97 – ความลับของแอน จอร์เจีย
“บวู้—บวู้!!!”
เมื่อเห็นฉากตรงหน้า ไม่ว่าใคร ไลซ์ที่ยังไม่ลุกขึ้น มาร์ลีนที่กำลังมองดูอยู่ห่างๆ หรือซีเลียและเซเร็คที่เพิ่งดึงอาวุธออกจากศพของอัศวินแห่งความตาย แม้แต่คุดลาและคนอื่นๆ ทั้งหมดถึงกับตกตะลึง
โรดส์เองก็ไม่มีข้อยกเว้น เขายืนขึ้นและมองไปยังหมาป่ายักษ์ที่กำลังคำรามอย่างโหดร้าย เขาตกใจเป็นอย่างมาก
สถานการณ์ในตอนนี้ เขาพบตัวตนที่แท้จริงของแอนแล้ว
ลูกครึ่งสัตว์!
คล้ายกับทูตสวรรค์กับมนุษย์ มนุษย์กับเอลฟ์ หรือปีศาจและสายเลือดผสมอื่นๆ พวกเขาทั้งหมดเป็นผลผลิตจากสายเลือดที่แตกต่าง สัตว์อสูรระดับสูงเองก็เช่นกัน พวกเขาสามารถกลายร่างเป็นมนุษย์เพื่อมีเพศสัมพันธ์กับมนุษย์และให้กำเนิดทายาทรุ่นต่อไป สำหรับเผ่าพันธุ์อย่างลูกครึ่งทูตสวรรค์ ลูกครึ่งเอลฟ์หรือลูกครึ่งปีศาจอาจจะเป็รที่ยอมรับของผู้คนอยู่บ้าง แต่สำหรับลูกครึ่งสัตว์ถือว่าเป็นเผ่าพันธุ์ที่หายากมาก เนื่องจากสัตว์อสูรและมนุษย์นั้นค่อนข้างแตกต่างกัน มีเพียงสัตว์อสูรระดับสูงเท่านั้นที่สามารถกลายร่างเป็นมนุษย์ได้
ถ้าพูดตามภาษาของประเทศของโรดส์แล้ว อาจจะเรียกได้ว่าสัตว์เหล่านั้นต้องบ่มเพาะพลังอย่างน้อย 1,000 ปีถึงจะสามารถกลายเป็นมนุษย์ได้ สัตว์อสูรระดับสูงเป็นสิ่งมีชีวิตที่หายากและทรงพลัง แม้แต่นักดาบระดับ 40 อย่างเซเร็คก็ไม่สามารถต่อกรกับสัตว์อสูรระดับสูงได้ ต่อให้มีเขาอีก 10 คนก็ไม่รอด แม้ว่าพวกมันจะสามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้ ร่างกายที่แท้จริงของพวกมันก็ยังคงเป็นสัตว์ป่า จนกว่าพวกมันจะได้อาศัยอยู่ในสังคมมนุษย์เป็นเวลานาน เพราะโดยพื้นฐานพวกมันจะไม่เลือกมนุษย์มาเป็นคู่ของตน เหมือนกับหมาบ้าน ไม่ว่าเจ้านายของมันจะดีแค่ไหน มันก็ยังคงมองหาหมาอีกตัวอยู่ดี….อืมมม แต่ดูเหมือนนี่จะเป็นตัวอย่างที่ไม่ค่อยเหมาะนัก
ไม่เหมือนกับโรดส์ที่ไม่เคยเห็นลูกครึ่งสัตว์มาก่อน ในเกม นักรบที่แข็งแกร่งบางส่วนเป็นเผ่าลูกครึ่งสัตว์ ซึ่งความแข็งแกร่งที่ว่ามานี้ ไม่มีอะไรแตกต่างไปจากแอน ทำไมโรดส์ถึงไม่คิดมาก่อนนะ แต่ตอนนี้ เขาควรทำอย่างไรดี?
เมื่อมองไปยังหมาป่าดำขนาดใหญ่ หัวใจของโรดส์ตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม
“นี่มัน…ไม่เคยคิดมาก่อน….”
เซเร็คสูดลมหายใจเข้าลึกๆและเดินมาข้างโรดส์
“คนของเจ้าซ่อนความลับนี้ไว้สินะ ตอนนี้พวกเราควรทำอะไรดีล่ะ?”
พวกเราควรทำอะไรดี?
โรดส์ขมวดคิ้ว ไม่ได้ตอบและถอนหายใจ
“ปล่อยให้ผมจัดการ”
เขาโบกมือจากนั้นเดินตรงไปที่หมาป่าดำยักษ์
“คุณโรดส์?”
