71 – เสียงเรียกร้องของดาบศักดิ์สิทธิ์
“…”
โรดส์ไม่รู้ว่าควรมีปฏิกิริยาอย่างไร เมื่อเขาเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น
บ้าชิบ!
รูปปั้นหิน 2 ตัวสูงราวๆ 2 เมตร โรดส์กัดฟันและหายใจเข้าลึกๆ เขารู้ดีว่าพระราชวังแห่งนี้เป็นสถานที่ที่มีบางอย่างเกี่ยวข้องกับนักดาบอัญเชิญ
ตามตำนานที่ว่ามานั้น นักดาบอัญเชิญเป็นคลาสลึกลับแต่โบราณ เมื่อผู้เล่นเลือกคลาสนี้ เขาจะต้องถูกเรียกว่าผู้สืบทอด
ไม่ใช่ว่ารายละเอียดคลาสหรือบทนำที่ให้ผู้เล่นมานั้นผิดพลาดหรืออาจจะมีมากกว่านั้น เมื่อลองคิดดูว่าคลาสที่เขาเลือกนั้นอาจเป็นคลาสพิเศษก็ได้?
ตอนนี้มันน่าสงสัยคือ คลาสนักดาบอัญเชิญอาจไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อเหล่าผู้เล่น แต่มันเป็นคลาสที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาณาจักรฟาสคาร์ล
เมื่อคิดได้ถึงตอนนี้ ไม่สิ ไม่มีเวลาคิดกับเรื่องนี้อีกแล้ว
“คุณโรดส์!”
เสียงของมาร์ลีนดังขึ้นด้านหลังเขา เมื่อเขาหันกลับไป เขาจบบาเรียสีทองแบ่งแยกพวกเขาทั้ง 2 ออกจากกัน
มาร์ลีนยืนอยู่ในบาเรียอีกอันหนึ่งและมองโรดส์ด้วยสายตาไม่มั่นใจ
อ่า…มันคงเป็นบทสอบเดี่ยวสินะ…เสียเวลาชะมัด ฉันไม่สามารถใช้ตัวช่วยได้สินะ
โรดส์ไม่ได้เอาแต่ขอความช่วยเหลือจากคนอื่นอยู่แล้ว ตั้งแต่ที่เขาเริ่มมาที่นี่ สิ่งที่เขากังวลมาตลอดมีเพียงวิธีเอาตัวรอดจากสถานที่แห่งนี้ออกไป
4 ต่อ 1? แกต้องการแกล้งกันรึไง?
“หึ” โรดส์พึมพำในใจ
เขาก้าวออกมาครึ่งก้าวและยกดาบขึ้นด้วยมือขวา ทันใดนั้น แสงสว่างส่องลงมาที่ดาบในมือของเขาจากนั้นส่องสว่างไปทั่วร่าง และท้ายที่สุดไปจบลงที่ขา ลวดลายที่สวยงามปรากฏใต้เท้าโรดส์ การ์ดสีเขียวและสีแดงกำลังลอยอยู่รอบๆตัวเขา ราวกับทั้งคู่เป็นธาตุลมและธาตุไฟ
“—!!”
นักฆ่าเปลวเพลิงและวิหควิญญาณเป็นคู่หู่ที่น่าเกรงขาม ทั้งคู่คำรามแสดงถึงความแข็งแกร่งส่งไปยังเสือชีต้าหินทั้ง 2 ตัว
แต่นั่นยังไม่ใช่ทั้งหมด
เมื่อเขาจบภารกิจสุสานพาเวล ค่าประสบการณ์ที่เขาได้รับทำให้เขาเลื่อนไปถึงระดับ 10 ความจริงมันน่าจะเพิ่มได้มากขึ้นอีก หลังจากสังหารชายชุดดำทั้งสาม ค่าประสบการณ์ที่ได้รับก็ค่อนข้างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวหัวหน้าที่เป็นเด็กสาว รวมถึงเขายังได้รับค่าประสบการณ์ 2000 หน่วยจากการสังหารพวกมันทั้งหมด และเลื่อนระดับมาถึง 12 เพิ่มขึ้น 2 ระดับในครั้งเดียว
ดูเหมือนว่าการฆ่าพวกมันทั้งหมดจะเป็นประโยชน์อย่างมาก แต่…
โรดส์มองไปยังบาดแผลที่มือซ้ายและถอนหายใจ
เขาไม่สามารถละเลยบาดแผลเหล่านี้ได้
เลื่อนระดับ!
