“นี่คือ?”
“มันเป็นสิ่งของเอาไว้ช่วยเหลือครับ แต่บางชิ้นก็อาจเป็นประโยชน์มาก”
“คุณไปเอาของพวกนี้มาจากไหนกัน?”
“ผมไม่ได้บอกพวกคุณล่วงหน้า แต่หลังเหตุการณ์นั้น ผมก็พบกล่องโดยบังเอิญ”
” กล่อง? “
“ครับ อาจจะเหมาะกว่าถ้าเรียกมันว่าหีบสมบัติ มันเหมือนกับกล่องไม้ที่คนสมัยก่อนใช้”
“โอ้ ดูเหมือนพวกมันจะพิเศษจริง ๆ ใช่ไหมพี่?”
ผมไม่สามารถตรวจสอบความคำพูดของเขาได้ แต่เนื่องจากพวกเราอยู่ในดันเจี้ยน จึงมีความเป็นไปได้สูงที่อาจจะมีหีบดังกล่าว
โดยส่วนตัว ผมกำลังคิดถึงความเป็นไปได้ที่สิ่งของเหล่านี้จะเป็นของคิมฮยอนเองหรือไม่ แต่ผมไม่พบเหตุผลที่เขาจะแบ่งสิ่งของส่วนตัวกับเรา
สิ่งที่คิมฮยอนซึงมีอยู่ในปัจจุบันและสิ่งที่เราจะได้รับจากเขา คือสิ่งที่สำคัญมากในตอนนี้
“นี่มันสุดยอดเลย ถ้ามีกล่องมากกว่านี้ ผมก็อยากจะหาพวกมัน…บางทีจำนวนหีบที่กระจายไปทั่วดันเจี้ยนนั้นอาจมีจำนวนจำกัด และกล่องที่ฮยอนซึงพบ อาจจะเป็นกล่องแรกและกล่องสุดท้ายก็ได้ ใครจะไปรู้ล่ะ? นอกจากนี้อาจมีสิ่งที่คล้ายกันอยู่ในชั้นล่าง…”
” ครับกียอง ผมได้ค้นหาแถวนั้นคร่าว ๆ แล้วพบกล่อง แต่ผมไม่เจออย่างอื่น …ยังไงก็ตาม มาลองดูสิ่งเหล่านี้กันก่อนเถอะ”
“ครับ”
แน่นอน ผมจะได้เห็นสิ่งที่เรามีอยู่ในมือ
ผมไม่จำเป็นต้องกระตุ้นดวงตาแห่งจิตใจ ทันทีที่ยกมือขึ้น ข้อมูลเกี่ยวกับพวกมันก็หลั่งไหลเข้ามาในความคิดผม
คงจะดีไม่น้อย ถ้าผมสามารถตรวจสอบค่าสถานะโดยละเอียดของไอเทมได้
[สร้อยข้อมือเหล็กของคนแคระโลหะ – ระดับทั่วไป]
[นี่คือเครื่องประดับขนาดเล็กที่ถูกสร้างขึ้นโดยเผ่าพันธุ์คนแคระโลหะที่ร่วงหล่น ซึ่งแตกต่างจากรูปลักษณ์ที่หยาบกร้าน มันเป็นสร้อยที่ใช้เทคนิคมากมายในการสร้าง เมื่อสวมใส่ค่าความแข็งแกร่ง ความอดทนและพละกำลังจะเพิ่มขึ้น 1 แต้ม]
เจ้าของสร้อยข้ออมือได้รับการตัดสินแล้ว ดูเหมือนปาร์คด็อกกูจะเหมาะสมที่สุด
จำนวนค่าสถานะที่เพิ่มขึ้นทั้งหมดคือ 3 แต้ม มันเกือบจะเท่ากับค่าสถานะเมื่อคุณเปลี่ยนคลาส
