121 – ช่วยเหลือคนของฮิลเลอร์(2)
กลิ่นเหม็นฉุนจากขวดกระจายไปทั่วบริเวณ ทำให้คนอื่นๆเริ่มขมวดคิ้วและปิดจมูก ไม่นานกลิ่นเริ่มแรงขึ้น แม้แต่แอนที่มีสีหน้ายิ้มแย้มก็เริ่มมีสีหน้าขมขื่น เห็นได้ชัดว่าเธอไม่สามารถทนต่อกลิ่นประเภทนี้ได้
ในทางตรงกันข้าม ลาปิส (ตัวการ) ดูไม่สนใจ กลิ่นนั้นดูเหมือนจะไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆต่อเธอ เพราะว่าเธอเป็นอัลเคมิสต์ เธอได้ปรุงโพชั่นมาตลอดทั้งวัน เธอสามารถทนกลิ่นเหม็นที่รุนแรงกว่านี้ได้อีกมาก ในความคิดของเธอ นี้เป็นเหมือนของว่างเท่านั้น
มาร์ลีนหน้าซีดลงเล็กน้อย แต่เหตุผลไม่ใช่เพราะกลิ่นเหม็นนี้ เธอชี้ออกไปและหลับตา ในขณะนั้น เธอมองไปที่โรดส์ด้วยความประหลาดใจและไม่เข้าใจ
“นี่มันควบแน่นพลังธาตุลม!”
สำหรับจอมเวทย์ที่มีพรสวรรค์คนหนึ่ง มาร์ลีนสามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานธาตุรอบๆ ในขณะที่กลิ่นเหม็นประหลาดกระจายตัวออกไป เธอก็รับรู้ได้ถึงการรวมตัวกันของพลังธาตุลมและถูกกดลงกับพื้น มันเหมือนกับเด็กที่ถูกผู้ใหญ่ดุ ขณะเล่นอย่างสนุกสนาน พวกเขาจึงนั่งลงกับพื้นและอยู่เงียบๆอย่างไร้ซึ่งอารมณ์
สำหรับจอมเวทย์ แน่นอนมาร์ลีนรู้ว่านี่หมายถึงอะไร การควบแน่นธาตุลมอย่างฉับพลันนั้น นั่นหมายถึงเวทมนตร์ที่เชื่อมต่ออยู่จะร่ายได้ยากขึ้น พลังจากโล่พายุของเธอลดลงอย่างมาก แต่ว่าเธอก็ยังสามารถร่ายเวทย์ได้ นี่คือความสัมพันธ์ของเวทมนตร์และพลังธาตุซึ่งเหมือนกับคนงานกับโรงงาน ถ้าคนงานทำงานอย่างหนัก โรงงานของสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้เต็มที่ แต่ถ้าคนงานทำงานอย่างขอไปที มันเป็นไปไม่ได้ที่จะผลิตพลังงานมหาศาลได้
อย่างไรก็ตาม มาร์ลีนประหลาดใจเพราะว่าการควบแน่นพลังธาตุเป็นผลลัพธ์ที่มาจากโพชั่นหายากและอัลเคมิสต์มือใหม่ส่วนใหญ่ไม่สามารถปรุงพวกมันได้ แต่ว่าโรดส์นั้นดูเหมือนคุ้นเคยกับมันมาก นั่นเป็นเพราะเขามอบสูตรนี้ให้กับลาปิส มาร์ลีนเป็นคนเขียนสูตรให้กับโรดส์เอง จำนวนวัตถุดิบในรายการนั้นถูกบันทึกอย่างละเอียด แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญด้านการปรุงยาอย่างมาร์ลีนยังไม่รู้ผลลัพธ์อย่างแน่นอนของโพชั่นนี้หลังจากเขียนสูตรนี้เสร็จ เธอสามารถคาดเดาได้จากสมุนไพรเวทมนตร์ที่ใช้ โพชั่นนี้อาจจะแค่สร้างควันเป็นวงกว้างได้
แต่ตอนนี้ มาร์ลีนตกตะลึงไปครู่หนึ่ง เธอไม่สามารถเข้าใจได้ว่าโรดส์ไปเอาสูตรนี้มาจากไหนและเขาจำมันได้อย่างไร เขาไม่ใช่อัลเคมิตส์ เขาไม่ควรเข้าใจสิ่งเหล่านี้ ยิ่งไปกว่านั้นโพชั่นควบแน่นธาตุลมนั้นเป็นของที่หายากมาก
เขาเป็น….
