นิยาย SSS-Class Suicide Hunter SSSH ตอนที่ 52: สรวงสวรรค์หลังจุดจบ (3) Part 1
SSSH ตอนที่ 52: สรวงสวรรค์หลังจุดจบ (3) Part 1
เราฝ่าฝูงชนและในที่สุดก็มาถึงคาเฟ่
ที่คาเฟมีคนคุ้นหน้าคุ้นตารอฉันอยู่
“ฮ่าๆๆ ยินดีต้อนรับ!”
นักถามนอกรีต กิลด์มาสเตอร์ของหมื่นวิหารเขย่าแขนขวาของฉัน
“ผมไม่เคยคิดเลยว่าคุณจะเคลียร์ชั้น 20 ได้ในเวลาแค่ 5 วัน! นับเป็นความสําเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เคยเกิดขึ้นนับตั้งแต่มีการสร้างหอคอย ขอแสดงความนับถือฮันเตอร์คิม กงจา! ไม่สิ เราจะต้องเรียกคุณว่าราชาแห่งความตายแล้วนับจากนี้”
“ตอนนี้ ผมยังสงสัยว่านี่เป็นความฝันหรือเปล่า แต่..
ครูเซเดอร์จิบกาแฟเย็นของเธอ
“พูดตามตรง ฉันคิดว่าคุณสามคน แม่มดมังกรดํา เซียนและคุณจะล้มเหลวในการเหรดและตาย แต่คุณกลับเคลียร์ชัน 20 ด้วยตัวคนเดียว? น่าอัศจรรย์ หากคุณมีความลับดีๆโปรดช่วยบอกให้เรารู้ด้วย”
“ความลับอะไร?”
ฉันนั่งอยู่ที่ด้านหนึ่งของโต๊ะ
“คุณก็แค่ต้องมีชีวิตที่ดี?”
“นั่นเป็นคําแนะนําที่ใช้ได้จริง”
ครูเซเดอร์ยิ้มอย่างขมขื่น
“อย่างไงก็ตาม ดีใจที่ได้พบพวกคุณหลังจากผ่านไปนาน ทุกคน พวกคุณเป็นอย่างไรกันบ้าง?”อืม มันก็แค่ห้าวันนับจากครั้งสุดท้ายที่เราพบกัน “ฟู่ พร้อมกับถือไปป์ เคาท์กําลังสูบยาเส้น” ตอนแรกเราอยู่ในห้องบัลลังก์เหมือนที่สัญญาไว้ คําสัญญาคือคําสัญญา แต่หลังจากนั้นไม่นาน NPC ของจักรวรรดิก็เริ่มขยับไปรอบๆ มันทําให้เราประหลาดใจ!“
[T/N: เดิมเรียกว่าห้องรับรอง]อ่า“มันเป็นตอนที่ฉันเอาชนะราชาปีศาจที่ชั้น 12
ฉันเอาชนะราชาปีศาจและได้รับภารกิจ ตอนนั้นเวลาที่หยุดไปก็เริ่มเดินอีกครั้ง”ผมไม่ได้คิดไปไกลขนาดนั้น มันเป็นยังไงบ้าง”NPC ของจักรวรรดิคิดว่า เราเป็นผู้บุกรุกที่บุกเข้ามาในพระราชวัง! “นักถามนอกรีตเดินโอนเอน”ใครบางคนในชุดหรูหราตะโกนว่า “จับผู้บุกรุก!” จากนั้นอัศวินของจักรวรรดิและทหารชั้นยอดก็มาจับเรา แหม่ แหม่ แหม่ มันทําให้เราสั่นไปทั้งตัว! แต่เจ้าหนูนี่มีลูกเล่นพอตัว “พญาอสรพิษ กิลด์มาสเตอร์ของเฉินมู่มัน
ฮันเตอร์ตาเดียวขยหัวของนักถามนอกรีต”อย่างแรก เรายอมจํานนอย่างเชื่อฟังแล้วเราก็หนีออกจากคุก ฉันก็คิดว่าเองเอาจริงหรอฟะ”อะฮ่าฮ่า! มันไม่สนุกเหรอครับ? เราจะรู้ได้ยังไงว่าทางลับนั้นซ่อนอยู่ในคุกใต้ดิน! มันให้ความรู้สึกเหมือนย้อนกลับไปสมัยเด็กๆ! “หืม? ฉันได้ยินมาว่านายถูกจับโดยมาเฟียบัลแกเรียเมื่อนายยังเป็นเด็ก”ครับ!“นักถามนอกรีตหัวเราะคิกคักอย่างไร้เดียงสา”นั่นคือเหตุผลที่ผมนึกถึงช่วงเวลาที่ สนุกสนานตั้งแต่วัยเด็ก คุก! ใต้ดิน! หนี! อ่า สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นของเติมเต็มที่ทําให้วัยเด็กของผมสดใสขึ้น ทุกอย่างกลายเป็นความทรงจําที่แสนคิดถึงสําหรับผมในตอนนี้”ไอ้เจ้าบ้า… “พญาอสรพิษถอนหายใจเฮือกใหญ่
ในขณะที่ฉันทํางานอย่างหนักเพื่อจัดการลูกสมุนของราชาปีศาจ ปาร์ตี้ของเหล่ากิลด์มาสเตอร์ก็ดูเหมือนจะคึกคักเช่นกัน”อะแห่ม ฉันรู้ดีว่าเราต่างก็มีชีวิตที่ยอดเยี่ยมในโลกภายนอก“แม่มดยักไหล่ และนั่งลงที่โต๊ะเคาท์เกิดในหมู่บ้านสลัมในอินเดีย พญาอสรพิษพ่อแม่ของคุณเป็นหัวหน้าแก๊งครูเซเดอร์เผชิญความยากลําบากในเวเนซุเอลา…”ดังนั้นเราทุกคนจึงเป็นขยะเมื่อเราอยู่ในโลกภายนอก พวกคุณไม่เห็นด้วยเหรอ? “บรรยากาศในร้านกาแฟเปลี่ยนเป็นมืดมนทันที
