พอฟังคำอธิบายของจางจื่ออันแล้ว พวกภูตสัตว์เลี้ยงทั้งรู้สึกแปลกใหม่ ทั้งรู้สึกประหลาดใจ คิดไม่ถึงว่ายังมีนักล่าสัตว์บันทึกเสียงหอนของหมาป่าไคโยตีเพื่อล่อและล่าหมาป่าไคโยตี พลังของเทคโนโลยีน่ากลัวจริงๆ
ว่ากันว่าหมาป่าไคโยตีเจ้าเล่ห์มาก หลังจากใช้เสียงท่อนหนึ่งไปครั้งหนึ่ง แล้วเปิดเสียงท่อนเดียวกันซ้ำอีก พวกหมาป่าไคโยตีไม่มีทางติดกับ นักล่าสัตว์จึงต้องเปลี่ยนเสียงบันทึกอยู่บ่อยๆ เสียงบันทึกก็ไม่ได้ได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะผู้คนไม่รู้ว่าเสียงบันทึกที่เปิดไว้มีเนื้อหาอะไร บางทีหมาป่าไคโยตีอาจจะกำลังสื่อสารว่า ใครเข้ามาก็ฆ่าคนนั้น
เขาพูดกับพวกภูตสัตว์เลี้ยงที่อยู่ข้างหลัง เขายังไม่เข้าใจว่าแปลกตรงไหน ก็ได้ยินพวกภูตสัตว์เลี้ยงร้องตกใจเป็นเสียงเดียวกัน “แมวพวกนั้นล่ะ?”
จางจื่ออันมองไปรอบๆ อย่างเคร่งเครียด มือควานหาปืนเทเซอร์และสเปรย์ป้องกันหมี แล้วพูดเสียงเบาว่า “หรือว่า…ถูกสัตว์กินซากคาบไปแล้ว?”
นี่เป็นคำอธิบายที่สมเหตุสมผลที่สุด ในป่ามีสัตว์กินซากตัวเล็กใหญ่มากมาย รวมถึงหมาป่าไคโยตีและหมีดำ พวกมันไม่ปล่อยอาหารที่มาถึงมือง่ายๆ ไปหรอก ถึงแม้จะเป็นศพตายมาหลายวันแล้วก็ตาม
เขารู้ว่าข้างหลังอาจจะมีหมีดำและฝูงหมาป่าไคโยตีดักรอโอกาสแก้แค้นอยู่ตลอด พวกมันอาจจะถือโอกาสตอนที่เขาออกไปตามรอยหมาป่า แล้วมาเก็บกวาดสนามรบที่นี่
พวกภูตสัตว์เลี้ยงเพิ่มความระมัดระวังขึ้น ถ้ามีหมีดำหรือหมาป่าไคโยตีตามมาจริงๆ ก็เป็นไปได้มากว่ายังอยู่แถวนี้
หมาป่าหนุ่มจ้องที่ว่างด้วยความงุนงงเล็กน้อย มันวิ่งเข้าไปในที่ว่างแล้วดม แล้วจึงหันมามองจางจื่ออันครั้งหนึ่ง แล้วหันหน้าไปอีกทางหนึ่ง
เฟยหม่าซืออ้อมที่ว่างไปดมดูเช่นกัน ตัดพวกนกกินซากประเภทอีกาออกไป ถ้าหมีกับหมาป่าไคโยตีตามมาจะต้องทิ้งกลิ่นใหม่ไว้แน่นอน
แต่หลังจากดมแล้วมันกลับตะลึง และดมอีกครั้งราวกับไม่เชื่อจมูกของตัวเอง
“เป็นอะไรไป เฟยหม่าซือ?” เขาสังเกตเห็นสีหน้าผิดปกติของมัน
เฟยหม่าซือพูดด้วยท่าทางประหลาดใจ “ไม่มีกลิ่นของหมาป่าไคโยตีกับหมีดำ แต่เหมือน…”
มันตกตะลึงเกินไป อึ้งอยู่นานถึงจะพูดออกมาได้ “แต่เหมือนแมวพวกนั้นไปเอง…”
ไปเอง?
จางจื่ออันกับพวกภูตสัตว์เลี้ยงได้ยินแล้วก็ตะลึง แมวสิบกว่าตัวนั้นตายไปแล้วชัดๆ ศพก็เย็นหมดแล้ว เขาตรวจสอบศพของแมวแทบจะทุกตัวแล้วด้วย เห็นรูรอยฟันบนตัวพวกมันกับตาตัวเอง เป็นไปไม่ได้ที่จะมีแมวตัวไหนแกล้งตาย หรือบาดเจ็บหนักแต่ไม่ถึงตาย มิหนำซ้ำหากเป็นแมวแค่หนึ่งหรือสองตัวก็ช่างเถอะ เขาลืมตาก็ดูไม่ออก แต่แมวสิบกว่าตัวหายไปหมดเลยได้อย่างไร?
ล้อเล่นอะไรกัน! ฝูงแมวหลอกฉันได้ แกล้งตายต่อหน้าต่อตาเลยงั้นเหรอ!
