87 – รวมตัว
ไม่นานหลังจากที่เหล่าอันเดดถอยออกไป ชายชราวอร์คเกอร์พบร่องรอยใหม่
“พวกเขาทิ้งร่องรอยไว้!”
วอร์คเกอร์และเซเร็คเริ่มรู้สึกตื่นเต้น เมื่อพวกเขาเห็นสัญลักษร์แปลกๆที่ลำต้นของต้นไม้
“พวกเขาอยู่ใกล้ๆ…ข้าคิดว่าพวกเขาคงอยู่แถวๆนั้น!”
ชายชราวอร์คเกอร์ชี้ไปยังถ้ำดำมืดไม่ไกลไปจากพวกเขา แม้ว่าชายชราวอร์คเกอร์จะไม่ชี้ให้พวกเขาเห็นสัญลักษณ์คล้ายกับที่อยู่บนพื้นผิวถ้ำ ทุกคนก็สามารถเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นจากชิ้นส่วนของเหล่าอันเดดที่กระจายอยู่ที่ทางเข้า รอยเท้าที่สับสนยังคงเผยให้เห็นว่ามีมนุษย์อยู่ที่นี่และมีหลักฐานว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
“ไปกันเถอะ”
โรดส์ไม่อยากชักช้าในป่านี้มากเกินไป ดังนั้นเขาจึงรีบสั่งให้กลุ่มของเขาเคลื่อนที่ ขณะที่การเดินทางของพวกเขาราบรื่น พวกเขาเข้ามาได้ 2 ใน 3 ของสันเขาแห่งความเงียบ พวกเขายังเหลืออีก 1 ใน 3 สำหรับเดินทางไปเพื่อช่วยชีวิตกลุ่มทหารรับจ้างที่เหลือ
อย่างไรก็ตาม คนอื่นๆนอกจากเซเร็คเผยให้เห็นใบหน้าที่เหนื่อยล้า การพักเล็กน้อยก่อนหน้านี้ไม่สามารถฟื้นกำลังของทุกคนได้ เมื่อเห็นสภาพของพวกเขาในตอนนี้ โรดส์รู้สึกว่าพวกเขาคล้ายกับ NPC ที่ไม่อยากขัดขวางผู้เล่นที่จะเข้าไปสังเวยชีวิตของพวกเขา เพื่อปูทางไปสู่ลาสบอส
แน่นอนว่าโรดส์ไม่ต้องการให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น การพยายามต่อสู้กับลาสบอสตัวคนเดียวโดยไม่มีเพื่อรร่วมทีมเป็นเพียงแค่การฆ่าตัวตาย ดังนั้นเขาจึงบอกให้กลุ่มของเขาตามเขามาทีหลัง ขณะที่กำลังเข้าไปในถ้ำมืด
วูซซซซซ! เมื่อโรดส์เข้ามาในถ้ำ ทันใดนั้น กริชพุ่งออกมาจากความมืดและมุ่งเป้ามาที่ลำคอของโรดส์ เห็นได้ชัดว่าการโจมตีนี้หมายเอาชีวิตของเขา
ถ้าเป็นคนอื่น บางทีชีวิตของพวกเขาอาจจะถึงจุดจบโดยไม่อาจขัดขืนได้แม้แต่น้อย ผู้ที่ซุ่มโจมตีนั้นไม่รู้ว่าโรดส์นั้นแตกต่าง ในฐานะผู้เล่นระดับท็อปของ Dragon Soul Continent โรดส์พบเจอการสอบสังหารจากผู้เล่น PK อยู่บ่อยๆ เมื่อมือสังหารโจมตีมา ปฏิกิริยาของเขาจึงตอบสนองอัตโนมัติ
เขาใช้ดาบป้องกันกริชและโจมตีสวนกลับไปทันที มือสังหารตกใจเล็กน้อย การลอบโจมตีของมันถูกพบเจอ ดังนั้นมันจึงพยายามถอย แต่โรดส์ไม่ปล่อยโอกาสนี้ออกไป เขาแทงดาบของเขาไปในทิศทางของกริช และหยุดไว้ที่ลำคอของมือสังหาร
“หยุด! โรดส์ เขาเป็นมิตร”
เซเร็คหยุดโรดส์อย่างรวดเร็ว เมื่อเขาเห็นกริช ไลซ์วิ่งตามมาและส่องแสงสว่างไปยังถ้ำด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์
ท้ายที่สุดโรดส์ก็สามารถมองเห็นเรือนร่างของมือสังหาร
ครึ่งใบหน้าถูกปกปิดไปด้วยหน้ากากสีดำ ชุดเกราะหนังรวดรูปขับเน้นรูปร่างผอมเพียวและหน้าอกที่สั่นสะเทือนขึ้นลงจากการที่เธอหายใจ หูยาวของเธอสั่นเล็กน้อย ขณะที่ดวงตาของเธอจ้องมองไปยังดาบที่จ่อที่ลำคอของเธอ
เธอคือลูกครึ่งเอลฟ์
“คุณเป็นสมาชิกของกลุ่มทหารรับจ้างวิคตอเรียส ไวน์ใช่ไหม?”
