากำลังแพ้การต่อสู้กับไคม่อนในตอนนี้ ดังนั้นการเข้าร่วมการต่อสู้ที่แนวหน้าคือการฆ่าตัวตาย”
“ถึงกระนั้นฉันได้ยินมาว่ารางวัลนั้นดีจริงๆ ดังนั้นมันไม่แย่ที่จะเข้าร่วม”
“นายไม่รู้หรือว่านายกำลังคิดอะไรอยู่ ในตอนแรกอาจเป็นเช่นนั้น แต่เมื่อเราถูกผลักกลับมากเกินไป ดูเหมือนว่านายจะไม่ได้รับรางวัลมากมายเช่นกัน”
ขณะที่ฟังทั้งสองคนพูดคุยกัน คาโนเอลพยักหน้าในใจ
‘อืมม… ฉันได้ยินมาว่าเราแพ้ในสงคราม แต่ดูเหมือนว่าสถานการณ์จะรุนแรงกว่าที่คาดไว้มาก’
บทสนทนาของทั้งสองคนพูดต่อไป
“อืมมม… จริงหรอ?”
“ฉันกำลังบอกคุณว่าเป็นอย่างนั้น”
“ถ้างั้นนายจะไปทำอะไร?”
“ฉันกำลังคิดว่าจะไปเมืองของกิลด์ใหญ่ที่อยู่ด้านหลังและปลอดภัยที่จะล่าใกล้ๆนั้น”
“โอ้โห ฟังดูดีเหมือนกัน แต่ฉันต้องไปเมืองไพโรสักครั้ง ไปที่นั่นกันก่อนเถอะ”
“เมืองไพโร? อ่อ นายกำลังพูดถึงเมืองของกิลด์โลตัสใช่มั้ย ฉันก็อยากไปที่นั่น แต่นั่นอันตรายนิดหน่อย”
“ทำไมล่ะ?”
“กองทัพอาณาจักรไคม่อนอาจยึดฐานส่วนใหญ่ที่อยู่รอบๆได้ในตอนนี้ มันจะไม่เป็นไรถ้าเราโชคดีและไม่วิ่งเข้าไปในกองทัพของอาณาจักร… แต่ถ้าเราเจอพวกเขา เราจะจบลง ที่ต้องทนทุกข์ทรมานกับความตายที่น่ากลัวทันที”
“อืมมม… อย่างนั้นหรอ?”
คาโนเอลที่กำลังฟังบทสนทนาของคนสองคนเริ่มขยับเท้า
มันเป็นเพราะเขาได้ตัดสินใจในปลายทางของเขา
‘ถูกต้อง ฉันจะลืมได้อย่างไร! ฉันมาถึงทวีปกลาง ดังนั้นฉันไม่สามารถไปพบกับไอดอลของฉันไม่ได้! ‘
ไอคอลที่คาโนเอลพูดถึงไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเอียน
หลังจากคาโนเอลดูวิดีโอการต่อสู้ของเอียนบน YouCast เขาก็กลายเป็นแฟนคลับของเอียนโดยสมบูรณ์
ความสามารถการต่อสู้ของเอียนที่เขาสามารถครองสนามรบได้ในขณะที่จัดการสัตว์เลี้ยงของเขาได้อย่างอิสระ ค่อนข้างเป็นความคิดของเขาเกี่ยวกับสวรรค์ที่สมบูรณ์แบบ
‘เอาล่ะ ดูเหมือนว่าฉันแค่ต้องการรู้ว่าเมืองไพโรอยู่ที่ไหนตอนนี้!’
หลังจากค้นพบผู้เล่นอัศวินที่เดินผ่านหน้าเขา คาโนเอลเดินเข้าหาเขาด้วยเสียงฝีเท้าอย่างรวดเร็ว
แตกต่างจากผู้เล่นคนอื่นที่มีรูปร่างหน้าตาที่สะอาดเมื่อพวกเขามาถึงทวีปกลาง เกราะของเขาถูกปกคลุมด้วยทรายอย่างสมบูรณ์
แม้เพียงแค่มองเขา เขาก็รู้สึกได้ว่าเขาเป็นผู้เล่นที่เคยอยู่ในทวีปกลางมานานแล้ว
“ขอโทษนะครับ แต่ขอถามอะไรบางอย่างได้ไหมครับ?”
“ได้สิ”
“ไม่มีอะไรมากหรอกครับ แต่ผมสงสัยว่าคุณรู้ทิศทางที่จะไปที่เมืองไพโรหรือป่าวครับ”
เมื่อคาโนเอลพูด ชายผู้มองดูรูปร่างหน้าตาของเขาสวมท่าทางที่ดูงุนงงเมื่อเขาถามกลับ
“เมืองไพโรงั้นหรอ? นายพูดถึงเมืองของกิลด์โลตัสใช่ไหม?”