มาร์ลีนกำหมัดแน่นและวางมือไปบนอก เธอรู้สึกได้ถึงเสียงหัวใจที่เต้นรัว
ในเวลานั้น กลิ่นประหลาดเริ่มกลืนหายไปในอากาศและภาพแปลกๆได้ปรากฎขึ้นตรงหน้าพวกเขา
อสรพิษลมที่แต่เดิมกำลังบินอยู่รอบๆป่าเริ่มกรีดร้องและร่วงลงมาสู่พื้นราวกับพวกมันถูกก้อนหินฟาดลงมา อสรพิษบางส่วนโชคดีพอที่จะหลบหนีออกจากหายนะตรงหน้าราวกับพวกมันเห็นผี พวกมันคร่ำครวญและหนีกระจายหายไป พวกมันไม่แม้แต่จะสนใจปีกและร่างกายของพวกมันที่เต็มไปด้วยบาดแผล พวกมันพยายามกางปีกออกเพื่อหนีออกไปจากป่านี้ให้เร็วที่สุด
ในพริบตา ทั้งป่าเหลือเพียงความว่างเปล่า เหลือเพียงอสรพิษลมไม่กี่ตัวที่ล้มอยู่กับพื้นและกรีดร้องออกมา จากนั้นเสียงของพวกมันก็หายไป
“หึ!” เมื่อเห็นภาพตรงหน้า โรดส์สบถออกมาอย่างเย็นชา
เขาคุ้นเคยกับภาพตรงหน้าดี ในเกม อัลเคมิสต์ส่วนมากฆ่ามอนสเตอร์ด้วยวิธีนี้ อสรพิษลมไม่เหมือนกับนกที่เกิดมาพร้อมกับร่างกายที่เหมาะสำหรับการบิน เหตุผลที่พวกมันสามารถบินได้บนท้องฟ้าไม่ใช่เพราะพวกมันมีปีก ถ้าท้องฟ้าเป็นมหาสมุทร อสรพิษลมเหล่านี้ก็เหมือนกับเรือที่แล่นไปบนน้ำทะเล
แต่ตอนนี้หลังจากที่พลังธาตุลมลดลงอย่างรวดเร็วจากการใช้โพชั่นควบแน่น มหาสมุทรขนาดใหญ่ก็ถูกเปลี่ยนกลายเป็นสระน้ำแห้งๆ ที่ไม่มีน้ำ เหลือเพียงปลาที่ดิ้นอย่างทุรนทุราย นี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับอสรพิษลมตรงหน้าพวกเขาในตอนนี้
พวกมันเป็นเพียงกลุ่มมอนสเตอร์โง่ๆที่มีระดับไม่เกิน 5 และมันกล้าทำให้ฉันคนนี้ขายหน้า ถ้าฉันไม่แก้แค้น อย่ามาเรียกฉันว่าโรดส์!!
โรดส์กระทืบซ้ำลงไปที่อสรพิษลมตัวหนึ่งที่กำลังดิ้น ภายใต้ฝ่าเท้ามันกรีดร้องออกมาอย่างน่าสงสาร แต่โรดส์ไม่สนใจ เขาออกแรงเต็มที่และบดขยี้อสรพิษลมให้กลายเป็นก้อนเนื้อในทันที จากนั้นเขาหันไปสั่งการทันที
“ผลของโพชั่นนี้อยู่ได้ไม่นาน! เร็วเข้า พวกเราต้องไปต่อแล้ว!”
