Regressor Instruction Manual 34 ศัตรู (2)

ตอนที่ 34 ศัตรู (2)

“อย่าร้องไห้ เจ้าหมู”

“ใคร ใครร้องไห้กัน”

ต้องขอบคุณแรงผลักที่ทำให้มีดติดอยู่ในตัว มันทำให้บาดแผลของผมไม่ได้แย่ขนาดนั้น อย่างไรก็ตามมันปฏิเสธไม่ได้ว่าผมเกือบตาย

เมื่อผมคิดเกี่ยวกับเรื่องนั้น สิ่งที่ไร้สาระยิ่งกว่าคือ ‘ผมเกือบตายแล้ว’

ตามความคิดของผม ปาร์คด็อกกูควรจะหยุดคิมแจจุนก่อนการโจมตีครั้งที่สองและจองฮายันก็ควรใช้เวทมนตร์รักษา ก่อนที่จะกรีดร้อง

ผมพูดได้แค่ว่า ผมยังโชคดีที่รอดชีวิตมาได้

เมื่อตระหนักว่าแม้แต่องค์ประกอบที่เล็กที่สุดในการคำนวณของผมก็อาจผิดพลาด

‘ผมควรจะเสี่ยงเมื่อจำเป็นเท่านั้น….’

ผมตระหนักว่าต้องเตรียมตัวอย่างละเอียดมากขึ้น ก่อนที่จะโยนลูกเต๋า มันเป็นเรื่องโชคร้าย แต่ท้ายที่สุดมันเป็นเรื่องปกติ ที่พวกเขาจะตื่นตระหนกในสถานการณ์เช่นนี้

ใคร ๆ ก็บอกได้ว่ามันเป็นปฏิกิริยาตามปกติของปาร์คด็อกกูหรือฮายันที่ไร้เดียงสา ที่จะมีการกระทำดังกล่าว

บางทีผมควรจะขอบคุณที่มันจบลง

นี่คือบทช่วยสอน และถ้าเราเปรียบเทียบกับเกม เราก็ยังคงเป็นแค่มือใหม่ บางทีเวลาจะช่วยแก้ปัญหาของฮายันและปาร์คด็อกกู

“พี่ครับ ผม….”

“ผมคิดว่าจะสามารถระงับยูซอกวูได้”

“ไม่…นายโอเคไหม?”

เขาเพียงแค่พยักหน้า

ไอเทมระดับแรร์ แหวนโล่เวทมนตร์ปกป้องผมไว้

มอนสเตอร์ไม่มีอำนาจพอที่จะเจาะทะลวงเกราะเวทมนตร์นี้ได้

ทันใดนั้นผมรู้สึกขอบคุณคิมฮยอนซึง ผลของไอเทมดีกว่าที่คิด

‘โล่เวทมนตร์’

“กว๊า – อ๊า – อ๊า – อ๊า – อ๊า – อ๊า – อ๊า”

ผมเห็นมอนสเตอร์เคาะเยื่อโปร่งแสงอยู่ตลอดเวลา แต่ผมไม่รู้สึกกลัว ระหว่างนั้นผมก็เริ่มร่ายคาถามากขึ้น

“ข้า แต่พระเจ้า ได้โปรดฟังเสียงของข้าเพื่อเผาผลาญศัตรู….”

“….”

“ไฟร์บอล”

ผมเวียนหัวเล็กน้อย สถานการณ์ตอนนี้อาจเป็นเพราะพลังเวทที่ต่ำหรืออาจเป็นเพราะผมเสียเลือดมาก

แผลของผมหายแล้ว แต่ความเสียหายที่ได้รับยังหลงเหลืออยู่

เมื่อผมท่องคาถา ไฟร์บอลขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นรื้อโล่เวทมนตร์ออกไปข้างนอก

ปัง

มันเป็นการโจมตีที่สมบูรณ์แบบ แต่ปาร์คด็อกกูวางตำแหน่งตัวเองไว้ต่อหน้า ด้วยความสงสัยว่าจะมีมอนสเตอร์รอดชีวิตหรือไม่

พูดง่าย ๆ คือผมได้สร้างความพังพินาศ

“อะไรน่ะ….”

“ร่างกายของพี่โอเคไหม?”

