มอนสเตอร์หลั่งไหลมาจากทุกทิศทุกทางรอบตัวเรา
มอนสเตอร์แต่ละตัวไม่ได้แข็งแกร่งมาก แต่ด้วยจำนวนขนาดนี้ เราเลยตกอยู่ในสถานการณ์ร้ายแรงโดยไม่รู้ตัว ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมคิมฮยอนซึงถึงรู้สึกว่าจำนวนคนของเราไม่เพียงพอ ก่อนที่จองจินโฮจะมา
ไม่ว่าคิมฮยอนซึงและปาร์คด็อกกูจะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่พวกเขาก็ยังไม่ถึงระดับที่ทั้งสองคนจะสามารถต่อสู้กับมอนสเตอร์เหล่านี้ได้ การแสดงออกของสมาชิกแต่ละคนในปาร์ตี้ของจองจินโฮก็ดูแย่ลงเช่นกัน หลังจากเห็นสิ่งนี้
ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังคิดอยู่เหมือนกันว่าจะรอดจากการทดสอบนี้ได้หรือไม่ มีเพียงจองจินโฮเท่านั้น ที่ดูเหมือนจะไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ในปัจจุบัน
‘ผมต้องรอด’
ถ้าเรารอดไปได้ก็เพียงพอแล้ว มันจะฉลาดกว่าที่จะรักษาพลังเวทย์ไว้ภายหลัง
ในขณะที่เตรียมคาถาด้วยปาก ผมถือหอกแน่นขึ้นด้วยมือทั้งสองข้าง
“ด็อกกู”
“พี่”
ปาร์คด็อกกู คิมฮยอนซึง และจองจินโฮจะเป็นแนวป้องกันด่านแรก
ปาร์คด็อกกูควรจะป้องกันตรงกลางและปกป้องแนวหลังให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทั้งสองกลุ่มที่มีความคิดต่างกันในตอนแรก เริ่มรวมตัวกันเพื่อความอยู่รอดของพวกเรา
ตอนนี้ผมกังวลเกี่ยวกับการถูกแทงข้างหลัง แต่พวกจินโฮคงไม่โง่พอที่จะโจมตีเราในสถานการณ์เช่นนี้
เช่นเดียวกันกับคิมฮยอนซึง
ในตอนนี้สิ่งเดียวที่จะทำให้ทุกคนคิดถึงคือการเอาชีวิตรอดจากการโจมตีที่เข้ามา พวกเราทุกคนคว้าอาวุธของตัวเองไว้ เพื่อเตรียมพร้อมกับมอนสเตอร์ที่วิ่งตรงมา
ปัง!
“กว๊า – อ๊า – อ๊า – อ๊า – อ๊า – อ๊า -อ๊า”
“ไอ้พวกบ้านี้!”
เป็นเรื่องปกติที่มอนสเตอร์สองหรือสามตัวจะมาพร้อมกัน ปาร์คด็อกกูพยายามถือโล่ของเขา เพื่อรักษาตำแหน่งและหยุดพวกมันไว้
เราไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการเล็งการโจมตี เพราะเป้าหมายที่เข้ามาจากทุกทิศทาง ผมรู้สึกได้ถึงเนื้อสัมผัสอ้วน ๆ จากหอก แม้จะไม่ต้องการก็ตาม ผมได้แต่หวังว่าปาร์คด็อกกูและคิมฮยอนซึงจะไม่เหนื่อยล้าจากการโจมตีซ้ำ ๆ
“อยู่ใกล้ ๆ ให้มากที่สุด! มารวมกัน!”
“พยายามเข้า! ฉันไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเราล้มเหลว”
“เอาล่ะ สู้ต่อไป!”
“กว๊า – อ๊า – อ๊า – อ๊า!”