อย่าว่าแต่เขาไม่เชื่อเลย พวกภูตสัตว์เลี้ยงตัวอื่นก็ไม่เชื่อ ภูตสัตว์เลี้ยงที่จมูกไวทุกตัวดมรอบๆ ที่ว่างครั้งหนึ่ง ดูจากสีหน้าของพวกมันแล้ว ได้ข้อสรุปเหมือนกับเฟยหม่าซือ
กลิ่นไม่หลอกสัตว์ ช่วงเวลาที่พวกเขาเพิ่งออกไป บริเวณที่ว่างไม่มีกลิ่นใหม่ปรากฏออกมา ตัดสถานการณ์มีคนหรือสัตว์พาศพแมวออกไปได้เลย กลิ่นใหม่ที่สุดก็คือกลิ่นของแมวพวกนั้นจากไปเองทั้งหมด
หลังจากกำจัดความเป็นไปได้ทั้งหมด ที่เหลือก็ยากจะรับได้อีก แต่ก็เป็นเรื่องจริงแล้ว
“หรือว่าแมวพวกนั้นยังไม่ตาย?” จางจื่ออันพยายามหาคำอธิบายที่มีเหตุผล “บาดเจ็บหนักจนสลบ หรือรอบๆ มีพืชอะไรให้ผลเหมือนยาชา…แม้ความเป็นไปได้แบบนี้จะน้อย แต่ก็ไม่ได้เป็นไปไม่ได้เลยสินะ?”
พวกภูตสัตว์เลี้ยงเงียบไม่พูดต่อ
ลูปความคิดของคนมีผลกระทบอย่างหนักต่อวิสัยทัศน์ แต่พวกสัตว์นำวิสัยทัศน์กับการดมกลิ่นมาวิเคราะห์รวมกันได้
สัตว์มีชีวิตอยู่ตัวหนึ่ง กับสัตว์ที่ตายไปนานมากแล้วตัวหนึ่ง วัตถุเคมีภายในร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงแล้ว กลิ่นที่กระจายออกมาแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง พวกภูตสัตว์เลี้ยงได้กลิ่นความแตกต่างพวกนั้น
แมวพวกนั้นตายแล้วจริงๆ แต่ไม่รู้ว่าทำไม พวกมันถึงยืนขึ้นมาอีก แล้วเดินออกจากที่ว่างนี้ทีละก้าวด้วยสภาพที่ตายไปแล้ว พวกภูตสัตว์เลี้ยงได้กลิ่น แม้กระทั่ง ‘มองเห็น’ ร่องรอยของกลิ่นที่พวกมันพาไปตอนออกไป
เหมือนเป็น…ศพเดินได้
พอเห็นสีหน้าเหมือนท้องผูกของพวกภูตสัตว์เลี้ยง จางจื่ออันก็ได้รับคำตอบจากพวกมันแล้ว
“เมี๊ยวแล้วก็เหมียว! เหมียวเขาสิเรื่องนี้ผิดปกติจริงๆ!” วลาดิเมียร์ที่กล้าต่อสู้กับฟ้าดินมาโดยตลอดแสดงอาการงุนงงออกมาอย่างหาได้ยาก
“เจี๊ยกๆ!” พายขดตัว กอดกระบองไม้อันเล็กของมันเอาไว้แน่น
“แกว๊ก? แกว๊ก? ข้าเกลียดหนังสยองขวัญกับหนังเอเลี่ยน! ไม่ได้ ข้าเหมือนจะปวดฉี่ขึ้นมาแล้ว…” ริชาร์ดตีปีกบินไปจัดการปัญหาทางกายภาพบนกิ่งไม้กิ่งหนึ่ง
จางจื่ออันจินตนาการว่า แมวสิบกว่าตัวที่ควรตายไปแล้ว อยู่ๆ ก็ยืนขึ้นมา และเดินเรียงแถวโซเข้าไปในป่าราวกับผีดิบ ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน…
เฟยหม่าซือหันหน้ากลับมาทันควัน “แมวตายสี่ตัวเมื่อวาน…”
ถ้าวันนี้แมวตายสิบกว่าตัวนี้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้ อย่างนั้นแมวตายสี่ตัวที่พวกเขาเจอเมื่อวานก็ทำได้เหมือนกัน…
จางจื่ออันส่ายหน้าช้าๆ “แมวสี่ตัวเมื่อวานถูกฉันฝังแล้ว พวกนายก็เห็น ถึงแม้พวกมันมีชีวิตอยู่ ก็คงยากจะคลานออกมาจากในดิน”
เมื่อวานเหล่าฉาคิดถึงความยุติธรรม ขอให้เขาฝังแมวตายสี่ตัวลงในดินเพื่อให้สุขสงบ เขาก็ทำตามแล้ว และเพื่อเห็นแก่ความรู้สึกของพวกภูตสัตว์เลี้ยง เขาจึงจงใจขุดหลุมให้ลึกเล็กน้อย ป้องกันไม่ให้ศพแมวถูกสัตว์กินซากขุดออกมากินจนสิ้นซาก แต่ดูท่าทางตอนนี้การกระทำของเขากลับทำให้เขาและพวกภูตสัตว์เลี้ยงกลัวว่าปัญหาจะย้อนกลับมา…
ถึงแม้แมวตายสี่ตัวนั้นยังมีชีวิตรอด แต่ร่างกายถูกโคลนดินกดไว้แน่นหนา ไม่มีที่ว่างสักนิด กระดูกข้อต่อขยับไม่ได้ พวกมันอยากขุดตัวเองออกมาคงเป็นไปไม่ได้ ก็เหมือนคนคนหนึ่งถูกมัดอยู่บนเก้าอี้ด้วยท่านั่ง แขน ร่างกาย และขาถูกมัดจนแน่น ขาไม่มีทางยืนขึ้นจากบนเก้าอี้ได้ด้วยกำลังของตัวเอง
“สวรรค์เป็นเมืองหยกขาว มีสิบสองหอคอยกับห้ากำแพง นักพยากรณ์ปลอบประโลมข้า และยังมอบเก้าชีวิต…” เหล่าฉาถอนหายใจยาวพลางขนลุกซู่ “หากเป็นเก้าชีวิตเช่นนี้ ข้ายอมมีแค่ชีวิตเดียว…”
ก่อนหน้านี้มีกวางซอมบี้ ต่อมามีแมวซอมบี้ มีความเกี่ยวข้องกันหรือเปล่าเนี่ย?