โรดส์ลดดาบลงและถามอย่างไร้อารมณ์ ราวกับคนที่โจมตีเขาไม่ใช่เธอ
“ใช่ ฉันเป็นสมาชิกของวิคตอเรียส ไวน์ค่ะ พวกคุณมาจากสมาคมทหารรับจ้างเหรอคะ?”
“ใช่แล้ว”
เซเร็คเดินออกมาด้านหน้า
“ข้า เซเร็ค พวกเราได้รับคำร้องมาจากหนึ่งในสมาชิกของเจ้าและรีบมาที่นี่เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาทันเวลานะ”
“คุณ-คุณคือ…คุณเซเร็ค!”
ลูกครึ่งเอลฟ์ดวงตาเป็นประกาย
“พวกคุณมาที่นี่จริงๆ! ดีมาก!! รีบไปช่วยเพื่อนของฉันกันเถอะค่ะ!!”
เธอจับมือของเซเร็คและดึงเขาลึกเข้าไปในถ้ำ
“พวกเราทำตามคำสั่งของหัวหน้าให้หนีมาที่นี่….”
เมื่อเธอนำไป เธอสรุปสภาพของกลุ่มของเธอให้ฟัง
“ตอนแรก หัวหน้าของพวกเราไม่ได้วางแผนจะเข้าไปในส่วนลึกของสันเขาแห่งความตายเพราะพวกเรารู้ดีว่าที่นี่อันตรายแค่ไหน แต่เมื่อพวกเรามาถึงรอยต่อชายแดน พวกเราถูกโจมตีและรุมล้อมโดยเหล่าอันเดด พวกเราจึงตัดสินใจหนีออกมา แต่เมื่อพวกเรารู้ตัวอีกที พวกเราได้เข้ามาลึกมากแล้ว แม้ว่าพวกเราจะพยายามทะลวงฝ่ากองทัพอันเดดมากแค่ไหน แต่พวกเราก็ไม่เคยทำสำเร็จ ดังนั้น…พวกเราไม่มีทางเลือกได้แต่เดินเข้ามาสำรวจภายในเพื่อหาทางออก”
“เอาล่ะ พวกคุณคงรู้เรื่องราวที่เหลือแล้ว ในกลุ่มพวกเรามีคนได้รับบาดเจ็บและหัวหน้าของพวกเราส่งบางคนออกไปเพื่อขอความช่วยเหลือ โชคดีที่พวกคุณมาถึงเร็วมาก…ไม่เช่นนั้น….”
คนพวกนี้เลือกสถานที่ที่อันตรายที่สุดได้เก่งจริงๆ
โรดส์ขมวดคิ้วและคิดในใจ
“ใครน่ะ?”
เมื่อทุกคนมาถึงจุดสิ้นสุดของถ้ำ เสียงทุ้มดังขึ้น
“นี่ฉันเอง คนจากสมาคมทหารรับจ้างมาถึงแล้ว!”
“อะไรนะ?!”