มันยากที่จะทนต่อการหลั่งไหลของมอนสเตอร์ มันรู้สึกราวกับเราโดนประตูเหล็กกระแทก
ปาร์คด็อกกูเหวี่ยงโล่ไปพร้อมกับร่างที่ใหญ่โต เพื่อสร้างพื้นที่ให้เราสามารถเคลื่อนไหวได้ คิมฮยอนซึงและจองจินโฮก็ค่อย ๆ แทงและผลักมอนสเตอร์ที่พุ่งเข้ามา ด้วยอาวุธในมือ
‘พวกเขาแข็งแกร่ง’
พวกเขาแข็งแกร่งมาก
จองจินโฮที่กันด้วยโล่ขนาดเล็กและแทงด้วยดาบเหมือนจะเป็นห่วงจองฮายันและผม เขาหันกลับมามองที่เราตลอดเวลา โดยคิมฮยอนซึงก็ทำเช่นกัน
พวกเขากังวลว่าเราจะได้รับบาดเจ็บจากมอนสเตอร์
“อ๊ากกกกกกกกก!”
“อ๊ากกกกกก!”
ลูกน้องของจองจินโฮก็โจมตีอย่างหมดท่า อย่างไรก็ตามมันไม่มีช่องว่างให้เล็งจากระยะนี้ได้อย่างถูกต้อง
เรากัดริมฝีปากแน่นและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะหยุดยั้งมอนสเตอร์ที่โจมตีมา เลือดของมอนสเตอร์กระเซ็นลงบนใบหน้าและอาวุธ โดยอวัยวะภายในเช่นลำไส้ตกลงมาทำให้พื้นลื่นขึ้น
ผมคงขมวดคิ้วกับฉากที่น่าขยะแขยง แต่ตอนนี้ผมไม่สามารถละความสนใจได้
“กว๊า – อ๊า – อ๊าอ๊าอ๊าอ๊าอ๊าอ๊าอ๊าอ๊าอ๊า!”
เสียงที่น่ารำคาญของมอนสเตอร์และเสียงกรีดร้องที่ดังขึ้นจากความกลัวหลอมรวมกัน
“เฮ้!”
ปัง
เมื่อใดก็ตามที่ด็อกกูเหวี่ยงโล่ คุณจะเห็นฉากที่น่าตื่นตาของมอนสเตอร์ที่ล้มลง
‘เจ้าหมูตัวนี้ดีมากจริง ๆ!’
ศักยภาพของเขาไม่ได้สูงขนาดนั้น แต่ปาร์คด็อกกูก็ยังแข็งแกร่งมาก มันเป็นความแข็งแกร่งที่แตกต่างจากคิมฮยอนซึงและจองจินโฮนิดหน่อย แต่ค่าความอดทน 30 นั้นยอดเยี่ยมมากจนไม่สามารถบรรยายเป็นคำพูด
การโจมตีบางประเภทที่ขว้างใส่ถูกดูดซับโดยร่างกายของเขา
‘ผมประเมินเขาต่ำเกินไป’
ผมตัดสินด้วยพรสวรรค์ของเขาจนถึงตอนนี้ และลงเอยด้วยการประเมินเขาต่ำไป
จริง ๆ แล้วปาร์คด็อกกูเป็นคนที่ดูเหมือนจะคุกคามมากกว่าจองจินโฮและคิมฮยอนซึง
แม้เขาจะไม่มีเวทมนตร์ แต่ความแข็งแกร่งของเขาก็น่ามาก ทหารที่ยืนอยู่ต่อหน้าผมไม่ใช่แค่โล่เนื้อ
เขารู้ว่าเมื่อใดควรรุกและเมื่อใดควรถอย
ไม่มีวี่แววของความรู้สึกไม่สบายบนใบหน้า แม้ว่าร่างกายของเขาจะอดทนต่อการโจมตีนับครั้งไม่ถ้วน
‘เขาเป็นมนุษย์จริง ๆ เหรอ?’