มีเพียงเสียงของครูเซเดอร์ที่จิบกาแฟของเธอเท่านั้นที่ดังขึ้นอย่างเบาๆ” … นั่นไม่ใช่เรื่องที่เราควรพูดถึงที่นี่”ครูเซเดอร์เหลือบมองมาที่ฉันอย่างเงียบๆ ตอนนี้คุณหมายถึงให้ถือว่าราชาแห่งความตายเป็นสมาชิกของ [พวกเรา] ใช่ไหม? “ใช่“แม่มดตอบ”พวกคุณอาจไม่รู้ แต่ราชาแห่งความตายได้มีส่วนช่วยอย่างมากมายในการเคลียร์หอคอย”นั่นคือสิ่งที่เรารู้เช่นกัน ไม่ พวกคุณทุกคนไม่รู้”แม่มดส่ายหัว”ในการเหรดครั้งนี้ เราไม่มีผู้เสียชีวิตแม้แต่รายเดียว แม้กระทั่งบนชั้น 11 ซึ่งมีฮันเตอร์จํานวนมากเข้าร่วมด้วย ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณราชาแห่งความตายที่สอนกลยุทธ์และยุทธวิธีในการเคลียร์ชั้นให้กับฉัน สายตาของฮันเตอร์ทั้งหมดต่างจ้องมาที่ฉัน
ใช่ มันเป็นความจริง”ฉัน”แม่มดเปิดปากของเธอ”ชายคนนี้ฉันต้องการให้เขาเป็นฮีโร่ที่เป็นตัวแทนของหอคอยของเรา“ความเงียบปกคลุมไปทั่วร้านกาแฟ
แม่มดมองไปที่ฮันเตอร์ที่กําลังนั่งอยู่รอบๆโต๊ะที่ละคน
“เคาท์ คุณปิดบังความมั่งคั่งของคุณมากเกินไป”
“มันเป็นความจริง ฉันไม่สามารถพูดอะไรได้
“นักถามนอกรีต นายฆ่าคนมากเกิน
ไป”
“ครับ! มันเป็นการเสียสละที่จําเป็น!””ครูเซเดอร์ เธอไม่ชอบการได้รับความสนใจจากคนอื่น มันเป็นเพียงนิสัยของฉัน”และพญาอสรพิษ คุณ…”
“ฮะ? อะไร?”
“…ฉันขอโทษด้วย คุณหน้าตาอุบาทว์ เกินไป… “พญาอสรพิษทําหน้ามุ่ย การแสดงออกที่หดหู แต่ในไม่ช้าเขาก็ก้มหน้าลง
มันเป็นภาพของชายวัยกลางคนที่เศร้าโศก”เซียนดาบ อย่างที่เรารู้ๆกัน เขาเป็นชายชราที่คลั่งไคล้ดาบเท่านั้น คือ ชื่อและฉันที่ต้องทํางานเบื้องหลังตลอดเวลาดังนั้นจึงเป็นฉันไม่ได้ หลังจากมองดูคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทีละคน ในที่สุดแม่มดก็หันกลับมามองฉัน”ในทางกลับกันราชาแห่งความตาย ยังไม่มีภาพจําใดๆต่อสาธารณชน ถ้าเราพยายามมากพอ เราสามารถทําให้เขากลายเป็นฮีโร่ที่สมบูรณ์แบบในแบบที่เราต้องการได้ นี่คือโอกาส โอกาสในการปรับปรุงภาพลักษณ์ก่อนหน้าของหอคอย”จะเป็นเช่นนั้นจริงเหรอครับ? “นักถามนอกรีตลูบคางของเขา”เราต่างก็เป็นคนที่อยู่ร่วมกันมานาน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องจริงที่การมีอยู่ของเราค่อยๆอ่อนแอลงเล็กน้อย! เรายังคงพิมพ์นิตยสารที่มีการอัพเดตเกี่ยวกับกิจกรรมของฮันเตอร์ แต่ในโลกภายนอก ปริมาณการขายกลับลดลงเรื่อยๆ!”ใช่ นั่นคือสิ่งที่ฉันหมายถึง”
“ถ้าอย่างนั้นเราจะต้องเริ่ม สร้างภาพ ลักษณ์ของเราตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป!”
นักถามนอกรีตลุกขึ้นยืน
ราวกับลูกสุนัข เขาเริ่มเดินวนรอบตัว ฉัน”อืม คุณตัวเตี้ยไปหน่อย แต่ไม่เป็น ไร! อย่างที่คุณเห็นจากตัวอย่างของฉันภาพถ่ายจะสามารถจัดการเรื่องทั้งหมดนั่นได้! “เอ่อ… “ไม่ใช่เขาแค่ย้ําว่าส่วนสูงเป็นจุดที่มีเสน่ห์ของเขาเหรอ?
มีรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าเล็กๆของตัวเตี้ยๆ” [ชายร่างเตี้ย แต่มุ่งมั่น ราชาแห่งความตาย] หากคุณใช้วลีแบบนี้มันจะได้ผล! “โดยที่ไม่มีโอกาสได้พูดอะไร ฮันเตอร์ต่างก็มารวมตัวกันรอบตัวฉัน
แม่มด เคาท์ พญาอสรพิษ ครูเซเดอร์
ไม่ว่าพวกเขาจะมาจากกิลด์ไหน พวกเขาทั้งหมดก็เข้ามาใกล้ฉันและตรวจดูร่างกายของฉันอย่างถี่ถ้วน”ฉันจะถามเผื่อไว้เฉยๆ แต่ตอนนี้นายแอบชอบใครอยู่หรือเปล่า?”เอ่อ..ไม่ ผมไม่มีแล้ว ตั้งแต่คุณเข้ามาในหอคอยล่ะ? มีแฟนเก่าบ้างไหม? “ไม่มีครับ”นั่นหมายความว่าไม่จําเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องอื้อฉาว นี่เป็นเรื่องที่ดีไปเลย!”