“ครับ ใช่ครับ”
“อืมมม… เลเวลของนายต่ำไปน่ะ…”
ชายที่จ้องเลเวลและ ID ของคาโนเอล
- ซัมมอนเนอร์คาโนเอล – เลเวล 100
เมื่อคาโนเอลซึ่งตกตะลึงได้ลังเลใจ ชายคนนั้นพูดต่อ
“ถึงกระนั้น อุปกรณ์สวมใส่ของนายก็อยู่ในระดับสูง ตราบใดที่นายมีอำนาจในการควบคุม ฉันคิดว่านายจะสามารถไปถึงที่นั่นได้”
สำหรับคาโนเอลซึ่งเป็นทายาทของ SH Electronics ในชีวิตจริงอุปกรณ์ระดับสูงในเลเวล 100 ของเขาคือราคาของหมากฝรั่งสำหรับเขาและมันอาจจะเห็นได้ชัด แต่เขาได้ฉาบทุกส่วนของเขาด้วยไอเทมชั้นยอด
คาโนเอลยิ้มอย่างสดใสขณะที่เขาพูด
“อ่อ โล่งอก การควบคุมของฉันก็ไม่แย่หรอก ฮุฮุ”
ชายคนนั้นซึ่งแสยะยิ้ม ชี้ไปตามนิ้วของเขาในขณะที่เขาเริ่มอธิบาย
“ตรงไปทางนั้น…”
Seu-reu-reuk-.
“อะ อะไรน-?”
เอียนซึ่งกำลังเดินกลายเป็นคนสับสนหลังจากเห็นทรายใต้ฝ่าเท้าของเขา
“ไคซาร์นายแน่ใจนะว่าเราสามารถไปทางนี้อ่ะ?”
ไคซาร์พยักหน้าขณะที่เขาตอบกลับด้วยอาการที่ก็ไม่ได้เรื่องใหญ่อะไรนิ
“ได้สิ ทำไมข้าต้องโกหกเจ้า?”
ไคซาร์ซึ่งพูดจบ เดินไปข้างหน้าพร้อมกับก้าวใหญ่ๆ
และหลังจากนั้นไม่นาน ช่วยไม่ได้ที่ตาทั้งสองของเอียนจะโตขึ้น
Swaaah-!
นั่นเป็นเพราะทรายเป็นรูปร่างคล้ายกระแสน้ำวนในขณะที่มันดูดไคซาร์
และไคซาร์หายตัวไปอย่างสมบูรณ์จากจุดที่เขาอยู่
การแสดงออกที่เขาจมลงไปในพื้นดินชัดเจนมากขึ้นเล็กน้อย
“ฮึก!”
ขณะที่เอียนงุนงง บักค์ซึ่งอยู่ข้างเขาได้พูด
- เจ้านาย ข้ารู้สึกถึงความแข็งแกร่งของไคซาร์จากข้างในนี้ ข้าคิดว่านั่นเป็นทางเข้าของแท่นบูชาที่ไคซาร์พูดถึง
“นะ นายคิดแบบนั้นหรอ?”
เพราะฉากที่เขาถูกทรายกลืนก็น่าตกใจ เท้าของเขาไม่ขยับอย่างง่ายดาย แต่เอียนก็เริ่มเคลื่อนไหวช้าๆ
“มันไม่ใช่ว่ามีมอนสเตอร์ในทะเลทรายที่แปลกประหลาดอยู่ข้างใต้และฉันจะลงเอยด้วยการโดนกินหรืออะไรสักอย่างใช่มั้ย?”
และก่อนที่เอียนจะก้าวห้าก้าว…
“อ๊ากกก-!”
ตามด้วยเสียงร้อง ร่างกายของเอียนถูกดูดเข้าไปในทราย
พอลลีนและซีเรียซึ่งตามหลังเขาก็เริ่มเดิน
Seu-seu-seuk-.
หลังจากนั้นไม่นานกองทรายที่กลืนกินทั้งปาร์ตี้กลับสู่สภาพสงบราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
- ‘แท่นบูชาแห่งเซลามัส’ ซึ่งมีประวัติการอัญเชิญโบราณได้ถูกค้นพบเป็นครั้งแรก
- ชื่อเสียงของท่านเพิ่มขึ้น 10,000 หน่วย
- ความสามารถการต่อสู้ทั้งหมดเพิ่มขึ้น 10 หน่วยอย่างถาวร
- ความเป็นผู้นำและความสัมพันธ์ของท่านเพิ่มขึ้น 50 หน่วยอย่างถาวร
พร้อมกับเสียงของข้อความระบบที่ดังขึ้นเรื่อยๆ เอียนก็ตกลงไปในถ้ำที่มืดและเป็นความลับ
Thud-.