ผมคิดเรื่องนี้โดยไม่รู้ตัว
แน่นอน ไม่ใช่ว่าปาร์คด็อกกูไม่เกรงกลัว เขายังเกร็งเหมือนกับครั้งแรกที่ออกไปสู้ด้วยกันกับผม
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้หนีไปไหน เขาไม่ได้ซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเหมือนครั้งแรกที่เราเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ เขาไม่กังวลเกี่ยวกับการโจมตีไปข้างหน้าเพื่อทำลายรูปแบบของศัตรู วิธีคิดแบบนั้นเหมาะกับสมองที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้ออย่างเขาจริง ๆ
นี่เป็นเพียงการคาดเดา แต่ดูเหมือนว่าปาร์คด็อกกูจะไม่ต้องการให้ผมและจองฮายันบาดเจ็บ
“อย่าล้มนะพี่! อย่าตกลงไป!”
“ฉันยังอยู่ข้างหลังนายเจ้าอ้วน มีสมาธิเข้าไว้”
“พี่ต้องรอดเข้าใจไหม!”
“ได้!”
ผมรู้สึกได้ถึงความห่วงใย เพียงแค่เห็นว่าเขานึกถึงผมอยู่ตลอดเวลา
‘เจ้าอ้วน…’
สิ่งที่ทำให้ผมกังวลคือ การโจมตีของมอนสเตอร์นั้นมุ่งเน้นไปที่ปาร์คด็อกกูมากเกินไป
ดูเหมือนว่าเขายังไม่ได้มีบาดแผลที่สำคัญ แต่ก็มีบาดแผลเล็ก ๆ ที่เพิ่มขึ้น
สิ่งนี้ดูไม่ค่อยดีนัก เมื่อผมคิดถึงสิ่งที่ควรจะเกิดขึ้นนอกเหนือจากการต่อสู้ที่นี่
ตอนนั้นเองที่ฮายันร่ายมนตร์
“ระเบิดลม (Wind bomb) ”
ปัง
มันดังขึ้นพร้อมกับเสียงที่อึกทึก
มอนสเตอร์บางตัวถูกทุบลงบนพื้นและตัวอื่น ๆ บนเพดานเนื่องจากลมที่รุนแรง แต่มันก็ไม่เป็นผล
‘เราต้องรักษากำลังของเราไว้…’
ผมตัดสินใจแล้วว่าฮายันและผมควรจะรักษาเวทมนตร์ของเราไว้ให้มากที่สุด แน่นอนว่าฮายันมีพลังมากกว่าผม แต่ถึงกระนั้นเธอก็ไม่สามารถปล่อยเวทมนตร์ได้อย่างไร้ขีดจำกัด
เราไม่สามารถสูญเสียความแข็งแกร่งไปได้ก่อนกลุ่มของจองจินโฮ เราต้องลดการใช้พลังให้น้อยที่สุด ขณะที่ปกป้องตัวเอง
ในขณะที่ผมคิดอยู่ครู่หนึ่งว่าจะพูดอะไร รอยยิ้มก็เกิดขึ้นที่ริมฝีปาก เมื่อผมเห็นสนามรบ
‘พัวะ พัวะ’
บางทีนี่อาจจะสิ่งที่ทำโดยตั้งใจ
สิ่งที่ดีก็คือสถานที่ที่เวทมนตร์ของฮายันตกลงไป มันเป็นที่อยู่ของมอนสเตอร์ที่ปาร์คด็อกกูและคิมฮยอนซึงอยู่
กล่าวอีกนัยหนึ่งกลุ่มของจองจินโฮที่อยู่ด้านซ้ายไม่ได้รับความช่วยเหลือใด ๆ จากเธอ ดูเหมือนภาระจะเพิ่มขึ้นในปาร์ตี้ของจองจินโฮและคนอื่น ๆ ที่กลายเป็นเป้าหมายของมอนสเตอร์
ผมรู้สึกสมเพช เมื่อเห็นพวกเขาใช้พลังทั้งหมดในการป้องกัน
เมื่อเทียบกับสิ่งนั้น เรามีพื้นที่พักหายใจสำหรับตัวเอง
ต้องขอบคุณเวทมนตร์ของฮายัน จำนวนมอนสเตอร์ที่โจมตีเราลดลงอย่างมาก และแม้ว่ามันจะเป็นช่องว่างสั้น ๆ แต่มันก็ทำให้เราได้พักชั่วครู่
“ทำได้ดีมากฮายัน”
บางครั้งผมก็รู้สึกว่าตัวเองยังไม่ดีพอและฮายันก็ฉลาดกว่าที่คิด
ปาร์คด็อกกูและคิมฮยอนซึงที่ผ่อนคลายมากขึ้น แน่นอนว่าไม่มีความตั้งใจที่จะไปทางซ้าย
“เราต้องอยู่ในแถว!”