ฉันไม่รู้ว่าเรื่องนี้มันดียังไง
ฮันเตอร์อันดับต้นๆเริ่มคุยกันเอง
“ฉันเฝ้าดูเขาจากข้างๆ แต่ผู้ชายคนนี้ เมื่อเขายิ้มเขาก็แสดงความรู้สึกเจ้าเล่ห์ออกมา ดังนั้นฉันจึงคิดที่จะใช้คอนเซปลึกลับ อย่างอื่นคงไม่สําคัญเพราะเขาแค่ต้องทําโป๊กเกอร์เฟสให้ดีเท่านั้น”
“แต่เรากําลังตกอยู่ในวิกฤต เขาไม่เคยเดทกับใครมาก่อน”
ครูเซเดอร์พูด
“เราจําเป็นต้องสร้างเรื่องอื้อฉาวที่ไม่มีอยู่จริง มิฉะนั้นผู้คนจะแพร่ข่าวลือที่ไม่มีมูล…”
“ไม่ต้องห่วง ฉันจะจัดการเรื่องนั้นเอง”โอ้! จะเป็นเหตุการณ์ที่ความรักเบ่งบานในขณะที่พวกคุณยืนเคียงข้างต่อสู้ร่วมกันเป็นเวลาห้าวันหรือเปล่า? ฉันชอบมันนะ! ฉันสามารถสร้างเรื่องราวที่ผู้คนจะต้องขุดคุ้ย!“แล้วสถานการณ์ที่เขาบริจาคเงินส่วนใหญ่ที่หามาได้ให้กับสถานเลี้ยงเด็กกําพร้าล่ะ? ในกรณีที่อาจเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ฉันได้ทําการบริจาคโดยไม่ระบุตัวตนเป็นประจํา เราจะสมมติว่าเงินบริจาคนั้นมาจากราชาแห่งความตาย”คือฮือ ฝากคุณด้วย เคาท์“นี่คืออะไร?
ตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น?” ก่อนอื่นโทรหาช่างภาพกันเถอะ! มาถ่ายรูปกัน!“นักถามนอกรีตยิ้มอย่างสดใส” โทรหานักออกแบบทุกคนด้วย อย่างน้อยเราก็ต้องให้ภาพแก่สื่อมวลชนภายในสิ้นวันนี้อยู่ดี เราได้ถ่ายวิดีโอการต่อสู้ที่ชั้น 11 ไว้แล้ว ดังนั้นเราจะอัปโหลดบนอินเทอร์เน็ต เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม!“ไม่
เดี๋ยวก่อน
“เอ่อ ทุกคน….”ไม่ต้องกังวล “แม่มดหยุดฉันและยิ้ม
มันเป็นรอยยิ้มที่บอกฉันเกี่ยวกับประสบการณ์ที่ลึกซึ้งมากมายของเธอ”ราชาแห่งความตาย นายไม่ต้องทําอะไรเลย เราจะดูแลทุกอย่างเอง นาย… ถูกต้อง นายต้องทําในสิ่งที่นายทํามาตลอดจนถึงตอนนี้ ไม่ เธอบอกว่ามันเป็นแนวลึกลับ ฉันคิดว่าเราไม่ต้องการใครสักคนอย่างนักออกแบบ?”แค่วันนี้ ได้โปรดล่ะ”แม่มดค่อยๆจับมือเธอเข้าด้วยกัน” ทุกคนในโลกต้องการรู้เกี่ยวกับนาย หนึ่งภาพ ลองถ่ายภาพหนึ่งภาพ และแสดงให้คนอื่นๆเห็นชื่อ? ไม่ต้องกังวล ราชาแห่งความตาย นักออกแบบที่เซ็นสัญญาพิเศษกับเรานั้นยอดเยี่ยมมาก“ฉันรู้ตัวในอีก 30 นาทีต่อมาว่ามันจะไม่เป็นเพียงภาพเดียว
“มองทางนี้หน่อย!”
แชะ!
ดีไซน์เนอร์มากถึงสิบคนมาและแต่งตัวให้ฉัน พวกเขาจัดแต่งทรงผมของฉัน เมื่อใดก็ตามที่ฉันแต่งตัวและจัดแต่งทรงผม ไฟกะพริบของกล้องถ่ายรูปของช่างภาพก็เริ่มดับลง”ใช่ แจ่มมาก คราวนี้ถือดาบสั้น! เอาให้เหมือนหมาป่าในป่าที่รอล่าเหยื่อ!”ไม่…เดี๋ยวก่อน…”
“เยี่ยมมาก!”
แชะ!
เหล่าฮันเตอร์แอบอยู่ข้างหลังช่างภาพ พวกเขากระซิบขณะตรวจท่าทางของฉัน ด้วยสายตาเหมือนเหยี่ยว”ใส่สูทแล้วเข้ากับเขาได้ดีแบบคาดไม่ถึงเลย บางทีเราควรจะมีกลิ่นอายของความขี้เล่นไม่ได้เด็ดขาด! เพราะแนวขี้เล่นเป็นของฉันก่อน! “นั่นก็จริง แล้วเราจะทํายังไงดี… แล้วเด็กหนุ่มไฟแรงที่มีจิตวิญญาณแห่งการผจญภัยล่ะ”เอาตามนั้นกันเลย
“แชะ!
“ดีมาก!”
ดีมากกับตูดของแกสิ
– พุฮะฮะฮะฮ่า! พุฮ่า พุฮะฮะฮะฮ่า!!!