เมื่อเห็นการกระทำนี้ มาร์ลีนและไลซ์เรียกชื่อเขาออกมาโดยไม่รู้ตัว เอาจริงๆตอนนี้พวกเธอรู้สึกสับสน เนื่องจากมันเป็นเรื่องยากที่จะยอมรับว่าเด็กสาวคนนี้ที่อาศัยอยู่กับพวกเขามาเป็นเวลาหลายวันสามารถกลายร่างเป็นหมาป่าได้ แม้ว่าในฐานะจอมเวทย์ แต่นั่นไม่ใช่กับมาร์ลีนที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ การอ่านหนังสือและการได้เห็นด้วยตาตัวเองนั้นแตกต่างกันไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ต้องพูดถึงยิ่งเป็นคนที่มีปฏิสัมพันธ์กับเธอมาช่วงระยะเวลาหนึ่ง…..
ตอนนี้มาร์ลีนกำลังมองไปยังหมาป่าดำยักษ์ หัวใจของเธอรู้สึกซับซ้อน เธอไม่รู้ว่าโรดส์พยายามทำอะไร แต่เธอรู้ดีว่าไม่มีสถานที่สำหรับลูกครึ่งสัตว์ในสังคมมนุษย์ แม้จะพูดแบบนั้น พวกเธอเกิดมาจากขุนนาง ไม่ว่าจะเป็นลูกครึ่งทูตสวรรค์ ลูกครึ่งเอลฟ์หรือแม้แต่ลูกครึ่งปีศาจ พวกเขายังปรากฎในร่างมนุษย์ พวกเขาเกิดมาเป็นแบบนั้น อย่างไรก็ตาม อีกซีกหนึ่งของลูกครึ่งสัตว์นั้นเป็นสัตว์อสูรอย่างแท้จริง เมื่อตัดสินจากความแข็งแกร่ง ใครที่เกิดมาเป็นลูกครึ่งสัตว์จะแข็งแกร่งกว่าเผ่าพันธ์ุอื่นๆ แต่ด้วยตรรกะความคิดของมนุษย์ พวกเขาไม่ยอมรับลูกครึ่งสัตว์อย่างสมบูรณ์ แม้ว่าพวกเขาจะยอมรับเผ่าพันธุ์ผสมอื่นๆ
มาร์ลีนได้อ่านหนังสือมามากว่าบุคคลที่เกิดเป็นลูกครึ่งสัตว์จะอาศัยอยู่เหมือนกับมนุษย์ ก่อนที่ตัวตนของพวกเขาจะถูกเปิดเผย พวกเขาจะถูกขับไล่ บางส่วนถูกจับและทรมานตาย หรือไม่ก็ถูกเผาไฟจนตาย
โรดส์จะทำอะไร?
เมื่อมองโรดส์เดินตรงไปยังหมาป่ายักษ์สีดำ มาร์ลีนไม่รู้ว่าจะพูดอะไรหรือทำอะไร แม้ว่าระยะเวลาที่เธอใช้ร่วมกับแอนนั้นจะไม่นาน แต่เธอก็ไม่ได้เกียจแอนแต่อย่างใด ยิ่งไปกว่านั้น ในโรงเรียนเวทมนตร์ มีลูกครึ่งสัตว์มากมาย ดังนั้นเธอจึงไม่รู้สึกไม่คุ้นเคยหรือหวาดกลัวต่อพวกมัน แต่ทว่า…เธอไม่รู้ว่าโรดส์จะตัดสินใจทำอะไร
เธอไม่คิดว่าโรดส์จะฆ่าแอนเพียงเพราะความกลัว แต่ตอนนี้ การเผชิญหน้ากับหมาป่าสีดำขนาดยักษ์ เขาจะทำอะไร?
ราวกับระแวงการมาถึงของโรดส์ หมาป่าดำขนาดยักษ์ยืนขึ้นและมองไปที่เขาอย่างระมัดระวัง ในดวงตาสีเขียวที่น่าสะพรึงตัว ไม่มีร่องรอยความเป็นมิตรแม้แต่นิดเดียว
อ่าาาา….มีปัญหาแล้ว
ความระแวงจากดวงตาของหมาป่าดำทำให้โรดส์ขมวดคิ้ว เขามั่นใจว่าตัวตนของแอนกำลังหลับสนิทตามสัญชาตญาณของเธอ ถ้าเขาทำได้ เขาไม่อยากเข้าไปเสี่ยง แต่แอนเสี่ยงชีวิตของเธอเพื่อปกป้องพวกเขา เธอสละตัวเธอเองเพื่อปกป้องคนทั้งหมดที่นี่ มันไม่ใช่สิ่งที่น่าภาคภูมิใจ….ถ้าเธอไม่ทำตามคำสั่งของเขาและทำสิ่งที่ตัวเองอยากทำ
แต่ตอนนี้….