แต่เราอยู่ต่อไปไม่ได้ เมื่อมอนสเตอร์อีกฝูงเริ่มโจมตีจากทางด้านซ้าย
“ไปช่วยพวกเขาซะ ด็อกกู”
“ไม่ ผมไม่คิดว่าเราจะทำได้ ผมยังรอดอยู่ได้เพราะฮายันช่วยเราเท่านั้น”
ในตอนนี้จองจินโฮเป็นคนที่ยุ่งที่สุด จองจินโฮสามารถใช้เวทมนตร์ได้เช่นกัน แต่เขาไม่ได้ใช้มันมันต่อหน้าคนอื่น เพราะต้องการปกปิดความจริงที่ว่าเขาเป็นแบทเทิลเมจ
ในที่สุดผู้คนจากปาร์ตี้ของเขาก็เริ่มกรีดร้อง
“ช่วยด้วย! “
“ช่วยเราด้วย!”
“ใช้เวทมนตร์เดียวกันที!”
พวกเขาหวังว่าจะให้ฮายันใช้พลังเวทย์อีกครั้ง
ฮายันจ้องมองกลับมา แต่ผมก็ส่ายหัวเงียบ ๆ
หากจองจินโฮต้องการ เขายังสามารถปกป้องคนของตัวเอง พวกเขาอาจถูกกัดที่แขนหรือได้รับบาดเจ็บเล็ก ๆ แต่เขายังสามารถจัดการได้
ยูซอกวูก็กรีดร้องใส่ฮายัน
“ฮายัน!”
“รอสักครู่ค่ะ เอ๊ะ ฉันกำลังเติมพลังเวทย์อยู่…”
“บ้าเอ๊ย…อ๊ากกก!”
ในระหว่างนั้นมีมอนสเตอร์ที่โผล่มาจากไหนไม่รู้กัดแขนเขา
อย่างไรก็ตามพวกเขายังไม่หยุดสู้
ทำไมน่ะเหรอ? เพราะพวกเขารู้ว่าพวกเขาจะตาย ถ้าหยุดลง นี่เป็นเรื่องน่าเสียใจที่ผมไม่สามารถหัวเราะออกมาดัง ๆ เพราะทุกอย่างกำลังดำเนินไปอย่างสมบูรณ์แบบ
“ฉันทนไม่ไหวแล้ว!”
ผู้เล่นทางด้านซ้ายเริ่มสะสมบาดแผลมากขึ้น
‘นี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในแบบที่ผมอยากให้เป็น’
จองจินโฮก็เริ่มได้รับบาดเจ็บ ไม่ว่าเขาจะคิดว่าตัวเองแข็งแกร่งแค่ไหน แต่นี่ก็เป็นสถานที่ที่แม้แต่คิมฮยอนซึงยังลังเลที่จะเข้าไป
ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จองจินโฮจะดูแลทุกอย่าง ด้วยค่าสถานะแค่นี้
ผมตะโกนเสียงดังขึ้น
“ทนอีกนิดนะครับ! ผมรู้ว่าพวกคุณทำได้!!”
“กียอง?”
“อีกนิดเดียวครับ…”
“มาช่วยพวกเราเร็ว!”
“พวกคุณทำได้ครับ พวกคุณหยุดมันได้อย่างแน่นอน! ช่วยรออีกนิด”
ผมกรีดร้อง ขณะเหวี่ยงหอกใส่พวกมันอย่างเร่งด่วน แรงกดดันที่เกิดขึ้นทำให้พวกเขาหันหน้ามาตอบกลับผมได้ยาก
“อ๊ากกกก! บ้าเอ๊ย! “
ขาของชายอีกคนถูกกัด ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องต่อสู้กับมอนสเตอร์ที่เหลืออย่างอ่อนแรง
“ร่ายมัน! เร็วเข้า! พวกเราต้องการเวทมนตร์!”