แบ ยุรยองกําลังกลิ้งไปมาในอากาศ เมื่อไม่นานมานี้
1 ชั่วโมงผ่านไปและ 2 ชั่วโมงก็ผ่านไป แต่ดูเหมือนว่าการถ่ายภาพจะไม่สิ้นสุดในเร็วๆนี้ ความอดทนของฉันจึงถึงขีดจํากัด”ฉันจะไม่ทําแล้ว! หยุดถ่ายเสียที! “ฉันถอดสูทที่สวมอยู่และโยนมันลงบนพื้น”ฮันเตอร์ต้องปืนหอคอยอย่างขยันขันแข็ง! ภาพสําหรับสื่ออะไร?! ถ่ายแบบเพื่ออะไร?! เพราะสิ่งที่ไร้ประโยชน์เหล่านี้อยู่ในความคิดของพวกคุณตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา พวกคุณหลายคนถึงไม่สามารถเคลียร์ชั้น 10 ได้? “เงียบกริบ
คําพูดที่จริงจังของฉันได้ผลหรือเปล่า? บรรยากาศเริ่มอึดอัด ฮันเตอร์ทุกคนรวมทั้งแม่มดจ้องที่หน้าฉัน
และพยักหน้า” …นั่นเป็นคําพูดที่ดีไม่ใช่เหรอ?”อืมมม รู้สึกเหมือนนายเป็นวัย รุ่นที่ร้อนแรงดังไฟและมีจิตวิญญาณแห่งการผจญภัยจริงๆ! “พาดหัวข่าวของนิตยสารคราวนี้คือ [ฮันเตอร์ผู้ปีนป่ายหอคอย]”เราต่างก็มีความมุ่งมั่นในช่วงวัยยี่สิบของเราเหมือนกัน… “มันไม่ได้ผลเลย” อ่า ไม่ล่ะ! ผมมาที่นี่เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับชั้น 20 ผมจะให้สิทธิ์คุณทั้งหมดตั้งแต่ชั้น 10 ถึงชั้นที่ 19 ดังนั้นตรวจสอบให้แน่ใจว่าชั้นที่ 20 จะเป็นของ ผม!“เหล่าฮันเตอร์พยักหน้าอีกครั้ง”ฉันชอบคอนเซปที่ไม่โลภของนายเหมือนกัน”ถ้าเป็นข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์วันพรุ่งนี้ล่ะ [ราชาแห่งความตายประกาศลั่น ประกาศว่าจะแจกจ่ายสิทธิ์ของชั้นที่ 10 ถึง 19 ให้กับฮันเตอร์คนอื่นๆทั้งหมด ประกาศว่าเขาพอใจที่สามารถเคลียร์หอคอยได้]
“ตกลง!”
“มันเป็นเรื่องเหมาะสมที่จะเขียนบทความในหน้าที่สอง [ราชาแห่งความตาย ซึ่งทราบกันดีว่าบริจาคให้สถานเลี้ยงเด็กกําพร้าเป็นประจํา]
“ใช่ เขียนว่าเรามอบชั้นที่ 20 ให้กับเขาเพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณและความเคารพต่อราชาแห่งความตาย”สมบูรณ์แบบ! อ่า ช่างสวยงามอะไรเช่นนี้!“ผิดแล้ว
พวกเขาไม่ได้ฟังสิ่งที่ฉันพูดแม้แต่อย่างเดียว
ตอนนี้คนเหล่านี้หมกมุ่นอยู่กับความคิดที่จะทําให้ฉันเป็นฮีโร่” ยอมแพ้เถอะพ่อหนุ่ม“เซียนดาบพูดห้วนๆ
นักดาบชรายืนหันหลังพิงเสาอาคาร”สิ่งเดียวกันนี้เกิดขึ้นเมื่อฉันได้แรงก์อันดับที่ 1 สิ่งที่เหมือนกับว่าการที่อายุมาก แล้วจะสร้างความประทับใจให้กับคนทั้งโลกและขอให้ฉันไว้หนวดเคราให้แตกต่างออกไป ฉันได้ยินมาหลายอย่างแล้ว “พระเจ้าช่วย”นี่คือสิ่งที่พวกเขาต้องการแสดงให้โลกภายนอกเห็น [เราก็ใช้ชีวิตอย่างมีเกียรติเหมือนกัน] มันเป็นปมด้อย“ชายชราบ่นพึมพํา พวกเขาละทิ้งทุกสิ่งในโลกภายนอกและมาที่หอคอยอยู่ดี ช่างน่าสมเพชเสียเหลือเกิน….“เซียนดาบเดินออกไป
“ไปกันเถอะ””ครับ?”ถ้าเธอยังอยู่ที่นี่ มันจะไม่มีที่สิ้นสุด หลังจากถ่ายภาพเส ร็จพวกเขาจะบอกให้คุณถ่ายวิดีโอแล้ว หลังจากนั้นพวกเขาจะบอกให้เธอเตรียมตัวสําหรับงานแถลงข่าว พวกเขาเป็นคนประเภทนั้น ถ้าเธอไม่หนีไปตอนนี้ ทั้งวันก็จะผ่านไปแบบนั้น”ฉันพูดโดยไม่จําเป็นต้องคิดเลย”มารีบหนีกันเถอะครับ!”เป็นการตัดสินใจที่ดี”
รวบรวมออร่าที่ปลายนิ้วเท้า เราวิ่ง มีเสียงร้องดังมาจากด้านหลังพวกเรา”อ๊ะ!“แต่เราไม่หยุด”ราชาแห่งความตาย! “แม่มดร้อง”ฉันจะจัดงานแถลงข่าว ในวันพรุ่งนี้ดังนั้น กลับมาตอนเช้าถ้านายทําได้! นายไม่ควรให้คนอื่นเห็น จะไปไหนก็แอบๆด้วย! แม้ว่านายจะอยากหนีขึ้นไปบนหลังคาแล้ววิ่งซะ! ระวังตัวด้วย!”
แบ สุรยองหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
– เฮ้ คนคนนั้นไม่ใช่นางฟ้าหรือเธอ เป็นเทพธิดาหรอก เธอเหมือนแม่มากกว่าล่ะมั้ง?
