ผู้อาวุโสของปราสาทนภา ดราก้อน เดสทรอยเยอร์ บุดด้าและเดม่อนยังคงรออยู่ด้านนอกเมทัลเวิลด์ ตอนนี้มันผ่านมา 2 เดือนแล้ว แต่พวกเขาก็ยังไม่เห็นพวกมาร์ควิสกลับออกมาเลยสักคนเดียว แต่ละวันผ่านไปโดยไม่มีวี่แววว่าคนของพวกเขาจะกลับออกมา ทำให้อารมณ์ของพวกเขาแย่ลงเรื่อยๆ ในที่สุดพวกเขาก็เริ่มยอมรับความจริงที่ว่าคนของพวกเขาอาจจะไม่กลับออกมาอีก
“บางสิ่งกำลังออกมาจากเมทัลเวิลด์” ดราก้อนคนหนึ่งพูดขึ้นมา
ขณะที่เขาพูดขึ้นมา ทุกคนก็หันไปมองทางดวงดาว ผู้อาวุโสที่รอคอยอยู่ด้านนอกดวงดาวเริ่มขยับเข้ามาใกล้ขึ้น ขณะที่จับจ้องไปทางพายุแม่เหล็กที่ปกคลุมพื้นผิวของเมทัลเวิลด์อยู่
มันมีใครบางคนออกมาจากก้อนเมฆ หลังจากนั้นคนต่อๆไปก็ตามกันออกมา พวกเขาทุกคนเป็นคนที่คุ้นเคย
“ดราก้อนเอท! มันคือดราก้อนเอท!” ดราก้อนราชันคนหนึ่งตะโกนขึ้นมา
ผู้อาวุโสของเผ่าพันธุ์อื่นก็มีปฏิกิริยาที่เหมือนๆกัน เมื่อเห็นคนของพวกเขาออกมาจากพายุแม่เหล็ก
เมื่อคนสุดท้ายออกมาจากหมู่เมฆ ผู้อาวุโสของปราสาทนภาก็ดูดีใจอย่างมาก นั่นเป็นเพราะว่าทีมของปราสาทนภาออกมามากกว่าทีมของเผ่าพันธุ์อื่นรวมกันซะอีก ทีมของปราสาทนภารอดกลับออกมาได้ทั้งหมด ซึ่งต่างไปจากทีมของเผ่าพันธุ์อื่นที่อยู่ในสภาพย่ำแย่ แม้แต่คนที่รอดชีวิตกลับออกมาได้ก็ได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก
หานเซิ่นกับอวี้เอียะไปรายงานผู้อาวุโสของปราสาทนภาถึงสิ่งที่เกิดขึ้นภายในเมทัลเวิลด์ เหล่าผู้อาวุโสดีใจที่เห็นว่ามาร์ควิสทั้งหนึ่งร้อยคนรอดชีวิตกลับมาโดยไม่ได้รับบาดเจ็บหนักหนาอะไร
“ดี พวกเจ้าทำได้ดีมากๆ มันไม่มีความจำเป็นอะไรที่พวกเจ้าต้องพูดมากกว่านั้น พวกเจ้าควรกลับไปที่บ้านและพักผ่อนให้หายเหนื่อยซะก่อน”
“ทราบแล้ว” หานเซิ่น อวี้เอียะและคนอื่นๆเตรียมเดินทางกลับพร้อมกับเหล่าผู้อาวุโส
แต่ทันใดนั้นพวกเขาก็พบว่าตัวเองถูกล้อมทุกด้านโดยพวกดราก้อน เดสทรอยเยอร์ บุดด้าและเดม่อน มันเห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่มีเจตนาจะปล่อยให้กลุ่มของปราสาทนภากลับไปง่ายๆ
“นี่มันหมายความว่ายังไง?” ผู้อาวุโสกรีนเครนมองพวกเขาด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม สมาชิกของปราสาทนภาต่างก็ตั้งท่าเตรียมต่อสู้
ราชาคนหนึ่งของเดสทรอยเยอร์พูดด้วยความโกรธ ขณะที่มองหานเซิ่นและคนอื่น “ทุกเผ่าพันธุ์ที่เข้าไปในเมทัลเวิลด์ต่างก็มีผู้เสียชีวิต แต่พวกเจ้ากลับไม่สูญเสียใครเลย เจ้าใช้กลลวงอะไรมาทำร้ายมาร์ควิสของพวกเรา?”