เมื่อได้ยินคำสั่งของโรดส์ ทหารรับจ้างที่เหลือมีสีหน้าแตกต่างกันไปและรีบออกเดินทางต่อ พวกเขาติดตามโรดส์และเดินเข้าไปในป่าเพื่อช่วยเหลือผู้รอดชีวิตของกลุ่มทหารรับจ้างเบิร์นนิ่งเบลด
ไม่มีใครสังเกตเห็นใบหน้าของไลซ์ที่เริ่มซีดลง ขณะที่มองไปบนท้องฟ้า
ใบไม้หนาเริ่มบดบังท้องฟ้า เสียงกรีดร้องของอสรพิษลมดังขึ้นเป็นระยะจากทุกทิศทาง มันทำให้เธอนึกถึงฝันร้ายที่เธอฝันเมื่อคืน ความมืดเข้าปกคลุมทุกสิ่ง กลุ่มอสรพิษลมจำนวนมหาศาล และ…
ไลซ์อดสั่นกลัวไม่ได้
นั่นเป็นเพียงแค่ฝันร้าย ไม่เป็นไร มันเป็นแค่ฝันร้ายเท่านั้น
จากนั้น มือข้างหนึ่งตบไหล่ของเธอ
“พี่ไลซ์”
“ห๊าา!!”
ไลซ์ที่กำลังหวาดกลัวอยู่กระโดดและหันไปทันที จากนั้นเธอเห็นแอนที่กำลังยืนข้างเธอ เด็กสาวที่สนใจเพียงแค่การกินและการนอนหันมามองหน้าเธอ ดวงตาสีเขียวของไลซ์สะท้อนความกลัวและสีหน้ากังวลใจออกมา
“พี่เป็นอะไรไหม? พี่ไม่สบายใจเหรอ?”
“ไม่นะ ฉัน…ฉัน..แค่มึนนิดหน่อยนะ”
ไลซ์ไม่รู้จะพูดอะไร เธอจึงเลือกจะตอบแบบผ่านๆ
“ฮืมมมม….”
หลังจากที่แอนได้ยินคำตอบของไลซ์ เธอมองไปที่ไลซ์อีกครั้ง ก่อนที่เธอจะเผยรอยยิ้มออกมาอย่างร่าเริง
“เมื่อพวกเราเริ่มต่อสู้ พี่สาวมายืนข้างหลังแอนนะ เข้าใจไหม? แอนจะปกป้องพี่สาวเอง!”
“อ่า…จ๊ะ เข้าใจแล้วล่ะ ขอบใจมากนะ แอน”
เมื่อเห็นคำตอบที่สับสนของไลซ์ แอนไม่ได้พูดอะไรต่อ เธอเพียงยิ้มและตบไหล่ของไลซ์ หลังจากนั้นเธอกระโดดขึ้นไปข้างหน้า เมื่อเห็นท่าทางของแอน ไลซ์อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา จากนั้นเธอยื่นมื่อออกมาและจับไปที่แก้มของตัวเอง
ใช่แล้ว ตอนนี้ไม่ใช่เวลามากลัว ฉันมีหน้าที่ที่ต้องทำ!
หลังจากคิดได้ดังนี้ เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนที่จะกำมือทั้งสองข้างและมองไปด้านหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง ความสับสนทั้งหมดในหัวของเธอได้มลายหายไป
…..
วืดดด!!
ประกายไฟสีแดงทะลวงผ่านความมืดราวกับมังกรไฟ อสรพิษลมที่น่าสนใจมากมายที่อยู่ตรงหน้าไม่มีแม้แต่โอกาสจะได้หลบ พวกมันถูกกวาดและกลายเป็นเถ้าถ่านภายในพริบตา
“สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?”