- เนื่องจากการตกอยู่ในสถานะที่ไม่มีการป้องกัน พลังชีวิตของท่านจึงลดลง 175 หน่วย
เอียนที่ดิ่งลงสู่พื้นดินหลังจากที่ถูกปกคลุมอย่างสมบูรณ์ในทรายบ่นกับตัวเอง
“อ๊า สิ่งนี้มันจะต้องเป็นสิ่งที่รบกวนจิตใจและไม่เอื้ออำนวยแน่เลย?”
อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากปากที่บ่นของเขา เขาก็ยิ้ม
เนื่องจากรางวัลที่เขาได้รับในฐานะผู้ค้นพบคนแรกดีกว่าที่เขาคาดไว้
‘มันเป็นของขวัญจากเหล่าทวยเทพ! ฉันไม่รู้อะไรเลย แต่ความเป็นผู้นำและความสัมพันธ์ที่เพิ่มขึ้นเพียงอย่างเดียวก็เหมือนน้ำผึ้งแล้ว’
เมื่อปาร์ตี้ทั้งหมดรวมตัวกันหลังจากนั้น เอียนเริ่มเดินอีกครั้ง
“ไคซาร์ นี่เป็นสถานที่แท่นบูชาที่นายพูดถึงใช่ไหม?”
เมื่อเอียนถาม ไคซาร์พยักหน้าโดยไม่ลังเล
“ถูกต้อง นี่เป็นสถานที่ที่ฉันพบโดยบังเอิญในขณะที่เดินไปในสมรภูมิรบ”
เมื่อไคซาร์นำทาง ปาร์ตี้ก็เริ่มเดินไปด้านในอย่างช้าๆและถ้ำลับที่มืดมิดก็เริ่มสว่างขึ้นทีละเล็กละน้อย
‘อืมมม มันดูเหมือนว่าจะต้องมีอะไรบางอย่างแน่นอน…’
อย่างไรก็ตามจากนั้น ข้อความระบบที่ไม่ต้องรับก็โผล่ขึ้น
- นี่คือพื้นที่ใต้ดินที่ปิดสนิทที่มีออกซิเจนจำกัด
- การเคลื่อนไหวของท่านลดลง 10% และพลังชีวิตของท่านลดลง 0.1% ต่อวินาที
- พลังชีวิตของท่านลดลง 127 หน่วย
เอียนขมวดคิ้ว
“อะไรวะเนี่ย คุณสามารถตายได้ผ่านการขาดออกซิเจน?”
หาก 0.1% ของพลังชีวิตของเขาลดลงต่อวินาที นั่นหมายความว่าพลังชีวิตของเขาจะลดลงอย่างสมบูรณ์ในเวลาประมาณ 17 นาที
แน่นอนว่าเขาสามารถทนได้ผ่านไอเทมหรือสกิลในการฟื้นฟูพลังชีวิต แต่เนื่องจากพลังชีวิตของทุกคนลดลงจึงไม่มีข้อผิดพลาดเลยว่ามันเป็นสถานการณ์ที่ยุ่งเหยิงอย่างไม่น่าเชื่อ
ไคซาร์หัวเราะเอียน
“นายขาดการฝึกฝน. ฉันไม่ได้รับความเสียหายใดๆกับออกซิเจนมากมายแค่นี้”
และในบรรดาสมาชิกปาร์ตี้ มีเพียงไคซาร์ที่ยังดีอยู่
เอียนส่ายหน้า
‘ตามที่คาดเจ้าสัตว์ประหลาด’
ขณะที่พวกเขาเข้ามาอย่างช้าๆในขณะที่จัดการกับความสำคัญของพลังชีวิตของพวกเขาถ้ำลับก็กว้างขึ้นทีละน้อย
หลังจากนั้นไม่นานพื้นที่โล่งก็ปรากฏต่อหน้าต่อตาของปาร์ตี้และในระหว่างนั้นรูปปั้นทองสำริดขนาดยักษ์ก็ตั้งอยู่
รูปปั้นดูเหมือนมอนสเตอร์งูที่ลอยขึ้นไปในอากาศราวกับว่ามันกำลังปีนขึ้นไปและข้างหน้าเป็นผู้เฒ่าที่มีดาบใหญ่บนหลังของเขา
เอียนถามไคซาร์ด้วยท่าทางงุนงง
“ผู้ติดตาม นายรู้จักผู้เฒ่าคนนั้นมั้ย?”
ไคซาร์พยักหน้า
“แน่นอนว่าฉันรู้จักเขา”
ไคซารซึ่งพักหายใจเลยก็น้อย ยิ้มขณะที่เขาพูดอย่างช้าๆ
“เจ้าสามารถบอกได้ว่าเขาเป็นผู้เฒ่าเพียงคนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่หลังจากเผชิญหน้ากับข้าด้วยดาบ”