แต่นี่ยังเป็นแค่ไอเทมปกติ
แล้วความคิดก็เข้ามาในหัว บางทีอุปกรณ์ระดับฮีโรอิคและตำนาน อาจมีคุณสมบัติที่ผมไม่สามารถจินตนาการได้
“โอ้…”
ปัญหาคือสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น
[แหวนโล่เวทมนตร์ – ระดับแรร์]
[ไม่สามารถยืนยันได้ว่ามันสร้างขึ้นเมื่อไหร่ มันเป็นอุปกรณ์เสริมที่ใช้สร้างเกราะเวทมนตร์ สามารถเก็บพลังเวทย์ไว้ในแหวนได้วันละสองครั้ง แต่คุณต้องชาร์จพลังด้วยตัวเอง (2/2) ]
[การรักษาอันศักดิ์สิทธิ์ – ระดับแรร์]
[ไม่สามารถยืนยันได้ว่ามันสร้างขึ้นเมื่อไหร่ นี่คือแหวนที่มีพลังศักดิ์สิทธิ์และมีความสามารถในการรักษาระดับเล็กน้อย สามารถใช้ได้วันละครั้ง (1/1) ]
ไอเทมอีกสองชิ้นคือแหวนระดับแรร์
ทันทีที่ตรวจสอบ ดวงตาของผมก็เบิกกว้างโดยไม่คาดคิด
‘ผมรักสิ่งนี้’
ผมคิดว่าการตามคิมฮยอนซึงจะได้รับประโยชน์บ้าง แต่ผมนึกไม่ถึงว่าจะขนาดนี้
นี่คือแหวนระดับแรร์!
แม้แต่ผมเองยังประหลาดใจกับความสามารถที่ดูดีของมัน
พวกมันไม่ได้เพิ่มค่าสถานะโดยตรงเหมือนกับไอเทมของปาร์คด็อกกู แต่ของเหล่านี้มีค่ากว่ามาก
ตัวอย่างเช่น สมมติว่าพลังเวทมนตร์ที่ใช้เพื่อจดจำคาถาและสร้างโล่เวทมนตร์นั้นมีค่าประมาณ 4 ไอเทมนี้ให้ประสิทธิภาพเป็น +8 แก่ค่าสถานะ พวกมันไม่สามารถเทียบได้กับไอเทมเกรดทั่วไปที่มีประสิทธิภาพ +3
‘ผมโชคดี’
เช่นเดียวกับการรักษาอันศักดิ์สิทธิ์
เมื่อเห็นว่าไอเทมนี้เป็นของระดับแรร์ ไอเทมชิ้นนี้ก็จะมีประสิทธิภาพทางค่าสถานะอย่างน้อย +6 มันมีความสามารถในการรักษาบาดแผล ซึ่งทำหน้าที่เป็นหลักประกัน
เมื่อคิมฮยอนซึงเลือกที่จะลงไปในดันเจี้ยน เขาต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดทั้งหมด
‘การเตรียมทุกอย่างไว้ล่วงหน้า ถือเป็นการเคลื่อนไหวที่ชาญฉลาด’
ขณะที่ผมกำลังผงกหัว ปาร์คด็อกกูก็ค่อย ๆ แตะสร้อยข้อมือ
“ผมคิดว่ามันมีค่าเกินไป…ผมจะใช้มันได้จริง ๆ เหรอ?”
“นายไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้นหรอก”
“เยี่ยม…ถ้าอย่างนั้นสร้อยนี้เป็นของผม ขอบคุณครับพี่ แต่ผมไม่ได้ทำอะไรมากมายที่นี่ ผมต้องขอโทษด้วยสำหรับเรื่องนั้น…”
“โอ้ นายไม่จำเป็นต้องพูดแบบนั้นเลย”
“ไม่ ผมควรจะตอบแทนพี่”
“เอาล่ะ ขอบคุณล่วงหน้าครับ”
เจ้าของสร้อยข้อมือได้รับการตัดสินแล้ว แต่ปัญหาคือแหวนอีกสองวง
อันที่จริงมันไม่ใช่ความคิดที่ไม่ดีที่จะใช้แหวนวงใดวงหนึ่ง แต่ถ้าต้องเลือกระหว่างพวกมัน การป้องกันตัวเองเป็นสิ่งแรกที่ผมต้องการ
ถ้าฮายันสวมไอเทมรักษา มีความเป็นไปได้สูงที่เธอจะสามารถใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ภายใน
‘แต่ผมแน่ใจว่าตัวเองใช้มันไม่ได้’
ผมรู้สึกเหมือนขยะไร้ประโยชน์ แต่มันก็ช่วยไม่ได้
แตกต่างจากเธอที่สามารถใช้เวทมนตร์ประเภทต่าง ๆ ผมมักจะเหนื่อยล้ากับการใช้คาถาเดียวกันแค่สองครั้ง
เมื่อผมต่อสู้กับความคิดเหล่านั้น ฮายันก็พูดขึ้น
“ฉันจะรับสิ่งนี้ไปเองค่ะ”
สิ่งที่เธอเลือกคือไอเทมรักษา
ผมไม่รู้ว่าเธอสังเกตเห็นปฏิกิริยาของผมหรือไม่ แต่เธอทำในสิ่งที่ผมต้องการอย่างแน่นอน
“งั้นฉันจะเอาของที่เหลือเอง” มุมปากของผมบิดขึ้นเป็นรอยยิ้ม
ผมได้รับไม้เด็ดในการช่วยชีวิต ซึ่งสามารถใช้ได้วันละสองครั้ง ผมได้รับไอเทมระดับแรร์โดยไม่ต้องใช้ความพยายามใด ๆ
‘นี่มันเจ๋งมาก! ‘
“แต่เราจะรับของพวกนี้ไปจริง ๆ เหรอ…?”
“ทุกอย่างปกติดีครับ ผมมีพวกมันอยู่แล้ว…ในกรณีของอุปกรณ์ที่มีค่าสถานะพิเศษ ดูเหมือนจำนวนของไอเทมที่แต่ละคนสวมใส่ได้จะมีจำกัด”
อืม นั่นเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์
“คุณหมายถึงเราสามารถใช้งานแหวนได้ครั้งละหนึ่งวง แม้ผมจะสวมมันสองวงหรือมากกว่า?”
“ครับ ถูกต้อง”
ผมคิดว่าจะทดลองเรื่องนี้ในภายหลัง
จากนั้นผมก็ยิ้มเล็กน้อยเพื่อแสดงความขอบคุณเขาอีกครั้ง
“ขอบคุณนะฮยอนซึง อย่างที่ด็อกกูพูดไป เราแทบจะไม่ได้ทำอะไรเลยกับการได้รับสิ่งนี้…”
“โอ้ ขอบคุณ…ฮยอนซึง”
“ไม่ ไม่เลยครับ คุณไม่ต้องขอบคุณผมเลย กียอง ฮายัน เพราะเราเป็นเพื่อนกัน” เขายิ้มกว้าง
ดูเหมือนเขาจะเชื่อในสิ่งนั้นจริง ๆ หลังจากได้เห็นการแสดงออกของผม นี่เป็นภาพของปาร์คด็อกกูและจองฮายันที่มองเขาอย่างซาบซึ้ง