ฮิลเลอร์มองไปยังป่ามืดและถามโดยไม่หันกลับมามอง
“เลวร้ายมากครับหัวหน้า 2 ใน 3 ของพวกเราบาดเจ็บสาหัส มี 5 คนมีสภาพไม่ดีและดูเหมือนจะติดพิษครับ แม้ว่าพวกเราจะทำเต็มที่แล้ว….แต่จำนวนคนที่รอดนั้นดูเหมือนจะไม่มากครับ”
“เข้าใจแล้ว”
เมื่อได้ยินการตอบรับของผู้ติดตาม สีหน้าของฮิลเลอร์ไม่ได้เปลี่ยนแปลง เขาถือดาบเพลิงยักษ์ไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง ขณะที่มองไปรอบๆ อสรพิษลมที่เริ่มสูญเสียพวกพ้องของพวกมันไปเริ่มไม่ดุร้ายเหมือนแต่ก่อน นี่เป็นโอกาสสำหรับฮิลเลอร์จะได้พัก แต่เห็นได้ชัดว่าหัวหน้าทหารรับจ้างที่มีประสบการณ์คนนี้ยังไม่ลดความระมัดระวังเพราะเขารู้ดีว่าสถานการณ์ตรงหน้ายังไม่ดีขึ้นเลย
กลุ่มทหารรับจ้างของฮิลเลอร์ถูกโจมตีโดยเหล่าอสรพิษลมในวันที่ 2 ที่พวกเขาเข้ามาในป่าราตรี เนื่องจากกลุ่มทหารรับจ้างเบิร์นนิ่งเบลดเป็นกลุ่มทหารรับจ้างอันดับหนึ่งและมอนสเตอร์ประเภทนี้ไม่อาจต่อกรกับพวกเขาได้
แต่ทว่าเมื่อเวลาผ่านไป จำนวนของอสรพิษลมเริ่มเพิ่มมากขึ้น ฮิลเลอร์เริ่มสังเกตว่าสถานการณ์ไม่เหมือนกับที่เขาคิดไว้และเริ่มไม่ปกติ เขาเริ่มตัดสนใจนำคนของเขาเข้ามาในป่า หลังจากนั้นสถานการณ์เริ่มแปลกประหลาดขึ้นไปอีก โดยทั่วไปแล้ว หลังจากที่เข้ามาในป่า อสรพิษลมเหล่านี้จะเลือกถอยกลับ แต่ในครั้งนี้พวกมันกลับไม่หนีไปเหมือนปกติ ในทางตรงกันข้าม พวกมันกลับเลือกที่จะล้อมป่าและเริ่มรุมโจมตีพวกเขาตลอดทั้งวันทั้งคืน
การต่อสู้ครั้งต่อไปจะถือเป็นโชคชะตาของเขา
“บอกทุกคนให้เตรียมตัว พวกเราจะลองอีกครั้งหนึ่ง”
ฮิลเลอร์ยกดาบยักษ์ขึ้น เปลวเพลิงเริ่มเคลื่อนตัวและลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง
“พวกเราต้องฝ่าวงล้อมออกไปให้เร็วที่สุด!”
“….ครับ หัวหน้า”
หลังกจากที่ได้ยินคำสั่งของฮิลเลอร์ คนเหล่านั้นไม่รู้สึกลังเล แม้ว่าพวกเขาจะถูกโจมตีและบางส่วนได้รับบาดเจ็บ แต่ตราบเท่าที่เป็นคำสั่งของหัวหน้า พวกเขาจะทำตามโดยปราศจากความลังเล นั่นเป็นเหตุผลที่หลังจากได้ยินคำสั่งของฮิลเลอร์ ผู้ติดตามของเขาจึงไม่ได้ลังเลและบอกคำสั่งนี้ให้กับคนอื่นๆรับรู้
ในเวลาเดียวกัน เสียงกรีดร้องหนึ่งดังขึ้น
เกิดอะไรขึ้น? อสรพิษพวกนั้นเริ่มโจมตีอีกแล้วรึ?
การเปลี่ยนแปลงฉับพลันที่เกิดขึ้นดึงความสนใจของฮิลเลอร์ เขารีบมองไปรอบๆด้วยความระมัดระวัง แต่ด้วยความประหลาดใจ สิ่งที่เขาเห็นไม่ใช่อสรพิษลมที่กำลังพุ่งเข้ามาโจมตีพวกเขา แต่กลับเป็นอสรพิษลมที่กำลังหลบหนีออกมาอย่างแตกตื่นและตะเกียกตะกายหนีออกจากป่า
เกิดอะไรขึ้น?
ฮิลเลอร์ยังสับสนกับสถานการณ์นี้ เมื่อเขาได้กลิ่นประหลาด หลังจากนั้นเขาเห็นกลุ่มคนเดินออกจากป่ามาหาเขา
“ผมดีใจนะครับที่พวกคุณยังมีชีวิตอยู่” เด็กหนุ่มที่ยืนตรงหน้าพวกเขาพูด
…………………..
ฝากติดตามเพจ KN Translate ด้วยนะครับ
กลุบลับกลุ่ม 3 เปิดแล้วนะครับ (121-170)