มันเป็นแบบนั้นจริงๆ
และฉันไม่รู้ด้วยซ้ําว่าแม่นั้นเป็นแบบไหน
นิยาย SSS-Class Suicide Hunter SSSH ตอนที่ 52: สรวงสวรรค์หลังจุดจบ (3) Part 2
SSSH ตอนที่ 52: สรวงสวรรค์หลัง จุดจบ (3) Part 2
ก่อนที่ฉันจะรู้ตัว พระอาทิตย์ก็ตกดินแล้ว
ตามสิ่งที่แม่มดแนะนําเรา เราก็ไปที่หลังคาแล้ววิ่ง เมื่อมองลงมาจากด้านบนยังคงมีผู้คนหลายร้อยคนมาเบียดเสียดกันที่หน้าร้านกาแฟ มีผู้สื่อข่าวจํานวนมากจากสถานีวิทยุกระจายเสียงอยู่ที่นั่นด้วย
“เราคงมีปัญหาแน่ๆถ้าออกไปทางประตูหน้า!
เรากระโดดข้ามหลังคาสีแดงเลือดหมู
สถานที่ที่เราแวะนั่นคือหอระฆังที่สร้างขึ้นในจัตุรัส
ยามที่เฝ้าหอระฆังกําลังเล่นสมาร์ทโฟนและใช้เวลาอยู่นานกว่าจะจําเราได้
“อึกก! ซะ คุณเซียนดาบ!”
“อือฮือ”
เซียนดาบร่อนลงที่หอระฆังอย่างง่ายดาย
“ฉันขอโทษที แต่เราขอเวลาส่วนตัวสักครู่ได้ไหม”
“อ่า มันก็…นั่นมัน…”
“ห้านาทีก็พอแล้ว”
ยามหนุ่มลุกลี้ลุกลน เขาต้องผงะเมื่อตํานานที่ยังมีชีวิตขอร้องเขา จากนั้นตาของเราก็สบกัน ตาของยามก็เบิกกว้าง
“คุณน่าจะเป็นราชาแห่งความตาย!?”
“เอ่อ ใช่ครับ”
“อุ้ว ว้าว! นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เจอ คุณด้วยตัวเอง ว้าว! เจ๋งเป็นบ้า!”
ยามลนลานค้นกระเป๋าของเขา นิยายรักโผล่ออกมาจากกระเป๋า ดูเหมือนว่า เขาจะนําสิ่งของบางอย่างมาเพื่อฆ่าเวลาเมื่อเขาอยู่ในเวรยาม
“นี่ นี่คือกระดาษแผ่นเดียวที่ผมมีใน ตอนนี้! ผมขอลายเซ็นของคุณได้ไหม?”
เซียนดาบหยิบหนังสือนิยายราวกับว่า เขาคุ้นเคยกับสถานการณ์แบบนี้
“เธอมีปากกาไหม?”
“น่ะ-นี่ครับ!”
“เธอชื่ออะไร?”
“เอ่อ ผมยังไม่ได้มีฉายาเลยครับ…!”
นักดาบชราเซ็นชื่อด้วยการตวัดปากกา ย่างประณีต
ยามหยิบลายเซ็นเหมือนเด็กไร้เดียงสาแล้วหันกลับมามองที่ฉัน
ฉันไม่รู้ว่าทําไม แต่ดวงตาของเขาเป็นประกายมาก
“รา- ราชาแห่งความตาย ผมขอลายเซ็นของคุณด้วยครับ!”
“เอ่อ”
ลายเซ็นของฉัน?
“ฉันไม่เคยเซ็นอะไรมาก่อน…”
“มันเป็นความปรารถนาตลอดชีวิตของผม! ได้โปรดด้วย!”
ด้วยความงุนงง ฉันได้รับปากกาและหนังสือนิยาย
ความปรารถนาตลอดชีวิตขาคือลายเซ็นของฉัน? ชีวิตของเขาเรียบง่ายแค่ไหน?
รู้สึกอึดอัดนิดหน่อย ฉันวางหนังสือ นิยายลงลายเซ็นของเซียนดาบถูกเขียนไว้ที่นั่นแล้ว ในขณะที่ฉันพยายามเขียนลายเซ็นด้วยปากกา จู่ๆฉันก็รู้ว่านี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเขียนชื่อ “ราชาแห่งความตาย”
ก่อนที่ฉันจะรู้ตัว ลายเซ็นของเซียนดาบและของฉันก็อยู่ข้างกัน
เซียนดาบ
ราชาแห่งความตาย
“ขะ – ขอบคุณครับ! ขอบคุณมากๆ ครับ!”
ยามก้มหัวหลัง กลัวว่าลายเซ็นอาจหายไป ยามรีบเก็บเอานิยายคืนไป
เมื่อยามหยิบนิยายขึ้นมา ฉันก็เต็มไปด้วยความรู้สึกแปลกๆ และมันก็ยาก สําหรับฉันที่จะระบุได้ว่ามันรู้สึกอย่างไร
“ขอโทษที…”
“ผมจะยกย่องให้มันเป็นมรดกตกทอดของครอบครัว! ไม่ต้องกังวล! ผมจะไม่ขายให้ใครแน่ๆ! โอ้ขอบคุณทั้งสองมาก! ขอให้มีความสุขในวันหยุดสุดสัปดาห์ครับ!”