[EXP 6000/2500 เลื่อนระดับ ต้นไม้พรสวรรค์ปลดล็อก ระดับ 10]
เลื่อนระดับ!
โรดส์อยากสร้างทางเลือกทันที แต่ระบบแจ้งเตือนต่อมาทำให้เขาตกใจ
[EXP 3500/3000 เลื่อนระดับ พรสวรรค์ต้นไม้ปลดล็อก ได้รับแต้มสกิล 2 หน่วย ระดับ 11]
[EXP 500/4000 พรสวรรค์ต้นไม้ปลดล็อก ได้รับแต้มสกิล 2 หน่วย ระดับ 12]
ได้รับแต้มสกิล 2 หน่วย?
โรดส์อยากขยี้ตาอีกครั้ง เขาคิดว่าเขากำลังฝันไป แต่ความจริงที่ระบบไม่อาจโกหกเขาได้ มีเลข 2 ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขาจริงๆ
ห๊ะ?
ถ้าจำไม่ผิด ผู้เล่นจะได้รับแต้มสกิลเพียง 1 หน่วยต่อระดับเท่านั้น ทำไมฉันถึงได้ 2 หน่วยล่ะ?
ระบบเปลี่ยนไปงั้นหรอ? หรือว่ามันอาจจะเป็นบัค?
แม้ว่าในหัวของเขาจะเต็มไปด้วยความสงสัย โรดส์ไม่อาจลังเลกับแต้มสกิลของเขาที่ได้รับมาใหม่ สิ่งที่เกิดขึ้นค่อยมาพูดคุยที่หลังได้ ถ้าเขาตายตอนนี้ เขาจะสูญเสียทุกสิ่ง ไม่ว่ายังไง ถ้าแต้มสกิล 4 หน่วยที่ได้รับมาเป็นเรื่องจริง เขาก็แค่ใช้มัน!
[ใช้แต้มสกิล 1 หน่วยเพื่อเลื่อนระดับ ท่วงทำนองวิญญาณ ระดับ 2 (ทุกๆ 10 ระดับจำนวนวิญญาณอัญเชิญสูงสุดเพิ่มขึ้น +1)]
[ใช้แต้มสกิล 1 หน่วยเพื่อเลื่อนระดับ ท่วงทำนองวิญญาณ ระดับ 3 (ทุกๆ 10 ระดับ จำนวณวิญญาณอัญเชิญสูงสุดเพิ่มขึ้น +1)]
[วิญญาณอัญเชิญ +3]
[จำนวณวิญญาณที่อัญเชิญได้ทั้งหมด 4]
[ใช้แต้มสกิล 1 หน่วย พรสวรรค์จ้าวอัญเชิญถูกปลดล็อก หลอมรวมระดับ 1 (ฟิวชั่นวิญญาณ 2 ดวงเพื่อสร้างวิญญาณอัญเชิญดวงใหม่ ใช้วิญญาณ 1 ดวง)]
[ได้รับสกิลติดตัว : หลอมรวมระดับ 1]
[ใช้แต้มสกิล 1 หน่วยในการเลื่อนระดับ หลอมรวมระดับ 2 (เมื่อใช้แกนวิญญาณ ไม่จำเป็นต้องสังเวยดวงวิญญาณ)]
[แกนวิญญาณถูกตรวจพบ ต้องการหลอมรวมหรือไม่?]
โรดส์ยืดแขนซ้ายออกมา
ในมือของเขา เขาถือแกนวิญญาณที่เขาได้รับมาจากเนโครแมนเซอร์ หมอกสีดำทมิฬหมุนวนรอบอัญมณี
“ฟิวชั่น!”