ดูเหมือนเขาจะคิดว่าสามารถไว้วางใจเราอย่างหมดเปลือก เมื่อรู้สึกเช่นนั้นผมก็โล่งอก อันที่จริงมันช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ผมได้มากทีเดียว
“เราจะไปชั้นล่างด้วยกัน”
เพราะเราเป็นเพื่อนกัน
คิมฮยอนซึงวางแผนที่จะไปกับผม ปาร์คด็อกกูและจองฮายัน แม้ในกรณีของจองฮายัน เธอจะเป็นคนมีพรสวรรค์ ซึ่งคิมฮยอนซึงต้องการชนะใจให้ได้มากที่สุด
มันอาจกล่าวได้ว่า ความพยายามใด ๆ ที่จะทำให้ได้รับความไว้ใจจากเธอนั้นเป็นสิ่งที่คุ้มค่า
จากนั้นก็มีปาร์คด็อกกู เขาไม่ได้เลวร้ายเช่นกัน
เช่นเดียวกับในเกือบทุกเกม แทงค์ที่แข็งแกร่งนั้นจะเป็นประโยชน์เสมอ
การตัดสินจากความมั่นคงและศักยภาพที่เขาแสดงจนถึงตอนนี้ อาจกล่าวได้ว่าต่ำกว่าเมื่อเทียบกับจองฮายันหรือจองจินโฮ
ขีดจำกัดการเติบโตของปาร์คด็อกกูสามารถเอาชนะได้อย่างง่ายดาย ด้วยนักสู้ที่แท้จริงอย่างคิมฮยอนซึง จองจินโฮและจองฮายัน แต่ค่าสถานะปัจจุบันของเขาก็ดูดี
แต่ผมสงสัยว่าทำไม แต่มีแต่คนแปลก ๆ ทั้งนั้นที่อยู่รอบตัวผม
อาจกล่าวได้ว่าผมเข้ามาในกลุ่มนี้โดยไม่ได้ตั้งใจ
คิมฮยอนซึงพัฒนาความสัมพันธ์กับปาร์คด็อกกูและจองฮายัน โดยปาร์คด็อกกูพึ่งพาและคิดว่าเขาเป็นพี่ชาย
สำหรับจองฮายัน เขามีความรู้สึกใกล้เคียงกับคู่รัก
ถ้ามีคนต้องการที่จะพาปาร์คด็อกกูและจองฮายัน เขาก็ต้องพาผมไปด้วย เพราะเราแยกจากกันไม่ขาด
ดังนั้นมันจึงเป็นผลงานดีที่ผมไม่ได้ทำผิดพลาดใด ๆ ขณะที่สมองของผมทำงานได้ดีกว่าคนอื่นเล็กน้อย อย่างไรก็ตามคนอย่างผมมีอยู่กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป
ผมน่าจะได้รับตำแหน่งที่ดีในอาณาจักรของคิมฮยอนซึง ซึ่งแน่นอนว่าเขาจะสร้างชื่อเสียงในอนาคต
แน่นอนว่าผมไม่อยากใช้ชีวิตเป็นหุ่นเชิดแบบลีจีฮเย แต่บางครั้งคุณต้องก้มหัว เพื่อเคลื่อนไหวอย่างปลอดภัย
‘มันอาจไม่ใช่เรื่องยากที่จะติดตามเขา’
ผมคิดว่าต้องดำเนินการต่อและจะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้อย่างไร ผมจึงเปิดปากพูด
“ถูกต้อง เราเป็นเพื่อนกัน”
เราเป็นเพื่อนที่ปกป้องและจะดูแลซึ่งกันและกัน
มันรู้สึกแปลกนิดหน่อยที่ผมพูดออกมาเอง
“นั่นฟังดูดีนะพี่ …เพื่อน! อ๊ะ แล้วเราจะลงไปในดันเจี้ยนเมื่อไหร่?”