ยามรีบเดินลงไปตามขั้นบันไดของหอระฆัง เขาพูดอย่างตื่นเต้นว่า “เย้ เย้! ช่างเป็นวันที่โชคดีจริงๆ!” และเสียงตื่นเต้นของเขาก็ค่อยๆเบาลง
เมื่อเสียงนั้นหายไป ในที่สุดก็สามารถมองเห็นดวงอาทิตย์สีแดงเข้มคล้ายจุดที่กําลังตกดินได้จากหอระฆัง
และมีเพียงเสียงหายใจที่เงียบงันของทั้งคนสองเท่านั้นที่ยังคงอยู่
เราทั้งคู่เงียบไปพักใหญ่
แล้วจากนั้น…
“เอ่อ คุณเซียนดาบ”
“เฮ้ พ่อหนุ่ม”
คําพูดของเซียนดาบและคําพูดของฉันสวนกันและจางหายไป มันกลายเป็ แบบนั้นเพราะเราทั้งคู่พูดพร้อมกัน
ความเงียบที่น่าอึดอัด แต่ก็อยู่ได้ไม่นานฉันพูด
“คุณเซียนดาบ สําหรับคุณแล้วมันต้องดูเหมือนว่าผมได้ฆ่าคนจํานวนมหาศาล ฆาตกรหมู่ที่ต้องถูกลงโทษ”
ฉันมองไปที่เซียนดาบด้วยใบหน้าที่สงบ
“แต่ถ้าคุณมองในกระจก คุณจะเห็นฆาตกรที่ฆ่าคนมาแล้วมากมาย คนนั้น คือคุณ คุณเซียนดาบ”
เซียนดาบกําลังมองดูพระอาทิตย์ตกไม่ได้มองที่ฉัน
“แต่คุณเซียนดาบ คุณจะไม่ลงโทษตัวเองสําหรับเรื่องนั้น นี่เป็นเพราะคุณมีบรรทัดฐานชัดเจนในการฆ่าคน และบรรทัดฐานที่ว่าคือ [ลงโทษคนที่ทําร้ายคนจํานวนมาก”
ในขณะที่แสงอาทิตย์ยามสนธยาสาดส่อง ฉันก็ยังพูดต่อไป
“ผมก็มีบรรทัดฐานที่ชัดเจนด้วยและ นั่นคือเหตุผลที่ผมทําในสิ่งที่ผมทํา และ บรรทัดฐานคือ ลงโทษคนที่ทําร้ายคนจํานวนมาก”
นี่คือสิ่งที่ฉันเตรียมไว้ล่วงหน้าตั้งแต่ตอนที่ฉันโกหกเซียนดาบว่าฉันเป็นนักทํานาย
“ถ้าคุณเซียนดาบจะฆ่าใครสักคน เพราะพวกเขาฆ่าคนมามากมายก่อนหน้านี้ ผมก็ฆ่าคนก่อนที่พวกเขาจะฆ่าคนอื่นๆอีกมากมาย”
มันเป็นเรื่องโกหกที่พิถีพิถันที่ฉันเตรียมไว้เป็นพิเศษสําหรับเซียนดาบ
“ดังนั้นคุณเซียนดาบ คุณและผมกําลังเดินบนเส้นทางเดียวกัน……”
“พ่อหนุ่ม”
แต่ก่อนที่ฉันจะโกหกเสร็จ ชายชราก็เรียกฉันเบาๆ
“เธอไม่จําเป็นต้องพยายามพิสูจน์ตัวเองแบบนั้น”
“คุณเซียนดาบ ผม…”
“พ่อหนุ่ม”
ฉันปิดปากขณะที่เขาเรียกฉันด้วยเสียงทุ่มๆของเขา
ในขณะที่จ้องมองพระอาทิตย์ตก ชายชราก็พูดพึมพํา
“ฉันแตกต่างจากฮันเตอร์คนอื่นๆ”
แวบแรกคําพูดนั้นดูเหมือนจะพูดออกมาโดยไม่มีปีไม่มีขลุ่ย
“แม่มดมังกรดํา เคาท์ นักถามนอกรีต พญาอสรพิษ ครูเซเดอร์…พวกเขาทุกคนเป็นเด็กที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากโลกภายนอก แต่ฉันแตกต่างออกไป ฉั เกิดมาโดยไม่อดอยากและอยู่ได้โดยไม่ขาดตกบกพร่อง”
มาร์คัส คาเลนเบอร์รี่
ฉันรู้ว่าชายชราตรงหน้าฉันมาจากครอบครัวที่มีชื่อเสียง แทนที่จะเรียกว่ารู้ฉันได้ตรวจสอบเขาอย่างเต็มรูปแบบในฐานะศัตรูและเงยหน้าขึ้นมองเขา พวกเขาบอกว่าเขามาจากครอบครัวที่มีชื่อเสียงซึ่งได้รับการยอมรับทั่วทั้งยุโรปเหนือ
“เมื่อหอคอยปรากฏขึ้นในโลก ฉันได้สร้างครอบครัวของตัวเองไปแล้ว ฉันทํางาน ในบริษัท ฉันแต่งงานมีลูก ฉันเคยเห็นลูกๆของฉันมีหลานชายและหลานสาว ฉันประสบความสําเร็จมามากพอแล้ว”
เสียงของเซียนดาบสงบลง
“แต่ฉันสงสัย”
“คุณหมายถึงอะไรที่ว่าสงสัย?”
“ความสําเร็จของฉันทั้งหมดเกิดจากความสามารถของฉันหรือเปล่า? จู่ๆฉันก็รู้สึกสงสัย”
ชายชราค่อยๆดึงดาบออกจากฝักดาบ
“ไม่ใช่เพราะฉันเกิดมาในครอบครัวที่ดีหรอกหรือ?”