“ฉันไม่เป็นไร”

ผมรู้สึกเวียนหัวนิดหน่อย แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร ตอนนี้ผมรู้สึกสดชื่นขึ้นมาก เกือบจะเป็นเพราะว่าผมตายและกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ตอนนี้สิ่งต่าง ๆ กำลังดำเนินไปด้วยดี

คิมฮยอนซึงจะฆ่าจองจินโฮ ส่วนคิมแจจุนจะถูกฮายันจับตัวไปอย่างมีความสุข

สิ่งสำคัญคือยูซอกวู

ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาว่างจนไม่มีอะไรทำ อย่างไรก็ตามมันเป็นเรื่องธรรมดาที่ควรแก้ไขปัญหาให้เสร็จ

ปาร์คด็อกกูจับผู้ชายคนนั้นลงแล้วมัดไว้

นั่นอาจจะเป็นเพราะเชือกที่ไม่ดีนัก แต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไร ไม่สิ ในตอนแรกเขาไม่สามารถทำลายเชือกนี้ได้ด้วยพละกำลังที่มี

“ปล่อยฉันไป! พวกแกจะทำอะไร? “

ยูซอกวูเริ่มต่อต้านเมื่อเขารู้สึกตัว แต่มันไม่มีความหมาย เขาทำได้พียงดิ้นรนขณะนอนอยู่บนพื้น และปาร์คด็อกกูก็จับเขาลงด้วยพละกำลังที่เหนือกว่า

“ไอ้สารเลว!”

“ลีกียอง! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้”

“ไอ้สารเลว”

“คนอื่น ๆ จะมาที่นี่ จองจินโฮกำลังจะมา หลังจากกำจัดไอ้สารเลวนั่น และเอามีดแทงที่คอของแก พวกแกอยากจะรอดชีวิตงั้นเหรอ? ฝันไปเถอะ”

เขาพูดออกมาด้วยความตั้งใจ โลกแห่งความหลงผิดในสมองขาล้ำลึกกว่าที่ผมคิดไว้

“ฮ่าฮ่าฮ่า”

“แกยิ้มบ้าอะไร? แกตลกงั้นเหรอ? แกคิดว่าแกจะหัวเราะแบบนั้นไปได้อีกนานแค่ไหน? ลีกียอง! และไอ้หมูที่อยู่ข้าง ๆ …ฉันจะไม่ยกโทษให้ฮายันเช่นกัน ไม่! ฉันจะทำให้พวกแกต้องเสียใจ…”

“อะไรนะ? “

“นี่….”

“นายพูดอะไรกัน?”

ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงบ้าคลั่ง ในขณะที่ผมเอามือแนบหูและยื่นหน้าออกไป ผมมองเห็นใบหน้าของชายที่กำลังกัดฟันด้วยความโกรธ

“…ลีกียอง ไอ้ขยะ!”

เป็นเรื่องสนุกเสมอที่ได้เห็นประม่าเช่นนี้

“นายคงมั่นใจมาก”

“อะไรนะ…”

“พี่ชายที่รักดูเหมือนจะทอดทิ้งและหนีนายไปแล้ว”

” แกพูดถึงอะไร? “

“นายเคยได้ยินจากจองจินโฮไหม? ตั้งแต่ตอนที่ลีกีชอลเสียชีวิต แผนการที่นี่ก็ถูกยกเลิก…ไม่สิ พวกเขาเริ่มเป็นมิตรกับเราแทน”

“อะไรนะ? “

ใบหน้าแห่งความอับอายเข้ามาในสายตาผม ดูเหมือนเขาจะไม่รู้

นี่เป็นฉากที่ผมอยากเห็น

ผมจะไม่สามารถรับรู้เรื่องนี้ได้ หากปราศจากปฏิกิริยาของ ‘ดวงตาแห่งจิตใจ’ หรือคิมฮยอนซึง

ผมคงคิดแค่ว่า ‘คุณต้องระวังนิดหน่อยกับการเคลื่อนไหวพร้อมกับกลุ่มที่ไม่ดี’

ผมไม่ได้สนใจมากนักว่าผมจะคิดถูกหรือผิด เมื่อมองจากการแสดงออกของเขา ดูเหมือนมันจะถูกต้องในระดับหนึ่ง

แต่ตอนนี้มันไม่สำคัญ

แน่นอนว่าไม่มีเหตุผลที่ผมจะอธิบายสถานการณ์นี้ให้เขาฟัง

“อะไรนะ…แกกำลังพูดถึงอะไร?”

“ไอ้สารเลว”

ผมเอาแต่หัวเราะ ฉาก ๆ นี้สนุกมากจริง ๆ วิธีที่ผู้ชายโง่ ๆ คนนี้ขยับ ทำให้ผมนึกถึงตุ๊กตาหรือม้าโชงิ (หมากรุกญี่ปุ่น)

โชคดีที่จองจินโฮแค่คิดว่าเขาเป็นประกัน

“มันคืออะไร?”

“แกกำลังพูดถึงอะไรกันแน่?”