ตามมาด้วยเสียงตะโกน ลวดลายที่อยู่ใต้เท้าของเขาเริ่มสว่างขึ้น ทั้งวิหควิญญาณและนักฆ่าเปลวเพลิงกลับเข้าสู่การ์ดอีกครั้งและหมุนวนรอบตัวโรดส์ เมื่อการ์ดเหล่านั้นเริ่มเข้ามาสู่จุดกึ่งกลาง ในเวลาเดียวกันนั้น แกนวิญญาณเริ่มสั่นสะเทือน หมอกสีดำปรากฏขึ้นและก่อตัวเป็นวัตถุคล้ายกับดวงดาว การ์ดทั้งสองใบดึงดูดกันราวกับแม่เหล็ก เมื่อพวกมันเข้าใกล้กันเพียงพอ จากนั้นพวกมันผสานกันทันที
วืดดดด!! หมอกก่อตัวขึ้นกลืนกินร่างของโรดส์ มาร์ลีนตกใจอย่างมาก เมื่อเธอเป็นสักขีพยานให้กับภาพตรงหน้า แม้แต่รูปปั้นหินและรูปปั้นเสือชีต้าก็มองภาพตรงหน้าด้วยความหวาดระแวง
ภาพต่อมา การ์ดสีดำปรากฏขึ้นท่ามกลางหมอก มันลอยเข้าหามือของโรดส์อย่างช้าๆ เหนือการ์ดนั้นมีรูปอัศวินเซนทอร์(ครึ่งคนครึ่งม้า) สวมชุดเกราะสีดำที่กลางอก บนหัวของมันมีหมวกเหล็ดขนาดพอดีหัวถูกสวมอยู่เผยให้เห็นเพียงดวงตาสีแดงกล่ำ ในมือของมันถือหอกแหลม
[ได้รับทหารแห่งนรก 1/5 วิญญาณอัศวินนักล่า]
[วิญญาณอัศวินนักล่า(ธาตุความมืด) สามารถใช้ในการหลอมรวมได้ การโจมตีมีผลกัดกร่อน สกิลพิเศษ – ชาร์จ(พุ่งไปข้างหน้าโดยไม่หันกลับมามองด้านหลังคือเส้นทางของเซนทอร์] ระดับ 5
การทดลองใช้ธาตุลมกับธาตุไฟ ทำให้เกิดฑาตุเฉพาะขึ้นมา
การโจมตีเบาที่ไม่สามารถเจาะทะลุเกราะของมันได้ ประเภทเกราะหนัก
[โจมตี: 3 ป้องกัน: 4]
เยี่ยม!
เมื่อถือการ์ดนั้นไว้ในมือ โรดส์รับรู้ได้ถึงความมั่นใจที่ไหวเวียนไปทั่วร่างของเขา
และตอนนี้
เมื่อเขาเริ่มการต่อสู้ ระบบแจ้งเตือนเด้งขึ้นมาอีกครั้ง
[หลอมรวมเวทมนตร์สำเร็จ ดาบของคุณเรียกร้อง แกนวิญญาณจะถูกกลืนกินในเร็วๆนี้]
มันกำลังทำอะไร?
เมื่อมองไปที่หน้าต่างข้อมูลของเขา โรดส์ขมวดคิ้ว แม้ว่าเขาจะเคยได้รับวิญญาณอัญเชิญมาหลายต่อหลายดวง แต่เขายังคงไม่เข้าใจกระบวนการในเด็คดาบศักดิ์สิทธิ์ ก่อนหน้านี้ เมื่อเขาเลื่อนระดับ ระบบแจ้งเตือนถามเขาว่าต้องการหลอมรวมเวทมนตร์หรือไม่และเขาเลือกที่จะปฏิเสธ แต่เขาไม่แม้แต่จะอัญเชิญมันออกมา ตอนนี้ทำไมระบบถึงแจ้งเตือนด้วยตัวมันเองกันล่ะ? ทำไมมันถึงอยากกลืนกินแกนวิญญาณ?