พระอาทิตย์ที่กําลังตกได้สาดแสง
ดาบเป็นสีแดงเข้มแม้ว่ามันจะไม่ได้ตัดอะไรเลย
“ไม่ใช่เพียงเพราะฉันเป็น “นก” ที่เกิดมาในครอบครัวที่ดี ได้รับการศึกษาที่ดี พบเพื่อนที่ดีและเติบโตมาโดยการดื่มสิ่งที่ดีที่สุดเท่านั้นหรือ? ฉันภูมิใจกับความจริงที่ว่าฉันทําทุกอย่างสําเร็จด้วยตัวเอง… แต่บางทีมันอาจจะเป็นเพียงความเข้าใจผิดของใครบางคนที่ติดอยู่ในกรงนก”
เซียนดาบอธิบาย
“ไม่ มันไม่ใช่อย่างนั้น”
มันเป็นเสียงที่แหลมคมราวกับใบมีด
“นั่นเป็นไปไม่ได้”
“ฉันแน่ใจว่าฉันเกิดมาพร้อมกับสิ่งที่ดี อย่างไรก็ตาม ฉันต้องการที่จะยืนหยัด และภาคภูมิใจด้วยตัวเอง ฉันต้องการพิสูจน์ว่าความภาคภูมิใจของฉันไม่ใช่ความหลงผิด”
“ นั่นคือเหตุผลที่คุณมาที่หอคอย”
“ใช่”
ชายชราพยักหน้า
ริ้วรอยของเขาลึกและหนา
“ผู้ที่เข้ามาในหอคอยจะไม่สามารถกลับไปสู่โลกภายนอกได้ มีเพียงร่างกายของฉัน ในสถานที่นี้ไม่มีตระกูลที่มีชื่อเสียง ไม่มีครอบครัวและไม่มีผู้ช่วยที่สนับสนุนฉัน…ฉันต้องการพิสูจน์วิถีชีวิตของฉันด้วยร่างกายของฉันเอง”
อย่างไรก็ตาม เซียนดาบยังบ่นต่อไป
“ดูเหมือนว่าฉันจะปล่อยการ์ดลงโดยไม่รู้ตัว”
“เปิดสกิลการ์ด เปิดเผย”
ชิ้ง!
การ์ดสีเงินลอยออกมาจากมือของเซียนดาบ
[ญาณนักสืบ]
แรงก์: B
เอฟเฟค: คุณสามารถดูจํานวนการฆ่าของฝ่ายตรงข้ามได้ ยังไม่รวมถึงการฆาตกรรมทางอ้อม จะนับเฉพาะการฆาตกรรมที่เกิดขึ้นโดยมีเจตนาที่ชัดเจนเท่านั้น
อย่างไรก็ตามคุณไม่สามารถรู้วิธีการฆ่าได้
“ฉันมันโง่เขลา”
เซียนดาบหงายสกิลการ์ดของเขา
“ฉันจะเชื่อใจแค่สายตาและมือของตัวเอง แต่…ก่อนที่ฉันจะรู้ ฉันพึ่ง [สกิล] ฉันเห็นมันผ่านทักษะมากกว่าผ่านสายตาของฉันเองและฉันมีความเชื่ออย่างมืดมนในการตัดสินของสกิลนั้นมากกว่า การตัดสินของฉันเอง”
จากนั้น
“พ่อหนุ่ม ฉันจะถามเธอเป็นครั้งสุดท้าย”
ดวงตาสีฟ้าของชายชราหันมามองที่ฉัน
“เธอเคยฆ่าคนบริสุทธิ์แม้แต่คนเดียวหรือเปล่า”
นั่นเป็นเหตุผลที่เขาบอกว่าฉันไม่จําเป็นต้องพยายามพิสูจน์ตัวเอง ฉันมั่นใจ
ใช่ การแก้ต่างโดยใช้ “หัว” ของตัวเองเหมือนที่ฉันเคยทําไป
ไม่ว่าเรื่องโกหกอาจจะซับซ้อนแค่ไหนก็แค่หลอกความคิดของใครบางคนไม่ใช่เพื่อเอาชนะใจพวกเขา
“ไม่”
การโน้มน้าวใจและไม่ใช่ความไว้เนื้อ ชื่อใจ
“ผมไม่เคยทําแบบนั้น คุณเซียนดาบ”
ฉันพูดอย่างจริงใจ
“ในอนาคตผมก็จะไม่ทําแบบนั้นเด็ดขาด”
เซียนดาบหลับตาลงอย่างแผ่วเบา
ราวกับว่าเขากําลังวิเคราะห์สีหน้าและน้ําเสียงของฉัน
ความเงียบอันยาวนานผ่านไปและ
“ฮึบ!”
การ์ดก็ลอยขึ้นมา
การ์ดที่ลอยไปในอากาศถูกตัดด้วยใบมีดสีแดงสด
การ์ดขาดออกเป็นสองส่วน
แสงสีทองจากพระอาทิตย์ทะลุผ่านช่องว่างที่ถูกตัด
“ฉันเชื่อในสายตาของฉัน”
จากนั้นไม่นานการ์ดก็กลายเป็นละอองแสงและสลายไป
สกิลนั้นถูกทําลาย
“เธอมีช่วงเวลาที่ยากลําบากในช่วงห้าวันที่ผ่านมา ขอบคุณที่ยอมทําตามความดื้อรั้นของชายชราคนนี้”
เซียนดาบเก็บดาบของเขา
“มันอาจช้าไปหน่อยที่จะบอกเธอตอนนี้ แต่มันเป็นประสบการณ์ที่น่ายินดีที่ได้เห็นเธอทะลวงชั้นที่ 12 ถึงชั้นที่ 19 วันนี้พักผ่อนให้ดี เมื่องานแถลงข่าวจบลงในวันพรุ่งนี้ชั้นที่ 21 จะเปิดทันทีหลังจากนั้น”
ชายชรากระทืบเท้าลงบนพื้น
ก่อนที่จะกระโดดขึ้นไปบนดาดฟ้าของอาคารอื่น เขาเหลือบมองมาที่ฉัน
“ฉันหวังว่าจะได้เห็นเธอแสดงฝีมือ ในชั้นถัดไปราชาแห่งความตาย”
และในพริบตา เขาก็อยู่ห่างจากหอ
ระฆังพอสมควร
เป็นเวลานานที่ฉันยืนเหม่อลอย
ฉันเปิดปากอย่างไม่เต็มใจ
“จักรพรรดิดาบ เมื่อกี้มัน…”
– เอ่ออออ
“เมื่อกี้ เซียนดาบยอมรับฉันแล้วใช่ไหม?”
– ฉันคิดว่านะ
ฉันโล่งอก
“ฮ่าาาาาาาาา…….