มันเข้าใจได้ว่าทำไมพวกเดสทรอยเยอร์ถึงรู้สึกโกรธ ทุกเผ่าพันธุ์ยกเว้นเดสทรอยเยอร์มีมาร์ควิสกลับมาบ้าง แต่พวกเขาสูญเสียผู้คนไปทั้งหมด นั่นทำให้พวกเขาสับสนและโกรธ พวกเขาต้องการรู้ให้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นภายในเมทัลเวิลด์กันแน่
ถึงเผ่าพันธุ์อื่นจะไม่ได้โกรธเหมือนอย่างเดสทรอยเยอร์ แต่พวกเขาก็สูญเสียผู้คนไปมากเช่นเดียวกัน พวกเขาไม่ต้องการจะปล่อยให้หานเซิ่นกับคนอื่นไปจากที่นี่ง่ายๆเช่นเดียวกัน
ตอนนี้เมื่อทุกคนมาเพื่อหยุดคนของปราสาทนภา นี่จึงเป็นโอกาสดีที่จะหาความจริงถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะเมื่อผู้คนของปราสาทนภากลับไปถึงดินแดนของพวกเขาแล้ว การเจรจากับพวกเขาจะกลายเป็นเรื่องยาก ด้วยเหตุนั้นยอดฝีมือของเผ่าพันธุ์อื่นๆจึงอยากจะได้คำตอบเดี๋ยวนี้
ผู้อาวุโสกรีนเครนหัวเราะหลังจากที่ได้ยินสิ่งที่เดสทรอยเยอร์ระดับราชันพูด
“ทีมของพวกเจ้าอ่อนแอ ความตายของพวกเจ้าจะมาเป็นธุระของพวกเราได้ยังไง?”
เดสทรอยเยอร์ระดับราชันถามต่อ “เจ้าจะบอกว่าเผ่าพันธุ์อื่นทั้งหมดไม่แข็งแกร่งเท่ากับเผ่าพันธุ์ของเจ้าอย่างนั้นหรอ? ถึงแม้มันจะเป็นความจริง มันก็ไม่มีทางที่คนของพวกเราจะตายทั้งหมด ขณะที่คนของพวกเจ้าไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสเลยสักคน ถ้าพวกเจ้าไม่อธิบายในเรื่องนี้ พวกเราเดสทรอยเยอร์ก็จะไม่ปล่อยให้พวกเจ้าไปจากที่นี่”
พวกเขาหวังว่าทางดราก้อนจะสนับสนุนพวกเขา เพราะทางเดสทรอยเยอร์ไม่สามารถหยุดผู้อาวุโสกรีนเครนได้ด้วยตัวเอง
“อธิบาย? ปราสาทนภาไม่ได้ติดค้างคำอธิบายอะไร” อาวุโสกรีนเครนพูด
ที่อาวุโสกรีนเครนบอกหานเซิ่นและคนอื่นว่าไม่ต้องพูดอะไรอีกก็เพราะเขารู้ว่าเรื่องแบบนี้อาจจะเกิดขึ้น จริงๆแล้วอาวุโสกรีนเครนก็คิดเหมือนกับคนอื่นๆ มาร์ควิสของปราสาทนภาต้องทำอะไรบางอย่าง ไม่อย่างนั้นพวกเขาก็ไม่มีทางกลับออกมาโดยไม่เสียสมาชิกเลยสักคน ขณะที่ทีมของเผ่าพันธุ์อื่นๆมีผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
เดสทรอยเยอร์ระดับราชันกัดฟันและพูดขึ้นมา “อย่าได้คิดจะใช้อิทธิพลของปราสาทนภามาขู่ให้พวกเรากลัว ปราสาทนภาแข็งแกร่งก็จริง แต่มันก็ไม่ใช่ว่าพวกเราในที่นี่อ่อนแอ ถ้าพวกเจ้าไม่ให้คำอธิบายกับข้า ก็อย่าหวังว่าจะได้ไปจากที่นี่”
“ผู้อาวุโสกรีนเครน ทำไมเจ้าไม่อธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนจะจากไป?” หนึ่งในบุดด้าระดับราชันถาม
ดราก้อนระดับราชันก็พูดขึ้นมาเช่นกัน “ถ้ามาร์ควิสของปราสาทนภาไม่ได้เป็นต้นเหตุของเรื่องนี้ มันก็ไม่น่าจะมีปัญญาอะไรที่จะอธิบายให้พวกเราฟัง?”