“เกือบจะเสร็จแล้ว!”
อันที่จริงผมคิดเกี่ยวกับเวทมนตร์ที่เคยร่ายมาแล้วเมื่อครู่ ผมจะใช้คาถานี้ได้อีกเพียงครั้งเดียว ดังนั้นผมจึงยังลังเลนิดหน่อยที่จะช่วยพวกเขา
จำนวนเวทมนตร์สูงสุดที่ผมสามารถร่ายได้คือสอง ส่วนสามครั้งคือขีดจำกัดที่ผมจะใช้มานาจนหมด
ผมต้องช่วย แต่ในขณะเดียวกันผมก็ต้องสร้างภาระให้กับพวกเขาด้วย เมื่อใดก็ตามที่มนุษย์ห้าคนรวมตัวกัน ต้องมีขยะอย่างน้อยหนึ่งชิ้นในหมู่พวกเขา
บางทีผมอาจถูกมองว่าเป็นขยะในวันนี้
“ไฟร์บอล! “
คว๊ากกก!
“กว๊า – อ๊า – อ๊า – อ๊า – อ๊า – อ๊า – อ๊า”
ลูกไฟขนาดใหญ่ตกลงไปที่ด้านซ้าย
เกิดเสียงดังปังทำให้ฝั่งซ้ายตะลึงไปชั่วขณะ
มันไม่เพียงแต่เปลี่ยนมอนสเตอร์จะกลายเป็นลูกบอลเพลิงในชั่วพริบตา แต่ผู้ที่ถูกโจมตีด้วยชิ้นส่วนของคาถาก็ได้รับแรงปะทะเช่นกัน
พลังของคาถาที่ใช้เปลวไฟนั้นยอดเยี่ยมจริง ๆ
ในขณะที่ผมใช้พลังเวทมนตร์ไปมาก มันคงจะน่าผิดหวังเล็กน้อยถ้ามันไม่มีผลเช่นนี้
กลุ่มของจองจินโฮซึ่งเห็นว่าเวทมนตร์ทำลายล้างมอนสเตอร์ในทันทีก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดี
อย่างไรก็ตามผลพวงของคาถาไม่ได้จบลงแค่นั้น
“กว๊า – อ๊า – อ๊า – อ๊า!”
พวกเราทุกคนได้ผ่อนคลายลงบ้าง
ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ ในที่สุดเวทมนตร์ก็ได้ให้พวกเขาได้พักผ่อน
อย่างไรก็ตามมีปัญหาอย่างหนึ่ง ไฟกำลังลุกลามไปยังส่วนที่เหลือของมอนสเตอร์ที่แออัด มอนสเตอร์ที่ลุกเป็นไฟพัวพันจนสร้างดอกไม้ไฟที่งดงาม พวกมันเริ่มรู้สึกไม่พอใจและวิ่งไปยังทางที่พวกเขากำลังไปก่อนหน้านี้ แต่ด้วยความบ้าคลั่งที่มากขึ้น
“กว๊า – อ๊า – อ๊า – อ๊า – อ๊า – อ๊า!”
มันน่าตื่นเต้นมากที่ได้เห็นมอนสเตอร์วิ่งเข้าหากลุ่มของจองจินโฮราวกับลูกบอลเพลิง ผมไม่รู้แน่ชัดว่าพวกมันกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดหรือคำรามด้วยความดีใจ
‘ไหม้ไปซะ! มอนสเตอร์!
“บ้าเอ๊ย!”
“ขอโทษด้วยนะครับ…” ผมได้สร้างมอนสเตอร์ชนิดใหม่ขึ้นมา และพวกเขาต้องจัดการกับมอนสเตอร์ที่ลุกไหม้เหล่านี้
“โทษที”