ผมไม่จำเป็นต้องอธิบาย แต่ผมแค่ยิ้มอย่างมีความสุข “ถ้านายไม่โง่ นายก็น่าจะรู้นะ”

อย่างไรก็ตามยูซอกวูเอาแต่จ้องมองผมอย่างเหม่อลอย บางทีเขาอาจจะโง่จริง ๆ

ตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมแนะนำให้โจมตีดันเจี้ยน …เวทมนตร์ที่ใช้ในการปิดกั้นคลื่นมอนสเตอร์ การตายของลีกีชอล นี่เป็นเรื่องที่ไร้สาระจริง ๆ

เขาอาจจะตระหนักว่าทุกอย่างเป็นบทที่สร้างสรรค์มาเป็นอย่างดี แม้ว่าเขาจะยั่วยุโดยตั้งใจก็ตาม ไอ้โง่คนนี้กำลังเดาได้ว่าทำไมผมถึงเล่นกับฮายันอย่างเปิดเผย

ไม่มีเหตุผลที่จะหัวเราะเยาะเขาและมีช่วงเวลาที่ดีกับฮายัน ทุกอย่างเป็นกับดักสำหรับตัวเขาเอง

เขาอาจจะไม่เชื่อด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นเหยื่อ

ไม่ว่ามนุษย์จะควบคุมอารมณ์ได้ดีเพียงใด เขาก็ต้องตื่นตระหนกต่อสถานการณ์เช่นนี้

ปาร์คด็อกกูมองมาที่ผมด้วยสีหน้าตกใจ แต่เขาไม่จำเป็นต้องให้หรือขอคำอธิบายเพิ่มเติม นี่เป็นเพราะใบหน้าของชายที่ไม่ต้องการอะไรไปมากกว่าการฆ่าผมยังอยู่ในสายตา

“แก…ลีกียอง ไอ้ขยะ! แกมันสารเลว!”

มันน่าหัวเราะที่เขากำลังรอเพื่อน ๆ ของตัวเองอยู่

จองจินโฮตัดสินใจว่าพลังของเขามีไม่เพียงพอ เขาจึงคัดเลือกยูซอกวูลงเข้ามาในดันเจี้ยนเพื่อสร้างตัวแปร

แต่สรุปแล้วเขาก็ไม่ได้เป็นอะไรไปมากกว่านั้น

มันเป็นเรื่องธรรมดามากที่คุณจะสามารถบอกได้ แม้จะคิดเรื่องนี้เพียงเล็กน้อยก็ตาม ยูซอกวูก็ต้องตระหนักว่าเขาทำพลาด

“นี่…นี่!”

“ขอบคุณนะซอกวู ฉันรู้สึกขอบคุณนายมากจริง ๆ”

ผมไม่ได้กลัวเพราะมือและเท้าของเขาถูกมัดไว้ แต่ผมขมวดคิ้วกับฉากที่ไม่เป็นระเบียบ

“ฉันจะฆ่าแก! ฉันจะฆ่าแก!”

“ฉันพูดได้เหมือนกันนะ”

จะฆ่าหรือไม่ ผมเป็นคนเลือก

“อะไรนะ? “

“ฉันไม่ใช่คนดีหรอก แน่นอนฉันยังลังเลนิดหน่อยในการฆ่าคน …แต่เมื่ออยู่ในสถานที่เช่นนี้ ฉันคิดว่าต้องได้สัมผัสมันอย่างน้อยหนึ่งครั้ง นายคิดเหมือนกันไหม? ประสบการณ์น่ะ”

“นั่น….”

“แม้ฉันจะชอบปล่อยให้คนอื่น …แต่ฉันไม่สามารถยืมมือคนอื่นได้ตลอดเวลา”

“นี่…นี่มัน…แกมันบ้าไปแล้ว…”

“นายก็เหมือนกัน แต่ถ้าสิ่งต่าง ๆ ผิดพลาดไปเพียงเล็กน้อย ฉันคงเป็นคนนอนอยู่ที่นี่ แทนที่จะเป็นฮายันหรือด็อกกู”

ผมยกหอกที่ถือไว้ในมือขึ้นเล็กน้อย

“พี่” เสียงอันหวาดกลัวดังขึ้น

แน่นอนว่าผมไม่เคยฆ่าคนมาก่อน

ปาร์คด็อกกูดูเหมือนจะถามว่าผมทำได้หรือไม่ บางทีถ้าเขารั้งผมไว้ ผมก็คงปฏิเสธ การทำเรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย

แน่นอนว่ามือที่ผมถือหอกนั้นสั่น นั่นเป็นเพราะผมรู้สึกลังเลที่จะฆ่ามนุษย์ ในแง่หนึ่งผมได้ตัดสินใจแล้ว แต่มันค่อนข้างยากที่จะทำจริง

ผมแตกต่างจากฮายันที่มีบุคลิกบิดเบี้ยว หรือคิมฮยอนซึงที่เคยฆ่าคนมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน

บอกตามตรงว่าผมยังลังเล

แต่ถึงอย่างนั้น…

“การคัดเลือกโดยธรรมชาติ”

ผมคิดว่ามันสมเหตุสมผลที่สุดที่จะได้สัมผัสที่นี่

“อ๊ากกกกก ช่วยฉันด้วย”

“ขอโทษนะ”

มือที่ถือหอกหยุดสั่น

“ถ้าไม่อยากเห็นก็หลับตาเถอะด็อกกู”

ผมไม่ได้มองไปที่การแสดงออกของปาร์คด็อกกู แต่ผมคิดว่าเขาคงหลับตาไปแล้ว

“อ๊ากกก…ช่วยด้วย!”

ในทันใดนั้นหอกก็แทงทะลุลำคอ ความรู้สึกไม่พึงประสงค์ที่ผ่านมือทำให้ร่างกายของผมสั่นสะท้านไปทั่วตัว

“เกะ…เกะ…”

ยูซอกวูพยายามพูดอะไรบางอย่าง แต่สภาพของเขาอยู่ในสายตาขผมแล้ว ผมอยากจะหันหน้าไปทางอื่น แต่ผมรู้ว่ามันปฏิเสธไม่ได้

ผมเหนี่ยวไกกระสุนที่ยิงออกไป

แขนและขาของผมสั่น

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมเคยเห็นคนตาย แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ผมลงมือทำด้วยตัวเอง

‘ผมคิดว่ามันจะเหมือนกับพัคฮเยยอง’

เป็นความจริงที่ผมฆ่าเธอด้วย

ไม่สิ ผมฆ่าเธอ ผู้หญิงที่ผมเห็นที่จุดเริ่มต้นก็ถูกผมฆ่า เพราะผมเลือกที่จะหันหลัง เมื่อเธอต้องการความช่วยเหลือ

ตอนนี้ไม่มีความจำเป็นที่ต้องใช้เหตุผลหรือตกใจ ผมต้องยอมรับสถานการณ์อย่างสงบเหมือนตอนนั้น มันจำเป็นเพราะมันช่วยไม่ได้

ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้เห็นชีวิตหนึ่งที่ตายอย่างเงียบ ๆ แต่…

“พระเจ้า…”

“ชะ…ดะ…”

“ขอโทษด้วยนะ”

ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด คนโง่พยายามพูดต่อไปและเลือดที่พ่นออกมาดูไม่น่าพึงพอใจเลย

เมื่อเวลาผ่านไป สีหน้าของเขาก็สงบลง

“อ๊ะ…สะ…ระ…เล…”

ในที่สุดผู้ชายที่มองมาทางผมก็เงียบลง และความเงียบก็เริ่มครอบงำสถานที่

“ถ้าฉันทำได้…นายก็ต้องทำได้ดีกว่านี้” คำพูดเหล่านี้เป็นคำพูดเดียวกับที่ผมพูดกับปาร์คด็อกกูครั้งแรก

ไม่เหมือนครั้งแรกที่ไม่มีคำตอบในสถานการณ์นั้น แต่กลับมีเสียงที่ผิดปกติเล็กน้อยจาปาร์คด็อกกู ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่เขาจะพูด เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของผม

“พี่….”

“…”

“เขาเป็นคริสต์หรือเปล่า?”

คำถามน่าอายที่ไม่เหมาะกับสถานการณ์ ผมหัวเราะและพูดในสิ่งที่คิด

“ไม่ ที่นี่ไม่มีพระเจ้าหรอก”

[อาชีพใหม่ได้รับการเปิดใช้งาน โปรดเลือกอาชีพที่คุณต้องการ]

“อะไรนะ…? เป็นไปไม่ได้”

จู่ ๆ ก็มีอะไรแบบนี้โผล่ขึ้นมา…

มันเป็นไปไม่ได้

Regressor Instruction Manual

Regressor Instruction Manual

Score 10
Status: Completed

วันหนึ่งผมถูกเรียกตัวมายังโลกใบนี้

สัตว์ร้ายหลั่งไหลออกมาและวิกฤตที่น่าเหลือเชื่อก็มาถึง

พรสวรรค์ของผมไม่อาจแย่ไปได้กว่านี้แล้ว

[ระดับความสามารถของผู้เล่นอยู่ในระดับต่ำสุด]

[ตัวเลขทั้งหมดเกือบสิ้นหวัง]

ไม่ว่าผมจะเลือกเป็นนักรบหรือพ่อมดที่มีความสามารถก็ตาม

ไม่ว่าคุณจะย้อนเวลากลับไป

คุณต้องใช้ประโยชน์จากทุกสิ่งเพื่อที่จะอยู่รอด

Options

not work with dark mode
Reset