โรดส์ส่ายศีรษะและไม่ได้พูดอะไรออกมา
“ไลซ์ เตรียมร่ายเวทย์รักษามาที่ผมนะ”
โรดส์ไม่ได้หันกลับไปและส่งคำสั่งแปลกๆมาให้ไลซ์ หลังจากนั้น เขาเดินไปตรงหน้าของหมาป่าสีดำและยื่นมือขวาออกไป
“—!!!”
ตามสัญชาตญาณของมัน หมาป่าสีดำอ้าปากและกัดไปที่มือของโรดส์
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทำให้สีหน้าของเซเร็คดำคล้ำขึ้น แม้แต่ทูตสวรรค์ก็จับดาบในมือของเธอแน่น ไลซ์ตกใจมาก แต่เธอกัดริมฝีปากบังคับตัวเองไม่ให้กรีดร้องออกมา
ใจร้ายมาก!!
ความรู้สึกเจ็บปวดมาจากมือของเขา โรดส์กัดฟัน เขารู้สึกได้ถึงคมเขี้ยวที่แหลมคมของหมาป่าทะลุผ่านมือของเขา ถ้ามันใช้แรงมากกว่านี้ บางทีมือทั้งมือของเขาอาจจะขาดกระจุยไปแล้ว! แต่เขาไม่ได้ถอยกลับหรือเคลื่อนไหวใดๆ เขากำลังเดิมพัน เดิมพันว่าแอนจะคิดว่าพวกเขาเป็นศัตรูหรือไม่
ถ้าแอนเป็นคนฉลาด โรดส์คงไม่ลงเดิมพันกับเรื่องแบบนี้ นั่นเป็นเพราะคนที่ฉลาดที่สุดมักชอบซ่อนความรู้สึกของพวกเขา ยกเว้นแต่พวกเขาไม่มีใครรู้ว่าพวกเขากำลังคิดอะไร จินตนาการว่าคนพวกนี้สูญเสียสภาพจิตใจที่ดีไป มันไม่แปลกเลยถ้าพวกเขากลายทำทุกสิ่ง แต่กับแอนนั้นแตกต่าง เธอใช้ชีวิตของเธอโดยใช้สัญชาตญาณ โรดส์รู้สึกว่าเธอชื่นชอบไลซ์ มาร์ลีนและ….ตัวเขาอย่างมาก ดังนั้นความรู้สึกเหล่านี้จะไปเชื่อมต่อกับสัญชาตญาณของเธอ…มันควรเป็นแบบนั้นเพราะว่าถ้ามันไม่ใช่แบบนั้น เขาจะต้องทุบตีเธอจนกระทั่งเธอสลบ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีทางที่เขาจะฆ่าเธอ
เพราะเธอได้ทำเพื่อกลุ่มทหารรับจ้างนี้ไปมาก
โรดส์อดทนต่อความเจ็บปวด เขาใช้อีกมือหนึ่งลูบไปที่หัวของหมาป่าดำ
“—-!!!”
เมื่อรับรู้ได้ถึงการเคลื่อนไหวของโรดส์ หมาป่าดำขู่ออกมา แต่ไม่นาน มันหรี่ตาลงและเริ่มอ้าปากที่งับมือของโรดส์
มันได้ผล!
เมื่อสัมผัสได้ถึงมุมมองที่หมาป่าดำมีต่อโรดส์ โรดส์โล่งใจ เขาลูบหัวของมันอย่างแผ่วเบา จากนั้นเขาลดมือลงไปแตะที่ใบหน้าและจมูกของมัน หมาป่าดำไม่ได้หลบแต่อย่างใด ในทางตรงกันข้าม มันกลับคลอเคลียกับมือของโรดส์อย่างเสน่หา จากนั้นม้าอ้าปากลง มันยื่นลิ้นออกมาและเลียไปที่บาดแผลที่มือของโรดส์ มันเอียงศีรษะและจ้องมองเขาอย่างไม่สบายใจ จากนั้นมันนั่งลงบนพื้นช้าๆ เขาไม่รู้ว่ามันพยายามขอโทษหรือว่ากลัวกันแน่ แต่เมื่อโรดส์ลูบไปบนหัวของมันอย่างต่อเนื่อง มันพอใจอย่างมาก และหลับตาลง ก่อนที่จะหลับลึกลงไปในที่สุด
ไม่นานร่างขนาดใหญ่หดตัวลง ขนและหางที่หนาฟูเริ่มหายไปช้าๆ หลังจากนั้นไม่นาน ผู้หญิงที่เปลือยปรากฎขึ้นตรงหน้าโรดส์ แต่ตอนนี้ไม่มีบาดแผลอีกต่อไปและเธอกำลังหลับอยู่
“เฮ้อออ…..”