“ฉันคิดว่าอาจจะเป็นเร็ว ๆ นี้ แต่ฉันยังไม่ได้บอก “พวกเขา”ไป …บางทีพวกเขาอาจจะอยากมากับเราด้วย “
“ได้เลย มีหลายอย่างที่ผมอยากทำ แต่ผมปฏิเสธไปเพราะพี่บอกให้ระวังพวกเขา…”
“อืม”
คิมฮยอนซึงมองมาทางผมอีกครั้ง
เขาเฝ้าระวังอย่างเพียงพอสำหรับผู้มาใหม่ นั่นเป็นสิ่งที่ได้รับการยืนยันแล้ว แต่ผมยังคิดว่าเขาค่อนข้างพอใจในตัวผม
“นั่นเป็นสิ่งที่ผมจะเล่าในภายหลัง …แต่ตอนนี้ให้มุ่งความสนใจไปที่สิ่งอื่นก่อน”
“ตอนนี้คุณก็พูดเหมือนพี่เลย อืม โลกนี้คงมีผู้ชายฉลาด ๆ อยู่มากมาย”
“แม้เราจะโจมตีดันเจี้ยนด้วยกัน แต่เราต้องไม่ลดการเฝ้าระวังในระดับหนึ่ง เราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ที่จะมีบางสิ่งเกิดขึ้นกับเรา เช่นเดียวกับพัคฮเยยอง”
“ครับ ผมเข้าใจว่าพี่หมายถึงอะไร”
หลังจากที่ผมพูดแบบนั้น ไม่เพียงแต่ฮายัน แต่คิมฮยอนซึงเองก็พยักหน้า
“กียองพูดถูก แต่ถ้าเราต้องระมัดระวังจริง ๆ …”
” ครับ? “
“ผมอยากให้พวกเราทุกคนคิดว่า เราอาจกำลังเผชิญหน้ากับพวกเขาในฐานะศัตรูที่นั่น”
ทุกคนพยักหน้า
“ศัตรู? “
“ครับ”
คิมฮยอนซึงพยักหน้าอีกครั้ง และในที่สุดก็ดูเหมือนเขาจะตัดสินใจเล่าบางอย่างให้เรา
“ตอนนี้พวกคุณไม่ต้องกังวลมากไป ถึงอย่างนั้นมันคงจะดีกว่า หากเราเตรียมตัวให้พร้อม ผมไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในดันเจี้ยนกับผู้มาใหม่เหล่านี้”
“มันเป็นเรื่องถูกต้องที่จะคิดว่าระดับความยากของมันสูงกว่าชั้นแรกครับ”
“ถูกต้อง มันอาจจะเป็นแบบนั้น แต่ผมต้องไปบอกจินโฮเดี๋ยวนี้ เราต้องออกไปให้เร็วที่สุดเท่าที่เวลาจะเอื้ออำนวย”
“ทำไมต้องรีบล่ะ?”
“เรายังสามารถเตรียมตัวระหว่างทางไปดันเจี้ยนได้เช่นกัน”
“อา ผมเข้าใจแล้ว”
จองจินโฮคงไม่ปฏิเสธเรื่องนี้เช่นกัน
หากจุดประสงค์ของพวกเขาคือการเอาชีวิตรอดที่นี่ เพื่อเริ่มแผนการอันชั่วร้ายหรืออะไรก็ตาม มันเป็นประโยชน์สำหรับพวกเขาที่จะออกไปพร้อมเรา เพราะจองจินโฮตระหนักถึงความแตกต่างระหว่างเขาและคิมฮยอนซึงในระดับหนึ่งแล้ว
นั่นคือเหตุผลที่เขายังเห็นด้วยกับฮยอนซึง
ตัวแปรมีความสำคัญที่สุดในการต่อสู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าคุณรู้ว่าพวกเขาเสียเปรียบ
การสำรวจการโจมตีดันเจี้ยนมีแนวโน้มที่จะสร้างตัวแปรที่จินโฮต้องการ มันอาจนำไปสู่สถานการณ์ที่แตกต่าง หากคิมฮยอนซึงถูกดึงออกไป
ถ้าเขาเป็นนักฆ่าจริง ๆ ที่พักพิงแห่งนี้เป็นสถานที่อันหอมหวานสำหรับเขา ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้สูง ที่เขาจะพนันเพื่อรับความเสี่ยงนี้
ถ้าผมอยู่ในตำแหน่งของเขา ผมก็อยากจะฆ่าคิมฮยอนซึงและพวกเราที่เหลือ นี่เป็นโอกาสดีที่เขาได้รับจากคิมฮยอนซึงเอง
ผมยังคงมียิ้มจาง ๆ บนริมฝีปาก
คิมฮยอนซึงจะถูกใช้ต่อไปไม่ว่าจะเป็นผมหรือจองจินโฮ
แต่มันก็เป็นทางเลือกที่จะทำให้เขาได้รับประโยชน์สูงสุดในทุกทาง