ผู้อาวุโสกรีนเครนขมวดคิ้ว แต่ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไรออกมา ดราก้อนเอท ข่านและคนอื่นๆก็เดิมมาต่อหน้าราชันของพวกเขาเพื่อบอกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
นอกจากเดสทรอยเยอร์แล้ว เมื่อเผ่าพันธุ์อื่นๆได้ยินถึงสิ่งที่เกิดขึ้น สีหน้าของพวกเขาก็มืดมนยิ่งกว่าเดิม
อาวุธทั้งหมดของพวกเขาที่ชี้ไปที่ผู้คนของปราสาทนภา ตอนนี้เปลี่ยนไปชี้ที่เดสทรอยเยอร์แทน
“เดสทรอยเยอร์ ดูเหมือนว่าเป็นพวกเจ้าต่างหากที่จำเป็นต้องอธิบายตัวเอง” ดราก้อนราชันคนหนึ่งพูดด้วยเสียงที่เย็นชา
เผ่าพันธุ์อื่นก็มองไปที่พวกเขาด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรเช่นกัน ทางเดสทรอยเยอร์รู้สึกสับสน พวกเขาไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ผู้อาวุโสกรีนเครนถามหานเซิ่นและอวี้เอียะเพื่อขอคำอธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้น และเขาก็ต้องตกตะลึงไปหลังจากที่ได้ยินเรื่องทั้งหมด
เขาไม่ได้ตกใจที่เดสทรอยเยอร์ลอบกัดเผ่าพันธุ์อื่นๆ แต่เขาแปลกใจที่ได้ยินว่าหานเซิ่นต่อสู้กับซีโน่เจเนอิคทั้งหมดตามลำพังและช่วยชีวิตทุกคนเอาไว้
มาร์ควิสทั้งหมดที่ถูกส่งเข้าไปต่างก็เป็นยอดฝีมือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนอย่างดราก้อนเอท ดราก้อนไนนท์และข่าน ซึ่งแม้แต่พลังของพวกเขาก็ไม่สามารถต่อต้านซีโน่เจเนอิคจำนวนมากได้ แต่หานเซิ่นกลับจัดการกับซีโน่เจเนอิคได้ด้วยตัวคนเดียว มันเป็นอะไรที่น่ากลัวเมื่อคิดถึงเรื่องนั้น
ไร้เทียมทานเป็นคำที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคนอย่างหานเซิ่น
ถึงแม้มันจะเป็นอะไรที่ยากจะเชื่อได้ แต่มันก็มีมาร์ควิสจำนวนมากเป็นพยานถึงเรื่องนั้น พวกเขาทุกคนไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องแต่งเรื่องเพื่อโอ้อวดพลังของหานเซิ่น ดังนั้นมันจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเชื่อในเรื่องนั้น
หลังจากเหตุการณ์นี้ หานเซิ่นก็ถูกพูดถึงในทุกหนทุกแห่ง ใครก็ตามที่ได้ยินเรื่องราวนี้ก็ได้รู้ว่าปราสาทนภาเป็นที่อยู่อาศัยของยอดฝีมือ 2 คน หนึ่งคือไผ่เดียวดาย อีกหนึ่งคือหานเซิ่น
และเนื่องจากอสูรโลหะสีขาวระดับเทพเจ้ายังอาศัยอยู่ในดวงดาว ทุกคนก็ยอมแพ้ที่จะยึดครองเมทัลเวิลด์มาเป็นของตัวเอง ส่วนเรื่องที่พวกเขามีแผนจะจัดการยังไงกับทางเดสทรอยเยอร์นั้น หานเซิ่นเองก็ไม่รู้
เนื่องจากหานเซิ่นพาสมาชิกของปราสาทนภาทุกคนกลับมาได้อย่างปลอดภัย เขาจึงได้รับรางวัลจากปราสาทนภา แต่พวกมันไม่ได้สำคัญอะไรอีกแล้ว เพราะข้อตกลงระหว่างอี๋ซากับปราสาทนภาคือการทำให้หานเซิ่นพัฒนาสู่ระดับมาร์ควิส ตอนนี้เมื่อหานเซิ่นเป็นมาร์ควิสเรียบร้อยแล้ว เขาก็ต้องเดินทางกลับไปยังแนร์โรว์มูน
เพราะยังไงซะเขาก็ไม่ใช่ทายาทที่แท้จริงของปราสาทนภา ปราสาทนภาไม่สามารถมอบทรัพยากรที่จำเป็นเพื่อทำให้เขาพัฒนาสู่ระดับดยุกได้