เข่าของฉันไม่มีแรงและฉันก็ค่อยๆนั่งลง พื้นที่ทําจากหินนั้นเย็นยะเยือก ฉันจ้องมองท้องฟ้าสีแดงที่ค่อยๆจางหายไปและเริ่มมืดลง
“ว้าว มันจบแล้ว…มันจบลงแล้วจริงๆ ตอนนี้ชั้นที่ 20 ก็เป็นของฉันเหมือนกัน และพวกกิลด์มาสเตอร์จะดูแลเรื่องสือ… ใช่ มันจบลงแล้วจริงๆ”
หัวเราะคิกคัก
– นายหมายความว่าอะไรที่จบ? คนอื่นอาจจะคิดว่านายเพิ่งเคลียร์ชั้น 50 หรือชั้นอื่นๆเอาได้นะ
“จากสิ่งที่ฉันรู้สึก ตอนนี้เหมือนกับว่าฉันเพิ่งเคลียร์ชั้นที่ 90 ไป”
– ชิ ชิ ชิ ซอมบี้บางครั้งฉันก็สับสนว่า นายนี่ใจเย็นเหมือนน้ําแข็งหรือนายเป็นแค่คนขี้ขลาดกันแน่
“อันที่จริง บางครั้งฉันก็สับสนเหมือนกัน….”
อย่างไรก็ตาม ฉันก็สรุปทุกอย่างที่ทําเอาไว้จนถึงชั้น 20
เมื่อฉันนึกย้อนถึงสิ่งที่ฉันทําลงไป ฉันก็รู้สึกอิ่มเอมใจแปลกๆ
[เทพธิดาแห่งการปกป้องประทับใจในความสําเร็จของท่าน!]
เสียงที่ไม่เคยได้ยินมาพักใหญ่ดังขึ้น
“ฮะ?”
เมื่อมาลองคิดดู
แม้จะเอาชนะราชาปีศาจแห่งห่าฝนมาได้ แต่เทพธิดาแห่งการปกป้องก็ยังคงนิ่งเงียบ ไม่ ยกเว้นตอนที่ฉันผ่านชั้นที่ 12 เป็นครั้งแรก เทพธิดาแห่งการปกป้องก็เงียบมาตลอดเวลา
[เทพธิดาแห่งการปกป้องรับรู้ความสําเร็จทั้งหมดของท่าน!]
ราวกับกําลังระบายทุกสิ่งที่เธออยาก จะพูดออกมาทั้งหมดในขณะที่เงียบอยู่ตลอดเวลาเสียงต่างๆดังออกมาเรื่อยๆ
[เทพธิดาแห่งการปกป้องสรุปว่า แม้ว่าท่านจะโกหกว่าเป็นอัครสาวกของเทพธิดาแต่ในความเป็นจริงท่านก็มีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะเป็นอัครสาวก
[เทพธิดาแห่งการปกป้องอนุญาตให้ท่านใช้ชื่อของเธอได้ในอนาคต!]
แต่มีบางอย่างแปลกๆเกี่ยวกับคําพูดของเธอ
“…คุณหมายถึงอะไรที่ว่าใช้ชื่อของคุณในอนาคต? นั่นหมายความว่าอย่างไร?”
[เทพธิดาแห่งการปกป้องเจ็บปวดจากคําพูดของท่าน เนื่องจากพวกเราทํางา ร่วมมือกันได้ดีจนถึงตอนนี้]
มันกลายเป็นไม่เข้าใจมากขึ้นเรื่อย ๆ
“เราร่วมมือกันได้ดีจนถึงตอนนี้?”
[เทพธิดาแห่งการปกป้องขอให้ท่านมองลงไปข้างล่าง]
ฉันก้มมองลงไป
ไม่มีอะไรเลยนอกจากพื้นหิน
[เทพธิดาแห่งการปกป้องขอให้ท่านมองไปทางซ้ายอีกหน่อย]
ฉันเลื่อนสายตาไปทางซ้าย
ทางนั้น ขาและเอวของฉันอยู่ตรงนั้น
ที่เอวของฉันมีอาวุธในตํานานที่เทพธิดา
ดามอบให้แก่จักรพรรดิผู้ก่อตั้งอาณาจักรเอจิม กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือดาบศักดิ์สิทธิ์แห่งการปกป้องของเลฟานต้า เอจิมซึ่งอยู่ในฝักดาบ
“เดี๋ยวก่อน อย่าบอกนะว่า?”
[เทพธิดาแห่งการปกป้องขอแนะนําให้ คณสนใจไปที่เอวของท่าน]
ฉันรู้สึกแปลกๆ
ฉันนึกถึงฉากที่ฉันกําลังต่อสู้กับกองทัพของราชาปีศาจที่ชั้น 12
ในเวลานั้น ฉันแน่ใจว่ามีเสียงที่ระบุว่าเทพธิดาแห่งการปกป้องกําลังเค้นพลังเฮือกสุดท้ายของเธอ ทันทีที่คําพูดจบลง แสงสีขาวก็พุ่งออกมาจากบางสิ่งที่ฉันถืออยู่
หลังจากนั้นก็ไม่มีปาฏิหาริย์ใดๆเกิดขึ้น
“ไม่ เดี๋ยวก่อน อย่าบอกนะว่า [เทพธิดาแห่งการปกป้อง] ที่ถูกกพูดถึงเป็นครั้งคราวในการต่อสู้กับราชาปีศาจคือ…”
ฉันพูดด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความไม่เชื่อ
“คุณ…คุณเป็น “ดาบ เหรอ?”
หลังจากนั้นไม่นาน
เสียงนั้นก็ตอบ
[เทพธิดาแห่งการปกป้องยืนยันคําถามของท่านแล้ว!]
โอ้ พระเจ้า
เมื่อมาคิดว่าดาบศักดิ์สิทธิ์แห่งการปกป้องที่ฉันใช้มาตั้งนานนี่เป็นดาบศักดิ์สิทธิ์จริงๆ