เสียงทุ้มตอบกลับมาด้วยความตื่นเต้นทันที
“พวกเขามาแล้วจริงๆเหรอ?! เร็ว เร็วมาก พาพวกเขาเข้ามาข้างใน!!”
ไม่นาน เสียงดังกึ่งก้องสั่นสะเทือนถ้ำเล็กน้อย ก้อนหินที่อยู่ที่จุดสิ้นสุดถ้ำถูกกลิ้งออกไปด้านข้าง เผยให้เห็นเส้นทางลับ ในเวลาเดียวกัน ชายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเดินออกมาจากทางเข้า เมื่อดวงตาของเขาพบเห็นเซเร็คและคนอื่นๆ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความยินดี
“คุณเซเร็ค? ข้าไม่คิดว่าคุณจะมาที่นี่ด้วยตัวเอง พวกเราดีใจเป็นอย่างยิ่ง…”
“ไม่ต้องพูดอะไรหรอก มันเป็นสิ่งที่สมาคมทหารรับจ้างสมควรทำ”
เซเร็คโบกมือของเขาและยิ้มออกมา ก่อนจะหันไปมองโรดส์
“ถ้าเจ้าอยากขอบคุณใครสักคน ขอบคุณเขาโน่น พวกเรามาที่นี่ไม่ได้ถ้าไม่ได้เขา”
“เอ๊ะ!!?”
ชายคนนั้นผงะเล็กน้อย เมื่อเขาได้ยินสิ่งที่เซเร็คพูด เขามองไปยังโรดส์ด้วยความอยากรู้ขณะหนึ่ง ก่อนที่จะหันไปสนใจโรดส์ เขาคิดว่าโรดส์เป็นผู้ติดตามของเซเร็ค แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่แบบนั้น….
หลังจากนั้นไม่นาน เขาหยิบสังเกตโรดส์และเชิญทั้งกลุ่มเข้าไปด้านใน
“ทุกคนเข้ามาด้านในเถอะ ข้างนอกอันตรายมาก อันเดดพวกนี้เป็นคู่ต่อสู้ที่หนังเหนียวมาก”
สำหรับกลุ่มทหารรับจ้างที่มีชื่อว่า วิคตอเรียส ไวน์ ทุกคนอาจจะนึกถึงความโชคดีอย่างน่าเหลือเชื่อ น่าเสียดายที่สมาชิกของพวกเขาจะไม่ได้ดีเหมือนชื่อ หลังจากที่เข้ามาด้านในถ้ำ ภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้กลุ่มของโรดส์หายใจเข้าลึกๆ
5-6 คนได้รับบาดเจ็บหนักและกำลังเอนหลังพิงกำแพง พวกเขาอาบไปด้วยเลือดและรอยแผลมากมาย บางบาดแผลเผยให้เห็นเนื้อสดที่มีเลือดไหลออกมา!! เสียงครวญครางอย่างเจ็บปวดยังคงดังไปทั่วถ้ำ แต่เมื่อพวกเขาเห็นโรดส์และคนอื่นๆเข้ามา ประกายความหวังปรากฎขึ้นในแววตาของพวกเขา
“ไลซ์”
โรดส์ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมาก ไลซ์และนักบวช 4 คนเข้าใจหน้าที่ของพวกเขา พวกเขาพุ่งตรงไปยังเหล่าทหารรับจ้างและเริ่มรักษาบาดแผลของพวกเขา
“ข้าชื่อ คุดลา หัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างวิคตอเรียส ไวน์”
ชายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อใช้พลังเหนือมนุษย์ยกก้อนหินปิดกลับที่เดิม ก่อนที่จะเดินมาโค้งคำนับอย่างสุภาพ
“ในฐานะตัวแทนของกลุ่มทหารรับจ้าง ข้าอยากขอบคุณทุกท่านจากก้นบึ้งหัวใจ จริงๆแล้วข้าไม่คิดว่าพวกเราจะรอดมาถึงตอนนี้ได้ คุณเซเร็ค ขอขอบคุณ….”
จากนั้นชายนาม คุดลา หันไปหาโรดส์
“และเขาคือ?”