จนถึงตอนนี้ โรดส์ก็ถอนหายใจออกใส เขาวางมือขวาลงและมองไปที่ไลซ์ที่กำลังเดินเข้ามาหาเขาอย่างเร่งรีบ
“รักษาให้ผมหน่อย”
หลังจากที่ผ่านอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด ทุกคนก็ถอนหายใจออกมา
อัศวินแห่งความตายถูกสังหารและไม่มีสิ่งมีชีวิตอันเดดเหลืออยู่ หลังจากที่ออกไปจากที่นี่ไปก็จะเป็นชัยชนะของพวกเขา สิ่งเดียวที่ทำให้โรดส์หดหู่คืออุปกรณ์ของอัศวินแห่งความตาย แม้ว่าอัศวินแห่งความตายจะมีอุปกรณ์ดีๆหลายชิ้น ยกตัวอย่างเช่น ‘แหวนต้องสาป’ ซึ่งสามารถเพิ่มความสามารถในด้านพิษ หรือ ‘สายตาแห่งความตาย’ ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้สามารถมองเห็นตอนกลางคืนได้
โชคร้ายที่อุปกรณ์เหล่านี้เกี่ยวข้องกับพวกปีศาจ เมื่อซีเลียใช้เพลิงศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาถูกเผาสลายกลายเป็นเถ้าถ่าน เมื่อมองไปที่ศพที่เละเทะ โรดส์ก็ช่วยไม่ได้ แม้ว่าเขาพยายามคิดในแง่ดีและถามมาร์ลีนเรื่องการเก็บกวาดสนามรบ โดยหวังว่าจากโชคของเธอจะหาบางอย่างมาให้เขาบ้าง
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ มือของมาร์ลีนนั้นดีมาก ดูเหมือนจะผิดจากที่พูดไปเล็กน้อย แต่เธอค้นพบกระเป๋ามิติจากชุดเกราะของอัศวินแห่งความตาย สำหรับไอเทมเวทมนตร์โดยทั่วไปแล้ว มันจะไม่ถูกเผาโดยเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ มันจึงเป็นสิ่งที่โรดส์ได้รับ สำหรับสิ่งของภายใน โรดส์ไม่ได้คิดจะเปิดมันต่อหน้าทุกคน เนื่องจากมันยังไม่สายเกินไปที่จะตรวจสอบเมื่อพวกเขากลับไป
หลังจากนั้นโรดส์ ไลซ์และคนอื่นๆก็มารวมตัวกัน เมื่อพวกเขาเดินไปหาคุดลา เงาๆหนึ่งปรากฎขึ้นจากฝูงชนและขวางหน้าโรดส์
“นั่นมันหมายความว่าอย่างไร!!”
เด็กสาวลูกครึ่งเอลฟ์มองไปยังโรดส์อย่างโกรธเคือง
“สิ่งที่คุณหมายถึงก็คือสิ่งที่คุณหมายถึงนั่นแหละ?”
เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของเด็กสาว โรดส์ตอบกลับอย่างไร้อารมณ์
“ผู้หญิงคนนั้น!”
ลูกครึ่งเอลฟ์ยื่นมือออกมาและชี้ไปยังแอนซึ่งกำลังถูกคลุมด้วยเสื้อคลุม ขณะที่กำลังหลับอยู่บนหลังของชายชราวอร์คเกอร์
“แกจ้างพวกลูกครึ่งสัตว์มาปกป้องพวกเราจริงๆเหรอ แกกำลังทำอะไรอยู่! แกไม่รู้เหรอ ไอ้พวกสัต*ป่*มันโคตรอันตราย?! แล้วถ้าสัตว์อสูรที่อยู่ในตัวเธอโจมตีพวกเราล่ะ แกตั้งใจทำแบบนี้ใช่ไหม!!”