โรดส์เข้าใจการแจ้งเตือนไร้ประโยชน์ ดังนั้นเขาจึงไม่คิดถึงมันอีก อย่างไรก็ตาม คลาสนักดาบอัญเชิญเป็นอาชีพที่มีปัญหาตลอด เขามั่นใจในเรื่องนั้น
แกนวิญญาณในมือของโรดส์แตกสลายกลายเป็นผุยผง การ์ดสีขาวปรากฎขึ้นในมือของเขาทันที
[โปรดเลือกกระบวนท่าผูกพันธะ]
นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย?
ถ้าสิ่งนี้เกิดขึ้นในเกม เขาคงบันทึกเรื่องทั้งหมดนี้แล้วนำไปโพสต์ในกระดานข่าวให้ทุกคนช่วยกันคิด แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถทำแบบนั้นได้อีกต่อไป ยิ่งไปกว่านั้น ระบบยังไม่ให้โอกาสเขาได้เลือกคำว่า ‘ไม่’ ดังนั้นสิ่งที่เขาควรตอบมีเพียง ‘ใช่’ ‘โอเค’ ‘แน่นอน’?
เห็นได้ชัดว่าเขาไม่มีทางเลือก
[กระบวนท่าดาบผูกพันธะ: กระบวนท่าดาบเงาจันทร์]
โรดส์สาปแช่งอยู่ในใจ แต่เขายังคงเลือกกระบวนท่าดาบเงาจันทร์ เนื่องจากมันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในตอนนี้
อย่างไรก็ตาม ระบบแจ้งเตือนทำให้เขาดีใจขึ้นมาเล็กน้อย
[การผูกพันธะเสร็จสิ้น โปรดเลือก ‘ใช่’ หรือ ‘ไม่’]
ปราศจากความลังเล โรดส์เลือก ‘ใช่’
ต่อมาแสงสีขาวสว่างขึ้น
หมอกปกคลุมร่างของโรดส์ก่อนหน้านี้กระจายหายไป ความจริงแล้วมันสว่างมากจนมาร์ลีนต้องหลับตา อึดใจต่อมา แสงสว่างได้หายไป ทุกสิ่งกลับมาเป็นปกติ เมื่อมาร์ลีนลืมตาขึ้นมา เธอทำได้เพียงเบิกตากว้างกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเธอ
โรดส์ยังคงยืนอยู่ในตำแหน่งเดิม ซ้ายมือของเขามีหมาล่าเนื้อสีดำและขวามือของเขามีเซนทอร์สูง 2 เมตรกำลังกวัดแกว่วงหอกในมือ และวิหควิญญาณกำลังเกาะที่ไกล่ของโรดส์ นี่คือสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
แต่มีบางสิ่งบางอย่างเพิ่มขึ้นมาในบรรดาวิญญาณอัญเชิญทั้งหมด
เด็กร่างเบ็กที่ยืนอยู่ด้านข้างอัศวินเซนทอร์
มันคือเด็กสาว งดงามราวกับนางฟ้า
ผมสีขาวยาวสลวยปะบ่ามาพร้อมกับใบหน้าที่งดงามน่าทะนุถนอม เธอสวมชุดเกราะอัศวินวาไครี่ ดวงตาสีฟ้ามีออร่าเย็นชา ชุดเกราะของเธอขับเน้นส่วนโค้งเว้าของร่างกาย ปีกสีขาวกางออกช้าๆ ทั้งหมดนี้ดูไม่เหมือนดาบที่เพิ่งชักออกมาจากซอง ไม่แม้แต่น้อย
เธอยกดาบขึ้นและแสดงสีหน้าที่แตกต่าง
“ลำดับที่ 10 ดาบศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์กาล เครื่องหมายแห่งดวงดาวรับคำสั่งค่ะ นายท่าน”
“ดีมาก”
เมื่อโรดส์มองไปที่เธอ เขาอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ
แต่เขายังคงซ่อนสีหน้าและพยักหน้ายอมรับเธอ จากนั้นเขาดึงดาบในมือของเขาและชี้ไปตรงหน้า
“ดีล่ะ ถึงเวลาเริ่มแล้ว!”