คุดลาไม่เข้าใจและพยายามศึกษาเด็กหนุ่มตรงหน้า จากคำอธิบายของเซเร็คก่อนหน้านี้ เด็กหนุ่มคนนี้เป็นหนึ่งในคนที่ช่วยพวกเขาไว้ เขาเป็นใครกัน?
“เขาเป็นหัวหน้าสตาร์ไลท์ ข้าว่าเจ้าอาจเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนใช่ไหม?”
“เขาเป็นหัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้าง ‘สตาร์ไลท์’ ข้าคิดว่าเจ้าเคยได้ยินเกี่ยวกับเขามาก่อนนะ”
เซเร็คยิ้มและพยายามแนะนำเขา หลังจากได้ยินคำแนะนำของเซเร็ค คุดล่ามีสีหน้าประหลาดใจ
“ได้ข่าวว่าเขา…แต่…ทำไม…”
“ทางสมาคมขาดแคลนกำลังคนในตอนนี้”
ก่อนหน้าที่คุดลาจะพูดจบ เซเร็คตอบแทนช่องว่างที่หายไป ใบหน้าของเขามืดมนทันที
“เจ้าอาจจะยังไม่รู้นะ แต่ทหารรับจ้างทุกกลุ่มในเมืองดีพสโตนถูกทำลายโดยกองทัพอันเดด มีเพียง 5-6 กลุ่มที่รอดกลับมา แต่พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับอาการบาดเจ็บสาหัส และยังไม่มีข่าวสำหรับกลุ่มอื่นๆ”
“มันเกิดขึ้นได้อย่างไรกัน!!”
คุดล่าตกใจ
“ข้าว่า…”
“สมาคมทหารรับจ้างในตอนนี้กำลังสืบหาเกี่ยวกับภารกิจและตัวผู้มอบภารกิจ พวกเจ้าได้รับภารกิจอะไรมารึ?”
“พวกเราได้รับภารกิจให้ค้นหามรดกตกทอดของนักเดินทาง”
เมื่อสัมผัสได้ถึงความตึงเครียด สีหน้าของคุดลาเริ่มจริงจัง
“ข้าได้ยินมาว่ามีนักเดินทางตายที่รอยต่อชายแดนของสันเขาแห่งความเงียบ ผู้มอบหมายภารกิจที่อ้างว่าเป็นพี่ชายของนักเดินทาง เขากังวลมากเพราะน้องชายของเขายังไม่กลับมา ดังนั้นเขาจึงขอให้พวกเราช่วยออกตามหาเขา ตอนแรกข้าปฏิเสธไป แต่คนๆนั้นแสดงความซื่อสัตย์ เขามอบเงินมัดจำให้พวกเรา 300 เหรียญทอง… ”
“เขาอาศัยอยู่ที่เมืองดีพสโตนงั้นรึ?”
เซเร็คถาม
คุดลาเงียบลงก่อนที่จะส่ายหัว
“ไม่นะ จากที่ข้าได้ยิน เขาดูเหมือนทางใต้…อย่างไรก็ตาม เขาไม่ใช่คนของแคว้นภาฟิวด์ เขาบอกว่าเขาต้องเดินทางบ่อยและอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน”
อย่างที่คิด
เซเร็คและโรดส์มองตากันและกัน ทั้งคู่เข้าใจความหมายของสิ่งที่พวกเขาหมายถึง
ดูเหมือนว่าวิตอเรียส ไวน์จะเป็นหนึ่งในเหยื่อ มรดกตกทอดของนักเดินทางเป็นเรื่องที่ถูกกุขึ้น คล้ายกับเรดฮอว์คที่พยายามค้นหาดาบที่ไม่มีตัวตน ท้ายที่สุด มันเป็นเพียงข้ออ้างที่จะพาพวกเขาไปยังพื้นที่เสี่ยงอันตราย แต่การทำแบบนี้พวกมันต้องจ่ายเงินหลายร้อยเหรียญทองเพื่อทำเรื่องแบบนี้….พวกมันใจกว้างขนาดนั้นเลยรึ?
พวกมันกำลังคิดจะทำอะไรกันแน่?