เมื่อได้ยินคำใส่ความของเธอ ใบหน้าของไลซ์และมาร์ลีนดำมืดทันที เบื้องหลังเด็กสาวลูกครึ่งเอลฟ์ ก็มีบางคนมาจากสมาคม ตอนนี้พวกเขาเองก็รู้สึกไม่มีความสุข แม้ว่าพวกเขาจะรู้จักกับแอนเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ แต่ตลอดทางแอนก็เป็นคนปกป้องพวกเขาตลอด แม้ว่าตัวตนของเธอจะเป็นลูกครึ่งสัตว์ นั่นทำให้พวกเขาตกใจเล็กน้อย แต่คนเหล่านี้คิดว่าเรื่องนี้สามารถยอมรับได้ นี่เป็นเพราะพวกเขาได้ยินเด็กสาวลูกครึ่งเอลฟ์กำลังด่าทอผู้ช่วยชีวิตพวกเขา พวกเขาจึงรู้สึกเสียใจอย่างมาก เซเร็คและตาแก่วอร์คเกอร์เองก็เริ่มจริงจังขึ้นและมองไปยังลูกครึ่งเอลฟ์อย่างไม่พอใจ
“เฮ้ เจ้าน่ะ!!”
แม้แต่คุดลาก็เริ่มหน้าเสีย ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น ทหารรับจ้างที่อยู่ด้านข้างเขาเองก็เป็นเช่นกัน ไม่ว่าอย่างไร แอนก็เป็นผู้ช่วยชีวิตพวกเขาและการมีลูกครึ่งสัตว์ในกลุ่มของพวกเขาเป็นปัญหาในกลุ่มอื่น ทำไมต้องไปยุ่งเรื่องคนอื่นด้วย?
“อันตราย?”
โรดส์ไม่ได้พูดอะไร แต่กลับเป็นมาร์ลีนที่พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา ตอนแรกเธอไม่อยากเข้าไปยุ่งกับพวกทหารรับจ้างหยาบคายพวกนี้ แต่เมื่อได้ยินคำพูดของเด็กสาวเอลฟ์ เธออดไม่ได้ที่จะโกรธขึ้นมา
“ถ้าไม่ใช่เพราะแอน คุณคงไม่สามารถเดินมาถึงที่นี่ได้อย่างปลอดภัยหรอก ไม่เพียงแต่คุณยังจะไม่ขอบคุณ คุณยังด่าว่าพวกเราอีกรึ? คนหยาบคายแบบนี้สมควรปล่อยให้ตายไว้ที่นี่แหละ”
“แก…..อย่าคิดว่าฉันจะกลัวแกเพราะว่าแกเป็นจอมเวทย์นะ”
เมื่อเผชิญหน้ากับคำด่าของมาร์ลีน เด็กสาวลูกครึ่งเอลฟ์ยืนตัวแข็งทื่อ ก่อนจะนึกขึ้นได้
“อะไรกัน แกเองก็ไม่ได้ทำอะไร เอาแต่หลบอยู่หลังคนอื่นอย่างกับตัวตลก แกคิดว่ากำลังทำอะไรอยู่? หืออ ฉันไม่คิดว่าไอ้*พว*หน้า***จะ….”
โรดส์ไม่ปล่อยให้เด็กสาวลูกครึ่งเอลฟ์พูดจบประโยค เขาต่อยเข้าไปที่ใบหน้าของเธอ
โดยปกติแล้ว เนื่องจากเธอคาดไม่ถึงว่าจะมีการโจมตี เธอจึงถูกส่งกระเด็นลงไปนอนกองที่พื้น แต่โรดส์ไม่ปล่อยให้เธอพูดอะไรต่อ โรดส์ตามไปเตะซ้ำที่ท้องของเธอทำให้เด็กสาวลูกครึ่งเอลฟ์ตัวงอเป็นกุ้งและอ้วกออกมา ในที่สุดโรดส์ก็หยุดและปัดมืออย่างไร้อารมณ์ นี่ทำให้คุดลาทำอะไรไม่ได้นอกจากเสียหน้า
“คุณโรดส์….”
“เพราะว่าเธอว่าคนของผม ผมไม่มีความสุข นั่นเป็นเหตุผลที่ผมต่อยเธอ แต่ตอนนี้ผมต่อยเธอไปแล้วและผมมีความสุขดี ตอนนี้พวกเราทั้งหมดเท่าเทียมกัน นั่นเป็นเหตุผลที่คุณไม่ต้องมาขอโทษผม หรือคุณคิดว่าผมติดหนี้คุณอยู่”
โรดส์พูดขัดจังหวะคุดลา หลังจากหมดสิ้นสิ่งที่เขาอยากจะพูด เขาหันกลับและเดินไปยังกลุ่มของเขา
“ภารกิจของพวกเราจบแล้ว พวกเราควรออกจากสถานที่บ้าๆนี่สักที”